8 ที่เที่ยว คุมาโมโตะ (Kumamoto) เยือนถิ่นเจ้าหมีคุมะมง เที่ยวสนุกที่ไปตะลอนได้ครบในวันเดียว

แนะนำ คุมาโมโตะ (Kumamoto)

คุมาโมโตะ (Kumamoto)เป็นอีกหนึ่งจังหวัดใหญ่ของเกาะคิวชูฝั่งตะวันออก มีประชากรประมาณ 6 แสนคน มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่น, เมืองออนเซนในป่าเขาที่มีชื่อเสียง, ภูเขาไฟอะโสะ และเจ้าหมีคุมะมง

พร้อมทั้งยังได้ชื่อว่าเป็น ‘เมืองแห่งน้ำ’ และเป็นเมืองที่มี ‘น้ำรสชาติอร่อยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น’ เนื่องจากที่นี่มีแหล่งน้ำพุธรรมชาติที่กำเนิดจากแหล่งใต้บาดาลเป็นจำนวนมาก

การเดินทางไปยัง คุมาโมโตะ (Kumamoto)

เครื่องบิน

สามารถนั่งเครื่องบินจากโตเกียวมาถึงคุมาโมโตะ ได้จาก สนามบินฮาเนดะ หรือ สนามบินนาริตะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที

รถไฟ

นั่ง Tokaido・Sanyo・Kyushu Shinkansen จาก Tokyo Station ไปเปลี่ยนขบวนที่ Shin-Ōsaka Station หรือ Hakata Station เพื่อเดินทางต่อมาถึง Kumamoto Station ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง

8 ที่เที่ยว คุมาโมโตะ (Kumamoto)

ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle)

ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) มีอายุยาวนานกว่า 400 ปี เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 980,000 ตารางเมตร ตัวปราสาทมีความงดงามและยิ่งใหญ่

ทั้งในบริเวณรอบ ๆ ยังมีหลายอาคาร ทั้งยังปลูกต้นซากุระไว้รอบปราสาทมากถึง 800 ต้น จึงที่บริเวณปราสาทแห่งนี้สวยงามมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และกลายเป็นจุดชมซากุระยอดฮิตแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

ด้วยเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี 2016 ทำให้ตอนนี้นักท่องเที่ยวอย่างเรายังไม่สามารถเข้าไปขมภายในตัวปราสาทได้ แต่ในส่วนของการชมบริเวณรอบ ๆ นั้นสามารถทำได้ตามปกติ ซึ่งแม้มองจากด้านนอกเพื่อชมตัวปราสาทแล้วก็ยังดูยิ่งใหญ่ไร้ที่ติ

Kumamoto Castle

ที่อยู่	1-1 Honmaru, Chūō-ku, Kumamoto-shi, Kumamoto-ken 860-0002
วิธีเดินทาง	ขึ้นรถราง (Kumamoto City Tram Guide) สาย A หรือ B ก็ได้ ไปลงที่สถานี Kumamotojo-Shiyakusho-Mae แล้วเดินต่อไปยังปราสาทประมาณ 7 นาที
เวลาทำการ	7:30 AM – 10:00 PM จันทร์ – ศุกร์ 9:00 AM – 10:00 PM เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด
ราคา	ผู้ใหญ่ (16 ปีขึ้นไป) 500 เยน เด็ก (ต่ำกว่า 16 ปี) 200 เยน (เฉพาะการเข้าชมภายในพื้นที่ปราสาท)
Website	Kumamoto Castle

ดูแผนที่ Kumamoto Castle

สวนซุยเซนจิ (Suizenji Jojuen Garden)

สวน Suizenji Jojuen ที่ถือว่าเป็นสวนอีกหนึ่งแห่งที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความสวยงามของประเทศญี่ปุ่น สวนแห่งนี้ภายในจัดแต่งเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ทำให้ทิวทัศน์ของสวนแห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะ หาดูได้ยากและน่าประทับใจ

ภายในมีทั้งสถานที่ สิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมไปถึงย่อส่วนของหลายๆสิ่งที่มีเชื่อเสียงของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น ภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบบิวะ ศาลาไม้ และสะพานหิน อีกทั้งยังมีสัตว์น่ารักๆอย่างนกกระเรียน หงส์ และปลาคาร์ฟให้ได้เห็นอยู่บริเวณบ่อน้ำที่อยู่ภายในสวนอีกด้วย 

Suizenji Jojuen Garden

ที่อยู่	Suizenji Koen 8-1, Chuo-ku, Kumamoto-shi 862-0956
วิธีเดินทาง	ขึ้นรถราง (Kumamoto City Tram Guide) สาย A หรือ B ก็ได้ ไปลงที่สถานี Suizenjikoen
เวลาทำการ	ช่วงเดือนมีนาคมถึงตุลาคม 7.30-18.00 น. พฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ 8.30-17.00 น.
ราคา	ผู้ใหญ่ (อายุ 16 ปีขึ้นไป) 400 เยน เด็ก (อายุต่ำกว่า 16 ปี) 200 เยน
Website	Suizenji Jojuen

ดูแผนที่ Suizenji Jojuen Garden

สถานีคุมาโมโตะ Kumamoto Station สุดน่ารัก

เมื่อมาถึงสถานี Kumamoto เราก็จะได้เห็นเจ้าหมีสีดำ คุมะมง มาสคอร์ตประจำจังหวัดโชว์ตัวโดดเด่นอยู่ภายในสถานี เป็นเหมือนจุดถ่ายรูปที่เมื่อเรามาถึงคุมาโมโตะแล้วก็ต้องถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันสักหน่อย 

บอกเลยว่าทั่วทั้งบริเวณสถานีมีเจ้าคุมะมงซ่อนตัวอยู่เต็มไปหมด และยังมีของฝากสไตล์คุมะมงมากมายให้เลือกซื้อตอนขากลับด้วยนะ

Kumamoto Station

ที่อยู่	3 Chome-15-1 Kasuga, Nishi Ward, Kumamoto, 860-0047, Japan
เวลาทำการ	24 ชั่วโมง
Website	Kumamoto Station

ดูแผนที่ TAKANAWA GATEWAY CITY

ศาลเจ้าคุมาโมโต้อินาริ (Kumamoto Inari Shrine)

อีกหนึ่งศาลเจ้าที่อยู่ไม่ไกลจากปราสาทคุมาโมโตะนั้นก็คือ Kumamoto Inari Shrine ศาลเจ้าชื่อดังของเมืองนี้ ที่นี่เป็นศาลเจ้านิกายชินโตที่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ 1496 ถือว่ามีความเก่าแก่เอาการ

วัตถุประสงค์ที่สร้างขึ้นมานั้นก็เพื่อปกป้องคุ้มครองปราสาทคุมาโมโตะจากสิ่งชั่วร้ายนั่นเอง

ภายในศาลเจ้าจะมีประตูโทริอิเรียงขึ้นไปตามแนวบันไดสวยงาม บรรยากาศในศาลเจ้าทั้งศักดิ์สิทธิ์และสวยงาม ถ้าอยากได้เครื่องรางที่นี่ก็มีแบบน่ารัก ๆ ด้วยเช่นกัน อย่างเครื่องรางรูปคิตตี้สุดน่ารัก ซื้อกลับมาฝากใครได้ไปก็ต้องดีใจ

Kumamoto Inari Shrine

ที่อยู่	3-13 Honmaru, Kumamoto, Kumamoto Prefecture 860-0002, Japan
วิธีเดินทาง	ขึ้นรถราง (Kumamoto City Tram Guide) สาย A หรือ B ก็ได้ ไปลงที่สถานี Torichosuji จากนั้นเดินต่อประมาณ 3 นาที
เวลาทำการ	09:00 – 17:00
ราคา	ฟรี
Website	Kumamoto Inari Shrine

ดูแผนที่ TAKANAWA GATEWAY CITY

ภูเขาอะโสะ (Mount Aso)

ที่นี่เป็นภูเขาลูกใหญ่ที่ยังคงคุกกรุ่นอยู่แถมยังเป็น 1 ในภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ที่นี่ก็มีสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือ
นากาดาเกะ หนึ่งในยอดเขาทั้งห้าที่ล้อมรอบภูเขาอะโสะ

สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยรถยนต์ กระเช้าลอยฟ้า หรือจะเดินก็ได้ นอกจากนี้ยังมีวิวธรรมชาติที่สามารถมองเห็นได้จากบนภูเขาอีกด้วย

บริเวณรอบๆภูเขาไฟอะโซะบอกเลยว่าวิวดีงามมากๆ เนื่องจากมีเมืองชนบทเล็กๆและนาข้าว กระจายตัวกันอยู่ตามรอบนอกของภูเขาอะโซะ บรรยากาศจะเป็นแนวธรรมชาติแบบแถบชนบทแบบญี่ปุ่นแท้ๆ 

ภูเขาอะโสะ (Mount Aso)

ที่อยู่	8808-5 Kurokawa, Aso-shi, Kumamoto 869-2225
วิธีเดินทาง	เดินทางด้วยรถยนต์จากสถานี Ikoinomura ไปยัง ภูเขาอะโสะ ใช้เวลาประมาณ 34 นาที
เวลาทำการ	9.00 น.- 17.00 น. (รอบสุดท้าย 16.30 น.)
ราคา	ฟรี
Website	city.aso.kumamoto (ภาษาญี่ปุ่น)

ดูแผนที่ ภูเขาอะโสะ (Mount Aso)

ย่านชอปปิ้งชิโมโทริ (Shimotori Shopping Arcade)

Shimotori Shotengai เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของแหล่งชอปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดใน ‘จังหวัดคุมาโมโตะ’ เป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้งให้เดินเล่น รวมถึงร้านอาหาร ร้านขนม และร้าน Drug Store ก็ตั้งอยู่บริเวรณนี้ทั้งหมด

หลังจากเก็บกระเป๋าเข้าที่พักแล้ว ตกเย็นสามารถมาเดินเล่น ช้อปปิ้ง หาของกิน รับรองว่าฟินค่ะ

ถึงแม้ว่าคุมาโมโตะจะไม่ใช่เมืองช้อปปิ้ง แต่ก็มีร้านดีๆ อร่อยๆ หลายร้าน ที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านนี้เยอะอยู่พอสมควร กำลังรอให้นักท่องเที่ยวมาตามหาร้านถูกใจได้ที่นี่เลย

Shimotori Shopping Arcade

ที่อยู่	1 Chome-3-10 Shimotori, Chuo Ward, Kumamoto, 860-0807, Japan
วิธีเดินทาง	นั่งรถรางสาย Kumamoto Shideb A หรือ B ก็ได้มาลงที่สถานี Hanabatacho จากนั้นเดินต่อประมาณ 3 นาที
Website	Shimotori Shopping Arcade

ดูแผนที่ TAKANAWA GATEWAY CITY

Kurokawa Onsen

Kurokawa Onsen นั้นนับว่าเป็นหมู่บ้านออนเซนที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น　โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงของเมือง Kumamoto ประมาณ 73 กิโลเมตร

หมู่บ้านออนเซนนั้นเริ่มเป็นที่รู้จักกันตั้งแต่ยุค Edo แต่ประวัติศาสตร์ของหมู่บ้าน Kurokawa Onsen เริ่มขึ้นจริงๆ คือช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 1961 ได้มีการก่อตั้งสมาคมสหกรณ์ Onsen ขึ้นมา พร้อมกับมีที่พักไว้บริการ 6 แห่ง

โดยมีคอนเซ็ปคือ เมืองแห่งออนเซ็น กับการอาบน้ำกลางแจ้ง และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของ Kurokawa Onsen อย่างเป็นทางการ

Kurokawa Onsen

ที่อยู่	Manganji, Minamioguni, Aso District, Kumamoto 869-2402
วิธีเดินทาง	จากสถานี Kumamoto วิ่งตรงไปยัง Kurokawa Onsen ค่าโดยสารคนละ 2500 เยนต่อ/เที่ยว เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูข้อมูลรถบัสได้ที่ kyushu bus booking
Website	Kurokawa Onsen

ดูแผนที่ Kurokawa Onsen

Kuratake Shrine : ศาลเจ้าวิวอ่าวแห่งคุมาโมโตะ

Kuratake Shrine นับเป็นพิกัดลับแห่งคุมาโมโตะ ตั้งอยู่บนภูเขา Kuratake คุณจะพบกับทัศนียภาพอันงดงามของหมู่เกาะ Amakusa พร้อมวิวโทริอิที่ขับให้ดูสวยงามและมีมนต์ขลัง แม้จะต้องเดินทางไกลแต่เมื่อเห็นวิวรับรองว่าคุ้ม

ที่นี่เป็นศาลเจ้าชินโตได้รับการนับถือในฐานะภูเขาศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อขอพรให้ปกป้องคุ้มครองชาวประมงให้ปลอดภัย

Kuratake Shrine

ที่อยู่	Kuratakemachi Tanasoko, Amakusa, Kumamoto 861-6402
วิธีเดินทาง	นั่งรถบัส หรือแท็กซี่จากสถานี MISUMI STATION ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.
ราคา	ฟรี
Website	Kuratake Shrine

ดูแผนที่ Kuratake Shrine

การเดินทางใน คุมาโมโตะ (Kumamoto)

เดินทางสะดวกสบายด้วย Kumamoto City Tram

Kumamoto City Tram เป็นรถรางประจำเมืองที่วิ่งไปตามสถานที่เที่ยวสำคัญๆ ในจังหวัดคุมาโมโตะ ถือเป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่อยากจะแนะนำหากได้มาเยือนที่นี่ สนนราคาอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 170 เยน, เด็ก 90 เยน และขึ้นฟรีสำหรับเด็กเล็ก

ซึ่งราคาที่กล่าวมาเป็นราคาต่อรอบ จะนั่งใกล้หรือไกลก็ราคาเดียว สามารถจ่ายทีเดียวตอนขึ้นรถรางด้วยบัตร IC Card หรือจ่ายด้วยเงินสดก็ได้ สะดวกสบายสุดๆ

JR Pass ที่แนะนำใน คุมาโมโตะ (Kumamoto)

รายละเอียดเกี่ยวกับพาสเพิ่มเติม

สำหรับใครที่สนใจพาสนี้ในการเดินทางสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

ช่องทางการซื้อพาส

หรือใครที่อยากสั่งซื้อพาสง่ายๆ ไม่ต้องไปซื้อด้วยตัวเอง สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวก่อนการเดินทางก็สั่งได้เลยที่นี่

การแต่งตัวเที่ยวใน คุมาโมโตะ (Kumamoto)

สำหรับใครที่มองหาว่าไปที่นี่จะแต่งตัวยังไง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวมากๆ รับรองแต่งไม่บ้งถูกฤดูไม่เทอะทะ

สำหรับใครที่มองหาการแต่งตัวไปเที่ยวฤดูร้อนในญี่ปุ่น แบบสบายๆ แต่งชิลๆ ในช่วงร้อนของญี่ปุ่นที่เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าร้อนมากๆ จะต้องแต่งยังไง หนาบางแค่ไหนก็มาทางนี้เลย

อาหารขึ้นชื่อ ของดีต้องลอง คุมาโมโตะ (Kumamoto)

คุมาโมโตะราเมน (Kumamoto Ramen)

ราเม็งคุมาโมโตะเป็นราเม็งทงคดซึเหมือนกับราเม็งฮากาตะและคุรุเมะ รสชาติราเม็งคุมาโมโตะเป็นอย่างไร น้ำสุปมาจากกระดูกหมู เส้นกลาง ส่วนผสมที่ใส่ เช่น ต้นหอม หมูชาชูและเห็ดหูหนู

คาราชิเรนคอน (Karashi Renkon)

คาราชิเรนคอน (Karashi Renkon) หรือรากบัวมัสตาร์ด ทำจากรากบัวต้มสอดไส้มัสตาร์ดเผ็ดและมิโซะทอดในแป้งสีเหลือง  เป็นเมนูเด็ดยอดนิยมที่มีเอกลักษณ์เป็นรสสัมผัสที่กรุบกรอบ และกลิ่นกับรสชาติที่โดดเด่นของคาราชิมิโซะ (มิโซะผสมมัสตาร์ด) 

เนื้อม้าดิบ (Basashi) 

สีแดงเข้ม เนื้อนุ่ม เหนียวเล็กน้อย รสหวาน มีเอกลักษณ์ที่ต่างจากเนื้อวัว หมูหรือไก่ เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดคุมาโมโตะ คำว่า Basashi แปลมาจาก เนื้อม้าที่ทานแบบดิบๆ เหมือนปลาดิบปลาหมึกสดๆดิบๆนั่นเอง

เนื้อม้านิยมทานดิบๆ ที่สุด โดยทำเป็นซาชิมิ ซูชิ หรือยุกเกะ แต่นอกจากนั้นก็นำไปย่างเป็นสเต็กและเมนูอื่นๆ ได้เช่นกัน

ลูกแพร์โคซุย (Kosui Pears)

ลูกแพร์โคซุย (Kosui Pears) เป็นลูกแพร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าลูกแพร์ปกติ แถมยังมีความหวานฉ่ำน้ำด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นลูกแพร์ในฝันเลยทีเดียว

บทความท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องใน คุมาโมโตะ (Kumamoto)

สำหรับใครที่สนใจที่นี่ ลองเข้ามาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

ข้อสรุป

คุมาโมโตะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ผสมผสานความเป็นเมืองเก่ากับความทันสมัยไว้ได้ดีและลงตัว บ้านเมืองและผู้คนมีความน่ารัก รวมถึงสถานที่ต่างๆ ที่ได้แนะนำไปทั้งหมดนนี้ก็หวังว่าทุกคนจะชื่นชอบและตามไปเที่ยวด้วยกัน

เมืองเล็ก ๆ น่ารักอย่างคุมาโมโตะเองนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง และการเดินทางก็ไม่ได้ยากลำบากอย่างที่คิด ใครวางแพลนจะมาเที่ยวคิวชูหรือตั้งใจจะมาคุมาโมโตะอยู่แล้วละก็ ลองไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในเมืองนี้กันดูนะ