ความน่าสนใจของ Goryokaku (ป้อมโงเรียวกาคุ)
ความน่าสนใจของGoryokaku ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเดินทางมายังสถานที่นี้มีอยู่หลายอย่างเลยครับ เริ่มต้นจากการออกแบบป้อมโงเรียวกาคุ ให้มีลักษณะเหมือนรูป “ดาว 5 แฉก” สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากมุมสูง สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน โดยป้อมนี้ออกแบบในสไตล์ตะวันตก สร้างขึ้นในสมัยปลายยุคเอโดะ เพื่อเป็นป้อมปราการปกป้องเมือง ซึ่งการออกแบบให้เป็นรูปดาว 5 แฉกนั้น ไม่ใช่เพื่อความสวยงามแต่เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สำหรับการวางปืนใหญ่ครับ
นอกจากนี้ Goryokaku ยังเป็นที่ชมดอกซากุระยอดนิยมแห่งหนึ่งด้วย ซึ่งความแตกต่างจากที่อื่นก็คือดอกซากุระในบริเวณป้อมโงเรียวกาคุ จะบานสะพรั่งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งช้ากว่าที่อื่น เนื่องจากฮอกไกโดนั้นจะเข้าสู่หน้าร้อนช้ากว่าที่อื่น โดยที่นี่มีต้นซากุระมากกว่า 1,600 ต้น ปลูกเอาไว้ตามแนวคูน้ำ ซึ่งช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวจะหนาแน่นที่สุดก็คือช่วงที่ดอกซากุระบานนั่นเอง
ประวัติของ Goryokaku (ป้อมโงเรียวกาคุ)
เดิมที Goryokaku (ป้อมโงเรียวกาคุ ) ไม่ได้เป็นสถานที่อันร่มรื่นและสวยงามเอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจแบบนี้ โดยเป็นป้อมปราการของเมืองฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ของประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นช่วงปี ค.ศ. 1603-1867 หรือราวปลายยุคเอโดะ ป้อมนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นปราการปกป้องเมืองฮาโกดาเตะในยุคล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก
จุดเด่นก็คือมีรูปร่างคล้ายดาว 5 แฉก ที่ช่วยเพิ่มจุดยิงปืนใหญ่ได้มากกว่าป้อมแบบเดิมๆ ลดจุดบอดของวิถีปืนใหญ่ นอกจากนี้ป้อมโงเรียวกาคุยังถูกใช้เป็นฐานในช่วงสงครามกลางเมืองระหว่างกองกำลังของรัฐบาลเมจิกับกองทัพของฝั่งผู้สำเร็จราชการอีกด้วย ซึ่งหลังจากหมดยุคสงครามในปี ค.ศ. 1910 ก็มีการเปลี่ยนแปลง Goryokakuให้เป็นสวนสาธารณะของชาวเมืองฮาโกดาเตะ และมีการปรับปรุงภูมิทัศน์มาเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้
สถานที่สำคัญในบริเวณ Goryokaku
1.อดีตที่ทำการรัฐบาลของฝ่ายสาธารณรัฐ (Former Magistrate Office)
ที่แรกที่ถือว่ามีความสำคัญใน Goryokaku ก็คือ อดีตที่ทำการรัฐบาลของฝ่ายสาธารณรัฐ (Former Magistrate Office) หรือฝ่ายผู้สำเร็จราชการของฮอกไกโด ศูนย์กลางการปกครองทางภาคเหนือในสมัยโชกุนปกครอง โดยอาคารปัจจุบันนั้นมีการสร้างขึ้นมาแทนที่ของเก่าซึ่งถูกทำลายหลังรัฐบาลโชกุนเอโดะล่มสลายในปี ค.ศ. 1871 ภายในจะมีภาพเก่าๆ และนิทรรศกาลให้ได้เรียนรู้กัน ทั้งนี้การก่อสร้างก็พยายามทำขึ้นให้คล้ายกับของเดิมมากที่สุด
เครดิตภาพ https://www.hakodate-bugyosho.jp/en/index.html
และในทุกๆ เดือนพฤษภาคมของทุกปีจะมีการจัดงานที่เรียกว่า Hakodate Goryokaku Festival โดยผู้ที่มาเที่ยวงานจะมีการแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองในยุคศตวรรษที่ 19 เพื่อเป็นการรำลึกถึงสงครามการเมืองและไว้อาลัยให้กับผู้ที่ต้องสละชีวิตปกป้องเมือง ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ดอกซากุระกำลังบานด้วย
การเข้าชม | เวาลเปิดทำการ |
---|---|
เดือนเมษายน-ตุลาคม | 9.00-18.00 น. |
เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม | 9.00-17.00 น. |
วันที่ 2-3 มกราคม | 9.00-15.00 น. |
ค่าเข้าชม | 500 เยน |
2. หอคอยโงเรียวกาคุ (Goryokaku Tower)
หอคอยโงเรียวกาคุ (Goryokaku Tower) สูงเด่นเป็นสง่าอยู่ภายในบริเวณของป้อมโงเรียวกาคุ เป็นจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาด โดยหอคอยแห่งนี้มีความสูงอยู่ที่ 90 เมตร แต่ถ้ารวมสายล่อฟ้าด้วยก็จะสูงถึง 107 เมตร ออกแบบให้เข้ากับป้อมในรูปทรงห้าเหลี่ยม ซึ่งบนหอคอยนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของป้อมดาว 5 แฉกได้ในมุมสูง รวมถึงมองเห็นเมือฮาโกดาเตะได้แบบ 360 องศา นอกจากวิวสวยๆ แล้ว บนหอคอยโงเรียวกาคุยังมีอาหารและเครื่องดื่มเอาไว้คอยบริการ รวมถึงของที่ระลึกเอาไว้ให้ซื้อเป็นของฝากกันด้วย
การเข้าชม | ค่าเข้าชม/เวลาเปิดทำการ |
---|---|
เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี | ไม่เสียค่าเข้าชม |
นักเรียน | 680 เยน |
ผู้ใหญ่ | 900 เยน |
เวลาทำการ | เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9:00-18:00 น. |
พิกัด Goryokaku
ที่อยู่ | 43-9 Goryokakucho, Hakodate, Hokkaido, Japan |
วิธีเดินทาง | -จากสถานี Hakodate ใช้รถรางสาย 2 และ สาย 5 ลงที่ Goryokaku Koen Mae จากนั้นเดินต่อราว 10 นาที -จากสถานี JR Hakodate นั่งรถ Shuttle bus ไปลงที่หน้าป้อมได้เลย |
เวลาทำการ | เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9:00-18:00 น. |
ราคา | ขึ้นอยู่กับสถานที่ |
Website | – |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง Goryokaku
1. Hakodate Museum of Art, Hokkaido
เครดิตภาพ https://artmuseum.pref.hokkaido.lg.jp/hbj/english/
หากไปเยือนเมือง Hakodate พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกดาเตะ ฮอกไกโด Hakodate Museum of Art, Hokkaido เป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะหากคุณชื่นชอบในงานศิลปะ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้เข้าชมครั้งแรกในเดือนกันยายนปี ค.ศ. 1986 เป็นสถานที่รวบรวม อนุรักษ์ และจัดแสดงผลงาน 3 ประเภทคือ ศิลปะที่เกี่ยวข้องกับฮอกไกโดตอนใต้, ศิลปะเอเชียตะวันออกและการประดิษฐ์ตัวอักษร และศิลปะสมัยใหม่ด้านตัวอักษรและสัญลักษณ์
พิกัด Hakodate Museum of Art, Hokkaido
ที่อยู่ | 37-6 Goryokaku-cho, Hakodate |
วิธีเดินทาง | เดินทางด้วยรถรางไปลงที่ป้าย Goryokaku-koen-mae โดยใช้เวลาประมาณ 17 นาที จากนั้นเดินเท้าต่ออีกไม่เกิน 15 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-17.00 น. (เข้าก่อนเวลา 16.30 น.) |
ราคา | นักเรียนมัธยม 150 เยน, ผู้ใหญ่ 260 เยน, เด็กประถมและต่ำกว่าไม่เสียค่าเข้าชม |
Website | https://artmuseum.pref.hokkaido.lg.jp/hbj/english |
2. Kanemori Red Brick Warehouse
Kanemori Red Brick Warehouse (โกดังอิฐแดงคาเนโมริ) อีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป รวมถึงกินและช้อปกันอย่างเพลิดเพลิน ที่นี่เป็นศูนย์รวมอาคารเก่าอายุมากกว่า 100 ปี ริมอ่าวในย่านโมโตมาจิ โดยก่อนหน้านี้เป็นโกดังเก็บของ แต่เนื่องจากเกิดไฟไหม้ขึ้น จึงได้ทำการบูรณะใหม่ให้เป็นอาคารแบบตะวันตก ภายในย่านนี้มีร้านค้า ร้านอาหาร ลานเบียร์ รวมถึงของที่ระลึกเอาไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว บรรยากาศโดยรวมนั้นเต็มไปด้วยความคลาสสิกและโรแมนติกโดยเฉพาะในยามค่ำคืน
พิกัด Kanemori Red Brick Warehouse
ที่อยู่ | 14-12 Suehirocho, Hakodate-shi |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Hakodate นั่งรถ City Tram หรือ JR Hakodate Main สาย 5 ไปยังสถานี Jujigai จากนั้นเดินต่อราว 5 นาที |
เวลาทำการ | ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน |
ราคา | ฟรี |
Website | https://hakodate-kanemori.com/ |
3. ย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ (Motomachi District)
มาต่อกันเลยกับย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ (Motomachi District) หรือย่านท่าเรือเมืองฮาโกดาเตะ ซึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็ต้องยกให้กับสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาในแบบตะวันตก บางแห่งเช่นศาลาว่าการนั้นมีอายุมากกว่า 100 ปีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีสถานกงสุลอังกฤษเก่า(Old British Consulate), ห้องโถงอนุสรณ์สไตล์จีน(Chinese Memorial Hall), โบสถ์รัสเซียออโธด็อกซ์(Rusian Orthodox Church), วัดฮิงาชิฮอนงันจิ สาขาเมืองฮาโกดาเตะ(Hakodate Higashi Honganji) และอาคารสีสันสวยๆ ที่ถ่ายรูปรูปออกมาแล้วบอกเลยว่าเด่นสุดๆ
พิกัด Motomachi District
ที่อยู่ | ใกล้ฐานภูเขาฮาโกดาเตะ(Mount Hakodate) จังหวัดฮกไกโด 040-0054 |
วิธีเดินทาง | สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟ JR Hakodate Station โดยรถราง ใช้เวลา 5 นาที หรือเดินใช้เวลา 20-30 นาที |
เวลาทำการ | ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ |
ราคา | ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ |
Website | – |
4. เนินฮาจิมัง-ซากะ (Hachiman-Zaka Slope)
ใครเคยดูหนังเรื่อง“แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” อาจจะคุ้นๆ กับเนินฮาจิมัง-ซากะ (Hachiman-Zaka Slope) เนินที่ถือว่ามีความโรแมนติกในอันดับต้นๆ จนนิยมใช้ถ่ายแบบหรือถ่ายภาพยนตร์กันอยูบ่อยครั้ง บริเวณเนินนี้จะลาดลงไปจนถึงท่าเรือ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้สวยๆ และอาคารที่ผสมกันอย่างลงตัวระหว่างการออกแบบทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก ซึ่งในหน้าหนาวที่นี่จะจัดงานเทศกาลประดับประดาไฟเอาไว้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนในช่วงเวลาดังกล่าว
พิกัด เนินฮาจิมัง-ซากะ (Hachiman-Zaka Slope)
ที่อยู่ | Motomachi/Suehirocho, Hakodate-shi |
วิธีเดินทาง | นั่งรถ City Tram จากสถานี Hakodate ไปลงที่ Hakodate Dokku-mae หรือนั่ง JR Hakodate Main Line ลงที่ป้าย Suehirocho จากนั้นเดินต่ออีกราว 5 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตลอดเวลา |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | – |
5. กระเช้าลอยฟ้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Ropeway)
เรามาปิดท้ายกันด้วยการชมวิวในมุมสูงของภูเขากันบนกระเช้าลอยฟ้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Ropeway) ซึ่งทิวทัศน์ตอนกลางคืนของที่นี่ถือว่าสวยติดอัน 1 ใน 3 ของโลกเลยทีเดียว แบบนี้จะพลาได้ไงใช่ไหมล่ะ? โดยจุดชมวิวบนถูเขายังมีร้านอาหารและจุดจำหน่ายของที่ระลึกเอาไว้บรืการนักท่องเที่ยวด้วย แต่ขอเตือนว่าให้ใส่เสื้อหนาๆ หน่อยเพราะอากาศหนาวและลมแรงพอสมควรเลยล่ะ
พิกัด กระเช้าลอยฟ้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Ropeway)
ที่อยู่ | 19-7 Motomachi, Hakodate, Hokkaido 040-0054 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถ City Tram จากสถานี Hakodate ไปลงที่ Jujigai หรือ นั่งรถ JR Hakodate Main Line ลงที่ Jujigai แล้วเดินเท้าอีก 10 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน ยกเว้น 13 ตุลาคม – 12 พฤศจิกายน เพื่อทำการซ่อมบำรุง |
ราคา | เด็ก 600 เยน, ผู้ใหญ่ 1,200 เยน (ไป-กลับ) |
Website | https://334.co.jp/ |
สรุป
เชื่อว่าหลังจากอ่านบทความพาเที่ยว Goryokaku (ป้อมโงเรียวกาคุ) นี้จบ ใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวอาจจะเริ่มมีใจให้กับฮอกไฃกโดและเมืองฮาโกดาเตะบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งก็ต้องบอกว่าน้อกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่เราแนะนำแล้ว ยังมีอีกหลายที่ที่น่าสนใจและอยู่ในบริเวณไม่ไกลกันนัก ซึ่งหากใครมีฌอกาสได้ไปเที่ยวอย่าลืมส่งรูปสวยๆ มาอวดเราด้วยก็แล้วกันครับ