Kamishikimi Kumanoimasu Shrine ศาลเจ้าบรรยากาศสุดลึกลับในจังหวัดคุมาโมโต้

ศาลเจ้าลึกลับแห่งนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลมีเดียในฐานะ “ทางเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง” ไปโดยปริยาย ภาพของป่าเงียบสงบและโคมไฟหินจำนวน 97 ดวงเรียงกันตามทางเดินที่นำไปสู่ห้องโถงหลัก พร้อมวิวทิวทัศน์แปลกตาของแสงแดดส่องรำไร โดยปลายทางเป็นอุโมงค์หินอุเกะโตะอิวะขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนจุดเด่นของการมาเยือนที่นี่ และยังเป็นจุดพาวเวอร์สปอตแนะนำสำหรับสายมูที่ไม่อยากให้พลาดเลย

ความเป็นมาของ Kamishikimi Kumanoimasu Shrine ศาลเจ้าสำคัญอีกแห่งในจังหวัดคุมาโมโต้

ศาลเจ้าคามิชิกิมิ คุมาโนะอิมาสุ ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสําหรับนักท่องเที่ยวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาจเพราะเป็นแรงบันดาลใจในฉากภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดนิยม ในมุมหนึ่งนั้นศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานหลายศตวรรษแล้ว 

แม้ประวัติของศาลเจ้าแห่งนี้ไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่ก็เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้เริ่มเปิดให้บริการพิธีกรรมในศตวรรษที่ 14 ตามตำนานท้องถิ่น ศาลเจ้า Kamishikimi Kumanoimasu สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าอิซานากิ โนะ มิโคโตะ และเทพเจ้าอิซานามิ โนะ มิโคโตะ 

จากตำนานญี่ปุ่นเรื่องราวเหล่านี้ถูกบอกเล่าผ่านตํานานในโคจิกิและนิฮอนโชกิ (พงศาวดารญี่ปุ่น เป็นหนังสือที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น) อีกส่วนหนึ่งของประวัติความเป็นมาหากดูจากชื่อแล้ว ที่นี่ยังเป็นเครือข่ายศาลเจ้า 3,000 แห่งที่มีความสัมพันธ์กับศาลเจ้าคุมาโนะซันซังในจังหวัดวากะยามะอีกด้วย 

ศาลเจ้าเดิมมีประวัติการถูกไฟไหม้จากเปลวเพลิงแห่งสงครามในศตวรรษที่ 16 และศาลเจ้าปัจจุบันได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในปีค.ศ.1722 เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้จะนำโชคลาภมาให้ในการแต่งงานมาให้ผู้มาเยือน

แรงบันดาลใจในการสร้างฉากภาพยนตร์แอนิเมชั่น

บริเวณโดยรอบของศาลเจ้า ถูกปกคลุมไปด้วยต้นสนซีดาร์ และแมกไม้อันร่มรื่น บรรยากาศที่สวยงามของที่นี่ จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเป็นฉากในภาพยนตร์อนิเมชั่นของสตูดิโอจิบลิเรื่องสู่ป่าแห่งแสงหิ่งห้อย (Hotarubi no Mori e) ด้วย ทำให้ศาลเจ้าในภูเขาที่เงียบสงบกลายเป็นพิกัดการเดินทางของแฟนๆ แอนิเมชั่นที่มาตามรอยเรื่องราวในหนังอีกด้วย

ลักษณะเด่นของศาลเจ้า

ตลอดทางเดินหินนั้นมีโคมไฟหินเกือบหนึ่งร้อยดวงทั้งสองด้าน สลับกับความเขียวชอุ่มของต้นไม้ที่อยู่ในป่าทึบ ความชื้นไร้แสงอาทิตย์ทะลุเข้ามานี้ก่อให้เกิดตะไคร่น้ำสีเขียวเติบโตอยู่  ในบางวันมีหมอกและแสงแดดรำไรตลอดทางเดิน ศาลเจ้าเงียบสงบ คุณจะรู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อคุณเดินขึ้นเนินเขาไปยังศาลเจ้าแห่งนี้ 

เส้นทางโคมไฟหินเรียงรายนับ 100 ดวง

ภาพตะเกียงหินมากมายถึง 97 ดวง ตลอดทางเดินราวๆ 200 เมตรตั้งอยู่บนสองข้างทางระหว่างทางเดินไปยังศาลเจ้า ช่วยเสริมให้บรรยากาศมีความลึกลับน่าค้นหาไปพร้อมๆ กัน โดยตะเกียงหินเหล่านี้ได้รับการบริจาคจากนักธุรกิจในท้องถิ่น เมื่อกลางปีค.ศ. 1960 โดยที่ด้านหลังของตะเกียงแต่ละดวงจะมีการจารึกวันที่และรายละเอียดเอาไว้ จึงกลายเป็นทัศนียภาพที่งดงามและแฝงไปด้วยมนต์ขลัง ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดเช็คอินที่ต้องห้ามพลาดสำหรับคนชอบถ่ายรูปเลยทีเดียว 

อุโมงค์หินอุเกะโทอิวะ (Ugeto-iwa)

บริเวณด้านหลังของศาลเจ้ามีจุดเสริมพลังชีวิตแนะนำ เพราะเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ เรียกว่าอุเกะโทอิวะขนาด 10 เมตร ว่ากันว่าอุโมงค์แห่งนี้เกิดขึ้นจากคิฮะจิ โบชิ ผู้ติดตามของเทพเจ้าทะเคอิวาตะทสึ โนะ มิโกโตะ เทพเจ้าแห่งการเกษตรและโชคลาภของคนในแถบภูเขาอาโสะ มีอภินิหารทำให้สันภูเขาจนกลายเป็นช่องอุโมงค์ขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้ที่มาที่นี่ขอพรแล้วจะบรรลุเป้าหมาย ประสบความสำเร็จ ทำมาค้าขายรุ่งเรือง รวมไปถึงขอให้มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมาอีกด้วย

บรรยากาศป่าลึกที่เงียบสงบและต้นซีดาร์ที่เป็นจุดเสริมเรื่องความรัก

นอกจากนี้แล้ว ยังมีจุดชมต้นซีดาร์ที่ทรงพลัง และยิ่งใหญ่คือต้นสนซีดาร์ทาเคะโมริดน เป็นต้นสนซีดาร์ขนาดใหญ่สองต้นมีเส้นรอบวงลําต้นมากกว่า 10 เมตรมีอายุมากกว่า 400 ปี ลักษณะที่โดเด่นคือมีกิ่งก้านจํานวนมากจากลําต้น ว่ากันว่าต้นสนนี้เป็นตัวแทนของผู้ชาย และผู้หญิง หรือคนคู่กันนั่นเอง แถมมีประวัติย้อนกลับไปว่ามีหญิงสาวมาโอบกอดต้นสนนี้แล้วพอกลับบ้านไปก็ได้พบกับคู่รักและแต่งงานกันในที่สุด ที่นี่จึงกลายเป็นจุดเสริมเรื่องความรัก และการแต่งงานขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น

สิ่งที่ควรรู้ก่อนการเยี่ยมชม

เนื่องจากการมาชมศาลเจ้าแห่งนี้ จะเป็นการเดินขึ้นบันไดราวๆ 260 ขั้น เพื่อชมศาลเจ้าในจุดต่างๆ บริเวณบันได โคมไฟ เสาโทริอิ และทางเดินเป็นจุดที่มีตะไคร่น้ำสีเขียวเกาะอยู่ตลอดเส้นทาง แนะนำให้เดินด้วยความระมัดระวัง และในบรรยากาศเงียบสงบของสถานที่ควรเดินชมด้วยความสำรวม ให้เกียรติสถานที่ และคำนึงถึงนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ ด้วย นอกจากนั้นแนะนำให้ถือโอกาสที่เดินช้าๆ ขึ้นไปตามทางของศาลเจ้าได้สำรวจตวตนภายในของตนเองด้วย

ศาลเจ้าคะมิชิคิมิ คุมะโนอิมะสุ (Kamishikimi Kumanoimasu Shrine)

ดูแผนที่ Kamishikimi Kumanoimasu Shrine

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

จะว่าไปแล้วในจังหวัดคุมาโมโต้นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย โดยส่วนใหญ่จะรายล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม มีภูเขา เมืองอันเงียบสงบ และน้ำตกให้ชม เรียกว่าถ้าคุณฌป็นสายธรรมชาติแล้ว อยากให้จดคุมาโมโต้ลงลิสต์การเดินทางในญี่ปุ่นของคุณไว้ได้เลย รับรองทริปนี้ต้องสนุกอย่างแน่นอน

ภูเขาอาโสะ (Mount Aso)

เป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ใจกลางคิวชูซึ่งปะทุครั้งล่าสุดในปีค.ศ. 2021 และ 2016 ปล่องภูเขาไฟโบราณของอาโสะเป็นปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางสูงถึง 25 กิโลเมตร และเส้นรอบวงมากกว่า 100 กิโลเมตร ใจกลางปล่องภูเขาไฟมียอดภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ของภูเขา รวมถึงภูเขานากาดาเกะ ซึ่งมีปล่องภูเขาไฟที่งดงามสําหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย พื้นที่ปล่องภูเขาไฟมักจะปิดพื้นที่บางส่วน เนื่องจากก๊าซภูเขาไฟที่เป็นพิษ สภาพอากาศเลวร้าย หรือความเสี่ยงของการระเบิดของภูเขาไฟ ดังนั้นอย่าลืมศึกษาข้อมูลก่อนเดินทางไปที่นั่นด้วยนะ

ภูเขาอาโสะ (Mount Aso)

ดูแผนที่ Mount Aso

เมืองทาคาโมริ (Takamori Town)

เมืองทาคาโมริตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของจังหวัดคุมาโมโตะ ติดกับสามจังหวัด ได้แก่ บุงโกะ ฮิวกะ และฮิโกะ และได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่รวบรวมทรัพยากร ความรู้ และเทคโนโลยีต่างๆ สัญลักษณ์ของเมืองคือภูเขาเนโกะ ซึ่งเป็นหนึ่งในห้ายอดเขาของภูเขาอาโสะมีระดับความสูง 1,408 เมตร สันเขาทับซ้อนกันไปทางตะวันออกและตะวันตกเหมือนใบเลื่อย โดยมีหินเท็งกุขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง จึงมีตํานานและนิทานพื้นบ้านมากมายที่เกี่ยวข้องกับภูเขาเนโกะที่ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีจวบจนปัจจุบัน

เมืองทาคาโมริ (Takamori Town)

ดูแผนที่ Takamori Town

ช่องเขาทาคาจิโฮะ (Takachiho Gorge)

ออกเดินทางสู่จังหวัดมิยาซากิ ไปยังหุบเขาลึกลับที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟแห่งนี้โดยที่ช่องเขาทาคาจิโฮะ นั้นล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามอย่าบอกใคร ช่องเขาทาคาจิโฮะนั้นมีหน้าผาที่มีความสูงกว่า 100 เมตร มีความยาวกว่า 7  กิโลเมตร มีน้ำตกมานาอิเป็นไฮไลท์ของการมาเก็บภาพสุดแสนประทับใจ จนได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียว การมาเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของที่นี่ก็คือการพายเรือชมลำธารและน้ำตกอย่างใกล้ชิด กับการเดินชมอยู่ด้านบนที่มีทางเดินและสะพานเป็นจุดชมวิวตลอด 1 กิโลเมตรก็เป็นทัศนียภาพที่สวยงามมากเช่นกัน

ช่องเขาทาคาจิโฮะ (Takachiho Gorge)

ดูแผนที่ Takachiho Gorge

สรุป

ศาลเจ้าที่มีบรรยากาศอบอุ่นแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าสนที่รายล้อมในเมืองเล็กๆ ชื่อว่าทาคาโมริที่เชิงเขาอาโสะ เป็นศาลเจ้าที่มีโคมไฟหินเรียงรายตามทางเดินสู่ศาลเจ้าสวยงาม บรรยากาศรอบตัวถูกปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำและความเขียวขจีของต้นสนซีดาร์สูงใหญ่ เมื่อเดินไปจนถึงตัวศาลเจ้า ด้านหลังโถงหลักมีทางเดินอีกทางหนึ่งที่นำไปสู่อุโมงค์หินศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าอุเกะโทอิวะ ซึ่งมีความยาวราว 10 เมตร หากได้มีโอกาสเดินลอดอุโมงค์นี้เชื่อว่าจะสามารถเอาชนะความยากลำบากใดๆ ก็ได้ และจะนำความรักความโชคดีมาสู่ผู้มาเยือนด้วย