ทะเลสาบทาซาวะโกะ Tazawa Lake
ทะเลสาบ Tazawa Lake เป็นทะเลสาบที่มีความลึกที่สุดของประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ที่ Semboku จังหวัด Akita โดยมีความลึกที่ 423.4 เมตร และ เคยใช้เป็น Location สำหรับถ่ายซีรีส์เกาหลีชื่อเรื่องว่า Iris อีกด้วย
การเดินทางมายัง Tazawa Lake นั้นก็สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ
ให้นั่ง Shinkansen ขบวน Komachi มาลงสถานี Tazawako ได้เลยจาก Tokyo ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
จาก Sendai ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
จาก Aomori ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
สำหรับการเที่ยวทะเลสาบ Tazawa นั้น ผมเลือกใช้บริการรถบัส Circuit Bus ซึ่งเป็นรถบัสที่วิ่งวนรอบทะเลสาบ และจอดตามจุดสำคัญๆเพื่อให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายรูปด้านล่าง ซึ่งเวลารถจอดให้ลงไปถ่ายรูป คนขับชูป้ายบอกเวลารถออกในรอบนั้นๆ ดังนั้นแล้ว นักท่องเที่ยวจะต้องกลับมาขึ้นรถให้ทัน ไม่งั้นจะต้องรอรถรอบต่อไป ซึ่งใช้เวลานานกว่ารถอีกรอบจะมา
โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อบัตรโดยสารรถบัส Citcuit Bus ได้ที่ Tourist Information ที่สถานี Tazawako ในราคา 1,190 เยน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการโดยสารรถบัส Circuit Bus ก็สามารถเดินทางไปทะเลสาบด้วยการนั่งรถบัสท้องถิ่นไปได้ด้วยเช่นกัน โดยไปลงป้าย Tazawakohan
กลับมาที่รถบัส Circuit Bus รถบัสจะมีจุดจอดให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายรูปอยู่ 2 จุดคือ
จุดแรกชื่อว่า Katajiriจุดทึ่สอง ชื่อว่า Gozanoishi
Katajiri
จุดแรกที่รถบัส Circuit Bus จอดคือ Katajiri รถจะจอดให้ถ่ายรูปประมาณ 20 นาที ซึ่งที่นี่จะมีรูปปั้น Tatsuko ซึ่งถือว่าเป็น Highlight ของทะเลสาบนี้เลยก็ว่าได้ Tatsuko นั้น มีตำนานเล่าว่า เดิมทีนั้น นางเป็นหญิงรูปงามที่อยากมีชีวิตอมตะเลยมาดื่มน้ำที่ทะเลสาบแห่งนี้ แต่ด้วยที่ว่านางดื่มเยอะเกินไปจึงทำให้นางกลายเป็นมังกรที่ทะเลสาบแห่งนี้ รูปปั้นของ Tatsuko นั้น หล่อขึ้นเมื่อปี 1968 โดยศิลปินที่ชื่อว่า Funakoshi Yasutake
นอกจากรูปปั้น Tatsuko แล้วบริเวณใกล้กับรูปปั้นยังมีศาลเจ้าเล็กๆที่ชื่อว่า Kansagu อีกด้วย ระว่างที่ถ่ายรูปอย่าลืมเช็คเวลารถเมล์ออกนะครับ ไม่งั้นมีโอกาสตกรถได้
Gozanoishi
จุดจอดรถแห่งที่ 2 นี้ จะจอดบริเวณศาลเจ้า Gozanoishi ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อบูชาร่างมังกรของ Tatsuko โดยผู้คนมักจะมาขอพรเกี่ยวกับความงาม และยังมีเครื่องรางที่เกี่ยวกับความงามอีกด้วย
เสาโทริอิของศาลเจ้าจะตั้งติดกับทะเลสาบ
ตัวศาลเจ้า Gozanoishiหลังจากที่ขึ้นรถ Circuit Bus แล้วรถก็จะพานักท่องเที่ยวกลับไปยังสถานี Tazawako ทันที
บรรยากาศของทะเลสาบ Tazawa เป็นการถ่ายผ่านกระจกรถ Circuit bus ซึ่งอาจจะมีเงาสะท้อน
Kakunodate
จากสถานี Tazawako ให้เพื่อนๆนั่งรถไฟชินคันเซนมาลงสถานี Kakunodate ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางแค่ 13 นาทีเท่านั้น หรือนั่งรถไฟธรรมดาใช้เวลาแค่ 20 นาที หรือถ้ามาจาก Tokyo ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
มือง Kakunodate เป็นเมืองที่ถูกขนานนามว่าเป็น Little Kyoto แห่ง Tohoku โดยเมืองแห่งนี้ถือว่าแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งของจังหวัด Akita ที่เมืองนี้ จะมาช่วงซากุระ หรือ ใบไม้เปลี่ยนสี ก้ได้ทั้งนั้น หรือจะมาช่วงหิมะก็ดีไม่แพ้กัน แต่ผู้เขียนแนะนำให้มาช่วง ซากุระ หรือ ใบไม้เปลี่ยนสี
บรรยากาศ Kakunodate ช่วงหิมะตกถ้ามาช่วงนี้แนะนำให้อย่ามาวันที่มีทั้งฝน และ หิมะ ตก
บรรยากาศช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
จากสถานี Kakunodate นักท่องเที่ยวจะต้องเดินมายังจุดที่เรียกว่า samurai residence ซึ่งจะใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที ซึ่งจุดนี้จะย่านเมืองเก่าและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของที่นี่
ที่เมืองนี้นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถลาก Jinrikisha ได้ โดยรถลากจะพานักท่องเที่ยวผ่านสถานที่สำคัญๆของเมือง Kakunodate และจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมืองนี้อย่างเต็มอิ่ม
บ้านซามูไร Aoyagi Samurai House
อีก 1 หัวใจสำคัญของการเที่ยวเมือง Kakunodate นั่นก็คือบ้านซามูไร ที่เมืองแห่งนี้มีบ้านซามูไรเปิดให้นักท่องเข้าไปชมจำนวนหลายหลังมากเช่น บ้านตระกูล Aoyagi, ishiguro, Odano เป็นต้น ***จากข้อมูลล่าสุด ishiguro, Odano ได้ทำการปิดบริการชั่วคราว มีบ้านตระกูล Aoyagi ที่ยังเปิดบริการตามปกติ โดยบ้านซามูไรที่ผมเลือกที่จะเข้าในทริปนี้คือ Aoyagi มีค่าเข้าคนละ 500 เยน
ด้านในของบ้านซามูไร Aoyagi ก็มีพวกอาวุธ ดาบ ชุดเกราะ ปืน รวมถึงเครื่องใช้เก่าๆ เครื่องแต่งกายเก่าๆ แผ่นเสียง หนังสือเก่าๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน และ รวมมีดาบซามูไร ให้นักท่องเที่ยวทดลองยกขึ้นดูด้วยครับ
ชุดเกราะซามูไรเก่าๆ ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์
ภายในบ้านซามูไร Aoyagi นอกจากวัตถุโบราณที่ผมกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีศาลเจ้า Aoyagi Shrine ให้สักการะ อีกด้วย
นอกจากสิ่งของที่เกี่ยวกับซามูไรแล้ว ก็ยังมีแผ่นเสียงเก่าๆให้ชมด้วย
ที่เมืองนี้ยังมีสุนัขพันธุ์ Akita Inu ให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วยครับ
บริเวณย่านเมืองเก่า Kakunodate ก็ยังมีพวกร้านกาแฟเล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งจิบกาแฟพร้อมเสพบรรยากาศของเมืองไปด้วย เรียกได้ว่าฟินน์สุดๆ
สรุป
แล้วก็จบลงไปแล้วครับสำหรับบทความนี้ ซึ่งการเที่ยว Tazawa Lake และ Kakunodate นั้น สามารถเที่ยวควบคู่กันได้ ใน 1 วัน โดยการเที่ยว Tazawa Lake นั้น ถ้าเที่ยวช่วงที่หิมะ จะได้บรรยากาศแบบสงบที่แฝงไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ภูเขา และ ทะเลสาบ ส่วนการเที่ยว Kakunodate นั้นถ้าเที่ยวช่วงที่ไม่มีหิมะจะสนุกกว่าตอนที่หิมะตก เมืองจะมีชีวิตชีวามากกว่าและมีกิจกรรมให้ทำอย่างเช่น การนั่งรถลาก Jinrikisha ชมเมือง ซึ่งจะทำให้เพื่อนๆได้ประสบการณ์ ความทรงจำอันล้ำค่า ได้สำหรับใครที่อยากอ่านบทความ เที่ยวอากิตะ ต่ออ่านเลย
เที่ยวอากิตะ เยือนเมืองหิมะ ชมสโนว์มอนส์เตอร์ สวรรค์แดนหิมะ ธรรมชาติเมืองญี่ปุ่น ชิมอาหารท้องถิ้น ผลไม้อร่อย สนุกครบเด็ดทุกอารมณ์ความสนุก และอร่อย ไม่ควรพลาด หากกำลังต้องการไปเที่ยวชนบทญี่ปุ่นอยู่ละก็ไม่ควรพลาดที่นี่
อาคิตะ เที่ยว 7 พิกัดเด็ด ครบรส เต็มอิ่มข้อมูลทริป
อ่านต่อแล้วเตรียมตัวไปเที่ยวกันเลย