แลกเงินเยนเที่ยวญี่ปุ่น แลกที่ไหนดี ??? บทความนี้มีคำตอบ !!!!!!!!

25/06/2025
การเที่ยวญี่ปุ่นนั้น สิ่งสำคัญที่ทุกคนจะต้องพกติดไป นอกจากพาสปอร์ตแล้ว นั่นก็คือ “เงิน” โดยการแลกเงินนั้น สามารถแลกได้จากหลายสถานที่ นอกจากเงินสดแล้วก็ยังแลกผ่านบัตรได้อีกด้วย

ซึ่งบทความในวันนี้จะมาแนะนำเกี่ยวกับการแลกเงิน ไม่ว่าจะเป็นร้านแลกเงิน หรือการแลกผ่านบัตร เมื่อพร้อมแล้วก็ไปกันเลย !!!!!!
Contents Index

ทำไมต้องแลกเงินเยนก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นยังใช้เงินสดในชีวิตประจำวัน

การแลกเงินสดก่อนไปญี่ปุ่นนั้น นอกจากจะได้เรทดีกว่าในการแลกที่ญี่ปุ่นแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือญี่ปุ่นนั้นยังใช้เงินสดอยู่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งร้านค้า ร้านอาหาร ที่ญี่ปุ่นหลายๆร้าน จะรับเฉพาะเงินสด ทำให้การแลกเงินสดนั้นย่อมเป็นสิ่งจำเป็น

และนอกจากนั้นแล้ว การแลกเงินสด แล้วแบ่งเงินส่วนๆ ว่าส่วนนี้เอาไว้ใช้จ่ายอะไร ก็ถือว่าเป็นการเตรียมพร้อมที่ดี หรือเก็บไว้เป็นเงินสำรองถ้าหากเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้น ก็สามารถนำเงินส่วนนี้มาใช้ได้ 

ควรแลกเงินเยนเท่าไหร่ดี?

นี่ก็ถือว่าเป็นคำถามที่ดี เพราะผู้ที่ไปญี่ปุ่นครั้งแรกอาจจะไม่เข้าใจในส่วนนี้ ดังนั้นผมเลยจะมาแนะนำว่าการแลกเงินเยนไปญี่ปุ่นเท่าไรนั้น ต้องดูจากปัจจัยใดบ้าง

ประเมินงบตามจำนวนวันและไลฟ์สไตล์

ปัจจัยที่สำคัญว่าควรแลกเงินเท่าไร นั่นก็คือจำนวนวันที่ไป และ ไลฟ์สไตล์

หากไป ซัก 3 – 7 วัน และไลฟ์สไตล์ที่ชอบรับประทานอาหารแบบง่ายๆ พวกอาหารร้านสะดวกซื้อ, ราเมง, อุด้ง ช็อปปิ้งนิดหน่อ ้เฉลี่ยแล้วใช้เงินวันละ 4 – 5 พันเยน ( อาจจะเกินนิดหน่อย ) อาจจะแลกไปซัก 5 หมื่น – 8 หมื่นเยน

หรือหากเป็นนักท่องเที่ยวสายประหยัด กินอุด้ง, โซบะ ยืนกินตามสถานีรถไฟ ซึ่งราคาไม่แพงมาก, กินอาหารตามซุปเปอร์มาร์เก็ตช่วงลดราคา ก็อาจจะแลกเงินไปน้อยหน่อย ซัก 3 หมื่น – 6 หมื่น เยน

ส่วนนักท่องเที่ยวที่เป็นสายช็อปปิ้ง เน้นกินร้านอาหารที่ราคาแพง ก็อาจจะแลกเงินไปอย่างน้อย 1 แสนเยน

ค่าใช้จ่ายหลักในญี่ปุ่นมีอะไรบ้าง

■このロケーションは撮影用にレンタルしたスペースです。イメージ写真です。

แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวมือใหม่ควรจะต้องรู้ ว่าค่าใช้จ่ายในการเที่ยวญี่ปุ่นมีอะไรบ้าง

ค่าอาหาร น้ำ ขนม

แน่นอนว่านี่คือค่าใช้จ่ายหลักๆ ในการมาเที่ยวญี่ปุ่นนอกจากค่าเครื่องบิน ที่พัก และค่าเดินทางต่างๆ โดยค่าอาหารที่ญี่ปุ่นนั้นก็มีตั้งแต่ถูกในหลักร้อยเยน จนไปถึงหลักหมื่นเยนเลยทีเดียว ส่วนน้ำนั้นที่ญี่ปุ่นมีสิ่งที่เรียกว่าตู้กดน้ำอัตโนมัติ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวมากพอสมควร เช่นเดียวกับขนมต่างๆ ที่ออกแบบแพ็คเกตมาให้น่าซื้อแบบสุดๆ

ค่าเดินทาง

การเดินทางนั้นแน่นอนว่าก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งการเดินทางนั้นอาจจะแบ่งเป็น การเช่ารถ และการเดินทางโดยรถสาธารณะ หรือบางคนก็อาจจะใช้ทั้งรถเช่าและรถสาธารณะ ซึ่งค่าเดินทางจะสูงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่การเดินทางของนักท่องเที่ยว ยิ่งถ้าข้ามภูมิภาคไปไกลเท่าไร ค่าเดินทางยิ่งแพงขึ้น

ค่าที่พัก

ค่าที่พักนั้นจะบางคนอาจจะจองผ่านเว็บ Agency เช่น Agoda แล้วจ่ายตัดบัตรไปตั้งแต่เมืองไทยแล้ว แต่ว่าก็จะมีอีกประเภทคือ จ่ายที่โรงแรม ซึ่งอาจจะใช้บัตรเครดิต หรือเงินสดก็ได้ ถ้าใช้เงินสดก็ต้องแลกเงินสำหรับส่วนนี้มาด้วย

ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

สถานที่ท่องเที่ยวบางสถานที่นั้นก็จะมีการเก็บค่าเข้า โดยแต่ละที่ราคาก็ไม่เท่ากัน โดยมีทั้งแต่ 200 เยน จนไปถึง หลักพันหลักหมื่นเยน

ควรแลกเผื่อฉุกเฉินแค่ไหน และเงินสดหรือบัตร – ควรแบ่งสัดส่วนอย่างไร

การแลกเงินฉุกเฉินนั้นจริงๆแล้วจะแลกหรือไม่ก็ได้ แต่ส่วนตัวแนะนำให้แลกไว้ดีกว่า โดยต้องแยกเงินฉุกเฉินกับเงินที่ใช้จ่ายประจำวันออกจากกัน โดยจะต้องนำมาใช้ในช่วงเวลาที่ฉุกเฉินจริงๆ โดยอาจจะเอาเงินฉุกเฉินเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางเพื่อจะได้แยกจากเงินที่ใช่ประจำวันแบบจริงจัง

ส่วนการแบ่งสัดส่วนของเงินนั้น แนะนำให้แบ่งเป็น เงินสด 70% และบัตรแบ่งเป็น 30% อย่างที่ผมบอกข้างต้นว่าบางร้านยังรับแต่เงินสดอยู่ และมีเยอะด้วย

รู้จักรูปแบบของเงินเยน

ประเภทของธนบัตรและเหรียญ

MASANAO-KIMURA

รูปแบบของธนบัตรญี่ปุ่นนั้นจะมีดังนี้ 1,000 เยน, 2,000 เยน, 5,000 เยน และ 10,000 เยน

ส่วนเหรียญนั้นก็จะมี 1 เยน, 5 เยน, 10 เยน, 50 เยน, 100 เยน และ 500 เยน

แนะนำว่าถ้าไม่มีแบงค์ย่อยควรนำแบงค์ใหญ่อย่างแบงค์ 10,000 เยนไปแตกตามร้านสะดวกซื้อ หรือร้านค้าต่างๆ เพื่อให้มีแบงค์ 1,000 ไว้ใช้ เพราะร้านอาหารบางร้านลูกค้าจะต้องหยอดเงินที่ตู้อัตโนมัติก่อนซึ่งส่วนใหญ่จะรับแบงค์ 1,000 เยน หรือตู้กดน้ำอัตโนมัตรตามโรงแรมจะไม่ค่อยรับบัตร IC ดังนั้นจึงจะควรมีแบงค์ 1,000 เยน ติดตัวไว้บ้าง

เหรียญไหนใช้บ่อยและเคล็ดลับการเก็บเงินเยนให้ปลอดภัย

คราวนี้มาถึงเรื่องเหรียญ ในการไปญี่ปุ่นนั้นเหรียญที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้กันบ่อยๆ ก็คือเหรียญ 10 เยน, 100 เยน และ 500 เยน แต่ถ้าใช้บ่อยที่สุดใน 3 เหรียญนี้คือเหรียญ 100 เยน ไม่ว่าจะเป็นล็อคเกอร์หยอดเหรียญ ตู้กดน้ำอัตโนมัติ รวมถึงการโดยสารรถเมล์ รถราง ล้วนใช้เหรียญ 100 ทั้งสิ้น

การเก็บเงินเยนให้ปลอดภัยนั้น จะต้องเก็บให้มิดชิด ควรเก็บในกระเป๋าเงิน ยิ่งกระเป๋าเงินที่มีช่องที่มีซิบก็ควรเก็บในช่องนั้น เพราะจะทำให้สูญหายได้ยาก

ช่องทางแลกเงินเยนในไทย

การแลกเงินเยนในไทยนั้นมีสามารถแลกได้จากหลายสถานที่เช่น

แลกที่ร้านเอกชน 

ร้านเอกชนมีอยู่หลายร้าน แต่ร้านที่คนไทยนิยมไปแลกกันคือ Superrich ซึ่งมีเรทค่อนข้างดี และมีอยู่หลายสาขา สามารถโทรจองล่วงหน้าได้ และสามารถใช้วิธีการโอนผ่านธนาคารเพื่อแลกเงินสดได้

แลกที่ธนาคาร

สำหรับการแลกเงินที่ธนาคาร เรทอาจจะแพงกว่าเอกชน แต่ถ้าอยู่ต่างจังหวัดการ แลกเงินที่ธนาคารอาจจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะอาจจะคุ้มกว่าที่จะต้องเดินทางไกลมาแลกที่ร้านเอกชนในกรุงเทพ เพราะมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีกเช่น ค่าน้ำมัน เป็นต้น

แลกผ่านแอปออนไลน์

ปัจจุบันนั้นได้มีทางเลือกในการแลกเงินเพิ่มมาอีก 1 วิธีคือ การแลกผ่านแอปออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่การแลกเงินผ่านแอปออนไลน์ มักจะมาคู่กับบัตร Travel Card ของธนาคารต่างๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวอาจจะต้องทำบัตร Travel Card ก่อนแล้วถึงสามารถใช้แอปแลกเงินได้

สำหรับการแลกเงินล่วงหน้านั้นไม่มีกำหนดตายตัวว่าควรแลกกี่วันก่อนเดินทาง ถ้าเห็นว่าเรทเงินนั้น เราพึงพอใจที่จะแลกในช่วงนั้นก็สามารถแลกได้เลย แนะนำให้ค่อยๆทะยอยแลก ดีกว่าที่ไปแลกในวันเดินทางทีเดียว เพราะมีโอกาสที่ร้านจะปิด หรือเงินเยนหมด ก็เป็นไป ยกเว้นการแลกผ่านแอป

ใช้บัตรในญี่ปุ่นได้ไหม?

สำหรับการใช้บัตรในญี่ปุ่นนั้นใช้ได้หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าก็มีทั้งร้านที่ไม่รับบัตรกับร้านที่รับบัตร แต่ถ้าร้านรับบัตรเราก็ย่อมใช้บัตร Visa ซึ่งก็อาจจะเป็นบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ก็ได้ ซึ่งการใช้บัตรเครดิตก็ต่างจากการใช้บัตรเดบิต ตรงที่บัตรเครดิตไม่จำเป็นต้องมีเงินอยู่ในบัตร ซึ่งต่างจากบัตรเดบิตที่ต้องมีเงินอยู่ในบัญชี และการใช้บัตรเครดิตจะสามารถสะสมแต้มได้

ซึ่งการใช้บัตรนั้นบางร้านก็อาจจะมีค่าธรรมเนียมด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะต้องถามพนักงานก่อน 

ส่วนสำหรับร้านที่ไม่ได้รับบัตรนั้น นักท่องเที่ยวก็ควรแลกเงินสดติดกระเป๋าไว้บ้าง เพื่อใช้จ่ายในส่วนที่ใช้บริการร้านที่ไม่รับบัตร

โดยบัตรต่างๆ นักท่องเที่ยวควรจะเปิดใช้ล่วงหน้าก่อนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อชัวร์ว่าบัตรของเรานั้นจะใช้ได้หรือไม่

บัตรที่แนะนำสำหรับใช้ในญี่ปุ่น

บัตรสำหรับใช้ในการเที่ยวญี่ปุ่นบัตร Travel Card ก็เป็นอีก 1 ทางเลือกให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ โดยบัตร Travel Card นั้นก็ถือว่าเป็นบัตรเดบิตชนิดหนึ่ง แต่มีข้อดีคือสามารถแลกเงินได้หลายสกุลเงินและยังสามารถใช้กดเงินที่ตู้ ATM ได้อีกด้วย

โดย Travel Card นั้นก็มีหลายธนาคารที่สามารถสมัครได้เช่นบัตร YouTrip ของธนาคารกสิกรไทย, SCB Planet ของธนาคารไทยพาณิชย์, Krungthai Travel Card ของธนาคารกรุงไทย หรือ Krungsri Boarding Card ของธนาคากรุงศรี เป็นต้น

โดยการเลือกบัตรที่เหมาะสมนั้น ถ้าใครมีบัญชีของธนาคารที่ออกบัตร Travel Card ได้ แนะนำให้ใช้บัตรของธนาคารนั้นๆจะดีกว่า 

ข้อควรรู้ของการใช้บัตร Travel card อันดับแรกควรศึกษาว่าบัตรที่ใช้อยู่นั้นสามารถกด ATM แล้วมีค่าธรรมเนียมมั้ย เพราะถ้ามีค่าธรรมเนียมอาจจะทำให้นักท่องเที่ยวจะต้องกดเงินทีละเยอะๆ จะได้คุ้มกับค่าธรรมเนียม 

ต่อมาคือหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุของบัตร เพราะนักท่องเที่ยวบางคนชะล่าใจไม่ได้ค่อยตรวจสอบวันหมดอายุของบัตร พอรู้ตัวอีกทีก็คือตอนไปถึงญี่ปุ่นแล้ว

เทคนิคแลกเงินให้ได้เรทดี

สำหรับการแลกเงินยังไงให้ได้เรทดีนั้นเป็นเรื่องค่อนข้างยากเพราะค่าเงินสามารถขึ้นลงได้เสมอ ซึ่งการแลกเงินอาจจะต้องดูความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว

 แนะนำให้นักท่องเที่ยวค่อยติดตามข่าวสารเรื่องเรทเงิน หรือหมั่นเข้าไปเช็คเรทเรื่อย โดยสามารถเช็คได้ตามเว็บไซส์ของธนาคารหรือร้านแลกเงินของเอกชน ถ้าเห็นว่าเรทนี้โอเค ให้แลกเลย แต่อาจจะไม่จำเป็นต้องแลกทีเดียวเยอะๆ เก็บเงินไว้รอดูเรทเงินในวันถัดไป ถ้าลงอีกก็สามารถแลกได้อีก 

สำหรับการแลกเงินนั้นแนะนำให้มาแลกในวันธรรมดา ที่ไม่ใช่ตอนเที่ยง เพราะคนจะน้อยและไม่ต้องต่อคิวนาน ทั้งธนาคารและร้านเอกชน หรือร้านเอกชนนักท่องเที่ยวสามารถโทรมาจองล่วงหน้าได้อีกด้วย

หรือถ้าเป็นการจองผ่านแอป บางแอปจะมีฟังค์ชั่น ที่สามารถล็อคเรทได้ เมื่อเรทเงินลงไปถึงตามที่เราตั้งค่าไว้ ก็จะแลกเงินให้เองโดยอัตโนมัติเป็นต้น 

สิ่งที่หลายคนมักมองข้ามสำหรับการแลกเงิน

แลกเงินเหลือกลับไทยทำอย่างไร

การที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วมีเงินเหลือกลับมา ซึ่งถ้าเงินเหลือนักท่องเที่ยวสามารถนำธนบัตรไปแลกเป็นเงินไทยได้ตามร้านเอกชน หรือตามธนาคาร โดยจะต้องดูเงื่อนไขของร้านหรือธนาคารว่า สามารถใช้ธนบัตรชนิดกี่เยนที่สามารถไปแลกได้ แต่ผมแนะนำว่าไม่ต้องแลก เพราะเที่ยวญี่ปุ่นครั้งเดียวไม่เคยพอ เก็บเงินไว้ใช้ในครั้งหน้า

ความเสี่ยงจากการพกเงินสดมากเกิน

การพกเงินสดมากเกินก็มีความเสี่ยง ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงก็จริง แต่การพกเงินสดมากก็สามารถเป็นเป้าสายตาของอาชญากรได้เช่นกัน นอกจากนั้นแล้วยังมีความเสี่ยงที่ถ้าทำกระเป๋าเงินหายอาจจะไม่เหลือเงินสดใช้ได้เลยทีเดียว ดังนั้นถ้านักท่องเที่ยวแยกเงินไว้เป็นส่วนๆ ก็อาจจะช่วยได้

Omni channel technology of online retail business approach. Multichannel marketing on social media network offer service of internet payment channel, online retail shopping and omni digital app

แอปที่ช่วยจัดการเรท

ปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนไป เทคโนลียีเข้ามามีส่วนในการจัดการชีวิตประจำวันของคน ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดการเรทเงินก็เป็นทางเลือกที่ดี โดยมีหลายแอปที่สามารถโหลดมาเพื่อช่วยจัดการเรทเงินได้ อย่างเช่น แอปที่ชื่อ อัตราแลกเปลี่ยนเงินวันนี้, All Currency Converter เป็นต้น

สรุปก่อนออกเดินทาง

Japanese currency notes , Japanese Yen background

การวางแผนการเดินทางนั้นย่อมสอดคล้องกับการวางแผนการเงิน เพราะว่าตอนที่เราวางแผนเราก็จะต้องรู้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเข้าสถานที่ ค่าเดินทาง เป็นต้น ซึ่งเราก็แลกเงินเผื่อไว้ใช้สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนนั้น รวมถึงค่าใช้ประจำวัน เมื่อเรามีความพร้อมความมั่นใจในการเที่ยวก็จะตามมาเอง


Contents Index
Kintetsu Line LP R3
Kitslaughter666

Blogger : Kitslaughter666

ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น

100 Posts

โหวต

| Polls
โหวต | Polls
  • เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น คุณมี “เมนูในดวงใจ” ที่ตั้งใจจะไปกินให้ได้ไหม?

    View Results

    Loading ... Loading ...

สถานที่เที่ยว

| Feature
CCJ Hotel Search

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

จองทริปของคุณ

| Book your trip
With:
City:

Check-in:

Night :

x