อาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
อาหารที่เรารวบรวมมาให้ในบทความนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนต้องรู้จักและคุ้นเคยกันบ้างแหละ เพราะประเทศไทย
ก็สามารถหาทานได้ง่ายๆ เลย แต่ถ้าได้ทานที่ญี่ปุ่นก็คงจะดีกว่าแน่ๆ เพราะจะได้รสชาติที่เป็นต้นตำรับอะเนอะ
1.ซูชิ (Sushi)
แน่นอนว่าในประเทศญี่ปุ่นนั้น ซูชิ ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก คงไม่มีใครไม่รู้จัก โดยซูชินั้นเป็นข้าวปั้นที่มีขนาดพอดีคำ ทานง่าย วัตถุดิบที่นิยมนำมาทำเป็นหน้าซูชิได้แก่เนื้อปลาต่างๆ เช่น แซลมอน ทูน่า และอาหาร
ทะเลอื่นๆ รวมไปถึงเนื้อวัวด้วย มีทั้งแบบห่อและไม่ห่อสาหร่ายแล้วแต่เมนู เมนูที่ได้รับความนิยม ก็จะมีซูชิแซลมอน อิคุระ ฮามาจิ อุนิ เป็นต้น
2.ซาชิมิ (Sashimi)
ถ้าพูดถึงซูชิไปแล้ว เมนูที่พูดต่อไม่ได้เลยก็คือ ซาชิมิ ทำมาจากอาหารทะเลสด โดยเฉพาะเนื้อปลาสด เช่น ทูน่า แซลมอน ซาบะ เป็นต้น โดยจะแล่เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ นิยมจิ้มทานกับโชยุและวาซาบิ มีขิงดองเป็นเครื่องเคียง
3.ราเมง (Ramen)
อาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่นอีกอย่างหนึ่งเลยคือ ราเมง ซึ่งมีหลากหลายชนิดมากๆ ราเมงที่รู้จักกันดีได้แก่ มิโซะราเมง (Miso Ramen), โชยุราเมง (Shoyu Ramen), ราเมงซุปกระดูกหมู / ราเมงทงคตสึ (Tonkotsu Ramen) และ
ราเมงซุปเกลือ / ราเมงชิโอะ (Shio Ramen) แต่ละชนิดก็จะมีการปรุงรสที่แตกต่างกันไป หน้าตาคล้ายกับบะหมี่ของบ้านเรา แต่ราเมงนั้นจะมีเนื้อหมูชาชู สาหร่าย ลูกชิ้นนารูโตะ ต้นหอม เป็นส่วนประกอบ ราคาจัดว่าไม่แพง
จนเกินไป หาซื้อทานได้ตามร้านทั่วไปเลย
4.ข้าวหน้าปลาไหล
อุนะด้ง
อุนะจู
หลายคนอาจจะรู้จักข้าวหน้าปลาไหล แต่ไม่รู้ว่าข้าวหน้าปลาไหลนั้น จริงๆ แล้วมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน ซึ่งได้แก่
อุนะด้ง (Unadon) คือข้าวหน้าปลาไหลที่ใส่มาในชามข้าวทรงกลม หรือ ดงบุริ มักจะใช้ชิ้นส่วนลำตัวมาทำและราดด้วยซอสเข้มข้น มักทานคู่กับคิโมะซุยหรือซุปเครื่องในปลาไหล และ อุนะจู (Unaju) จะใส่ในกล่องข้าว
ทรงสี่เหลี่ยมที่เรียกว่า จูบาโกะ ใช้ปลาไหลย่างส่วนหาง ปริมาณมากกว่าอุนะด้ง ทำให้มีราคาแพงกว่า สามารถหาซื้อข้าวหน้าปลาไหลได้ตามร้านสะดวกซื้อ และยังมีร้านอาหารที่ขายข้าวหน้าปลาไหลโดยเฉพาะ หาทานได้ตลอดทั้งปี
5.อุด้ง (Udon)
อุด้ง คือ อาหารประเภทเส้นอย่างหนึ่งที่นิยมรับประทานในซุปใส สามารถทานได้ทั้งแบบร้อนและเย็น เส้นอุด้งนั้นทำมาจากแป้งสาลี มีความหนาและยาว น้ำซุปทำจากดาชิ โชยุ และมิริน อุด้งมีชื่อเรียกหลายชื่อตามอาหารที่นำมาวางบนเส้น เช่น สึกิมิอุด้ง (Tsukimi udon) ก็คืออุด้งหน้าไข่สด เทมปุระอุด้ง (Tempura udon) หรือเรียกตามกรรมวิธี เช่น อุด้งเย็นจะมี ซารุ อุด้ง (Zaru udon) ฮิยาคาเคะ อุด้ง (Hiyakake udon) เป็นต้น
6.ข้าวหน้าเนื้อ (Gyudon)
ข้าวหน้าเนื้อ เมนูสุดโปรดของหลายๆ คน ที่เวลาเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นแล้วต้องสั่ง ข้าวญี่ปุ่นนุ่มเหนียว เข้ากันดีกับเนื้อสไลด์บางๆ ติดมันหน่อยๆ ผัดหรือย่าง แล้วราดด้วยน้ำซอสโชยุ ทานคู่กับไข่ออนเซ็นและขิงดอง เป็นเมนูที่ใช้ส่วนผสมไม่เยอะ แต่รสชาติอร่อยไม่รู้ลืมเลย
7.ข้าวแกงกะหรี่ (Curry Rice)
พูดถึงเรื่องข้าวๆ อีกเมนูที่เป็นข้าวแล้วไม่พูดถึงไม่ได้ คือ ข้าวแกงกะหรี่ ส่วนประกอบก็จะมีทั้งเนื้อสัตว์ เช่น
เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่ ส่วนผักก็ได้แก่ หอมใหญ่ แครอท และมันฝรั่ง มีกลิ่นหอม รสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟร้อนๆ รับรองว่าอร่อยถูกใจแน่นอน
8.ยากิโซบะ (Yakisoba)
ยากิโซบะ เมนูที่พัฒนาจากความนิยมในบะหมี่ผัดของจีน เส้นทำจากแป้งสาลีผสมไข่ไก่ เรียกว่า จูกะเม็ง (Chukamen) โดยนำมาผัดกับเนื้อหมู และผัก เช่น กะหล่ำปลี หอมใหญ่ และปรุงรสด้วยซอสยากิโซบะ เกลือ พริกไทย จบท้ายด้วยการโรยหน้าด้วยผงสาหร่าย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาหารที่หาทานได้ง่าย จึงเป็นที่นิยมจากทั้งคนญี่ปุ่น และคนต่างชาติ
9.ทาโกยากิ (Takoyaki)
อีกหนึ่งเมนูยอดนิยมของญี่ปุ่นที่มีต้นกำเนิดมาจากที่โอซาก้า นั่นก็คือ ทาโกยากิ หรือที่เรียกกันว่า “ขนมครกญี่ปุ่น” เพราะมีลักษณะเป็นทรงกลม และมีวัตถุดิบหลักที่ทำมาจาก แป้ง ไข่ และปลาหมึก ซึ่งคำว่า “ทาโกะ”
ในภาษาญี่ปุ่น ก็คือ “ปลาหมึก” นั่นเอง และส่วนมากจะทานคู่กับซอสมายองเนส
10.ทงคัตสึ (Tonkatsu)
ทงคัตสึ ก็คือ หมูชุบแป้งทอดดีๆ นี่เอง ทำจากหมูที่หั่นเป็นชิ้น หมักด้วยเกลือและพริกไทย ชุบด้วยแป้งผสมไข่ แล้วนำไปทอดและชุบเกล็ดขนมปังอีกชั้นแล้วทอดจนสุก ทำให้ตัวทงคัตสึมีความกรอบ ส่วนมากจะทานคู่กับข้าวสวย กะหล่ำปลีฝอย หรือซุปมิโซะ ถึงจะเป็นเมนูที่หาทานได้ทั่วไป แต่ในโตเกียวถือเป็นแหล่งที่มีร้านทงคัตสึอายุเก่าแก่หลายสิบปีไปจนถึงเกือบร้อยปีหลายร้านเลยทีเดียว
ย่านของกินญี่ปุ่น
แนะนำ 10 อาหารหลักๆ ของญี่ปุ่นไปแล้ว ต่อไปก็ไปรู้จักย่านของกินที่รอให้ทุกคนไปตำกันบ้าง ทั้งย่านดัง ย่านนั่งชิลมีหมด ไปภูมิภาคไหนๆ ก็ไม่ต้องกลัวอดเลย
1.ย่านอาซากุสะ (Asakusa)
ย่านนี้เรียกได้ว่าเป็น จุดเริ่มต้นสุดของการมาเที่ยวโตเกียวเลยก็ว่าได้ เพราะว่าย่านอาซากุสะนั้นเป็นสถานที่ที่ถือว่ามีครบหมด ไม่ว่าจะเรื่องกิน เที่ยว หรือถ่ายรูป โดยถนน Nakamise ถือว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้ง และมีของกินอร่อยๆ เยอะมาก นอกจากนี้ยังสามารถเดินไปยังวัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และในย่านนี้ยังมีทั้งร้านอาหาร ร้านขนม และร้านของฝากมากมาย เช่น ร้านขายดังโงะเคลือบ
ผงคินาโกะที่เป็นร้านเก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่สมัยเอโดะ ร้านเทมปุระที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และภายในย่าน
อาซากุสะแห่งนี้ยังมีร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอีกด้วย
ย่านอาซากุสะ (Asakusa)
ที่อยู่ | 1-20 Asakusa, Taito, Tokyo 111-0032 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Asakusa ไปยังถนน Nakamise ใช้เวลาประมาณ 2 นาที |
2.ย่านนาคะซากิโจ (Nakazakicho)
นาคะซากิโจ ย่านนี้มีลักษณะเป็นตรอกซอยเล็กๆ มีร้านค้าต่างๆ มากถึง 30 กว่าร้าน ซึ่งย่านนี้มีร้านคาเฟ่น่ารักๆ เหมาะกับสายคาเฟ่มากๆ นอกจากนี้ยังแฝงไปด้วยความอบอุ่น เพราะคาเฟ่เเต่ละร้านในย่านนี้นั้นเมนูมีให้เลือกมากมายเลยทีเดียว ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และของหวาน ใครชื่นชอบการแต่งร้านน่ารักๆ หามุมถ่ายรูปสวยๆ แนะนำเลยว่าไม่ควรพลาด
นาคะซากิโจ (Nakazakicho)
ที่อยู่ | 1-5 Nakazaki, Kita, Osaka 530-0016 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Umeda เดินไปที่สถานี Higashi-Umeda เพื่อขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Tanimachi ลงที่สถานี Nakazakicho ใช้เวลาประมาณ 7 นาที |
3.ตลาดเช้ามิยากาวะ (Miyagawa Morning Market)
ตลาดเช้ามิยากาวะ อยู่ที่จังหวัดกิฟุ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิยากาวะ ติดกับสะพานยานากิบาชิ ทางเข้าจะมีศาลเจ้าเล็กๆ ถนนฝั่งที่ติดริมน้ำ จะมีซุ้มขายของราวๆ 60 ร้านค้า มีทั้งแบบเป็นบ้าน และร้านแผงลอย ไว้สำหรับนั่งทานได้ ของที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นพวกผักผลไม้สดตามฤดูกาลต่างๆ ผักดอง เหล้าสาเกท้องถิ่น และของฝากประจำเมือง นอกจากนี้ยังมี ไข่หวานเนื้อนุ่ม ครัวซองต์ไส้ทะลัก ซาลาเปาเนื้อฮิดะชื่อดัง ที่หาทานได้ยากอีกด้วย
ตลาดเช้ามิยากาวะ (Miyagawa Morning Market)
ที่อยู่ | Shimosannomachi, Takayama, Gifu 506-0841 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Takayama เดินประมาณ 10 นาที |
4.ย่านซูซูกิโนะ (Susukino)
ย่านซูซูกิโนะ นับเป็นย่านที่เต็มไปด้วยแหล่งบันเทิงที่โด่งดังมากของเมืองซัปโปโร (Sapporo) เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ ร้านขายของ รวมกว่า 4,000 ร้าน ถ้าได้แวะมาที่ย่านนี้จะต้องมาทานราเมงที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก เพราะมีน้ำซุปเข้มข้น มีกลิ่นหอม เส้นเหนียวนุ่มน่าทานมากๆ และยังมีร้านอาหารอีกเพียบไว้ให้ได้ลองเข้าไปแวะชิม นอกจากนี้ในฤดูหนาวช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะ และการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งอีกด้วย
ย่านซูซูกิโนะ (Susukino)
ที่อยู่ | Susukino St, Minami 6 Jonishi, Chuo, Sapporo, Hokkaido 064-0806 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถยนต์ จากสถานี Shiseikanshogakko-Mae มายังย่าน Susukino ใช้เวลาประมาณ 3 นาที |
5.ย่านโคคุไซ (Kokusai)
ย่านโคคุไซ หรือ ถนนโคคุไซโดริ (Kokusaidori Street) เป็นถนนสายหลักที่ทอดยาว 2 กิโลเมตรผ่านใจกลางเมืองนาฮะในโอกินาว่า ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารพื้นเมือง ร้านขายของฝากมากมาย รวมถึงโรงแรมต่างๆ และถ้าเดินเข้าไปตามตรอกซอกซอยเล็กๆ จะเจอกับร้านคาเฟ่ และยังมีตลาดสดอีกด้วย อาหารจะมีทั้งซูชิ อาหารแนวอิซากายะ พร้อมเครื่องดื่ม เบียร์นุ่มๆ นั่งสบายๆ ชมความสวยงามยามค่ำคืนของโอกินาว่า
ย่านโคคุไซ (Kokusai)
ที่อยู่ | 2−8 Kokusai Street, Matsuo, Naha, Okinawa, 900-0014 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถยนต์จากสถานี Makishi ไปยังถนน Kokusai ใช้เวลาประมาณ 4 นาที |
6.ย่านยะไต ฮากาตะ (Yatai Hakata)
ย่านยะไต ฮากาตะ เป็นย่านที่ขายอาหารข้างทางตลอดทางเดินริมน้ำเขตฮากาตะ ของจังหวัดฟุกุโอกะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารซุ้มเล็กๆ ที่รองรับลูกค้าได้ไม่มาก ให้อารมณ์ประมาณสตรีทฟู้ดของประเทศไทย ลูกค้าส่วนมากก็จะเป็นพนักงานที่มาสังสรรค์กัน อาหารที่ดังๆ ก็จะเป็น โอเด้ง ยากิโซบะ ราเมงกระดูกหมู เกี๊ยวซ่าขนาด
พอดีคำ หอมกลิ่นพริกไทยอ่อนๆ ราคาไม่แพงมาก แถมพ่อค้าแม่ค้าก็ยังเป็นกันเองมากๆ อีกด้วย
ย่านยะไต ฮากาตะ (Yatai Hakata)
ที่อยู่ | 8 Food Stalls (Yatai), Nakasu, Hakata, Fukuoka 810-0801 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถยนต์จากสถานี Hakata ไปยัง Yatai Hakata ใช้เวลาประมาณ 6 นาที |
7.ชินจิไชน่าทาวน์ นางาซากิ (Nagasaki Shinchi Chinatown)
ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่อยากหาของทานเล่นประเภทอาหารจีนต้องมาที่ย่านนี้เลย ชินจิไชน่าทาวน์ หนึ่งในสาม
ไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่ในประเทศญี่ปุ่น จะบอกว่าใครมาที่นี่ไม่ผิดหวัง เพราะมีร้านอาหารจีนประมาณ 40 ร้านเลยทีเดียว รวมไปถึงการตกแต่งก็เต็มไปด้วยโคมสไตล์จีนๆ มีซาลาเปาไส้หมูสามชั้นเป็นอาหารทานเล่นเรียกน้ำย่อยอีกด้วยนะ มาเช็คอินและลองชิมอาหารจีนสไตล์ญี่ปุ่นกันได้ที่นี่เลย น่าเที่ยวสุดๆ
ชินจิไชน่าทาวน์ที่นางาซากิ (Nagasaki Shinchi Chinatown)
ที่อยู่ | 10−13 Nagasaki Shinchi Chinatown, Shinchimachi,Nagasaki 850-0842 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Nishi-Hamanomachi ไปยัง Shinchi Chinatown ใช้เวลาประมาณ 5 นาที |
8.ถนนมิสุกิชิเกะรุ (Mizuki Shigeru Road)
ถนนสายภูติพราย หรือ ถนนมิสุกิชิเกะรุ ตั้งอยู่ที่เมืองซากาอิมินาโตะในจังหวัดทตโตริ ที่ได้ชื่อว่าเป็นถนน
แห่งภูติพราย ก็เพราะว่าถนนแห่งนี้เป็นตัวการ์ตูนเหล่าผีๆ ทั้งหลาย อาจจะคิดว่ามันน่ากลัวแต่ความจริงคือน่ารักมาก เหมาะกับการมาถ่ายรูปมากๆ แถมยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวที่มาได้ร่วมสนุกกันอีกด้วย และตรงบริเวณสถานีรถไฟ Sakaiminato ยังมีร้านขายขนมแปลกๆ น่าสนใจไม่ซ้ำกันเลย และร้านขายของที่ระลึกน่ารักมากมายจากการ์ตูนดังให้ช้อปปิ้งอีกด้วยนะ ลองแวะไปดูกันได้เลย
ถนนมิสุกิชิเกะรุ (Mizuki Shigeru Road)
ที่อยู่ | Mizuki Shigeru Road, Taishomachi, Sakaiminato, Tottori 684-0004 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Sakaiminato ไปยังถนนมิสุกิชิเกะรุ ใช้เวลาประมาณ 1 นาที |
9.ย่านยะไตมูระ (Yatai Mura)
เจอย่านยะไตของภูมิภาคคิวชูไปแล้ว ลองมาเจอ ย่านยะไตมูระ อีกหนึ่งย่านของอร่อยในภูมิภาคโอกินาว่ากันบ้าง ตั้งอยู่บนถนนโคคุไซ ในเมืองนาฮะ จังหวัดโอกินาว่า ตลอดข้างทางมีร้านอาหารมากกว่า 20 ร้าน บรรยากาศคล้ายๆ กับร้านสตรีทฟู้ดบ้านเรา ที่สามารถนั่งทานได้ เลี้ยงฉลองตามเทศกาลต่างๆ ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ตลอดทางมีโคมไฟประดับดูครึกครื้นตลอดเวลา มีทั้งของอร่อยอย่าง โซกิโซบะ ที่เป็นอาหารพื้นเมือง และมีทั้งร้านเหล้าเบียร์ให้ได้นั่งชิล ชมบรรยากาศสบายๆ อีกด้วย
ย่านยะไตมูระ (Yatai Mura)
ที่อยู่ | Kokusaidori Yatai Mura, 3-11-16,17 Makishi, Naha, Okinawa 900-0013 |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Makishi ไปยังย่านยะไตมูระ ใช้เวลาประมาณ 4 นาที |
10.ย่านคาวาโกเอะ (Kawagoe)
ย่านคาวาโกเอะ เมืองเก่าที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมโบราณสมัยเอโดะ ได้ฉายาว่า “เอโดะน้อย” มีบ้านเรือนสไตล์สมัยเอโดะตลอดแนวยาวสองข้างทาง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์มากๆ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาที่นี่ อาคารที่เป็นเอกลักษณ์ ร้านอาหาร ร้านค้า เเละร้านขนมโบราณต่างๆ เมนูยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด ก็คือ มันหวานเเสนอร่อยที่เป็นของกินขึ้นชื่อในย่านนี้ นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมพาร์เฟต์ ชุดมันหวาน, ชูครีมมันหวาน, Softcream มันม่วง, คาวาโกเอะ พุดดิ้ง, มันหวานเผาโอ่ง แบบดั้งเดิม รวมไปถึงขนมหวานเเละอาหารอื่นๆ อีกมากมาย จนเลือกชิมไม่ถูกเลยทีเดียว
ย่านคาวาโกเอะ (Kawagoe)
ที่อยู่ | Kawagoe, Kawagoe, Saitama 350-0852 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จาก Ikebukuro Station หรือ Shinjuku Station ขึ้นรถไฟสาย JR Saikyo Line ไปลงที่ Kawagoe Station หรือ Kawagoeshi Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-50 นาที |
ข้อสรุป
อาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่นที่ได้แนะนำไปส่วนมากทุกคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้วใช่ไหม ทั้งซูชิ ซาชิมิ ราเมง แต่ละอย่างก็คือน่าทานมากๆ และถ้าไปญี่ปุ่นก็ยิ่งหาซื้อได้ไม่อยากเลย รวมถึงย่านของกินแต่ละที่ที่ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก อย่างเช่น ย่านอาซากุสะ ย่านชิบูย่า ซึ่งในแต่ละย่านก็จะมีของดีของเด่นแตกต่างกันไป ทั้งอาหาร ร้านค้าขายของฝาก ร้านขนม เอาเป็นว่าถ้าไปญี่ปุ่นตามย่านที่แนะนำล่ะก็ ได้พุงน้อยๆ กลับมาแน่นอน
เที่ยวโอกินาว่าสุดฟินเที่ยวจุใจ ทะเลน้ำใส หาดทรายดาว
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
สถานที่ท่องเที่ยว 10 ที่แนะนำ จะมีที่ไหนบ้างลองดูบทความนี้กัน
10 ที่เที่ยว โอกินาว่า เที่ยวเดือนไหน เดินทางยังไง ทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนไป!!
รวมที่เที่ยวโอกินาว่า เกาะน้อยของญี่ปุ่น ที่เดินทางไปไม่ยากอย่างที่คิด แถมราคาไม่แพง จัดทริปเที่ยวง่ายๆ ว่าแต่ว่า จะไปโอกินาว่าทั้งทีต้องไปเดินไหนนะ แล้วเดินทางในโอกินาว่ายังไง ไม่รถไปได้หรือเปล่า แล้วที่โอกินาว่ามีอะไรให้เที่ยวบ้างนะ หากสงสัยกันอยู่ไปดูเลย