ขับรถเที่ยวญี่ปุ่นที่ไหนดีมีคำตอบ ทัวร์มิเอะและกิฟุ ลุยพิกัดดัง ชิราคาวาโกะ

สนุกฟิน ขับรถเที่ยวเองที่มิเอะ

การขับรถท่องเที่ยวญี่ปุ่นถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการเดินทางยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมกัน และยังเป็นวิธีที่ช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย วันนี้เราจะขอแนะนำพิกัดจังหวัด ที่เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยวด้วยการขับรถให้รู้จักกัน

ที่แรกที่เราจะพาไปเที่ยวกันก็คือจังหวัด มิเอะ การเดินทางไปที่เมืองนี้เราเริ่มต้นกันที่สนามบิน Centrair เดินทางด้วยรถยนต์มายังมิเอะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ที่มิเอะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เหมาะทั้งการมาชมธรรมชาติอย่างใบไม้เปลี่ยนสี ชมแสงสียามค่ำคืน ศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น ทั้งยังสามารถมาทำกิจกรรมเล่นสกีกันที่นี่ได้ด้วย เอาล่ะค่ะตามไปยังพิกัดน่าเที่ยวของเมืองนี้กันเลย !

NABANA no SATO : พิกัดชมงานประดับไฟยิ่งใหญ่ในญี่ปุ่น

พิกัดเที่ยวอันดับแรกที่ต้องไม่พลาดแวะไปเยือนในมิเอะเลยก็คือ NABANA no SATO แห่งนี้ ที่นี่คือสวนพฤกษชาติขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ เราสามารถมาชมความสวยงามของดอกไม้และถ่ายรูปสวย ๆ กันที่โลเคชั่นแห่งนี้ได้ แต่อีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็คืองานประดับไฟในช่วงฤดูหนาวหรือ Winter Illumination ที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น

การจัดประดับไฟของที่นี่ไม่ธรรมดา เมื่อถึงช่วงยามค่ำคืนพื้นที่ทางเดินส่วนหนึ่งของที่นี้จะถูกตกแต่งด้วยไฟประดับสวยงามราวกับทะเลเมฆสีฟ้า ทั้งยังมี Crystal White Arch เป็นซุ้มประตูที่สวยงามเป็นจุดสุดโรแมนติดที่ได้รับความนิยมจากเหล่าคู่รัก

อีกจุดไฮไลท์ของที่นี่คืออุโมงค์ไฟประดับทางเดินที่มีความยาวกว่า 200 เมตร ดูสวยงามถอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา สวยงามเดินชมได้อย่างเพลิดเพลิน ขับรถมาเที่ยวที่นี่มีรูปสวย ๆ ไปอวดลงโซเชี่ยลแน่นอน

NABANA no SATO

Gozaisho Ropeway : ขึ้นกระเช้าชมใบไม้เปลี่ยนสี เล่นสกีก็ได้ที่นี่

ชมไฟประดับสวย ๆ กันไปแล้ว ขอพาขับรถไปเที่ยวกับต่อยังพิกัดเที่ยวชมธรรมชาติที่ Gozaisho Ropeway เมื่อมาที่นี่เราขอแนะนำให้ขึ้นกระเช้าเพื่อชมวิวอันสวยงามของภูเขา Gozaisho แห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงดูใบไม้เปลี่ยนสีของใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนจากที่ยอดเขาตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมจนถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน จากนั้นจะเปลี่ยนสีไล่ไปจนถึงตีนเขาบริเวณใกล้กับหมู่บ้านออนเซ็น เป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม

อีกหนึ่งช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาเที่ยวที่นี่ก็คือในช่วงฤดูหนาวบรรยากาศทิวทัศน์ของที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กับฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเลย ใครจะมาช่วงนี้ละก็ใส่เสื้อหนาวหนา ๆ สวย ๆ จัดเต็มมาได้เลย เพราะกระเช้าจะพาเราขึ้นสู่ยอดเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,200 เมตร ในเวลา 12 นาที ก็ต้องเตรียมตัวกันหน่อย

อีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ที่เราจะมาชมกันได้ที่นี่ในช่วงฤดูหนาวนั้นคือ Jyuhyo หรือน้ำแข็งที่ติดอยู่บนต้นไม้ดูแล้วช่างแปลกตา ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์นั้นจะพบเห็นได้เป็นจำนวนมาก

นอกจากในจะมาชมวิวสวย ๆ ของที่นี่ได้แล้ว กิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือการเล่นสกีนั่นเอง สำหรับใครที่ไม่เคยเล่นสกีมาก่อนมาถึงบนนี้แล้วไม่ต้องห่วงเพราะเขาก็มีคนสอนให้ มาสัมผัสประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาวหรือฤดูใบไม้ร่วงที่นี่กันนะ

Gozaisho Ropeway

Ise Jingu : สัมผัสศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่ศาลเจ้าสำคัญของญี่ปุ่น

Ise Jingu หรือศาลเจ้าอิเสะถือเป็นพิกัดสุดศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดมิเอะ ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังและมีความสำคัญกับชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

โดยศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโต และมีความเกี่ยวข้อกับราชวงศ์ญี่ปุ่น โดยชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้า Amaterasu หรือเทพเจ้าพระอาทิตย์ ซึ่งพระอาทิตย์นั้นถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น อย่างเราเรียกกันว่าแดนอาทิตย์อุทัย

ประตูทางเข้าหรือโทริอิของศาลเจ้าแห่งนี้มีความใหญ่โตในการสักการะศาลเจ้าแห่งนี้แนะนำให้ไปพื้นที่ที่เรียกว่า Geku ก่อนแล้วจึงไปในส่วนของ Naiku ต่อ เมื่อเราได้เจอกับบ่อล้างมือให้ใช้กระบวยตักน้ำล้างมือด้วยมือขวาเพื่อล้างมือซ้าย แล้วเปลี่ยนเป็นถือกระบวยด้วยมือซ้ายเพื่อล้างมือขวา จากนั้นใช้มือขวาเอากระบวยตักน้ำใส่มือซ้ายเพื่อล้างปาก และล้างมือซ้ายด้วย จากนั้นใหเยกกระบวยเป็นแนวตั้งเพื่อล้างที่จับแล้ววางไว้ที่เดิม

พอถึงบริเวณศาลเจ้าหลักให้ทำความขอบคุณศาลเจ้าที่ให้เรามีชีวิตอยู่ และบริเวณของศาลเจ้าอื่น ๆให้ขอพรในสิ่งที่เราต้องการ ในส่วนของการทำความเคารพศาลเจ้า ให้โค้งคำนับสองครั้ง ปรบมือสองครั้งจากนั้นให้โค้งอีกหนึ่งครั้งเพื่อเป็นการขอบคุณนั่นเอง

นอกจากความศักดิ์สิทธิ์แล้วใกล้กันนั้นเองก็มีตรอกสไตล์ดั้งเดิมที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อว่า Okage Yokocho อยู่ด้วยมาช้อปกันได้เลย

Ise Jingu

Meoto iwa : สัมผัสความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าแห่งความรัก

เราจะไปกันต่อที่ศาลเจ้า Futami Okitama Jinja สำหรับศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงในการขอพรให้รักได้สมหวัง ที่นี่ตั้งอยู่บริเวณริมทะเล มีบรรยากาศสวยงาม ลมเย็นสบายและยังมีเทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์สถิตย์อยู่

เมื่อเดินผ่านประตูโทริอิเข้าไปเราจะได้พบกับ Meoto Iwa หรือหินแต่งงาน ซึ่งมีตำนานว่าหินทั้งสองก้อนนี้หมายถึงคู่มหาเทพที่เป็นสามีภรรยากัน จึงทำให้หินคู่นี้เปรียบเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของคู่รักที่อยู่เคียงคู่กันมาโดยตลอด

และเชื่อกันว่าหากได้มาสักการะและอธิษฐานขอพรจะทำให้ชีวิตคู่สมหวัง ราบรื่น อยู่คู่กันตลอดไป นอกจากคนมีคู่แล้วสำหรับคนโสดที่อยากมีความรักก็เดินทางมาขอพรกับหินสองก้อนนี้ให้รักสมหวังได้ด้วยเช่นกันนะ ใครอยากสมหวังในเรื่องรักต้องมาสักการะที่ศาลเจ้าแห่งนี้กันนะ

Meoto iwa

ตะลุยกิฟุ เที่ยวไปยังเส้นทางพิเศษ

รู้พิกัดขับรถเที่ยวในมิเอะกันแล้วต่อไปขอพาไปเที่ยวต่อยังอีกจังหวัดหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันและตั้งอยู่ในใจกลางประเทศญี่ปุ่นนั่นก็คือจังหวัดกิฟุ ที่จังหวัดนี้มีธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามหลายแห่ง โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่าง หมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะ ย่านเมืองเก่าทาคายามะ ที่หลายคนอยากไปเยือน และแน่นอนว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่สถานที่เด็ดแค่ที่เดียวแน่ แต่จะมีที่ไหนบ้างตามมาดูกัน

การเดินทางไปยังเมืองกิฟุนั้นจากสนามบิน Centrair ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ครึ่งเท่านั้น เหมาะกับการเช่ารถขับเที่ยวเองเป็นที่สุด

Hida Osaka Fall : เดินชมน้ำตกสวยสัมผัสธรรมชาติ

สถานที่แรกที่เราจะไปเที่ยวกันในกิฟุนั้นเราจะพาไปชมธรรมชาติกันสวยงามของเมืองโอซากะที่อยู่ในจังหวัดกิฟุกัน ที่เมืองนี้มีน้ำตกมากกว่า 200 แห่งที่เยอะขนาดนี้เพราะเกิดจากการประทุของลาวาภูเขาไฟ Ontake ทำให้น้ำตกแต่ละแห่งของเมืองนี้มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป

ที่นี่เราสามารถมาเล่นกิจกรรมได้ทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง ทั้งการชมน้ำตกและเดินเล่นในป่าแสนเย็นสบาย ไปปีนเขา หรือตอนฤดูร้อนก็สามารถปีนน้ำตกชมธรรมชาติสวย ๆ และในฤดูหนาวยังสามารถสวมรองเท้า Kanjiki เดินเล่นบนหิมะได้อีกด้วย พอเล่นกิจกรรมแล้วก็ยังแช่ออนเซ็นได้อีก กิจกรรมของที่นี่จะทำให้วันหยุดของคุณผ่อนคลายที่สุด

น้ำตกของเมืองนี้มีความสวยงามน่าไปชมเป็นที่สุด การจะมาเดินชมน้ำตกที่นี่ก็ควรจะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เพราะน้ำตกบางแห่งก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการเดินทัวร์เหมือนกันนะ แนะนำว่าให้มาชมน้ำตกที่สามารถเดินชมได้ไม่ยากอย่าง Mitsudaki , Sennindaki, Neonotaki และ Zaimokudaki และในการมาครั้งแรกให้มาเที่ยวในช่วงเดือน เมษายนถึงพฤศจิกายนที่ดีที่สุด

การมาชมน้ำตกนั้นนอกจากจะได้สูดอากาศแสนบริสุทธิ์แล้วยังสามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของป่าไม้ในช่วงฤดูที่เปลี่ยนสีสันได้ แถมยังเหมาะกับเดินทางมาด้วยรถยนต์อีกด้วย

Hida Osaka Fall

Gero Onsen : เที่ยวออนเซ็นให้สบายด้วย นอนพักเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่น

Gero Onsen เป็นเมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียง 1 ใน 3 แห่งของญี่ปุ่นและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ที่นี่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี เมืองนี้มีบรรยากาศที่เก่าแก่สวยงามทั้งยังมีความร่มรื่นเพราะมีต้นไม้และภูเขาอยู่ล้อมรอบ เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มีบรรยากาศและอากาศสดชื่นเหมาะกับการมาพักผ่อนเป็นที่สุด

ไฮไลท์ของการมาเที่ยวเมืองนี้เลยก็คือการมาแช่ออนเซ็น ภายในเมืองจะมีถ้าสถานที่แช่ออนเซ็น และเรียวกังสำหรับเข้าค้างคืนเพื่อพักผ่อน หรือใครอยากแค่ลองแช่ก็มีบ่อที่ไว้สำหรับแช่เท้าให้แช่ฟรีด้วย

โดยน้ำพุร้อนของ Gero Onsen เป็นน้ำพุร้อนที่มาจากธรรมชาติไหลออกมาโดยมีอุณหภูมิสูง และคุณสมบัติที่ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน ที่ญี่ปุ่นจึงขนานนามที่นี่ว่า ออนเซ็นสาวสวย

ด้วยตัวเมืองที่มีขนาดเล็กทำให้เมื่อขับรถมาที่เมืองนี้แล้ว เราสามารถเดินเที่ยวเล่นในเมืองได้ภายในหนึ่งวัน หลังจากเดินเที่ยวเล่นในหมู่บ้านแล้วก็สามารถมาแช่ออนเซ็นเท้าผ่อนคลายได้ และนอกจากจะมีบ่อออนเซ็นให้แช่ มีเรียวกังให้พักค้างคืนแล้ว ที่นี่ก็ยังมีศาลเจ้า วัด มีพิพิธภัณฑ์ออนเซ็น ร้านขายของฝากสไตล์ท้องถิ่นให้เราได้เดินเที่ยวเล่นชื่นชมบรรยากาศเมืองเก่าที่แสนร่มรื่นแห่งนี้

Gero Onsen

Shirakawago : ชมความงามมรดกโลก วิวสวยใบไม้เปลี่ยนสีงดงาม

มาถึงพิกัดไฮไลท์ของจังหวัดกิฟุกันแล้วกับ หมู่บ้านมรดกโลกที่หลายคนรู้จักกันดีและมีแพลนจะมาเที่ยวอย่าง ชิราคาวาโกะ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากมายเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านกัสโซที่มีบ้านมุมหลังคาทรงเก่าแก่ มีอายุยาวนานกว่า 250 ปี

หมู่บ้านชิราคาวาโกะเป็นหมู่บ้านมรดกโลก บ้านของที่นี่หลังคาทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่นต้นหญ้าภายในหมู่บ้าน หลังคานี้มีชื่อว่า (Gassho-zukuri) หากมาดูภายในของแต่บ้านแล้วจะรู้สึกถึงวิถีการใช้ชีวิตแบบโบราณ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิสามารถชมวิวสวยสีเขียวขจีของหมู่บ้านแห่งนี้ได้

อีกช่วงฤดูกาลที่เหมาะกับการมาเที่ยวที่นี่จะเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีหรือฤดูใบไม้ร่วงที่เหล่าต้นไม้ใบหญ้าจะเปลี่ยนสีสันเป็นสีเหลือง ส้ม แดง สวยแปลกตาไปทั่วทั้งหมู่บ้าน แถมอากาศก็ยังดีไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไปเหมาะกับการมาเดินเล่นชมวิวสบาย ๆ เป็นที่สุด

ช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ว่านี้อยู่ในเดือนกันยายนถึงพฤศกิยายน ใครอยากชมใบไม้เปลียนสีสวย ๆ ที่หมู่บ้านแห่งนี้ก็เป็นอีกพิกัดที่น่ามาเที่ยว เพราะนอกจากวิวธรรมชาติจะสวยแล้วยังได้สัมผัสความเก่าแก่ของที่นี่ด้วย เป็นพิกัดสวยที่สามารถขับรถมาเที่ยวได้และต้องห้ามพลาดโดยเด็ดขาดเลย ที่ชิราคาวาโกะทุกฤดูกาลมีความสวยงามมาก แต่ในช่วงธันวาคมถึงมีนาคมจะมีหิมะตก หากต้องการมาในช่วงเวลานี้ แนะนำให้ใช้รถบัส รถไฟ หรือมากับทัวร์ในการเดินทาง

Shirakawago

ข้อสรุป

การท่องเที่ยวในภูมิภาคจูบูอย่างจังหวัดมิเอะและกิฟุนั้นหากเดินทางด้วยการเช่ารถขับเที่ยวนั้นจะช่วยให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างสะดวกสบายและราบรื่นขึ้นมาก เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ค่อนข้างเดินทางไปได้ยาก อาจไม่มีรถไฟ และรถบัสที่เดินทางไปถึงได้เพียงต่อเดียว การขับรถจึงช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้ถึงที่หมายได้โดยไม่ลำบาก สามารถไปเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ได้รวดเร็วและสนุกสนานมากขึ้น ใครจะมาเที่ยวโซนนี้แนะนำให้เช่ารถขับแล้วไปตัวพิกัดที่เราแนะนำกันได้เลย