Autumn Akita ที่เที่ยว เด็ด รวม 16 พิกัด ฟินช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ควรพลาด

การเดินทางสู่อาคิตะ และการเดินทางภายใน

การเดินทางสู่อาคิตะ

ก่อนจะแนะนำ Akita ที่เที่ยว เราขอแนะนำการเดินทางสู่จังหวัดอาคิตะซึ่งทำได้อย่างสะดวกสบาย มีช่องทางให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งเครื่องบินภายในประเทศ และรถไฟชินคันเซ็น

การเดินทางโดยเครื่องบินภายในประเทศ

จังหวัดอาคิตะ มีสนามบินถึงสองสนามบิน คือ
1.Akita Airport : สนามบินหลัก ใกล้ตัวเมืองอาคิตะ ซึ่งสามารถเลือกเดินทางได้จากโตเกียว(ฮาเนดะ), โอซาก้า(อิตามิ), ซัปโปโร(ชินชิโตเสะ), นาโกย่า(ชูบุเซ็นแทร์) โดยใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ สะดวกมากๆ
2.Odate Noshiro Airport : สนามบินทางตอนเหนือของจังหวัดอาคิตะ อยู่ใกล้กับอาโอโมริและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง(เดินทางจากโตเกียวด้วยสายการบิน ANA เท่านั้น)

การเดินทางโดยรถไฟ Akita Shinkansen

การเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นนั้นค่อนข้างสะดวกสบายและเลือกสถานีได้หลากหลาย ราคาพอๆ กับเครื่องบินโดยเลือกลงสถานีได้ดังต่อไปนี้

รายละเอียด JR Tohoku-South Hokkaido Rail Pass คลิกที่นี่

รายละเอียด JR EAST PASS (Tohoku area) คลิกที่นี่

การเดินทางโดยรถบัส

การเดินทางภายในอาคิตะ

สำหรับการเดินทางภายในจังหวัดอาคิตะนั้น ก็สะดวกสบาย มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ

Akita ที่เที่ยว ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากชมความงดงามในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของอาคิตะนั้นแนะนำให้มาในช่วง ปลายเดือนกันยายนไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตามแต่ละพื้นที่อาจจะมีรายละเอียดในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำพิกัด เที่ยว กิน ออนเซ็น ที่พัก แหล่งช้อปปิ้งเด็ดๆ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มาดูกันว่ามีที่ไหนเด็ดบ้าง

1.LakeTowada & Hakkatoge Observatory

วิวใบไม้เปลี่ยนสีอาคิตะที่แรกเราขอแนะนำ LakeTowada ทะเลสาบโทวาดะตั้งอยู่ระหว่างเมืองโทวาดะและเมืองโคซากะ ตั้งอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 400 เมตร มีความลึกสุด 327 เมตรซึ่งลึกมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะพบว่าหุบเขาที่ล้อมรอบทะเลสาบเปลี่ยนเป็นสีแดงสีเหลืองงดงาม

วิวทะเลสาบแนะนำให้ชมจาก Hakkatoge Observatory หอชมวิวสูง 631 เมตร ที่สามารถมองเห็นทะเลสาบในมุมสูง ชมความงดงามของทะเลสาบและขุนเขาในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี หรือถ้าจะแชะภาพกับทะเลสาบบอกเลยว่าเหมาะ

ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี : ช่วงกลางถึงปลายเดือนตุลาคม

Hakkatoge Observatory

2.Dakigaeri Valley

หุบเขาดาคิกาเอริ (Dakigaeri Valley) ชมทัศนียภาพของหุบเขาที่จะแต่งแต้มสีสันของฤดูใบไม้ร่วง ทั้งสีเหลือง ส้ม แดง เขียว ตัดกับภาพลำธารที่ทอดตัวท่ามกลางหุบเขา จนได้รับฉายาว่า Tōhoku no yabakei หรือ หุบเขายาบะแห่งภูมิภาคโทโฮคุ

ชมทิวทัศน์มุมสูง และแชะภาพจาก Kami no Iwahashi ความหลากหลายของ สนแดงญี่ปุ่น เซลโควา ซาวากูรูมิ มิซุนาระ และพืชพรรณอีกมากมาย และที่ไม่ไกลกันยังมีน้ำตกมิคาเอริ ที่สวยงาม เป็นการสรรสร้างของธรรมชาติอย่างลงตัว

Dakigaeri Valley

3.Lake Tazawako ​

ทะเลสาบทะซาวะ (Lake Tazawako) คือทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ ความพิเศษคือรูปร่างที่เกือบจะเป็นวงรี และสีของน้ำที่เป็นสีน้ำเงินเข้ม มีความลึก 423.4 เมตร จึงนับเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สถานที่แห่งนี้เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงาม ทั้งยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย

มาถึงที่อย่าลืมมาชมรูปปั้นหญิงสาวสีทอง ซึ่งมีตำนานว่าเธอต้องการดื่มน้ำในทะเลสาบเพื่อคงความสวย แต่กลับกลายร่างเป็นมังกร และจมลงในทะเลสาบ นอกจากชมทัศนียภาพ รอบๆ ยังเต็มไปด้วยสถานที่น่าสนใจ อาทิ ศาลเจ้าโกซาโนะอิชิ เป็นต้น

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี กลางเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

Lake Tazawako ​

4.Oyasukyo

หุบเขาโอยะสึ(Oyasukyo) หุบเขาที่ตั้งขนาบธารน้ำใสที่ไหลมาจากน้ำตกเกิดเป็นแก่ง มีความพิเศษที่มีตาน้ำพุร้อน ไดฟุนโตะ ที่ผุดขึ้น เกิดควันทำให้สถานที่ดูมีเสน่ห์แปลกตา เดินชมธรรมชาติตามทางเดินกลางขุนเขา

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นจะฉาบย้อมที่นี่ไปด้วยสีสัน ความพิเศษคือในปลายฤดูใบไม้ร่วงอาจจะได้เห็นหิมะเกาะตามต้นไม้ ตัดสีสันให้ลงตัวสวยงาม

ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ​​ปลายตุลาคม-ต้นพฤศจิกายน

Oyasukyo

5.resort shirakami​ train นั่งรถไฟชมใบไม้เปลี่ยนสี

ที่ต่อไปขอชวนเพื่อนๆ มานั่งรถไฟในเส้นทางหนึ่งที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีได้งดงามที่สุด พร้อมชายฝั่งทะเล เลียบหาดของเทือกเขาชิราคามิมรดกโลกทางธรรมชาติที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO อย่างขบวน resort shirakami​ train ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรถไฟที่คนญี่ปุ่นอยากลองนั่งดูสักครั้งในชีวิต เส้นทางรถไฟจะเชื่อมระหว่างจังหวัดอาคิตะและจังหวัดอาโอโมริ ระยะทางรวม 147.2 กม.

ขบวนรถไฟนี้มีความโดดเด่นในเรื่องการตกแต่งภายในโดยใช้ไม้ชนิดที่เติบโตในท้องถิ่น แบ่งเป็นขบวน อาโออิเคะ(Aoike), บุนะ (Buna) และ คุมาเกระ (Kumagera) ซึ่งคุณจะชมวิวได้แบบใกล้ชิดด้วยหน้าต่างบานกว้าง มีอาหารเครื่องดื่มบริการ และสามารถซื้อของที่ระลึกพิเศษได้

ชมความงดงามรายทางที่ สถานีเซนโจจิกิที่เป็นหาดหินสวยแปลกตา ฟุโรฟุรุออนเซ็น ทะเลสาบสิบสองแห่ง ชายฝั่งอิวาดาเตะ และทิวทัศน์อื่นๆ มากมายในขบวนรถไฟที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาคโทโฮคุ จนได้รับชื่อ Joyful train หรือรถไฟแห่งความ

Resort shirakami​ train

6.Kakunodate Samurai Residence​

บ้านพักซามูไรคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Samurai Residence​) เป็นหมู่บ้านที่รักษาความดั้งเดิมของอาคิตะเอาไว้ เป็นย่านเมืองเก่าอดีตที่อยู่ของตระกูลซามูไร เพลิดเพลินกับการชมสถาปัตยกรรมดังเดิม พร้อมชมใบไม้ที่อวดสีสันงดงาม

ย้อนยุคด้วยการแต่งชุดกิโมโน นั่งรถลากชมหมู่บ้านพร้อมแนะนำจุดที่น่าสนใจ เพลิดเพลินกับการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ เลือกซื้อของที่ระลึกที่มีความดั้งเดิม ใครที่ชอบบรรยากาศย้อนยุค บอกเลยว่าไม่ควรพลาด

ช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี ปลายเดือนตุลาคม – กลางเดือนพฤศจิกายน

Kakunodate Samurai Residence​

7. Onuma (Hachimantai)

บึงโอนุมะ (Onuma) ตั้งอยู่ใน Towada-Hachimantai National Park เป็นหนึ่งในจุดสำคัญในถนนสาย Hachimantai Aspite Line ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นจุดชมวิวในฤดูใบไม้ร่วง ภาพของใบไม้หลากสีสันโอบล้อมบึงที่ใสราวกับกระจกเป็นไฮไลต์ที่ทุกคนอยากมาเก็บภาพ

Onuma (Hachimantai Visitor Center)

ร้านอาหารอาคิตะ

มาถึงอาคิตะแล้วขอบอกเลยว่าที่นี่มีอาหารเด็ดๆ มากมาย ซึ่งเราขอแนะนำร้านอาหารเด็ดที่คุณจะได้ลิ้มลองความอร่อยสไตล์อาคิตะได้แบบจุใจ

8.Yokina Kasan no mise

คิริทันโปะคือการนำข้าวสวยมาบดพันไม้แล้วย่าง เป็นเมนูที่หากินได้ในอาคิตะ ที่ Yokina Kasan no mise ​คุณจะได้ลองรับประมทานหม้อไฟคิริทันโปะ พร้อมวัตถุดิบในท้องถิ่น อย่าง ไก่บ้านฮิไน เห็ดไมตาเกะ ปรุงซุปอย่างกลมกล่อม ซดร้อนอร่อยสุดๆ

โดยทางร้านจะมาสอนคุณทำหม้อไฟพร้อมชุดพื้นเมือง ในส่วนของฤดูที่ขึ้นชื่อว่าคิริทันโปะจะอร่อยที่สุดคือช่วงเดือนตุลาคมจนถึงกุมภาพันธ์ จึงเป็นอาหารที่ไม่ควรพลาดในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

Yokina Kasan no mise

9. Sato Yosuke ลองทำและชิม Inaniwa Udon

อุด้งอินานิวะ ( Inaniwa Udon) เป็นหนึ่งในอุด้งที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น มีประวัติยาวนานกว่า 350 ปี หารับประทานได้ที่เมืองยูซาวะ จังหวัดอาคิตะ มีเทคนิคเฉพาะที่เพิ่มฟองอากาศลงในแป้งทำให้นุ่มเหนียวเป็นพิเศษ เป็นอุด้งที่สมัยก่อนมีเพียงชนชั้นสูงที่จะได้รับประทาน

ลิ้มลองรถชาติอุด้งได้ทั้งแบบร้อนและเย็น ชมการสาธิตการทำอุด้ง อร่อยและเพลิดเพลินกับการทัวร์โรงงาน เวิร์ดช้อป และซื้ออุด้งกึ่งสำเร็จรูปกลับไปทำที่บ้านก็ได้

Sato Yosuke

10.Ganso Kamiya Yakisoba-ya ชิม YokoteYakisoba สูตรเฉพาะ

ยากิโซบะโยโกเตะ(Yokote Yakisoba) ยากิโซบะสูตรเฉพาะของเมืองโยโกเตะ ใช้เส้นและซอสที่เป็นสูตรเฉพาะซึ่งเลยชนะรางวัลด้านอาหารมาแล้ว ท้อปปิ้งมีทั้งเนื้อสัตว์ ไข่ ผักดอง เป็นรูปแบบอาหารเด็ดๆ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่อาคิตะ

Ganso Kamiya Yakisoba-ya

เรียวกัง ที่พัก ออนเซ็น ใน Akita

อาคิตะนั้นขึ้นชื่อในเรื่องแหล่งออนเซ็นและน้ำพุร้อน โดยแต่ละแห่งนั้นมีคุณภาพที่ดีต่อสุขภาพและมีภูมิทัศน์อันงดงาม ซึ่งเราได้รวมพิกัดเด็ดที่น่าไปเยือนและพักผ่อนช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

11.Kuroyu Onsen (nyuto onsen)

Kuroyu Onsen คือหนึ่งในกลุ่มกิจการออนเซ็นในหมู่บ้าน nyuto onsen อันลือชื่อของจังหวัดอาคิตะ ตั้งอยู่ลึกสุดในบรรยากาศแห่งขุนเขา ตัวอาคารมุงด้วยหลังคาจากหญ้าโทโมะด้วยวิธีโบราณ บริการที่พักในเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม

ชมใบไม้เปลี่ยนสีได้จากบ่อออนเซ็น แช่ผ่อนคลายสบายตัว ชื่อ Kuroyu หรือที่แปลว่าออนเซ็นดำนั้นมีความพิเศษคือเวลานำไข่ลงไปต้มเปลือกไข่จะเป็นสีดำ เนื่องจากน้ำพุที่นี่มีสารที่มีคุณประโยชน์ในการฆ่าเชื้อ ทั้งยังมีสรรพคุณบรรเทาโรคความดันโลหิตเส้นเลือดอุดตัน และช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้เป็นอย่างดี

Kuroyu Onsen

12.Shin-Tamagawa Onsen

ชินทามากาวะออนเซ็น เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Towada Hachimantai น้ำพุร้อนมีความเป็นกรดสูงเป็นเอกลักษณ์ บริการห้องอาบน้ำที่หลากหลาย ทั้งแบบอ่างนอนแช่ แบบกลางแจ้ง แบบในร่ม และบริการเสริมเช่นห้องซาวน่า

ในส่วนของบริการนั้นก็จัดเต็ม ห้องพักมีทั้งแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม หรือแบบตะวันตก อาหารเครื่องดื่มบริการพร้อม เหมาะสำหรับใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจ

Shin-Tamagawa Onsen

13.Seiko Grand Hotel (OgaOnsenVillage)

Seiko Grand Hotel เป็นเรียวกังที่ตั้งอยู่ใน Oga Onsen Village โดดเด่นในเรื่องบ่อออนเซ็นกลางแจ้ง ที่จะให้คุณชมวิวสวยในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

Onsen Village แห่งนี้ คืออาหารท้องถิ่นที่เรียกว่า อิชิยากิ(Ishiyaki) ซึ่งเป็นการปรุงอาหารให้สุกด้วยหินร้อน และมีอาหารทะเลตามฤดูกาลที่สดอร่อย และสามารถชมการแสดง Namahage-Daiko (Oga Onsen Gofu) คือจะมีคนแต่งชุดเทพเจ้าแห่งขุนเขามาแสดงตีกลองไทโกะ เป็นการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ ได้ที่หมู่บ้านแห่งนี้(จัดแสดงในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน)

Seiko Grand Hotel

14.Sukawa Onsen Kurikoma Sanso

อีกหนึ่งออนเซ็นที่เป็นจุดชทใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของอาคิตะ คือ Sukawa Onsen Kurikoma Sanso ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Higashinaruse แช่บ่อกลางแจ้ง ชมวิวพาโนราม่าในระดับความสูงถึง 1,100 เมตร มีน้ำพุร้อนสีใส ทว่าเต็มไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

บ่อน้ำพุร้อนแยกเป็นบ่อชายหญิง ใครชอบบ่อในร่มที่นี่ก็มีให้เลือกแช่ อีกทั้งในเวลากลางคืนที่นี่เป็นจุดชมดาวที่งดงาม เพราะตั้งอยู่บนเขาสูง จะพักหรือใช้บริการแบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้

Sukawa Onsen Kurikoma Sanso

แหล่งช้อปปิ้งในอาคิตะ

15.ตลาดชุมชนเมืองอากิตะ

ใครที่อยากไปช้อปปิ้งของกินของฝากสไตล์อาคิตะล่ะก็ต้องไปที่ ตลาดชุมชนเมืองอากิตะ (Akita Citizen’s Market) ตลาดที่รวบรวมสินค้ามากมาย อิ่มอร่อยกับอาหารจากวัตถุดิบในท้องถิ่น ฟินกับผลไม้ราคาดีสดใหม่ และหาซื้อของฝากท้องถิ่นจัดเต็มได้ที่นี่

ตลาดชุมชนเมืองอากิตะ

16.ando jozo brewery

โรงหมักอันโด ก่อตั้งมายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1848 ผลิตมิโสะและอาหารหมักมายาวนาน เป็นเจ้าของสูตรเด็ดที่ยังอนุรักษ์วิธีการผลิตแบบดั้งเดิม ผสานกับแบบทันสมัย ชมการผลิตได้แบบใกล้ชิด แนะนำให้มาที่สาขาหลักในหมู่บ้านซามูไร

มาถึงที่ต้องไม่พลาดซื้อของติดไม้ติดมือกลับบ้าน ผลิตภัณฑ์มีความเป็นอาคิตะดั้งเดิม แบบที่พอได้กินก็นับว่ามาถึงแล้ว

ando jozo brewery

ข้อสรุป

ใครที่มองหาแผนเที่ยวสำหรับทริป ใบไม้เปลี่ยนสีอาคิตะ รับรองว่าจะได้ข้อมูลครบครันในบทความนี้ ครบทั้งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ร้านอาหารเด็ด แหล่งช้อปปิ้ง ที่พัก และบ่อน้ำพุร้อนสุดฟิน ใครที่อยากชมใบไม้เปลี่ยนที่ที่โทโฮคุขอบอกว่าห้ามพลาดที่อาคิตะ

เที่ยว akita ชมธรรมชาติละลาน หลากกิจกรรมสนุกทุกฤดู

สนใจที่เที่ยวในฤดูอื่นๆ ลองอ่านดูได้ที่นี่