ช่วงเวลาการชมซากุระใน Tohoku
อย่างที่เราทราบๆ กันมาบ้างแล้ว ว่าหากเราต้องการไปชมซากุระที่ญี่ปุ่นนั้นโดยปกติก็จะไปกันช่วงปลายมีนาคมกัน แต่ที่ โทโฮคุนี้ซากุระจะบานช้ากว่าที่อื่นเล็กน้อย ซึ่งโดยปกติแล้วก็จะเริ่มบานกันตั้งแต่ช่วงกลางเมษายน ไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมล่ะ และหากใครอยากชมซากุระช่วงกลางเดือนเมษายนแล้วไม่ควรพลาดที่จะไป Fukushima และ Miyagi วิวสวยร้อยล้านมากบอกเลย
วิธีการเดินทางไปจากโตเกียว
ส่วนการเดินทางไปยังโทโฮคุ เราจะแบ่งวิธีการเดินทางออกเป็น 2 จังหวัด
Fukushima
หากต้องการเดินทางไปยัง Fukushima ไม่ยากเลย เพียงแค่ขึ้นชินคันเซนสาย YAMABIKO จากสถานี Tokyo มาลงยังสถานี Fukushima ก็จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 90 นาทีเท่านั้นเอง
Miyagi
การเดินทางไปยัง Miyagi ก็ไม่ยากเช่นกัน เพราะเรามีบริการชินคันเซนนั่นเอง โดนจุดเริ่มต้นก็คือ สถานี Tokyo ไปลงยังสถานี Sendai ด้วยสาย Yamabiko, Hayabusa, Komachi และ Hayate โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่นานเลย
การเดินทางจาก Sendai airport
Fukushima
จากสนามบินเซนได ให้ขึ้นรถไฟสาย Sendai Airport Access Line มาลงที่สถานี Sendai จากสถานี Sendai ขึ้น Tohoku shinkansen สาย ‘Yamabiko’ มาลงที่สถานี Fukushima ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
Sendai
จากสนามบินเซนได ขึ้นรถไฟสาย Sendai Airport Access Line มาลงที่สถานี Sendai(ประมาณ 30 นาที)
Fukushima
Ozawa sakura
ชมซากุระท่ามกลางทุ่ง ต้นซากุระตั้งตระหง่านรับลมพริ้วไสว โดยที่นี่มีจุดชมซากุระให้ชมถึง 28 จุดเลยทีเดียว นอกจากนั้นที่นี่เราสามารถถ่ายรูปซากุระพร้อมกับความสวยงามของธรรมชาติ และหมู่บ้าน ท่ามกลางภูเขา คละคลุ้งลิ่นอายแบบญี่ปุ่นแท้ๆ เลยล่ะ
และสำหรับใครที่จะไปชมซากุระที่นี่ในปี 2563 แนะนำเลยเพราะจะมีการปลูกดอกนาโนะฮานะ ให้ชมไปพร้อมๆ กับดอกซากุระด้วยล่ะ
Ozawa no sakura
ที่อยู่ | Ohira Funehikimachi Funehiki, Tamura, Fukushima 963-4312 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งแท็กซี่ 5 นาทีจาก Funehiki Station |
เวลาทำการ | บานเต็มที่กลางเมษายน |
ราคา | Dinner¥2,000~¥2,999, Lunch:¥1,000~¥1,999 |
โทรศัพท์ | 0247-81-2136 (Tamura City Tourism Exchange Division) |
Ozawa no sakura |
Abukumabo
ในบริเวณใกล้เคียงกับจุดชมซากุระ Ozawa no sakura เราสามารถเดินทางไปชมความงามของถ้ำหินปูนที่มีอายุกว่า 80 ล้านปี ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างสวยงามและยิ่งใหญ่มากๆ โดยอยู่ในไม่ไกลจากจุดชมซากุระเลย สามารถแวะเดินทางเที่ยวได้
โดยที่ถ้ำแห่งนี้สามารถเที่ยวชมได้ทั้ง 4 ฤดู แล้วยังมีการจัดแสดง Light up ภายในถ้ำในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์อีกด้วยล่ะ
Abukumado
ที่อยู่ | 1 Higashikamayama, Sugaya, Takinemachi, Tamura, Fukushima |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งแท็กซี่ 5 นาทีจาก JR Kanmata Station |
เวลาทำการ | 08.30 น. – 17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่(16ปี และมากกว่า) 1200 เยน เด็ก(13-15ปี) 800 เยน เด็ก(7-12ปี) 600 เยน คอร์สผจญภัย เพิ่ม 200 เยน |
Website | ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย |
อ่านบทความเกี่ยวกับเมืองทามุระได้ที่บทความนี้
เปิดวาร์ปที่ เที่ยวฟุกุชิมะ เมือง Tamura เมืองเล็กๆ สวรรค์ของคนรักธรรมชาติ
คลิกเพื่ออ่าน
Miharu taki zakura
ต้นซากุระพันธุ์ย้อย อายุกว่า 1,000 ปี ที่ควรไปดูสักครั้ง ด้วยความที่ซากุระพันธุ์นี้ติดอันดับของซากุระต้นเดี่ยวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูดีสุดๆ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกซากุระเลย เพราะความสวยงามของซากุระสีชมพูย้อยลงเป็นพวงระย้าราวกับน้ำตกเลยทีเดียว
โดยต้นทากิซากุระเป็นหนึ่งในพันธุ์ซากุระหายากของญี่ปุ่น เป็นต้นซากุระที่ทั้งเก่าแก่ และหายาก อีกทั้งยังมีขนาดต้นที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปรอบบริเวณถึง 20 เมตร และโน้มกิ่งก้านลงมาคล้ายกับน้ำตก
Miharu taki zakura
ที่อยู่ | Sakurakubo-115 Taki, Miharu, Tamura, Fukushima 963-7714 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางโดยรถยนต์จาก Miharu Station เป็นเวลา 12 นาที |
Miyagi
Saigyo Modoshi no Matsu Park
เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระที่น่าสนใจ เพราะความสวยงามคูณสอง ทั้งวิวซากุระที่สามารถมองลงไปแล้วเห็นวิวทะเลของอ่าวมัตสึชิมะที่สวยงาม ที่แห่งนี้มีหอชมวิวไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวที่แวะมาชมซากุระ จากจุดชมวิวเราจะเห็นทั้งทะเลและซากุระ สวยงามไปอีกแบบ เหมาะกับการมาซึมซับบรรยากาศมากๆ
และที่นี่ยังมีคาเฟ่ le Roman ที่ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะ ให้จิบเครื่องดื่มฟินๆ ชิลๆ ชมซากุระ และวิวที่สวยงามไปพร้อมกันได้เลย
Saigyo Modoshi no Matsu Park
ที่อยู่ | Inuta-2 Matsushima, Miyagi, Miyagi 981-0213 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถจาก Matsushima Kaigan station 5 นาที / ขับรถจาก Sanriku Expressway Matsushima Kaigan IC ไป 5 นาที |
Tsutsujigaoka Park
จุดชมซากุระใจกลางเมือง Sendai ที่คนท้องที่ต่างก็นิยมมาชมซากุระกันที่นี่ เพราะความสวยงามของซากุระที่มีให้ชมถึง 19 ชนิด และหนึ่งในนั้นคือ Shidare sakura ซึ่งเป็นชนิดที่มีอยู่มากที่สุด อีกทั้งการเดินทางก็ยังสะดวกสบาย เพราะอยู่ใกล้กับสถานีหลักเป็นอย่างมาก ซากุระที่เรียงรายอยู่ในสวนเบ่งบานไปพร้อมกับดอกทสึทสึจิที่แข่งกันโชว์ความงามของตน
ดอกทสึสึจิที่บานจนกลายเป็นซุ้มต้นไม้ กลีบดอกที่ร่วงโรยจนกลายเป็นทางเดิน ยิ่งทำให้น่าหลงใหล รับกับซากุระที่พริ้วไปมาตามแรงลมเบาๆ ดึงดูดสายตาของคนที่แวะมาชมเป็นอย่างมาก
ดอกซากุระที่ห้อยระย้าสวยงามไปอีกแบบ
Tsutsujigaoka Park
ที่อยู่ | 1-3 Gorin, Miyagino, Sendai, Miyagi 983-0842 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Miyaginohara Station ไป 6 นาที |
แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงจุดชมซากุระ
ห้าง S-PAL
ห้างขนาดใหญ่ใกล้สถานีรถไฟมีทางเชื่อมไปยังโรงแรมและสถานีรถไฟ ทำให้การเดินทางค่อนข้างสะดวกอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2020 นี้ มีการจัดเฟสติวัลเอาใจสายช้อปกับ งานเจแปนช็อปปิ้งเฟสติวัล (Japan Shopping Festival) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ พิเศษเพียงแค่แสดงใบเสร็จซื้อสินค้าใน S-PAL มากกว่า 5,000 เยนขึ้นไป หรือ JR EAST PASS ที่เคาน์เตอร์ยกเว้นภาษีบริเวณชั้น 1 ก็จะได้รับเข็มกลัดคิตตี้จัง นอกจากนี้บริษัทที่ทำคามาโบโกะอย่าง คาเนซากิ และ ริคิว ก็ได้เข้าร่วมแคมเปญเดียวกันนี้ จึงมีแพ็กเกจอาหารเฉพาะช่วงเวลาและชุดแพ็กเกจอาหารกลางวันหรือกิจกรรมวางจำหน่ายอยู่ด้วยที่ห้างนี้ช้อปปิ้งได้หลากหลายแบบครบครันทั้งแฟชั่น อาหาร และสินค้าใหม่ล่าสุด นอกจากนี้ยังมี Tax free และโบรชัวร์หลายภาษาไว้ให้บริการอีกด้วย
S-PAL
ที่อยู่ | 1-1-1, Chuo, Aoba, Sendai, Miyagi 980-0021 |
---|---|
วิธีเดินทาง | 10.00 น. – 21.00 น. ยกเว้นโซนอาหารฝั่ง Main building และ Mori no Dining ชั้น 3 ฝั่ง East Building เปิดถึง 11.00 น. – 23.00 น. และโซน Ekichika souvenir street เปิด 09.00 น. – 21.00 น. หยุดวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี |
Website | S-PAL |
Kanezaki
ได้รับการดูแลโดยคาเนซากิ ซึ่งเป็นผู้ผลิตซาซาคามาโบโกะ (ลูกชิ้นปลารูปใบไผ่) โดยที่นี่มีกิจกรรมทำซาซาคามาโบโกะ รวมไปถึงช้อปปิ้งและทานอาหารที่ได้จากวัตถุดิบในท้องถิ่นของมิยางิ นอกจากจะได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมอาหารของมิยางิที่แห่งนี้แล้ว ที่นี่ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ทานาบาตะที่จะพาคุณไปสัมผัสกับเทศกาลทานาบาตะของเซ็นได
สนุกสนานไปกับแพ็กเกจกิจกรรมทำคามาโบโกะ พร้อมมื้อกลางวันเป็น ฮาราโกะเมชิ (ข้าวหน้าปลาแซลมอนและไข่ปลาแซลมอน) และทัวร์พิพิธภัณฑ์ทานาบาตะ ในราคา 4,000 เยน, แพ็กเกจชิมซาซาคามาโบโกะและชิมเหล้าญี่ปุ่น ราคา 3,000 เยน, แพ็กเกจกิจกรรมทำของประดับตกแต่งเทศกาลทานาบาตะเเละชิมขนมในคาเฟ่ ราคา 3,000 เยน เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาว่างสักเล็กน้อยและอยากสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น
Kanezaki
ที่อยู่ | 6-65 Tsurushiromachi, Wakabayashi, Sendai, Miyagi 984-0001 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถที่ Subway Tozai Line “Arai Station” Municipal Bus Pool หมายเลข 1 ขึ้นรถสบัสหมายเลข 16 (Tsurumaki junkan มุ่งหน้า Wakabayashi Gym / Sendai toubu industrial park) หรือบัสหมายเลข 18 (มุ่งหน้า Okada / Niihama) มาลงที่ป้าย Oroshimachihigashi go-chome kita |
เวลาทำการ | 9.30 น. – 18.00 น. |
Website | Kanezaki |
Rikyu
ลิ้นวัวถือเป็นวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเซ็นได และเราขอแนะนำให้แวะมาที่ร้านแห่งนี้เพราะถือว่าเป็นร้านชื่อดังเลยล่ะ จุดเด่นของที่นี่คือความพิถีพิถัน ทั้งความหนาของลิ้นวัว ปริมาณเกลือ และระยะเวลาที่ใช้ในการหมัก จึงทำให้ได้รสชาติที่ลงตัว จนติดปากถูกใจหลายๆ คนที่แวะมาทาน ช่วง Japan Shopping Festival จะมีจำหน่ายเป็นเมนูพิเศษเฉพาะช่วงเวลาซึ่งทำจากวัวเซ็นไดและเส้นชิโรอิชิอูเม็งอีกด้วย ไม่ควรพลาด
Rikyu
ที่อยู่ | 4-4-32 Ichibancho, Aoba, Sendai, Miyagi 980-0811 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดิน 3 นาทีจาก Sendai Municipal Subway Namboku Line Kotodai Park Station South exit 1 / เดิน 6 นาทีจาก Sendai Municipal Subway Namboku Line Hirose-dori Station West Exit 5 |
เวลาทำการ | Lunch 11: 30 น. -15: 00 น. (last order 14:30 น. ) / Dinner 17: 00 น. -23: 00 น. (last order 22:30 น.) |
Website | Rikyu |
Hanahan
ร้านอาหารที่บริการคุณด้วยใจ กับร้านอาหารที่จะให้คุณได้ลิ้มรสปลากับเนื้อ บรรยากาศผ่อนคลายสบายๆ ในห้องทานอาหารส่วนตัว นอกจากนี้คุณยังสามารถมั่นใจได้ว่ารสชาติของอาหารที่นี่เป็นเลิศเพราะทุกวัตถุดิบที่นำมาใช้นั้นผ่านมาตรฐานมาแล้วทั้งสิ้น มีทั้งปลา Sanriku และเนื้อเซนได ให้คุณได้เพลิดเพลินกับรสชาติของโทโฮคุอย่างเต็มที่
สามารถถ่ายภาพหรือพูดคุยกับทั้งเชฟและพนักงานในชุดกิโมโนได้ด้วยนะ
โดยร้านนี้เขามีเครื่องแปลภาษาเตรียมไว้ให้พร้อม ลูกค้าต่างชาติต่างภาษาอย่างเรา สามารถใช้เครื่องนี้พูดคุยกับเชฟและพนักงานในร้านได้เลย
ร้านนี้ควรแวะมาทานสักครั้ง จะลืมไม่ลงเลย นอกจากอาหารญี่ปุ่นแล้ว ยังมาสาเก และวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นให้ลองสัมผัสและสนุกไปพร้อมกันอีกด้วย โดยร้าน Hanahan นี้อยู่ใกล้กับสถานี Kotodaikoen Station ใช้เวลาเดินเพียง 9 นาทีเท่านั้น
Hanahan
ที่อยู่ | B1F, Jozenji Park Building, 2-14-18, Kokubun, Aoba, Sendai, Miyagi |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Kotodaikoen Station ใช้เวลาเดิน 9 นาที |
เวลาทำการ | มื้อกลางวัน 11.30 น. – 14.00 น. มื้อเย็น 17.00น. – 22.00 น. |
Website | Hanahan |
Abekamaboko
ร้านจำหน่าย ซาซาคามาโบโกะ (ลูกชิ้นปลารูปใบไผ่) ของฝากยอดนิยมตลอดกาลของเซ็นได ที่ร้านสาขาหลักคุณสามารถย่างซาซาคามาโบโกะและทานเองได้เลย แต่นอกจากซาซาคามาโบโกะแล้ว ที่นี่ยังมีจำหน่ายเฮียวตันอาเกะ ซึ่งก็คือ คามาโบโกะนึ่งเป็นก้อนกลมมาชุบแป้งรสหวานแล้วทอด
หากเป็นคนที่ชื่นชอบการทานของต้นตำหรับแล้ว เราแนะนำให้มาที่นี่ จุดกำเนิดของซาซาคาโมโบโกะจนโด่งดังและแพร่หลายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดกิจการมาอย่างยาวนานกว่า 84 ปี รสชาติเลิศล้ำจริงๆ
ที่นี่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีเซ็นไดใช้เวลาเดินเพียง 10 นาทีเท่านั้น อีกทั้งยอดขายเฮียวตันอาเกะต่อวันยังอยู่ที่ 4,000 ไม้ เยอะสุดๆ ไปเลยใช่ไหม เพราะงั้นเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ควรมาลองสักครั้งเลยล่ะ
Abekamaboko
ที่อยู่ | 2-3-18, Chuo, Aoba, Sendai, Miyagi |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดิน 10 นาทีจาก JR Sendai Station |
เวลาทำการ | 10.00 น. – 19.00 น. |
Abekamaboko | |
Website | Abekamaboko |
Shiroishi River
แหล่งชมซากุระสุดท้ายของทริปนี้ที่เราจะแนะนำให้ไปเลยก็คือที่ Shiroishi River แม่น้ำที่ถูกขนาบไปด้วยซากุระยาวกว่า 8 เมตร ที่นี่เราสามารถเลือกได้เลยล่ะว่าจะนั่งเรือชมซากุระ หรือจะนั่งรถไฟชมก็ได้ แต่ถ้าใครอยากชมแบบใกล้ชิดๆ ก็สามารถเดินชมได้เช่นกันเลย
แต่ความพิเศษของที่นี่คือ เราสามารถชมซากุระไปพร้อมกับหิมะได้ด้วย อาจจะสงสัยกันแล้วว่าหิมะจากไหนกันนะ นั่นก็เพราะว่า ที่นี่สามารถมองเห็นวิวของภูเขา Zao ได้ยังไงล่ะ ซึ่งบริเวณภูเขา Zao นั้นจะยังถูกปกคลุมไปด้วยหิมะอยู่นั่นเอง
ความงามของทั้งหิมะและซากุระสวยสุดๆ ไปเลย
โดยตอนกลางคืนเราสามารถชมการประดับไฟซากุระในยามค่ำคืนได้ โรแมนติกสุดๆ ไปเลย
Shiroishi River
ที่อยู่ | Funaoka, Shibata, Shibata, Miyagi 989-1606 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Funaoka Station ไปอีก 8 นาที |