ทำไมต้องเช่ารถที่ญี่ปุ่น?
การเช่ารถที่ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเดินทางแบบอิสระและยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นการออกไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่ห่างไกลจากรถไฟ หรือการวางแผนเส้นทางท่องเที่ยวเองได้อย่างใจต้องการ การเช่ารถขับเองก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
อิสระ
คุณสามารถวางแผนเส้นทางและกำหนดเวลาได้เองอย่างอิสระ ไม่ต้องรอคอยรถไฟหรือรถบัสตามตารางเวลาที่กำหนด
สะดวกสบาย
ไม่ต้องเสียเวลาต่อรถสาธารณะหลายต่อๆ ไป และไม่ต้องแบกสัมภาระหนักๆ ขึ้นลงรถบัสหรือรถไฟ เหมาะสำหรับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว การเดินทางเป็นกลุ่มจะสะดวกสบายมากขึ้นเมื่อมีรถยนต์ส่วนตัว สามารถแบ่งปันค่าใช้จ่ายและเดินทางไปไหนมาไหนด้วยกันได้อย่างอิสระ
ยืดหยุ่น
คุณสามารถเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทางได้ตลอดเวลาตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการแวะพักตามจุดที่น่าสนใจ หรือการเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างอิสระ
สำรวจสถานที่ที่รถสาธารณะไปไม่ถึง
ญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่ซ่อนตัวอยู่ในชนบท หรือหมู่บ้านเล็กๆ ที่รถสาธารณะอาจไม่สามารถเข้าถึงได้ การมีรถยนต์ส่วนตัวจะช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปยังสถานที่เหล่านั้นได้อย่างสะดวกสบาย เช่น หมู่บ้านเล็กๆ หรือเส้นทางท่องเที่ยวที่ซ่อนเร้น
สัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น การขับรถเองจะช่วยให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น อาจจะได้พบกับร้านอาหารเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ตามข้างทาง หรือหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว
ข้อดี-ข้อเสียของการเช่ารถที่ญี่ปุ่น
ค่าใช้จ่ายที่ต้องรู้เมื่อเช่ารถที่ญี่ปุ่น
ค่าเช่า: ค่าเช่ารถในญี่ปุ่นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยว
ค่าน้ำมัน: ราคาเชื้อเพลิงในญี่ปุ่นก็สูงกว่าหลายประเทศ
ค่าที่จอดรถ: การหาที่จอดรถในเมืองใหญ่ค่อนข้างยากและมีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะในบริเวณแหล่งท่องเที่ยว
ค่าทางด่วน: หากคุณต้องใช้ทางด่วน ค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้นอีก
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกบริษัทเช่ารถ
ปัจจัย | เหตุผล |
---|---|
ราคา | เปรียบเทียบราคาเช่ารถระหว่างบริษัทต่างๆ รวมถึงค่าประกันและค่าบริการเสริมอื่นๆ |
ประเภทรถ | เลือกรถให้เหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสารและสัมภาระ |
อายุผู้ขับขี่ | ตรวจสอบเงื่อนไขเกี่ยวกับอายุขั้นต่ำของผู้ขับขี่ |
ใบขับขี่ | ตรวจสอบว่าใบขับขี่ที่คุณมีสามารถใช้เช่ารถในญี่ปุ่นได้หรือไม่ |
ภาษา | เลือกบริษัทที่มีพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ |
สาขาและจุดคืนรถ | ตรวจสอบว่ามีสาขาและจุดคืนรถที่สะดวกต่อการเดินทางของคุณ |
ประกันภัย | เลือกความคุ้มครองประกันภัยที่เหมาะสม |
GPS | ตรวจสอบว่ารถเช่ามีระบบนำทาง GPS หรือไม่ |
บริการเสริม | เช่น ที่นั่งเด็ก, เก้าอี้รถเข็น |
บริษัทเช่ารถขับที่ญี่ปุ่นยอดนิยม
Times Car Rental: เป็นบริษัทเช่ารถรายใหญ่ของญี่ปุ่น มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ
บริการที่นี่จัดว่าดีมาก เพราะ Customer Service เค้าทำงานกัน 24 ชม.ที่สำคัญมีบริการภาษาไทยอีกต่างหาก ทำให้อุ่นใจได้ในทุกสถานการณ์ แถมหน้าเว็บยังมีภาษาอังกฤษทำให้เราหาข้อมูลได้ง่ายจากในเว็บของบริษัท ตั้งแต่ เงื่อนไขการใช้บริการ กฎเกณฑ์การขับขี่ สาขา ไปจนถึงแผนการท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับการขับรถเที่ยวแต่ละเมือง เรียกได้ว่าไม่เพียงให้บริการเช่ารถแต่ยังมีบริการด้านข้อมูลอย่างครบครัน สมที่เปิดให้บริการยาวนานมาตั้งแต่ปี 1965 และมีสาขามากมายในญี่ปุ่น
Nissan Rent a Car: บริษัทในเครือนิสสัน มีรถยนต์ให้เลือกหลากหลายรุ่น
การจองรถของที่นี่ทำได้ง่ายทั้งทางเว็บไซต์และโทรศัพท์ แต่แนะนำว่าเว็บไซต์จะง่ายกว่าเพราะมีภาษาอังกฤษ การจองรถผ่านเว็บไซต์ก็ง่ายๆ เพียงเลือกรุ่นรถ วันรับ วันคืน และสามารถเลือกคืนรถต่างสาขากับที่รับรถไปก็ได้ ถือว่าสะดวกมากสำหรับผู้ที่ต้องบินกลับสนามบินคนละที่กับขามา
TOYOTA rent a car: เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์โตโยต้า
TOYOTA rent a car มีรถให้บริการหลากหลายรุ่่น ซึ่งคนไทยจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี บางทีอาจขับรุ่นนั้นๆ อยู่ที่ไทยก็ได้ แบ่งเป็นระดับต่างๆ ซึ่งจะมีราคาแตกต่างกันไป ขนาดรถก็หลากหลาย ไปเที่ยวกลุ่มเล็กหรือกลุ่มใหญ่ก็มีรถไว้รองรับ หน้าเว็บให้รายละเอียดรถเป็นภาษาไทยไว้อย่างละเอียด และมีGPS ภายในรถทุกคัน และยังมีเครื่องอ่านบัตร ETC ให้ไว้ในรถ แค่เสียบบัตรก้ผ่านด่านโดยไม่ต้องหยุดรถ เรียกได้ว่าสะดวกสบายสุดๆ
ORIX Rent-A-Car: มีโปรโมชั่นและส่วนลดให้เลือกมากมาย
ใครต้องการเลือกรถที่หลากหลายรุ่น มาที่นี่รับรองว่าไม่ผิดหวัง เพราะ ORIX Rent-A-Car มีรถบริการให้เช่ามากมายหลากหลายรุ่นและยี่ห้อ ขอกระซิบบอกว่าถ้าใครอยากลองขับรถที่ไม่มีขายในไทยเลยลองมาเลือกรถจากเว็บไซต์นี้ได้
Honda Rent a Car: เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ฮอนด้า
สำหรับใครที่ชื่นชอบและอยากใช้รถ ของฮอนด้า ทางHonda Rent a Car ก็มีมากมายให้เลือกในหลายเรทราคา แต่ราคาจะต่างกันตามช่วงเวลาการใช้งาน และมีบริการพิ้นฐานเกี่ยวกับการเช่ารถ อย่างของประกันเสริม แต่ของเจ้านี้ต้องคืนรถให้ตรงสาขานะเพราะไม่มีบริการคืนรถต่างสาขา และการจองผ่านโทรศัพท์จะสะดวกกว่า โดยต้องเตรียมข้อมูลดังนี้
NIPPON rent a car: บริษัทเช่ารถที่มีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจ
มาถึงผู้ให้บริการรายสุดท้ายของวันนี้คือ NIPPON rent a car ที่มีรถให้เลือกหลากรุ่นหลายยี่ห้อตามความต้องการ นอกจากนี้ยังมีเรทราคาดี แถมฟรีประกัน พร้อมด้วยบริการหลากหลายเสริมทุกความต้องการให้เป็นจริง
สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม อ่านได้ที่นี่
เคล็ดลับการเช่ารถเที่ยวญี่ปุ่น
- จองล่วงหน้า: โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเดินทางในช่วงเทศกาลหรือวันหยุด
- เปรียบเทียบราคา: ใช้เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาเพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุด
- ตรวจสอบสภาพรถ: ก่อนรับรถควรตรวจสอบสภาพรถให้ละเอียด
- ทำความเข้าใจกฎจราจร: ศึกษาสัญญาณจราจรและกฎหมายจราจรของญี่ปุ่น
- เตรียมแผนที่และ GPS: เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
- ซื้อประกันภัยเพิ่มเติม: เพื่อความอุ่นใจ
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนำทาง: จะช่วยให้คุณเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเช่ารถที่ญี่ปุ่น
การเช่ารถขับที่ญี่ปุ่นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการอิสระในการเดินทาง แต่ก่อนตัดสินใจ ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญเหล่านี้:
- ใบขับขี่สากล: เช่ารถขับที่ญี่ปุ่นจำเป็นต้องมีใบขับขี่ติดตัวไปด้วย
ใบขับขี่สากล: จำเป็นต้องมีใบขับขี่สากลที่ยังไม่หมดอายุ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าประเทศไทยได้ลงนามในอนุสัญญาเจนีวา (Geneva Convention)
ระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ขับ: บางบริษัทอาจจำกัดระยะเวลาที่ผู้ถือใบขับขี่สากลสามารถเช่ารถได้
บัตรเครดิต: ใช้สำหรับการประกันความเสียหาย - ภาษา: การสื่อสารอาจเป็นอุปสรรคหากไม่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษได้ดี
ป้ายบอกทาง: ป้ายบอกทางส่วนใหญ่จะเป็นภาษาญี่ปุ่น ควรเตรียมแผนที่หรือ GPS ที่ใช้งานได้ - สภาพถนน: สภาพถนนของในเมืองและนอกเมืองไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราต้องศึกษาเส้นทางให้ดี และขับขี่อย่างระมัดระวัง
ถนนในเมือง: ถนนในเมืองใหญ่โดยทั่วไปจะมีสภาพดี แต่การจราจรอาจติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วน
ถนนในชนบท: ถนนในชนบทอาจคับแคบและมีโค้งเยอะ ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง - กฎจราจร: ให้ความสำคัญกับกฎจราจรและป้ายบอกทาง
- ขับรถทางซ้าย: ญี่ปุ่นขับรถทางซ้าย ซึ่งอาจแตกต่างจากประเทศไทย
- ป้ายจราจร: ป้ายจราจรในญี่ปุ่นมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ควรศึกษาให้เข้าใจ
- ข้อจำกัดความเร็ว: มีการกำหนดข้อจำกัดความเร็วที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่
- การดื่มแล้วขับ: กฎหมายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถอย่างเด็ดขาด
การเช่ารถขับที่ญี่ปุ่นเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ หากคุณวางแผนและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับความสวยงามของญี่ปุ่นอย่างเต็มที่
คำแนะนำเพิ่มเติม:
เตรียมตัวกลับรถให้พร้อม และสิ่งที่ต้องรู้มากขึ้นเมื่อจะขับรถที่ญี่ปุ่นมีดังนี้
- ศึกษาเส้นทาง: ก่อนเดินทางควรศึกษาเส้นทางและสถานที่ที่ต้องการไปให้ดี
- เตรียมอุปกรณ์: เช่น กล้องถ่ายรูป, ที่ชาร์จโทรศัพท์, แผนที่, และของใช้ส่วนตัวอื่นๆ
- ซื้อซิมการ์ด: เพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร
- เรียนรู้ศัพท์ภาษาญี่ปุ่นพื้นฐาน: เช่น คำศัพท์ที่เกี่ยวกับการขับรถ, การถามทาง, และการขอความช่วยเหลือ
- เช่น คำว่า “ช้าลง”, “หยุด”, “เลี้ยวซ้าย”, “เลี้ยวขวา” เป็นต้น
ภาษาญี่ปุ่นที่ต้องรู้จะมีคำว่า
– 車 (kuruma): รถยนต์
– 運転 (unten): การขับรถ
– 免許 (menkyo): ใบขับขี่
– 道 (michi): ถนน
– 信号 (shingō): สัญญาณไฟจราจร
– 駐車 (chūsha): การจอดรถ
– スピード (supīdo): ความเร็ว
– 右折 (ūsetsu): เลี้ยวขวา
– 左折 (sasetsu): เลี้ยวซ้าย
– 停車 (teisha): หยุดรถ
– バック (bakku): ถอยหลัง
– まっすぐ (massugu): ตรงไป
ป้ายจราจรที่ควรรู้
– 止まれ (tomare): หยุด
– 進入禁止 (shinjō kinshi): ห้ามเข้า
– 一方通行 (ippō tsūkō): รถวิ่งทางเดียว
– 徐行 (jokō): ขับช้าๆ
สรุป
การเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น ตอบทุกคำถามยอดฮิตของนักเดินทางเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่คุณต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียและเตรียมตัวให้พร้อมก่อนตัดสินใจ หากคุณวางแผนการเดินทางอย่างดีและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด การเช่ารถขับเองในญี่ปุ่นจะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างแน่นอน