คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
5%
10%
17%


โอสุ คันนง คือวัดเจ้าแม่กวนอิมที่มีชื่อเสียงของนาโงย่า องค์พระแกะสลักจากไม้ ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม เมื่อไปถึงวัด ก็ให้ไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม ที่อยู่ในตัวอาคารด้านบน

เริ่มจากกวักควันธูปเขาหาตัวก่อน เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย จากนั้นวิธีสักการะตามแบบฉบับญี่ปุ่น ก็เริ่มจากโยนเหรียญ (ควรใช้เหรียญมีรู เช่นเหรียญ 5 เยน) จากนั้นสั่นกระดิ่ง, คำนับสองครั้ง แล้วตบมืออีกสองครั้ง จึงค่อยขอพรค่ะ แล้วก็คำนับอีก 1 ที เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ
Osu Kannon (โอสุ คันนง)
| ที่อยู่ | 2-21-47 Osu, Naka-ku, Nagoya, Aichi 460-0011 |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | นั่งสาย Tsurumai Line มาลงที่สถานี Osu Kannon เดินออกมาไม่ไกลก็จะพบกับบริเวณวัด |
| เวลาทำการ | ตลอด 24 ชั่วโมง |
| Website | Osu Kannon (ภาษาญี่ปุ่น) |

จากนั้นเราก็เดินช้อปปิ้งกันต่อ พอท้องเริ่มหิว ก็มาต่อกันที่ร้านหมูทอดมิโซะเจ้าดัง Misokatsu Yabaton ที่เปิดกิจการที่นี่มานานกว่า 60 ปี และยังเป็นเจ้าเก่าแก่สาขาแรกอีกด้วย
สำหรับชาวนาโงย่า “มิโซะแดง” คือของขึ้นชื่อที่ถ้ามาแล้วต้องไปชิม เพราะถ้าไปชิมจังหวัดอื่น ก็จะไม่ได้รสหรือสีแบบนี้ เพราะที่นี่เป็นแหล่งปลูกถั่วที่ขึ้นชื่อ และมีกรรมวิธีหมักแบบไม่เหมือนใคร
หมูทอดยาบะตง มีให้เลือกหลากหลายเมนู ฮิตกันมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย จนถึงกับขอเมนูภาษาไทยได้ที่สาขานี้ ส่วนจะอร่อยกว่าสาขาที่ไทยหรือไม่ ขอให้ลองไปทานดูค่ะ

เมนูที่เราสั่ง คือ Waraji Misokatsu Half-Half หมูสันนอก (น่าจะเป็นหมูยักษ์) ชุบเกล็ดขนมปังทอด ราดซอสอะคะมิโซะ แลอีกครึ่งเป็นวูสเตอร์ซอส(ซอสทงคัตสึ) เวลาทาน พนักงานจะเอาซอสมิโซะมาราดให้เลย ช่างน่าตื่นตาตื่นใจ

บนซ้ายเป็น Teppan Hire Misokatsu หมูสันในนุ่มๆ ในเซตมีข้าวและซุปเติมได้ไม่อั้น

บรรยากาศความสงบก่อนพายุลูกค้ามา พอเที่ยงปุ๊บ ลูกค้าก็เริ่มยืนต่อแถวตามขั้นบันไดตั้งแต่ชั้น 1 ขึ้นไปถึงชั้น 5 เลยทีเดียว ถ้ามาแล้วเจอคิวยาวเหยียด ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะด้วยการบริการที่ฉับไว ยืนรอไม่นานค่ะ
มิโซะคัตสึ ยาบะตง สาขาใหญ่ (Misokatsu Yabaton Honten)
| ที่อยู่ | 3-6-18 Osu, Naka-ku, Nagoya-shi, Aichi-ken |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | เดินจากสถานี Yabacho หรือสถานี Osu Kannon 5 นาที |
| เวลาทำการ | 11:00-21:00 น. (ไม่มีวันหยุด) |
| Website | Misokatsu Yabaton Honten |
เราเดินทางต่อแบบอืดๆ โดยนั่งรถไฟย้อนเส้นทางเดิม กลับไปยังสถานีนาโงย่า Nagoya Station จากนั้นก็ได้เวลาใช้เจ้านี่แล้ว มันคืออออออออออ!!!!?! Kintetsu Rail Pass แบบ Plus

ที่เราเลือกใช้ Kintetsu Rail Pass แบบ Plus ก็เพราะคินเท็ตสึ มีสายรถไฟที่ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ๆ แถบคันไซ ไล่ตั้งแต่นาโงย่า โอซาก้า เกียวโต นารา อิเสะ ทำให้เรารู้สึกสบายใจ ไม่ต้องมานั่งคำนวณเรื่องค่าใช้จ่ายจุกจิกในการเดินทาง
บัตรโดยสารรถไฟของ Kintetsu ที่เราใช้ เป็นแบบ Pass 5 day Plus ราคา 5,700 เยน ซื้อจากที่ไทยถูกกว่า (ถ้าซื้อที่สนามบินญี่ปุ่น 5,900 เยน) บัตรนี้สามารถใช้โดยสารรถไฟฟ้าคินเท็ตสึได้ทุกสาย รวมไปถึงรถไฟอิกะ และรถบัสด้วย ลองศึกษาเพิ่มเติมกันได้ที่นี่ค่ะ >>> Kintetsu
และที่เจ๋งคือ จะได้รับส่วนลดร่วมกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆใน นาโงย่า มิเอะ นารา เกียวโต โอซาก้า บางทีลดเยอะด้วยนะ สายวางแผนลองตามไปเช็คดูค่ะ >>> Kintetsu
เราเริ่มต้นใช้งานเจ้า Kintetsu Rail Pass กันที่ สถานี Kintetsu Nagoya อยู่ในตัวสถานีนาโงย่านี่แหละ แค่เดินตามป้ายไป รับรองไม่หลงทาง

มาถึงก็จะเจอกับทางเข้าหน้าตาแบบนี้ มีคุณน้าใจดีคอยยืนให้ข้อมูลกับชาวต่างชาติด้วย เราเดินกันตัวปลิวเข้าไป ต่อรถไฟ Kintetsu Limited Express ไปลงที่ Kuwana Station ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที

จากนั้นก็ใช้เจ้า Pass หนึ่งเดียวของเรา ต่อรถบัสของคินเท็ตสึ จาก สถานี kuwana ไปยัง Nabana-no Sato ได้เลยไม่ต้องจ่ายตังค์เพิ่ม (เพราะมันรวมไปในบัตรแล้ว555 ที่เหลือก็แค่นั่งให้คุ้ม)

หาป้ายทางออก 2 เดินออกมา จะเจอป้ายรถบัสแบบนี้ค่ะ
บานานะ เย๊ย!! นาบานะ โนะ ซาโตะ เป็น หนึ่งในสวนดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะมาในฤดูไหน จะมีดอกไม้สวยๆตามฤดูกาลนั้นรอต้อนรับเราอยู่ในเวลากลางวัน และในช่วงเดือน ต.ค. – พ.ค. มีไฮไลท์ที่การประดับประดาไฟหลากสีสันในเวลากลางคืน

ที่ที่เราเข้าไปกันเป็นเรือนเพาะชำดอกบิโกเนีย ชื่อ Andes Flower Garden/Begonia Garden ซึ่งขอบอกว่า มันสวยงามและมีขนาดใหญ่ มากกกกกกจริงๆค่ะ

และเนื่องจากสวนแห่งนี้อยู่ในร่ม อากาศจึงเย็นสบาย สามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลสภาพอากาศข้างนอก

ด้านนอกของเรือนกระจก ก็ยังเต็มไปด้วยสถานที่สนุกๆมากมาย มีน้ำพุร้อนให้แช่เท้าด้วย

ที่ชอบสุดคืออันนี้ ฟูจิซัง หรือภูเขาไฟฟูจิ ที่ดูเผินๆมีความ…อิหยังวะ ทำไมอยู่ตรงนี้อ่ะ…แต่พอเผลอหันไปแป๊บเดียว

มันลอยได้เฉยเลยจ้าาาาา ! สูงมากกกกกก ตอนแรกแอบตกใจ นึกว่ายานแม่มารับ
Nabana no Sato:นาบานะ โนะ ซาโตะ
| ที่อยู่ | 270 Komae-urushibata, Nagashima-cho, Kuwana-shi, Mie |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | สถานี Kintetsu Nagoya >> ต่อรถไฟ Kintetsu Limited Express ไปลงที่ Kuwana Station >>ต่อรถบัสของคินเท็ตสึ ไปยัง Nabana-no Sato |
| เวลาทำการ | 10:00 – 21:00 น. (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล) |
| ราคา | 2,500 เยน มีคูปอง (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล) |
| โทรศัพท์ | +81-594-41-0787 |
| Website | Nabana no Sato (ภาษาญี่ปุ่น) |

ใครจะไปรู้ว่า กลางดง…พงป่าเขาลำเนาไพร จะมีสถานที่สุดชิคซ่อนตัวอยู่เงียบๆ ที่นี่มีทั้งทั้งสปา คาเฟ่ บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง ฯลฯ บรรยากาศสวยงามน่าประทับใจ

ที่ชอบสุดคือที่พักค่ะ เป็นบ้านแยกกัน 4 หลัง แต่ละหลังจะออกแบบตกแต่งไม่เหมือนกัน

มีบ่อแช่น้ำร้อนกลางแจ้งแยกออกไปเป็นส่วนตัว

ลานหลังบ้านมีเปลญวนไว้นอนอ่านหนังสือ

ห้องญี่ปุ่น ที่เปิดออกไปเป็นสวน และมีขนมกับชาไว้ต้อนรับ

ห้องน้ำที่มีของทุกอย่างเตรียมไว้เกินครบครัน ตั้งแต่หวี (สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผมไม่ต้องพูดถึง) โฟมล้างหน้า โทนเนอร์ ครีมบำรุงผิว โลชั่น ก็มี โดยผลิตกับแบรนด์เครื่องสำอางค์ MMC ไฮโซมาก! ไม่ต้องแบกโต๊ะเครื่องแป้งมาเอง

จากนั้นเราลงไปทานอาหารเย็นที่ห้องอาหาร คะสะอัน ซันปิเรียวรง [Kasaan] Sanpiryoron จากร้านอาหารสามารถมองเห็นวิวสวยงาม

ร้านอาหารนี้อยู่ในความดูแลของเชฟชื่อดัง อารมณ์ประมาณเชฟกระทะเหล็กบ้านเรา คือเชฟ Masahiro Kasahara โดยเมนูที่เสริฟจะเป็น Full Course แบบญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า “ไคเซกิ” อาหารจะถูกนำมาเสริฟทีละจาน ไปจนครบเซ็ต

แต่ละจานจะรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบขึ้นชื่อของมิเอะ เช่น เนื้อมัตสึซากะ!

บรรยากาศภายในห้องนอน


ที่นี่มีไร่สตรอว์เบอร์รี่ด้วยนะ ใครมาที่นี่ช่วงธันวาคม – พฤษภาคม ก็จะได้ลองเก็บสตรอว์เบอร์รี่สดๆจากไร่ดู หรืออาจจะได้เจอเชฟขนมหวาน Tsujiguchi มาเดินเก็บสตรอว์เบอร์รี่ไปทำของหวานให้เราทานด้วย

พูดถึงของหวาน ที่นี่มีร้านของหวาน ConfitureH ที่เราสามารถเอนจอยเมนูลิมิเต็ดจากเชฟชื่อดัง ได้ที่นี่ที่เดียว

เค้กแต่ละชิ้นหน้าตาและรสชาติประณีตมาก แถมที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ ราคาไม่ได้แพงเว่อร์วังอย่างที่คิดเลย เราเลยจัดชุดใหญ่กันไป

แต่ถ้าใครไม่ใช่สายของหวาน ที่นี่ยังมีร้าน Mariage de Farine ที่แปลเป็นไทยว่า “การแต่งงานของแป้ง” เพราะรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ของขนมปังที่นี่ เกิดจากการผสมผสานจากแป้งที่มีในจังหวัดมิเอะเท่านั้น

ขนมปังพวกนี้ แขกสามารถไปเลือกหยิบที่ร้านเพื่อมาทานคู่กับอาหารเช้าได้
Aquaignis:อะควาอิกนิส
| ที่อยู่ | 4800−1 Komono, Mie District, Mie 510-1233 |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | สถานี Kintetsu Nagoya >> ต่อรถไฟ Kintetsu Limited Express Kintetsu-Yokkaichi Station จากนั้นเปลี่ยนสาย >> นั่ง Kintetsu-Yunoyama Line >> Yunoyama onsen Station >> เดิน (10นาที) หรือนั่งบัส หรือแทกซี่ >> Aquaignis |
| เวลาทำการ | ร้านอาหาร 9:00 น. – 21:00 น. / โรงแรม เช็คอิน 15:00 น. เช็คเอาท์ ก่อน 11:00 น. |
| โทรศัพท์ | 059-394-1511 |
| Website | Aquaignis |


อิเสะ นอกจากจะมีทะเล ก็ยังมีภูเขาที่สวยงาม Gozaisho Ropeway เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่า สามารถขึ้นมาชมวิวที่สวยได้ในทุกฤดู

เพื่อนคนญี่ปุ่นแอบกระซิบมาว่า ถ้ามาในฤดูร้อน ท้องฟ้าเปิด ก็จะสวยกว่านี้ ถ้ามาในฤดูใบไม้ร่วง ก็จะเห็นภูเขาสลับสีเหลือง แดง สวยงาม แต่ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวก็จะได้เห็นทัศนียภาพหิมะที่ขาวโพลน ส่วนฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้สีต่างๆก็จะเบ่งบาน พูดซะทำเอาอยากมาให้ครบทุกฤดูเลย
แล้วก็ถ้ามีบัตร Kintetsu Rail Pass สามารถลดราคาค่าเข้าได้ 30%เลยนะ >>> Kintetsu
Gozaisho Ropeway
| ที่อยู่ | 8625 Yunoyama Onsen, Komono, Komono, Mei-gun, Mie 510-1233 |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | สถานี Kintetsu Nagoya >> ต่อรถไฟ Kintetsu Limited Express Kintetsu-Yokkaichi Station จากนั้นเปลี่ยนสาย>>นั่ง Kintetsu-Yunoyama Line >> Yunoyama onsen Station >> นั่งรถบัส >> Gozaisho Ropeway |
| เวลาทำการ | เดือนเมษายน- เดือนพฤศจิกายน 9:00 – 17:00 น. |
| ราคา | เซตขึ้นเคเบิลคาร์ : ผู้ใหญ่ 3,300 เยน/เด็ก(ตั้งแต่ 4 ขึ้นไป) 2,000 เยน |
| โทรศัพท์ | 059-392-2261 |
| Website | Gozaisho Ropeway |

คนรักช็อกโกแลตต้องมาแสวงบุญที่นี่ ร้านขายช็อกโกแลตสุดชิค มีช็อกโกแลตจากที่ต่างๆทั่วโลกมาให้ลองชิม ที่สำคัญคือเนื้อช็อกโกแลตจะมีส่วนผสมจากเมล็ดโกโก้และน้ำตาลชนิดพิเศษล้วน ไม่มีนมวัวผสม รสชาติของช็อกโกแลตทุกชิ้น จึงเป็นรสชาติของโกโก้ที่มาจากแต่ละสายพันธุ์จริงๆ

บริเวณหน้าเค้าน์เตอร์สามารถชิมช็อกโกแลตได้

เราเลือกทานเมนูที่มีเฉพาะที่มิเอะ คือ Ise Hot Cholote ที่ผสมโฮจิชะ (ชาคั่วแบบญี่ปุ่น) ห๊อมหอม แถมคุณภาพและรสชาติล้นแก้ว (ล้นจริงๆต้องค่อยๆจิบ) ถือว่าคุ้มมาก
เผื่อคุณไปถึงแล้วยังยืนมึนงงอยู่หน้าเค้าน์เตอร์ เราขอแนะนำให้จิ้มไปที่อันนี้ Chef’s Tasting ก็ในเมื่อเชื่อใจตัวเองไม่ได้ ก็เอาอันที่เชฟแนะนำให้เลยละกัน

ในเซ็ตจะมีของหวานที่ทำจากโกโก้ 5 ชนิดจาก 5 แหล่งที่มา และเชฟยังกระซิบว่า เมนูนี้ มีขายที่แดนดี้ไลอ้อน สาขา Ise Geku เท่านั้นนาจาาาา คุ้มค่ากับการบุกมาถึงที่นี่จริงๆ
Dandelion Chocolate สาขา ISE GEKU
| ที่อยู่ | 20-24 Honmachi, Ise, Mie 516-0074 |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | สถานี Kintetsu Nagoya >> นั่ง Kintetsu-Limited Express ไปลงที่สถานี Iseshi เดินต่อประมาณ 7 นาที |
| โทรศัพท์ | 0596-63-6631 |
| Website | Dandelion Chocolate |

โอฮาราอิ มาจิ เป็นทางเดินปูด้วยหินยาว สองข้างทางมีร้านค้าเก่าแก่เรียงราย ขนาดวันฝนตก คนยังเดินกันเยอะแยะ และที่ฉันสังเกตได้คือ มีแต่ชาวญี่ปุ่น ว่ากันว่าทุกคนจะต้องมาสักการะที่นี่ อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต

หนึ่งในร้านที่ไม่ว่าใครที่มาอิเสะต้องแวะไป คือขนมเก่าแก่ร้านนี้ ที่มีจุดสังเกตคืออยู่ถัดจากสะพาน

ไฮไลท์อยู่ที่ขนม อะคะฟุกุ (Akafuku) ที่ปกติจะมีไส้ถั่วแดงอยู่ด้านใน แต่ของที่นี่เอาไส้มาห่อแป้ง รสชาติดีขนาดไหน อยากให้ไปลองกันเอาเอง และที่ดีไม่แพ้รสชาติเลยก็คือ บรรยากาศของร้าน ที่เป็นแบบโบราณ เรานั่งทานขนมแสนอร่อยกับชาร้อนควันฉุยบนแคร่ไม้ไผ่ ชมวิวสวนและสะพานญี่ปุ่นที่ชุ่มฉ่ำด้วยสายฝน ข้อดีของวันฝนตกคือ คนไม่แน่น เพราะถ้ามาวันปกติละก็ คิวยาว คนแน่นเว่อออ

จากโอฮาราอิมาจิ เดินมาถึงรูปปั้นแมวกวักยักษ์ จะเรียกว่าเป็น ถนนโอคาเงะโยโกะโจ (Okage Yokocho) เป็นถนนที่น่ารักมาก เต็มไปด้วยร้านอาหารมากมาย เราแวะทานอุด้งกันที่ร้านนี้

อุด้งของมิเอะจะมีลักษณะเด่นคือ อ้วนๆ นุ่มนิ่มๆ ต่างจากอุด้งปกติ (อย่าเข้าใจผิดว่าเส้นอืด555)
ถนน โอคาเงะ โยโกะโจ Okage Yokocho
| ที่อยู่ | 52 Ujitachi-cyo , Ise-shi, Mie 516-8558 |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | เดินทางจากสถานี Ujiyamada โดยขึ้นบัสที่ป้ายหมายเลข 1 และลงที่ป้าย Naiku-Mae |
| เวลาทำการ | 9:30 – 17:00 น. |
| โทรศัพท์ | 0596-23-8838 |
จากถนนโอคาเงะโยโกะโจ เราเดินต่อไปยัง ศาลเจ้าชั้นใน หรือ ในคุ (Naiku) เพื่อไปศักการะศาลเจ้าอิเสะ ไฮไลต์ของทริปนี้

เมื่อไปถึงจะเจอเสาโทริอิไม้สูงใหญ่ คนญี่ปุ่นจะคับนับ 1 ที เพื่อเป็นการขอขมาที่เข้ามารบกวน จากนั้นเดินไปตามสะพาน โดยสะพานจะแบ่งเป็นสองฝั่ง ขาเข้าและออก จะต้องเดินชิดขวานะจ๊ะ
ในบริเวณศาลเจ้ามีต้นไม้เขียวชอุ่ม พอฝนตกแล้วบรรยากาศชุ่มฉ่ำมาก ได้กลิ่นของฝน และถ้าใครสังเกตดีๆ จะได้กลิ่นหอมของต้นไม้ด้วย

เราล้างมือกันก่อนเข้าศาลเจ้า วิธีล้างแบบญี่ปุ่นคือ ตักน้ำ ล้างมือข้างซ้าย จากนั้นข้างขวา เสร็จแล้วให้ตั้งกระบวยขึ้นในแนวตรง ปล่อยให้น้ำไหลลงจากกระบวย เพื่อล้างด้ามจับด้วย เป็นอันครบสูตรค่ะ

ถัดจากนั้นจะมีทางเดินไปยังลำธารศักดิ์สิทธิ์ที่เราสามารถลงไปสัมผัสได้เช่นกัน

เมื่อเดินมาเรื่อยๆจะพบกับศาลเจ้าอิเสะจิงกุในคุ ซึ่งถือเป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญมากที่สุดในญี่ปุ่น ว่ากันว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ (Power Spot) ซึ่งเป็นสถานที่สักการะเทพีแห่งดวงอาทิตย์ อามาเตระสุ (Amaterasu) เป็นที่ที่สมเด็จพระจักรพรรดิเสด็จมาประกอบพิธีขึ้นครองราชสมบัติ และยังเป็นที่เก็บ 1 ใน 3 เครื่องราชกกุธภัณฑ์ ที่ใช้ในพระราชพิธีด้วย ห้ามลืมขอพรเด็ดขาด!
ศาลเจ้าอิเสะ Ise Grand Shrine
| ที่อยู่ | 1 Ujitachicho, Ise, Mie 516-0023 |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | สถานี Kintetsu Nagoya >> นั่ง Kintetsu-Limited Express ไปลงที่สถานี Iseshi >> ต่อรถบัสมาที่ Ise Grand Shrine |
| เวลาทำการ | 05:00 – 19:00 น. |
| โทรศัพท์ | 0596-24-1111 |
| Website | Ise Grand Shrine |

บรรยากาศของโรงแรมทำให้เรานึกว่าอยู่บนเกาะในดินแดนแถบเมดิเตอร์เรเนียน ดูสิๆ ผนังสีขาว ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า

มีระเบียงทางเดินให้ออกไปชมความงามรอบๆ

บรรยากาศภายในโรงแรมที่เหมือนกับปราสาทราชวัง

ห้องนอนที่เตียงกว้างมากกกก มีเครื่องใช้ครบครัน สามารถเลือกได้ว่าจะใช้เครื่องสำอางค์แบรนด์ฝรั่งเศส หรือแบรนด์มิกิโมโตะ ซึ่งเป็นแบรนด์ไข่มุกชื่อดังของโลก ที่มีจุดกำเนิดที่มิเอะ
แถมถ้ามากันช่วงโลซีซั่นแบบพวกเรานี่ ราคาห้องถือว่าคุ้มเลยทีเดียวค่ะ เราเลยสามารถไปทานมื้อค่ำสุดอลังกันได้ในวันพรุ่งนี้ อาหารของที่นี่ได้ชื่อว่ามาจากฝีมือของเชฟรางวัลระดับโลกเลยทีเดียว ไว้จะมาเล่าให้ฟังตอนหน้าค่ะ

ราตรีสวัสดิ์ด้วยภาพวิวจากห้องพักค่ะ
โรงแรม Miyako Resort Shima Bayside Terrace
| ที่อยู่ | 3618-33 Agocho Ugata, Shima, Mie 517-0501 |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | สถานี Kintetsu Nagoya >> นั่ง Kintetsu-Limited Express >> Kashikojima Station >> นั่ง Shuttle Bus ของโรงแรม >> Miyako Resort |
| เวลาทำการ | เช็คอิน 15:00 น., เช็คเอาท์ ก่อน 11:00 น. |
| โทรศัพท์ | 0599-43-7211 |
| Website | Miyako Resort Shima Bayside Terrace |
เราจบวันที่สองกันอย่างสวยงามต้องบอกว่า มิเอะ เป็นสถานที่ที่ Unseen จริงๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วชาวต่างชาติยังไปไม่ถึง ทั้งๆที่สามารถเดินทางได้ง่ายมาก ด้วยรถไฟและรถบัส มีผู้ให้บริการหลักคือ Kintetsu ทำให้เราเดินได้อย่างสะดวกมากๆเลยล่ะ ส่วนที่จังหวัดมิเอะที่มีอะไรที่น่าสนใจอีกต้องติดตาม EP2 นะคะ
แดดออกหรือฝนตกก็ยังสนุกได้เป๊ะ เที่ยวมิเอะ แบบ Unseen (EP2)
อ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่

Blogger : ID 19
คุณป้าไกจินบ้าๆบอๆผู้ชื่นชอบวัฒนธรรม และดื่มกาแฟวันละ 5 แก้ว
13 Posts

One day trip พาสสุดคุ้ม เที่ยวไซตามะ 1 วัน Check-in “Moominvalley Park” ช็อปฟินๆที่ Outlet
จังหวัดไซตามะ (Saitama) ไซตามะห่างจากโตเกียวเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง ...

รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น เช็คได้ทั่วประเทศ ใช้สะดวก ไม่มีหลง
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น สุดสะดวก จัดให้แบบเต็มๆ ทุกแอเรีย หาสาย เช็คเวลากันแบบชิล...

เที่ยวญี่ปุ่น 2022 เปิดเงื่อนไข วิธีการขอวีซ่า ไกด์ไลน์เที่ยวจัดเต็ม
เปิดข้อมูลการ เที่ยวญี่ปุ่น 2022 / 2565 เปิดทุกเกณฑ์การท่องเที่ยวแบบจัดเต็ม กา...

เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...

พยากรณ์ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสี ประจำปี 2025
อัพเดทพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่น มาให้ดูกันล่วงนี้ เอาไว้จองตั๋วมาเที่ยวญ...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515