Lake Ashinoko แห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องวิวภูเขาไฟฟูจิอันน่าประทับใจ ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้ในวันที่อากาศแจ่มใส และเป็นสถานที่ที่ต้องมาเยี่ยมชมเมื่อมาเยือนฮาโกเน่ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดอีกหลายแห่ง อาทิ พิพิธภัณฑ์ ศาลเจ้า ออนเซ็นธีมพาร์ค แหล่งทำกิจกรรมเวิร์คช็อปที่สามารถทำร่วมกันได้ทั้งครอบครัว อีกทั้งยังสามารถนั่งโรปเวย์ หรือจะล่องเรือชมวิวภูเขาไฟฟูจิอันงดงาม จะแวะช้อปิ้งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่ปิดท้ายทริป ก่อนกลับโตเกียว ภายในระยะเวลาเพียง 2 วัน 1 คืนก็สามารถทำได้
ทะเลสาบอาชิโนโกะหรือที่รู้จักกันในชื่อทะเลสาบฮาโกเน่
หากมาถึงฮาโกเน่ เมืองหนึ่งในอำเภออาชิงาราชิโมะ จังหวัดคานากาวะทั้งที ต้องมาชมทะเลสาบที่มีทัศนียภาพอันงดงามที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนแห่งนี้ให้ได้ โดยทะเลสาบที่นี่เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ เกิดขึ้นหลังจากภูเขาไฟระเบิดครั้งสุดท้ายเมื่อ 3,000 ปีก่อน โดยน้ำในทะเลสาบอาชิโนโกะจะไหลไปยังแม่น้ำฮายากาวะซึ่งไหลลงสู่ท่าเรือโอดาวาระริมมหาสมุทรแปซิฟิก ในปัจจุบันทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่นิยมสำหรับกิจกรรมการตกปลาซึ่งมีหลากหลายประเภทที่ผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินได้
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ที่นี่ยังเป็นทะเลสาบที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ นอกจากนั้นโดยรอบทะเลสาบยังเรียงรายไปด้วยเรียวกังที่มีแหล่งน้ำพุร้อนวิวสวยงาม ถือเป็นอีกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาตินิยมไปเยือน อีกทั้งยังครบครันด้วยการเดินทางที่หลากหลาย สร้างประสบการณ์การเดินทางที่ไม่ซ้ำเดิมให้กับนักท่องเที่ยว
Highlight
อย่างที่กล่าวไปการมาเยือนยังทะเลสาบแห่งนี้น่าสนุกก็ตรงที่จะได้เห็นทัศนียภาพของธรรมชาติที่สวยงามในมุมที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะมาเยือนในฤดูกาลใด ก็จะประทับใจอย่างแน่นอน
วิวภูเขาไฟฟูจิที่งดงาม
ภาพของภูเขาไฟฟูจิที่สะท้อนบนผิวน้ำ เป็นหนึ่งในวิวที่โด่งดังที่สุดของทะเลสาบอาชิโนโกะเลยก็ว่าได้ เพราะจะได้พบภาพความแตกต่างที่สวยงามระหว่างเมฆสีขาว ทะเลสาบสีฟ้า และภูเขาสีเขียวเป็นหนึ่งในทัศนียภาพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น และยังสามารถชมทิวทัศน์แบบพาโนรามาของภูเขาไฟฟูจิและบริเวณโดยรอบได้จากที่แห่งนี้โดยวิธีการเดินทางหลากหลายรูปแบบที่น่าสนุกและชวนให้ประทับใจไม่รู้ลืม
Hakone Sightseeing Cruise ล่องเรือชมวิวทะเลสาบฟินๆ
มีเรือให้บริการหลายประเภท ทั้งเรือโดยสารทั่วไป เรือโจรสลัด และเรือขนาดเล็กสำหรับคู่รัก ลองใช้เวลาประมาณ 25-40 นาที ในการล่องเรือชมทิวทัศน์ฮาโกเน่ ที่มองเห็นจากทะเลสาบ นั้นเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก เพราะเรือทั้ง 3 ลำ Royal II, Victory, และ Queen Ashinoko ที่บริการสลับสับเปลี่ยนนั้นมีความน่าสนใจแตกต่างกันไป ซึ่งทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินได้
ผู้โดยสารสามารถขึ้นเรือได้จากท่าเรือ 3 ท่า ที่เปิดให้บริการริมทะเลสาบแห่งนี้ มีท่า Motohakone-ko ท่า Hakonemachi-ko และท่า Togendai-ko แต่อยากแนะนำให้ขึ้นเรือที่ท่า Motohakone-ko มากที่สุดเพราะเป็นท่าเรือที่สามารถมองเห็นจุดไฮไลท์ของทะเลสาบได้อย่างครบถ้วนที่สุด และใครอยากเที่ยวชมทะเลสาบแบบชิลๆ ก็มีเรือพายหงส์ให้เช่าด้วยนะ
เดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งสัมผัสบรรยากาศดีๆ ที่ Hakone Open Air Museum
ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันต่อเลย พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งชื่อดังของเมืองฮาโกเน่แห่งนี้ ใครที่คิดว่าการชมงานศิลปะต้องอยู่แต่เพียงในอาคารเท่านั้นนคิดผิดแล้วค่ะ เพราะที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมงานศิลปะที่สวยงามไปพร้อมกับธรรมชาติที่เปลี่ยนผ่านไปตามฤดูกาลได้ ทำให้ได้เสพงานศิลป์ ไปพร้อมกับการชมทัศนียภาพอันงดงามของหุบเขา และเทือกเขาโดยรอบ ก็ทำให้ที่นี่น่าประทับใจไปอีกหลายเท่าตัว สำหรับคนที่ชอบชมงานศิลปะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การมาที่นี่จะยิ่งรู้สึกคุ้มค่ามากๆ เพราะนอกจากจะได้ชมงานประติมากรรมที่จัดวางไว้ตามจุดต่างๆ กลางแจ้งแล้วยังมีพิพิธภัณฑ์ในร่ม ซึ่งภายในมีแกลเลอรี่ภาพวาด ภาพพิมพ์ ประติมากรรม และการแสดงผลงานเซรามิคให้ชมวนไปตลอดทั้งปี
สัมผัสน้ำพุร้อนวิวธรรมชาติที่ Hakone Onsen
ฮาโกเน่มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังมีน้ำพุร้อนหรือออนเซ็นหลากหลายสไตล์ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสและเพลิดเพลินได้ตามใจต้องการ โดยมีรีสอร์ทน้ำพุร้อนอย่างน้อย 20 แห่งรอบภูเขาในฮาโกเน่ น้ำพุร้อนแต่ละแห่งมีประวัติศาสตร์ และความน่าดึงดูดใจของตัวเอง สามารถหาน้ำพุร้อนพร้อมวิวทิวทัศน์ภูเขา จะมาเป็นคู่รัก กับแก๊งเพื่อน หรือมาเป็นครอบครัวก็สนุกและได้ประสบการณ์การแช่น้ำพุร้อนที่น่าประทับใจ ส่วนคุณสมบัติของน้ำออนเซ็นของฮาโกเน่นั้นได้รับความร้อนตามธรรมชาติและไหลผ่านพื้นที่ทางธรณีวิทยาต่างๆ ทําให้น้ำเต็มไปด้วยแร่ธาตุที่มีคุณสมบัติช่วยในการฟื้นฟูผิวพรรณเป็นพิเศษ
ขึ้น Hakone Ropeway ไปมองฟูจิซังใกล้ๆ
การได้ยืนมองความยิ่งใหญ่อลังการของภูเขาไฟฟูจิอยู่จากมุมใดมุมหนึ่งนี่ เป็นความสุขอย่างหนึ่งเหมือนกัน โดยเฉพาะภาพจากหน้าต่างของ Hakone Ropeway ที่กำลังพาเราออกเดินทางไปยังด้านบนของภูเขาโคมากะทาเกะที่ก็ว่าสวยมากแล้ว การขึ้นไปยืนอยู่บนภูเขาที่ขึ้นชื่อว่าสูงที่สุดในฮาโกเน่บนความสูง 1,357 เมตรจากระดับน้ำทะเลด้วย แล้วมองวิวฟูจิซังอยู่บนนั้นก็ยิ่งมีความสุขอย่าบอกใคร
Hakone shrine ขึ้นชื่อว่าเป็นพาวเวอร์สปอตสุดขลังของฮาโกเน่
ศาลเจ้าฮาโกเน่อันงดงามนั้นเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ห้ามพลาดเลยเมื่อมายังทะเลสาบอาชิโนโกะแห่งนี้ โดยศาลเจ้าฮาโกเน่นั้นมีไฮไลท์อยู่ที่ประตูโทริอิสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่สามารถมองเห็นได้จากการล่องเรือชมทิวทัศน์ฮาโกเน่ แต่ส่วนอาคารหลักของศาลเจ้าที่ทาสีแดงอันโดดเด่นนั้นตั้งอยู่ในป่าด้านหลังอันเงียบสงบ ว่ากันว่าศาลเจ้าฮาโกเน่มีความศักดิ์สิทธิ์มากในภูมิภาคคันโต ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 757 เป็นที่สักการะของแม่ทัพยามที่ออกรบ หากได้มีโอกาสไปเยือนจะพบว่าที่นี่บรรยากาศดูมีมนต์ขลังและมีความสวยงามมาก
บริเวณด้านบนมีศาลเจ้าเล็กๆ ให้สักการะ และสำหรับคนที่ชอบผจญภัย ด้านบนภูเขานั้นมีเส้นทางเดินป่าที่น่าสนใจ ยิ่งในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสปลอดโปร่งเมื่อขึ้นไปยังด้านบนการได้มองเห็นภาพหมู่เกาะอิสุ ทะเลสาบอาชิ และยอดฟูจิซังที่งดงาม พร้อมๆ กันแบบนี้ช่วยเติมพลังชีวิตได้มากเลย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเที่ยว
ไปทะเลสาบอาชิโนโกะฤดูกาลไหนดี คำถามนี้อาจจะตอบยากไปสักหน่อย เพราะแต่ละฤดูกาลก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
เป็นช่วงเวลาที่อากาศในญี่ปุ่นกำลังเย็นสบาย และมีโอกาสน้อยที่หมอกจะบดบังทัศนวิสัยของภูเขาไฟฟูจิ ยิ่งไปกว่านั้นช่วงฤดูกาลนี้เหล่าดอกซากุระที่บานสะพรั่งยังเป็นฉากหลังที่งดงามสําหรับการถ่ายภาพทําให้ทิวทัศน์งดงามยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบสีสันสวยงามของดอกไม้นานาพรรณจะเลิฟช่วงเวลานี้เป็นพิเศษ
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
ในฤดูร้อนที่ทะเลสาบอาชิโนโกะนั้นจะมีอากาศร้อนชื้น เหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำมากมาย และที่พลาดไม่ได้คือการร่วมงานเทศกาลฤดูร้อนเทศกาลประจำท้องถิ่นที่จัดขึ้นริมทะเลสาบอาชิโนโกะตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ช่วงปลายเดือนก.ค.ของทุกปี นี่คือหนึ่งในเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮาโกเน่ สามารถมาเดินเล่นท่ามกลางแผงขายอาหารริมฝั่งทะเลสาบที่เย็นสบาย และเพลิดเพลินกับการแสดงดอกไม้ไฟในตอนเย็น บรรยากาศอันเงียบสงบมีภาพโคมลอยและประตูศาลเจ้าสีแดงที่ประดับไฟเป็นภาพที่งดงามเกินบรรยายจริงๆ
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
ภาพใบไม้เปลี่ยนสีที่ล้อมรอบทะเลสาบจะพากันสร้างซิมโฟนีของสีสันช่วยเพิ่มความงามของภูมิทัศน์ ในเวลานี้ถ้ามาในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสด้วย จะมีโอกาสในการถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิที่สมบูรณ์แบบ
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
ช่วงนี้จะมีอากาศหนาวเย็น อาจมีหิมะตกร่วมด้วย จึงเหมาะสำหรับการแช่น้ำพุร้อนที่สุด ซึ่งสำหรับที่ทะเลสาบอาชิโนโกะแห่งนี้จะมีอากาศหนาวเย็น และภูเขาไฟฟูจิจะมีหมวกหิมะปกคลุมสวยงาม แต่ถ้าในวันที่ทัศนวิสัยไม่ดี มีหมอกลงจัดบริการล่องเรือชมวิวในทะเลสาบอาชิโนโกะอาจมีจํากัดหรือไม่เปิดให้บริการได้
ออนเซ็นแนะนำ
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าฮาโกเน่มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น เราจึงอยากแนะนำสถานที่ที่ทำให้ได้มีประสบการณ์การแช่น้ำพุร้อนหรือออนเซ็นที่มีวิวที่สวยงามและสรรพคุณของน้ำที่ดีเยี่ยมเมื่อมีโอกาสไปเยือนยังฮาโกเน่
โยชิอิเคะ เรียวกัง (Yoshiike Ryokan)
ท่ามกลางสวนญี่ปุ่นมีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติแท้ 100% ที่สามารถเพลิดเพลินได้ในทุกฤดูกาล ภายในมีบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวจำนวน 6 บ่อ ที่มีการปล่อยน้ำไหลอย่างอิสระ ถือเป็นน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในฮาโกเน่ด้วยอัตราการพ่นสูงสุด 720 ลิตรต่อนาที เราสามารถเพลิดเพลินกับการอาบน้ำได้หลากหลาย แนะนำบ่อน้ำพุร้อนที่อยู่กลางแจ้งในสวนหินธรรมชาติ พร้อมทิวทัศน์มุมกว้างของต้นไม้ในสวน ในขณะเดียวกันก็มีห้องอาบน้ำส่วนตัว ที่คุณสามารถผ่อนคลายกับครอบครัว หรือใครสะดวกลแช่น้ำพุร้อนแบบไปเช้าเย็นกลับ ที่นี่ก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน ส่วนสรรพคุณของน้ำพุร้อนที่นี่ช่วยรักษาอาการปวดต่างๆ ได้เป็นอย่างดีเลย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Yoshiike Ryokan
เรียวกัง ฮาโกเน่ กินยู (Ryokan Hakone Ginyu)
เรียวกังหรูหรา สไตล์โรงแรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมซึ่งห้องพักทุกห้องมีอ่างอาบน้ำแบบเปิดโล่งริมระเบียง และห้องรับประทานอาหาร ผู้ที่เข้าพักที่นี่สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของหุบเขาจากห้องพักของตนเองที่ระดับความสูงราวๆ 420 เมตร เป็นเรียวกังที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและสามารถมองเห็นแม่น้ำฮายาคาวะด้านล่างได้อีกด้วย แนะนำให้มาชมทัศนียภาพแบบพาโนรามาในฤดูกาลต่างๆ ของที่นี่ และแช่น้ำพุร้อนที่มีองค์ประกอบของบ่อน้ำพุร้อนเพื่อผิวสวย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Ryokan Hakone Ginyu
โทโนซาวะ ออนเซ็น (Tonosawa Onsen)
ผืนป่าสีสันสดใสในฤดูใบไม้ร่วงเป็นภาพออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะภาพธรรมชาติที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสะพานโทโนะซาวะ ซึ่งตั้งอยู่เหนือผืนน้ำอันเงียบสงบของแม่น้ำฮายาคาวะ เมื่อมาที่นี่แล้วจะพบว่าตัวเองอยู่ในรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่กลมกลืนของธรรมชาติและเพลิดเพลินกับฤดูกาลของฮาโกเน่ เรียวกังแห่งนี้มีห้องอาบน้ำกลางแจ้งที่นำเสนอผ่านผลงานศิลปะในรูปแบบที่สวยงาม ทั้งหินมิคาเงะขัดเงา กับไม้ไซเปรสอาโอโมริที่มีกลิ่นหอม ส่วนน้ำออนเซ็นนั้นมีสรรพคุณทำให้ผิวอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น และคืนความอ่อนเยาว์อย่างทั่วถึง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tonosawa Onsen
การเดินทาง
Hakone Free Pass
เมื่อมีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวในฮาโกเน่ แนะนำบัตรโดยสาร Hakone Free Pass ที่ให้บริการโดยบริษัทรถไฟ Odakyu ทำให้ทริปการเดินทางในฮาโกเน่ของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้นในระยะเวล่ 2-3 วัน โดยบัตรโดยสาร Hakone Free Pass นี้สามารถใช้เดินทางเดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งในเครือข่ายคมนาคมขนส่ง 8 แห่ง รวมถึงรถไฟ Hakone Tozan, รถบัส Hakone Tozan (ภายในพื้นที่ที่กำหนด), Hakone Sightseeing Cruise, Hakone Ropeway และอื่นๆ อีกมากมาย! สามารถใช้เป็นส่วนลดการเดินทางไป-กลับจากชินจูกุ โตเกียวมายังฮาโกเน่ได้ และยังได้รับสิทธิพิเศษ พร้อมทั้งส่วนลดในสถานที่กว่า 70 แห่ง รวมทั้งบ่อน้ำพุร้อนและสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ฮาโกเน่อีกด้วย
รายละเอียด | เดินทางจาก | ผู้ใหญ่ | เด็ก |
---|---|---|---|
บัตร 2 วัน | จาก Shinjuku | ผู้ใหญ่ 6,100 เยน | เด็ก 1,100 เยน |
บัตร 2 วัน | จาก Odawara | ผู้ใหญ่ 5,000 เยน | เด็ก 1,000 เยน |
บัตร 3 วัน | จาก Shinjuku | ผู้ใหญ่ 6,500 เยน | เด็ก 1,350 เยน |
บัตร 3 วัน | จาก Odawara | ผู้ใหญ่ 5,400 เยน | เด็ก 1,250 เยน |
ทะเลสาบอาชิโนโกะ (Lake Ashinoko)
ที่อยู่ | Motohakone, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa 250-0522 |
วิธีเดินทาง | จาก Odawara โดยสารรถบัส ใช้เวลา 50 นาที 1,180 เยน, จาก Hakone-Yumoto โดยสารรถบัส ใช้เวลา 35 นาที 960 เยน |
เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | Lake Ashinoko |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ขอบอกเลยว่าฮาโกเน่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เรียกว่าต้องวางแผนทริปดีๆ แถมยังมีบัตรโดยสารที่สามารถเดินทางแสนสะดวก และเข้าออกสถานที่หลายแห่งแบบราคาพิเศษสุดๆ เซฟเงินในกระเป๋าได้เยอะเลยนะ
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำฮาโกเน่ (Hakone-en Aquarium)
มาเที่ยวฮาโกเน่ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำฮาโกเน่-เอ็นให้เที่ยวด้วย โดยที่นี่ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 723 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ตั้งอยู่บนระดับความสูงที่สุดในญี่ปุ่นด้วย ส่วนภายในมีแทงค์น้ำทะเลขนาดใหญ่ ประกอบด้วยโซนน้ำจืดและโซนน้ำเค็ม และที่ “Baikal Seal Square” การแสดงแมวน้ำไบคาล ซึ่งมีลำตัวใหญ่และดวงตาน่ารัก มาจากทะเลสาบไบคาลในรัสเซียด้วย ซึ่งภายในยังทำการจัดแสดงสัตว์น้ำทะเลและน้ำจืดมากกว่า 32,000 ตัว จาก 450 สายพันธ์ มีฉลาม นกเพนกวิน ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ให้ชมแบบจุใจไปเลย
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำฮาโกเน่ (Hakone-en Aquarium)
ที่อยู่ | 139 Motohakone, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa 250-0522 |
วิธีเดินทาง | จากทะเลสาบอาชิโนโกะเดิน 4 นาที |
เวลาทำการ | 9.00 – 16.30 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, เด็ก (4 ขวบ – นักเรียนชั้นประถมศึกษา) 750 เยน |
Website | Hakone-en Aquarium |
พิพิธภัณฑ์ฮาโกเน่เอกิเด็น (Hakone Ekiden Museum)
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นเรือ Hakone Sightseeing Cruise เป็นสถานที่ที่รวมประวัติศาสตร์ 100 ปี การแข่งขันวิ่งผลัดระยะไกล โดยชื่ออย่างเป็นทางการของที่นี่คือ “Tokyo-Hakone Round-trip University Ekiden Race” และเป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีประวัติศาสตร์และประเพณีอันยาวนานที่สืบเนื่องมาจากการแข่งขันครั้งแรกในปีค.ศ. 1920 (Taisho 9) จนถึงปัจจุบัน ภายในมีสิ่งของและวิดีโอที่เล่าข้อมูลความเป็นมาของกีฬานี้ไว้อย่างเป็นอย่างดี
พิพิธภัณฑ์ฮาโกเน่เอกิเด็น (Hakone Ekiden Museum)
ที่อยู่ | 167 Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa 250-0521 |
วิธีเดินทาง | จากท่าเรือ Hakone Sightseeing Cruise เดิน 1 นาที |
เวลาทำการ | 9.00 – 16.30 น. (เสาร์-อาทิตย์ 9.30 – 17.00 น.) |
ราคา | ผู้ใหญ่ 600 เยน, เด็กนักเรียนชั้นประถมและมัธยมศึกษา 450 เยน |
Website | Hakone Ekiden Museum |
สวนสนุกน้ำพุร้อนฮาโกเน่ โควาคิเอ็น ยูเนสซัน (Hakone Kowakien Yunessun)
เป็นออนเซ็นธีมปาร์คที่สามารถสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครได้จากที่นี่ ราวกับเป็นสวนสนุกแห่งการแช่ออนเซ็นเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นออนเซ็นธีมปาร์คที่แบ่งเป็น 2 โซนหลักๆ มีทั้งโซน ออนเซ็น Yunessun เช่นออนเซ็นกาแฟ ออนเซ็นน้ำชาเขียว ออนเซ็นไวน์ ที่สามารถสวมชุดว่ายน้ำลงเล่นได้และใช้วัตถุดิบจริงๆ เป็นส่วนผสมในน้ำ อีกทั้งยังมีสรรพคุณในการบำบัดร่างกายที่แตกต่างกันออกไป แต่ในโซน Mori No Yu จะเป็นโซนที่ห้ามสวมเสื้อผ้าเหมือนออนเซ็นหลายแห่งในญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังมีโซนสปาปลา โซนสไลเดอร์ หรือโซนบ่อสำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะก็มีนะ
สวนสนุกน้ำพุร้อนฮาโกเน่ โควากิเอ็น ยูเนสซัน (Hakone Kowakien Yunessun)
ที่อยู่ | 1297 Ninotaira, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa 250-0407 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสฮาโกเน่โทซังจากสถานีฮาโกเน่-ยุโมโตะ มาลงที่ป้ายโควาคิเอ็น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที |
เวลาทำการ | วันธรรมดา 10.00 น. – 18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9.00 น. – 19.00 น. |
ราคา | Passport For All Areas (เข้าได้ทั้งโซน Yunessun และ Mori No Yu ) ผู้ใหญ่ 3,500 เยน เด็ก 1,800 เยน เฉพาะ Yunessun ผู้ใหญ่ 2,500 เยน เด็ก 1,400 เยน เฉพาะ Mori No Yu ผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็ก 1,000 เยน |
Website | Hakone Kowakien Yunessun |
สรุป
ทะเลสาบอาชิโนโกะ (Lake Ashinoko) และสถานที่หลายแห่งในฮาโกเน่ เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นที่เดินทางสะดวก อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว สำหรับคนที่อยากเห็นภูเขาไฟฟูจิในระยะใกล้ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุดที่สามารถมองเห็นได้ ถือเป็นทริปฟินๆ สำหรับคนที่อยากเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของภูเขาที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบครันทั้งธรรมชาติ ออนเซ็น โรงแรมวิวสวยๆ พิพิธภัณฑ์หลายแห่ง แถมตลอดการเดินทางยังมีบัตรโดยสารที่จะมารองรับให้การเดินทางท่องเที่ยวให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น และกลายเป็นอีกทริปการเดินทางที่น่าประทับใจอันดับต้นๆ ของคุณอย่างแน่นอน