คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
17%
10%
5%

เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความงดงามและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบอาชิในเมืองฮาโกเนะ จังหวัดคานากาวะ ประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เชิงเขาฮาโกเนะ และเป็นที่รู้จักกันดีจากโทริอิสีแดงที่ตั้งอยู่ในน้ำ สร้างทัศนียภาพที่สวยงามและกลายเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของภูมิภาคนี้

ศาลเจ้าฮาโกเนะถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 757 ในสมัยนารา โดยพระภิกษุชื่อมังกันโชนิน (Mangan Shonin) ซึ่งเชื่อว่าได้รับการดลใจจากเทพเจ้าที่สถิตอยู่บนภูเขาฮาโกเนะ ในอดีตศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ผสมผสานการปฏิบัติของทั้งศาสนาชินโตและศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นเรื่องปกติในญี่ปุ่นจนกระทั่งยุคเมจิ ที่ศาสนาชินโตและพุทธถูกแยกออกจากกันอย่างเป็นทางการ

ศาลเจ้าฮาโกเนะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมากมายเดินทางมาสักการะ โดยเฉพาะในหมู่ซามูไรที่มาสวดขอให้ประสบความสำเร็จในการรบและความปลอดภัยในการเดินทาง โชกุนโทกูงาวะซึ่งปกครองญี่ปุ่นในช่วงยุคเอโดะ (1603-1868) ก็เป็นผู้ที่มีศรัทธาในศาลเจ้าแห่งนี้ ทำให้ศาลเจ้าได้รับเกียรติและมีอิทธิพลอย่างมาก

เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่สุดของศาลเจ้าฮาโกเนะ ประตูโทริอิสีแดงนี้ตั้งอยู่ในทะเลสาบอาชิ (Lake Ashi) ซึ่งทำให้ดูเหมือนลอยอยู่บนน้ำ การถ่ายภาพที่นี่เป็นที่นิยมมากเลยทีเดียว เพราะเป็นภาพที่สวยงามและแสดงถึงความสงบสุขและความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้า ในวันที่อากาศดี คุณจะสามารถมองเห็นเงาของภูเขาไฟฟูจิสะท้อนบนผิวน้ำ ทำให้เป็นภาพที่งดงามและมีความหมาย โดยเสาโทริอิแห่งนี้ยังแสดงถึงสัญลักษณ์แห่งความสันติภาพที่ถูกสร้างขึ้นภายหลังเมื่อปี ค.ศ. 1952 ของญี่ปุ่นอีกด้วยนะ (มีฉายาว่าซุ้มประตูสันติภาพ เฮวะโนะโทริอิ)

วิวระหว่างทางเดินเนี่ย เต็มไปด้วยป่าสนที่สร้างบรรยากาศสงบและสดชื่นในเวลาเดียวกัน โดยเราจะเห็นตัวประตูโทริอิสีแดง เป็นหมุดหมายที่ทำให้รู้ว่า เราเดินทางมาถึงแล้ว !

ตัวศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าฮาโกเนะ เป็นสถานที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าญี่ปุ่น ได้รับการออกแบบอย่างปราณีตตามแบบฉบับศิลปะญี่ปุ่นดั้งเดิม บรรยากาศรอบ ๆ ศาลเจ้าหลักที่ถึงแม้จะเป็นสถานที่เที่ยวหลัก แต่กลับมีความเงียบสงบและเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ นอกจากนี้ยังมีโคมไฟหินเก่าแก่และแท่นบูชาที่ใช้สำหรับการทำพิธีกรรมทางศาสนาอีกด้วย

การเดินขึ้น บันไดศักดิ์สิทธิ์ประมาณ 89 ขั้นนี่ ขั้นที่นำไปสู่ศาลเจ้าหลักเห็นวิวทะเลสาบอาชิโนโกะ (Lake Ashinoko) เชื่อกันว่าการเดินขึ้นบันไดนี้ จะสะท้อนถึงการเดินทางทางจิตวิญญาณ พร้อมมอบโชคดีและความสุขให้กับชีวิต โดยบรรยากาศโดยรอบจะเป็นบันไดหินที่ทอดยาวขึ้นไปในป่าเต็มไปด้วยมอสและมีโคมไฟหินโบราณสองข้างทาง แอบดูขลังเบา ๆ

ศาลเจ้าฮะโกะเนะ มงเกียว ตั้งอยู่ใกล้กับยอดเขาฮาโกเนะ และเป็นจุดที่ผู้แสวงบุญเคยเดินทางมาเพื่อสวดขอพรและทำพิธีบูชา โดยศาลเจ้านี้มีความสงบและมีมนต์เสน่ห์เฉพาะตัว เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลจากตัวเมืองและถูกล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงาม

ศาลเจ้าฮาโกเนะเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากระยะไกล โดยเฉพาะในวันที่ท้องฟ้าโปร่ง เพื่อน ๆ จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามเป็นฉากหลังของทะเลสาบอาชิดั่งภาพเลยละ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยี่ยมชมศาลเจ้าแห่งนี้

เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนไม่ว่าจะมาเที่ยวเองหรือมาทัวร์ หากมาที่ศาลเจ้าฮาโกเนะ ก็คงจะไม่พลาดการนั่งเรือโจรสลัดชมความงามของทะเลสาบอาชิ พร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิงาม ๆ ซึ่งเรือโจรสลัดจะพาเราผ่านศาลเจ้าและประตูโทริอิริมน้ำอีกด้วยนะ โดยจะมีเรือที่จะพาเราไปทัศนาจรนั้นจะมีทั้งหมด 3 ลำด้วยกัน คือ เรือ Royal II, เรือ Victory และเรือ Vasa ซึ่งเรือแต่ละลำก็จะมีการออกแบบที่แตกต่างกันไป ซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กันเลย ซึ่งเราจะได้ขึ้นเรือลำไหนนั้นก็เป็นการแรนด้อม แต่ที่เหมือนกันก็คือ ไม่ว่าจะเป็นลำไหนเราก็จะได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิอยู่เป็นฉากหลัง นั่นเองคร้าบ

เป็นเทศกาลประจำปีที่จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ศาลเจ้าฮาโกเนะ เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของศาลเจ้าและมีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปี เทศกาลนี้มีการแห่เรือที่ประดับด้วยธงและดอกไม้ที่งดงามในทะเลสาบอาชิ เรือเหล่านี้ถือเป็นตัวแทนของเทพเจ้าที่ถูกเชิญมาเพื่อให้พรและปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
หรือที่เรียกว่า “ฮัทสึโมเดะ (Hatsumode)” เป็นการไปไหว้พระที่ศาลเจ้าครั้งแรกในปีใหม่ โดยบริเวณศาลเจ้าจะมีบรรยากาศที่คึกคักและมีการประดับประดาด้วยโคมไฟและเครื่องประดับสีสันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายของที่ระลึกและเครื่องรางต่าง ๆ ที่เชื่อว่าจะนำโชคลาภและความสุขมาให้
เป็นเทศกาลดั้งเดิมที่จัดขึ้นในเดือนสิงหาคมเพื่อเป็นการขอพรและแสดงความขอบคุณต่อเทพเจ้าที่ปกปักรักษาและประทานความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ชุมชน เทศกาลนี้มีการแสดงและกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการแสดง “มันไซ” (Manzai) ซึ่งเป็นการแสดงตลกโบราณของญี่ปุ่นที่มีการแสดงคู่กันบนเวที
ศาลเจ้าฮาโกเนะ (Hakone Shrine)
| ที่อยู่ | 80-1 Motohakone, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa 250-0522, Japan |
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสายโอดะคิว (Odakyu Line) จากสถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) มาลงที่ Odawara Station แล้วต่อด้วยรถบัสมาลงที่สถานี Odawara Station |
| เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 08:15 – 17:00 |
| ราคา | เข้าชมฟรี |
| Website | ศาลเจ้าฮาโกเนะ (Hakone Shrine) |
วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดเราขอแนะนำให้ใช้รถไฟ โดยสามารถเดินทางมาได้จากกรุงโตเกียว โดยนั่งรถไฟสายโอดะคิว (Odakyu Line) จากสถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) จะใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม มาลงที่ Odawara Station แล้วนั่งรถบัสฮาโกเนะโทซัง (Hakone Tozan Bus) สาย H ต่ออีกประมาณ 50 นาที มาลงที่สถานี แ

บัตร Hakone Free Pass เป็นบัตรโดยสารใช้โดยสารในพื้นที่ฮาโกเนะและบริเวณโดยรอบ บัตรนี้ออกโดยบริษัทโอดะคิว (Odakyu Electric Railway) และสามารถใช้ได้กับการเดินทางหลายประเภท เช่น รถไฟ รถบัส เคเบิลคาร์ โรปเวย์ และเรือโจรสลัดในทะเลสาบอาชิ
โดยมีให้เลือกหลายแบบขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ต้องการใช้งาน เช่น บัตร 2 วัน หรือ 3 วัน ซึ่งบัตรจะครอบคลุมการเดินทางไป-กลับจากชินจูกุในโตเกียวถึงฮาโกเนะ
-บัตร 2 วันราคาจากสถานีชินจูกุ อยู่ที่ 6,100 เยน
-บัตร 2 วันราคาจากสถานีโอดาวาระ อยู่ที่ 5,000 เยน
-บัตร 3 วันราคาจากสถานีชินจูกุ อยู่ที่ 6,500 เยน
-บัตร 3 วันราคาจากสถานีโอดาวาระ อยู่ที่ 5,400 เยน
โอวาคุดานิ (Owakudani)

นอกจากภูเขาไฟฟูจิแล้ว ด้านบนยังมีสถานที่ยอดฮิตอย่าง หุบเขา Owakudani ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ Hakone เมื่อประมาณ 3,000 ปีที่แล้ว และยังมีไฮไลท์สำคัญคือ ไข่ดำเพราะเชื่อกันว่ากิน 1 ฟองแล้วจะอายุยืนไปอีก 7 ปี
โอวาคุดานิ (Owakudani)
| ที่อยู่ | Sengokuhara, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa 250-0631 |
| วิธีเดินทาง | นั่ง Cable Car สาย Hakonetazan มาลงสถานี Sounzan เพื่อขึ้น Hakone Ropeway |
| เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 9.00-17.00 น. |
| ราคา | บุคคลทั่วไป 800 เยน |
| Website | โอวาคุดานิ (Owakudani) |

The Hakone Open-Air Museum พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแสนสนุก gป็นพิพิธภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จในการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและศิลปะเข้าด้วยกันจนได้ผลงานออกมาเป็นพิพิธภัณฑ์สนุก ๆ แห่งนี้นั่นเอง ภายนอกจัดแสดงเป็นชิ้นงานศิลปะให้เราดูกันเพลิน ๆ อีกทั้งภายในยังมีกิจกรรมศิลปะสำหรับคุณน้องคุณหนูให้ได้เพลิดเพลินกันอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเนะ (Hakone Open-Air Museum)
| ที่อยู่ | Ninotaira 1121, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa Prefecture 250-0493 |
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Hakonetozan Line มาลงสถานี Chokoku-no-Mori แล้วเดินอีก 3 นาที |
| เวลาทำการ | 9:00 – 21:00 น. |
| ราคา | ผู้ใหญ่ : 1,600 เยน นักศึกษามหาวิทยาลัยและนักเรียนมัธยมปลาย : 1,000 เยน เด็กประถม : 800 เยน |
| Website | พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเนะ (Hakone Open-Air Museum) |

บางคนก็มีความเชื่อว่าการดื่มไวน์จะทำให้ดูอ่อนกว่าวัย แล้วจะเป็นยังไงถ้าได้มาแช่ออนเซ็นไวน์ของจริงที่เข้มข้นไปด้วยองุ่นที่บ่มจนได้เป็นน้ำสีแดง กลิ่นหอมหวานแบบไวน์แสนอร่อย แช่แล้วไม่เมานะจ้ะ แต่ได้ผิวสวยสุขภาพดีแทน เด็ก ๆ ก็แช่ได้นะคะ ไม่ถือเป็นของมึนเมา
Hakone Kowakien Yunessun
| ที่อยู่ | 1297 Ninotaira, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa-ken 250-0407 |
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Hakonetozan Line มาลงสถานี Odawara แล้วนั่งรถบัส Hakonetozan Bus หรือ Izu-Hakone Bus เพื่อมาลงที่ Kowaki-en Bus Stop แล้วเดินขึ้นไปยังออนเซ็น |
| เวลาทำการ | ออนเซ็นที่ใส่ชุดว่ายน้ำเข้าได้ : 10.00-18.00 น.(เสาร์อาทิตย์ 9.00-19.00 น.) ออนเซ็นที่ต้องถอดเสื้อผ้า : 11.00-19.00 น.(เสาร์อาทิตย์ 11.00-20.00 น.) |
| ราคา | Passport for all areas (Yunessun area และ Mori no Yu area): ผู้ใหญ่ 3,500 เยน, เด็ก 1,800 เยน |
| Website | Hakone Kowakien Yunessun |
การเยี่ยมชมศาลเจ้าฮาโกเนะนอกจากจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมแล้วยังมีโอกาสเข้าร่วมเทศกาลและพิธีกรรมทางศาสนาที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประเพณีญี่ปุ่น แถมยังมีบัตรผ่าน Hakone Free Pass ที่ช่วยให้การเดินทางสะดวกและคุ้มค่ายิ่งขึ้น ไฮไลท์สำคัญคือทัศนียภาพที่น่าประทับใจของ ทะเลสาบอาชิ และ ภูเขาไฟฟูจิ ที่เราสามารถสัมผัสได้ด้วยตาของเราเอง

Blogger : Yuri
ผมเป็นคนที่ถ่ายรูปไม่เก่ง แต่ว่าชอบเที่ยวมาก ๆ (ซะอย่างนั้น) เพราะการท่องเที่ยวสำหรับผม คือการที่ได้เรียนรู้ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด บางที่ก็ไปเที่ยวซ้ำ ๆ แต่กลับได้ประสบการณ์ที่ไม่จำเจ สำหรับผมแล้ว "ญี่ปุ่น" เป็นหนึ่งในประเทศที่ผมไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย มากกว่านั้น ผมมีความตั้งใจว่าจะออกไปเห็นโลกให้กว้างมากที่สุด แล้วนำสาระความรู้มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน ในช่วงที่(ผม)ยังมีแรงเต็มที่ครับ !
74 Posts

เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...

วิธีเดินทางสุดประหยัดจากโตเกียว เที่ยวฟูจิ ที่คาวากูจิโกะ
ทริป เที่ยวฟูจิ คราวนี้ไม่มีหลง เพราะเรารวบรวมวิธีการเดินทางจากกรุงโตเกียวไปยั...

นั่งชินคันเซ็นคุ้มๆ จากโตเกียวไปโอซาก้า เดินทางง่ายแค่ใช้ JR PASS
เที่ยวให้ทั่วโตเกียวแล้วไปต่อโอซาก้า เพราะเรามีแผนการเดินทางสุดคุ้มจากโตเกียวไ...

รีวิว “Eslead Hotel Osaka Shinsaibashi” ที่พักสไตล์เหมือนพักที่บ้านใกล้แหล่งท่องเที่ยวใจกลางโอซาก้า
สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างสำหรับคนที่วางแผนจะมาเที่ยวญี่ปุ่นก็คือที่พัก ครั้งนี้เร...

พยากรณ์ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสี ประจำปี 2025
อัพเดทพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่น มาให้ดูกันล่วงนี้ เอาไว้จองตั๋วมาเที่ยวญ...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515