มารู้จัก “ศาลเจ้าฮาโกเนะ (Hakone Shrine)” กันสักนิด
เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความงดงามและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบอาชิในเมืองฮาโกเนะ จังหวัดคานากาวะ ประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เชิงเขาฮาโกเนะ และเป็นที่รู้จักกันดีจากโทริอิสีแดงที่ตั้งอยู่ในน้ำ สร้างทัศนียภาพที่สวยงามและกลายเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของภูมิภาคนี้
ศาลเจ้าฮาโกเนะถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 757 ในสมัยนารา โดยพระภิกษุชื่อมังกันโชนิน (Mangan Shonin) ซึ่งเชื่อว่าได้รับการดลใจจากเทพเจ้าที่สถิตอยู่บนภูเขาฮาโกเนะ ในอดีตศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ผสมผสานการปฏิบัติของทั้งศาสนาชินโตและศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นเรื่องปกติในญี่ปุ่นจนกระทั่งยุคเมจิ ที่ศาสนาชินโตและพุทธถูกแยกออกจากกันอย่างเป็นทางการ
ศาลเจ้าฮาโกเนะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมากมายเดินทางมาสักการะ โดยเฉพาะในหมู่ซามูไรที่มาสวดขอให้ประสบความสำเร็จในการรบและความปลอดภัยในการเดินทาง โชกุนโทกูงาวะซึ่งปกครองญี่ปุ่นในช่วงยุคเอโดะ (1603-1868) ก็เป็นผู้ที่มีศรัทธาในศาลเจ้าแห่งนี้ ทำให้ศาลเจ้าได้รับเกียรติและมีอิทธิพลอย่างมาก
สำหรับไฮไลท์ที่น่าสนใจ
ประตูโทริอิริมน้ำ (Torii Gate in Water)
เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่สุดของศาลเจ้าฮาโกเนะ ประตูโทริอิสีแดงนี้ตั้งอยู่ในทะเลสาบอาชิ (Lake Ashi) ซึ่งทำให้ดูเหมือนลอยอยู่บนน้ำ การถ่ายภาพที่นี่เป็นที่นิยมมากเลยทีเดียว เพราะเป็นภาพที่สวยงามและแสดงถึงความสงบสุขและความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้า ในวันที่อากาศดี คุณจะสามารถมองเห็นเงาของภูเขาไฟฟูจิสะท้อนบนผิวน้ำ ทำให้เป็นภาพที่งดงามและมีความหมาย โดยเสาโทริอิแห่งนี้ยังแสดงถึงสัญลักษณ์แห่งความสันติภาพที่ถูกสร้างขึ้นภายหลังเมื่อปี ค.ศ. 1952 ของญี่ปุ่นอีกด้วยนะ (มีฉายาว่าซุ้มประตูสันติภาพ เฮวะโนะโทริอิ)
วิวระหว่างทางเดินเนี่ย เต็มไปด้วยป่าสนที่สร้างบรรยากาศสงบและสดชื่นในเวลาเดียวกัน โดยเราจะเห็นตัวประตูโทริอิสีแดง เป็นหมุดหมายที่ทำให้รู้ว่า เราเดินทางมาถึงแล้ว !
ศาลเจ้าหลัก (Main Shrine Building)
ตัวศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าฮาโกเนะ เป็นสถานที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าญี่ปุ่น ได้รับการออกแบบอย่างปราณีตตามแบบฉบับศิลปะญี่ปุ่นดั้งเดิม บรรยากาศรอบ ๆ ศาลเจ้าหลักที่ถึงแม้จะเป็นสถานที่เที่ยวหลัก แต่กลับมีความเงียบสงบและเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ นอกจากนี้ยังมีโคมไฟหินเก่าแก่และแท่นบูชาที่ใช้สำหรับการทำพิธีกรรมทางศาสนาอีกด้วย
บันไดศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Steps)
การเดินขึ้น บันไดศักดิ์สิทธิ์ประมาณ 89 ขั้นนี่ ขั้นที่นำไปสู่ศาลเจ้าหลักเห็นวิวทะเลสาบอาชิโนโกะ (Lake Ashinoko) เชื่อกันว่าการเดินขึ้นบันไดนี้ จะสะท้อนถึงการเดินทางทางจิตวิญญาณ พร้อมมอบโชคดีและความสุขให้กับชีวิต โดยบรรยากาศโดยรอบจะเป็นบันไดหินที่ทอดยาวขึ้นไปในป่าเต็มไปด้วยมอสและมีโคมไฟหินโบราณสองข้างทาง แอบดูขลังเบา ๆ
ศาลเจ้าฮะโกะเนะ มงเกียว (Hakone Motomiya Shrine)
ศาลเจ้าฮะโกะเนะ มงเกียว ตั้งอยู่ใกล้กับยอดเขาฮาโกเนะ และเป็นจุดที่ผู้แสวงบุญเคยเดินทางมาเพื่อสวดขอพรและทำพิธีบูชา โดยศาลเจ้านี้มีความสงบและมีมนต์เสน่ห์เฉพาะตัว เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลจากตัวเมืองและถูกล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงาม
จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji Viewing Point)
ศาลเจ้าฮาโกเนะเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากระยะไกล โดยเฉพาะในวันที่ท้องฟ้าโปร่ง เพื่อน ๆ จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามเป็นฉากหลังของทะเลสาบอาชิดั่งภาพเลยละ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยี่ยมชมศาลเจ้าแห่งนี้
นั่งเรือโจรสลัด (Pirate Ship Cruise) ชมวิววัด
เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนไม่ว่าจะมาเที่ยวเองหรือมาทัวร์ หากมาที่ศาลเจ้าฮาโกเนะ ก็คงจะไม่พลาดการนั่งเรือโจรสลัดชมความงามของทะเลสาบอาชิ พร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิงาม ๆ ซึ่งเรือโจรสลัดจะพาเราผ่านศาลเจ้าและประตูโทริอิริมน้ำอีกด้วยนะ โดยจะมีเรือที่จะพาเราไปทัศนาจรนั้นจะมีทั้งหมด 3 ลำด้วยกัน คือ เรือ Royal II, เรือ Victory และเรือ Vasa ซึ่งเรือแต่ละลำก็จะมีการออกแบบที่แตกต่างกันไป ซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กันเลย ซึ่งเราจะได้ขึ้นเรือลำไหนนั้นก็เป็นการแรนด้อม แต่ที่เหมือนกันก็คือ ไม่ว่าจะเป็นลำไหนเราก็จะได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิอยู่เป็นฉากหลัง นั่นเองคร้าบ
เทศกาลและกิจกรรมสำคัญ
เทศกาลเรือ (Hakone Shrine Annual Festival)
เป็นเทศกาลประจำปีที่จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ศาลเจ้าฮาโกเนะ เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของศาลเจ้าและมีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปี เทศกาลนี้มีการแห่เรือที่ประดับด้วยธงและดอกไม้ที่งดงามในทะเลสาบอาชิ เรือเหล่านี้ถือเป็นตัวแทนของเทพเจ้าที่ถูกเชิญมาเพื่อให้พรและปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
พิธีขอพรปีใหม่ (New Year’s Prayer)
หรือที่เรียกว่า “ฮัทสึโมเดะ (Hatsumode)” เป็นการไปไหว้พระที่ศาลเจ้าครั้งแรกในปีใหม่ โดยบริเวณศาลเจ้าจะมีบรรยากาศที่คึกคักและมีการประดับประดาด้วยโคมไฟและเครื่องประดับสีสันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายของที่ระลึกและเครื่องรางต่าง ๆ ที่เชื่อว่าจะนำโชคลาภและความสุขมาให้
เทศกาลฮะโกะเนะ มันซายะไซ (Hakone Manzai-sai Festival)
เป็นเทศกาลดั้งเดิมที่จัดขึ้นในเดือนสิงหาคมเพื่อเป็นการขอพรและแสดงความขอบคุณต่อเทพเจ้าที่ปกปักรักษาและประทานความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ชุมชน เทศกาลนี้มีการแสดงและกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการแสดง “มันไซ” (Manzai) ซึ่งเป็นการแสดงตลกโบราณของญี่ปุ่นที่มีการแสดงคู่กันบนเวที
ศาลเจ้าฮาโกเนะ (Hakone Shrine)
ที่อยู่ | 80-1 Motohakone, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa 250-0522, Japan |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสายโอดะคิว (Odakyu Line) จากสถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) มาลงที่ Odawara Station แล้วต่อด้วยรถบัสมาลงที่สถานี Odawara Station |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 08:15 – 17:00 |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | ศาลเจ้าฮาโกเนะ (Hakone Shrine) |
วิธีการเดินทาง
วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดเราขอแนะนำให้ใช้รถไฟ โดยสามารถเดินทางมาได้จากกรุงโตเกียว โดยนั่งรถไฟสายโอดะคิว (Odakyu Line) จากสถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) จะใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม มาลงที่ Odawara Station แล้วนั่งรถบัสฮาโกเนะโทซัง (Hakone Tozan Bus) สาย H ต่ออีกประมาณ 50 นาที มาลงที่สถานี แ
Hakone Free Pass
บัตร Hakone Free Pass เป็นบัตรโดยสารใช้โดยสารในพื้นที่ฮาโกเนะและบริเวณโดยรอบ บัตรนี้ออกโดยบริษัทโอดะคิว (Odakyu Electric Railway) และสามารถใช้ได้กับการเดินทางหลายประเภท เช่น รถไฟ รถบัส เคเบิลคาร์ โรปเวย์ และเรือโจรสลัดในทะเลสาบอาชิ
โดยมีให้เลือกหลายแบบขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ต้องการใช้งาน เช่น บัตร 2 วัน หรือ 3 วัน ซึ่งบัตรจะครอบคลุมการเดินทางไป-กลับจากชินจูกุในโตเกียวถึงฮาโกเนะ
-บัตร 2 วันราคาจากสถานีชินจูกุ อยู่ที่ 6,100 เยน
-บัตร 2 วันราคาจากสถานีโอดาวาระ อยู่ที่ 5,000 เยน
-บัตร 3 วันราคาจากสถานีชินจูกุ อยู่ที่ 6,500 เยน
-บัตร 3 วันราคาจากสถานีโอดาวาระ อยู่ที่ 5,400 เยน
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
1. โอวาคุดานิ (Owakudani)
โอวาคุดานิ (Owakudani)
นอกจากภูเขาไฟฟูจิแล้ว ด้านบนยังมีสถานที่ยอดฮิตอย่าง หุบเขา Owakudani ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ Hakone เมื่อประมาณ 3,000 ปีที่แล้ว และยังมีไฮไลท์สำคัญคือ ไข่ดำเพราะเชื่อกันว่ากิน 1 ฟองแล้วจะอายุยืนไปอีก 7 ปี
โอวาคุดานิ (Owakudani)
ที่อยู่ | Sengokuhara, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa 250-0631 |
วิธีเดินทาง | นั่ง Cable Car สาย Hakonetazan มาลงสถานี Sounzan เพื่อขึ้น Hakone Ropeway |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 9.00-17.00 น. |
ราคา | บุคคลทั่วไป 800 เยน |
Website | โอวาคุดานิ (Owakudani) |
2. พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเนะ (Hakone Open-Air Museum)
The Hakone Open-Air Museum พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแสนสนุก gป็นพิพิธภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จในการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและศิลปะเข้าด้วยกันจนได้ผลงานออกมาเป็นพิพิธภัณฑ์สนุก ๆ แห่งนี้นั่นเอง ภายนอกจัดแสดงเป็นชิ้นงานศิลปะให้เราดูกันเพลิน ๆ อีกทั้งภายในยังมีกิจกรรมศิลปะสำหรับคุณน้องคุณหนูให้ได้เพลิดเพลินกันอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเนะ (Hakone Open-Air Museum)
ที่อยู่ | Ninotaira 1121, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa Prefecture 250-0493 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Hakonetozan Line มาลงสถานี Chokoku-no-Mori แล้วเดินอีก 3 นาที |
เวลาทำการ | 9:00 – 21:00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ : 1,600 เยน นักศึกษามหาวิทยาลัยและนักเรียนมัธยมปลาย : 1,000 เยน เด็กประถม : 800 เยน |
Website | พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเนะ (Hakone Open-Air Museum) |
3. Hakone Kowakien Yunessun : ออนเซ็นแปลกหลากสไตล์
บางคนก็มีความเชื่อว่าการดื่มไวน์จะทำให้ดูอ่อนกว่าวัย แล้วจะเป็นยังไงถ้าได้มาแช่ออนเซ็นไวน์ของจริงที่เข้มข้นไปด้วยองุ่นที่บ่มจนได้เป็นน้ำสีแดง กลิ่นหอมหวานแบบไวน์แสนอร่อย แช่แล้วไม่เมานะจ้ะ แต่ได้ผิวสวยสุขภาพดีแทน เด็ก ๆ ก็แช่ได้นะคะ ไม่ถือเป็นของมึนเมา
Hakone Kowakien Yunessun
ที่อยู่ | 1297 Ninotaira, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa-ken 250-0407 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Hakonetozan Line มาลงสถานี Odawara แล้วนั่งรถบัส Hakonetozan Bus หรือ Izu-Hakone Bus เพื่อมาลงที่ Kowaki-en Bus Stop แล้วเดินขึ้นไปยังออนเซ็น |
เวลาทำการ | ออนเซ็นที่ใส่ชุดว่ายน้ำเข้าได้ : 10.00-18.00 น.(เสาร์อาทิตย์ 9.00-19.00 น.) ออนเซ็นที่ต้องถอดเสื้อผ้า : 11.00-19.00 น.(เสาร์อาทิตย์ 11.00-20.00 น.) |
ราคา | Passport for all areas (Yunessun area และ Mori no Yu area): ผู้ใหญ่ 3,500 เยน, เด็ก 1,800 เยน |
Website | Hakone Kowakien Yunessun |
สรุป
การเยี่ยมชมศาลเจ้าฮาโกเนะนอกจากจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมแล้วยังมีโอกาสเข้าร่วมเทศกาลและพิธีกรรมทางศาสนาที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประเพณีญี่ปุ่น แถมยังมีบัตรผ่าน Hakone Free Pass ที่ช่วยให้การเดินทางสะดวกและคุ้มค่ายิ่งขึ้น ไฮไลท์สำคัญคือทัศนียภาพที่น่าประทับใจของ ทะเลสาบอาชิ และ ภูเขาไฟฟูจิ ที่เราสามารถสัมผัสได้ด้วยตาของเราเอง