[รีวิวที่เที่ยว] Day 2 เมือง Miyazaki และ เมือง Aya จังหวัดมิยาซากิ ชิมซอฟต์ครีมรสมะม่วง แวะศาลเจ้าในเกาะอาโอชิมะ ลิ้มรสกุ้งมังกร สัมผัสฟาร์มสเตย์

Michi no eki Phoenix

จุดพักรถฟีนิกซ์ “Michi-no-Eki Phoenix” ตั้งอยู่ริมชายฝั่ง Nichinan ในจังหวัดมิยาซากิ ที่นี่ใช้เป็นจุดพักผ่อน มีของฝาก และซอฟต์ครีมอร่อยๆ และอื่นๆอีกมากมาย

ต้นไม้ประจำจังหวัด ของจังหวัดมิยาซากิที่เรียกว่า “ฟีนิกซ์” ก็ปลูกที่นี่เยอะเช่นกัน เป็นต้นไม้ที่น่ารักมากๆ และเป็นสถานที่ที่เราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเขตร้อนของ จังหวัดมิยาซากิ

นอกจากนี้ทิวทัศน์รอบๆก็ยังสวย สบายตา และเราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ตามแนวชายฝั่ง Nichinan ที่นี่มีรถบัสมาถึงด้วยนะ

“จุดพักรถฟีนิกซ์” ได้เปิดบริการอีกครั้งเมื่อปี 2005

ที่นี่ไม่ใช่แค่จุดพักเข้าห้องน้ำ ซื้อของฝาก พักเหนื่อยเท่านั้น แค่เห็นวิวนี้ ก็นับได้ว่านี่คือ หนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่เมื่อมาเยือนมิยาซากิแล้ว ไม่แวะไม่ได้เลย

แนะนำซอฟต์ครีม รสมะม่วง รสชาติที่เราคุ้นเคย แต่เป็นซอฟต์ครีมที่คล้ายกับเชอร์เบทที่ทำจากมะม่วงแอปเปิ้ล กินไป ชมวิวไป

ด้านในก็มีของฝากประจำจังหวัดที่ขึ้นชื่อ เช่น พุดดิ้งมะม่วง หากอยากลองชิมของหวานระหว่างทริป แวะซื้อสักกล่องก็ดีนะ

ที่ จ.มิยาซากิ ระหว่างการเดินทาง เราจะเห็นต้นไม้รูปร่างน่ารักๆ อย่างต้นฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ตระกูลปาล์ม อยู่ทั่วทุกที่ตามริมถนน ถ้ามาที่นี่แล้วก็สามารถซื้อต้นไม้กลับไปปลูกที่บ้านได้นะ

ด้านหลัง มีทางเดินไม้อย่างเรียบร้อย ขึ้นไปบนเขาได้ จุดชมวิวด้านบนสุด สามารถมองเห็นมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกสุดๆเลยล่ะ

Michi no eki Phoenix

Aoshima

อาโอชิมะ เป็นสถานที่ยอดนิยมของคนในท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีศาลเจ้า ระหว่างทางมีร้านค้า และสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในบริเวณใกล้เคียง จากสถานี Aoshima สามารถเดินไปได้เลย

จุดถ่ายภาพยอดนิยม คือตู้ไปรษณีย์สีเหลืองที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ริมหาด “สีเหลือง” ซึ่งว่ากันว่าเป็นสีแห่งความสุข และเป็นสีที่ทำให้ความปรารถนาเป็นจริง สามารถส่งจดหมายได้จริงๆนะ

มีโรงแรม ร้านอาหาร รีสอร์ตริมชายหาด และร้านขายของที่ระลึกรอบๆ เกาะอาโอชิมะ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของ มิยาซากิ

อาโอชิมะเป็นเกาะเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยหินรูปร่างแปลกตาที่เรียกว่า “กระดานซักผ้าของยักษ์” (Devil’s Washboard) นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ของจังหวัดมิยาซากิ เส้นรอบวงของเกาะวัดได้เพียง 1.5 กิโลเมตร เกาะอาโอชิมะเข้าถึงได้ด้วยสะพานเดินที่เรียกว่าสะพานยาโยอิ ซึ่งข้ามช่องแคบระหว่าง หาดอาโอชิมะ และเกาะอาโอชิมะ

ระหว่างที่ชิมวิวอยู่ ก็เจอตุ๊กตุ๊กจ้า ขยี้ตาสองทีนึกว่าอยู่ไทย ฮ่าๆ ภาพมันใช่เลย รถตุ๊กตุ๊กรับ-ส่งคนไปยังเกาะอาโอชิมะ แม้จะนั่งแค่ 2-3 นาที แต่ก็สนุกดีนะ

ส่วนค่าโดยสาร ก็แล้วแต่จะให้เลยจ้า รถตุ๊กตุ๊กจะจอดรอนักท่องเที่ยว อยู่ตรงปากทางเข้าเกาะนะ ขับไปส่งถึงศาลเจ้าอาโอชิมะเลย

สิ่งแรกที่เราจะสังเกตเห็นเมื่อข้ามสะพานนี้คือ หินรูปร่างสวยงามที่เรียกว่า Onino-Sentakuiwa หรือ Devil’s Washboard แนวหินเหล่านี้ เกิดขึ้นตามธรรมชาติตามแนวชายฝั่ง และนี่เป็นหนึ่งในจุดที่ดีที่สุด ในพื้นที่เพื่อชมความมหัศจรรย์ ทางธรรมชาตินี้

ร้านค้าของฝากริมทาง แม้จะมีร้านไม่เยอะ แต่ของฝากท้องถิ่นก็มีแต่อันน่ารักๆ ส่วนใหญ่ทำจากเปลือกหอย

ศาลเจ้าอาโอชิมะ ตั้งอยู่ใจกลางเกาะ มีอาณาเขตทั้งเกาะ และมีชื่อเสียงเรื่อง”เพาเวอร์สปอต” หรือ จุดรับพลัง เสริมโชคลาภนั่นเอง

กล่าวกันว่า ศาลเจ้าอาโอชิมะ ช่วยให้สมปรารถนาในเรื่องความสัมพันธ์ของหญิงชาย และเงิน มีประเพณีผูกเชือกกระดาษ กับต้นไม้พิเศษสองต้นเพื่อขอพรให้เป็นจริง มีเชือกกระดาษด้านหน้าให้เลือก 5 สี

บ่อน้ำสำหรับล้างมือ และบ้วนปากให้สะอาด ก่อนที่จะเข้าไปยังบริเวณศาลเจ้าที่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์

ที่นี่ เราสามารถทดสอบดวงชะตาของคุณได้ โดยการขว้างแผ่นดินเหนียวเล็กๆ ที่เรียกว่า Ameno-Hiraka ไปยังพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีเชือกผูกไว้ ให้นำจานขว้างลงพื้นภายในวงกลมเชือกอันศักดิ์สิทธิ์

กล่าวกันว่า ความปรารถนาของเราจะเป็นจริง ถ้ามันตกลงภายในขอบเขตของเชือกและถ้ามันแตกออก ว่ากันว่า จะปัดเป่าโชคร้ายเช่นกัน นี่เป็นเชือกแห่งความปรารถนาที่จะมีหลากหลายสีสันและหลายความหมาย

มีทั้งเกี่ยวกับ เรื่องเรียน เรื่องชีวิตคู่ เรื่องงาน และอื่นๆ โดยเลือกเอาสีที่เราปรารถนา สำหรับเราเลือกสีเหลือง เพราะเกี่ยวกับหน้าที่การงาน

ใกล้กันมี Miyako Botanic Garden Aoshima สวนสวย ที่มีต้นปาล์ม และพืชกึ่งเขตร้อนมากมาย เราสามารถเดินชมพืชกึ่งเขตร้อนและเรียนรู้เกี่ยวกับพืชเหล่านี้ได้

เรือนกระจกภายในมีความอบอุ่นตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟอยู่ด้านใน สามารถมาแวะนั่งพักผ่อนที่นี่ได้เลย

มีร้านค้าของฝากในบริเวณใกล้เคียง ที่มีทั้งสินค้าท้องถิ่น และขนมของฝาก รวมถึงของใช้ในบ้านก็มีเช่นกัน ใช้เวลาเพลินๆ ได้เลยล่ะ

Aoshima

Iso Ryouri Amimoto

ที่ร้าน Iso Ryouri Amimoto (อาโอชิมะ จ.มิยาซากิ) เพลิดเพลิน กับอาหารมิยาซากิ เช่น ชุดกุ้งมังกรของญี่ปุ่น หรือ Ise Ebi (อิเสะเอบิ) ภายในร้านมีตู้เลี้ยงกุ้งมังกรด้วย

สำหรับเมนูของร้าน แม้ว่าจะเป็นร้านญี่ปุ่น แต่ก็มีเมนูภาษาอังกฤษไว้ต้อนรับลูกค้าต่างชาติด้วยนะ ทางร้านบอกว่า ที่นี่ก็มีคนไทยแวะมากินเป็นประจำเลย ไม่ได้มีแค่เมนูกุ้งมังกรนะ แต่ยังมีอาหารมากมายให้เลือก เช่น ข้าวหน้าต่างๆ (Donburi) ไก่นัมบัง(ไก่บ้านพื้นเมือง) รวมถึงเนื้อวัววากิว

เมนูที่เราสั่ง เราเลือกแบบเป็นเซ็ท สำหรับเซ็ทนี้ก็อยู่ในราคา 5600 เยน มีทั้ง ซาชิมิ เทมปุระ ข้าว เครื่องเคียงอื่นๆ และซุปมิโสะใส่กุ้งมังกร ว้าว ๆ

สำหรับเมนูเทมปุระกุ้ง ได้กุ้งมาหลายตัวมากๆ รวมอาหารอื่นๆที่มาในเซ็ทแล้วก็ อิ่มจริงๆ ราคา 3300 เยน แนะนำเซ็ทนี้เลยจ้า สำหรับคนที่ชอบทานกุ้ง

สำหรับไฮไลต์ของร้านก็ต้องนี่เลย กุ้งมังกร ที่ไม่ได้มีแค่เมนูมิโสะซุปเท่านั้น แต่ยังมีเมนูซาชิมิ กุ้งย่าง กุ้งเทมปุระ และอื่นๆที่อร่อยอีกเพียบ

กุ้งเทมปุระ แบบกรอบนอกนุ่มใน อร่อยมาก เพื่อนๆที่ชอบทานกุ้ง อย่าลืมลองสั่งเมนูนี้ทานดูนะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง

ให้ดูความอลังการของมื้อเที่ยงที่เราสั่งทานกันแบบสองคน อิ่มจุกๆเลยจ้า ทั้งหมดนี้ อยู่ในราคา ประมาณ 8900 เยน ใครที่ขับรถมาก็มีที่จอดหน้าร้าน แต่ต้องเอากุญแจให้ร้านไว้นะ เผื่อต้องเลื่อนรถ สามารถเข้าร้านนี้ได้โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า แต่เนื่องจากเป็นร้านที่ได้รับความนิยมมาก จึงควรจองก่อนไปจะดีกว่า

Iso Ryouri Amimoto

FarmStay ArikiFarm เที่ยวฟาร์มสเตย์และกิจกรรมเก็บส้มTosa buntan ด้วยตัวเอง

จ.มิยาซากิ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ยังมีกิจกรรมสนุกๆอย่าง เก็บผลไม้ หรือ ลองทำสวน หรือทำอาหารกันที่ฟาร์มสเตย์ เราเลยมาที่ ฟาร์มอะริกิ

ที่นี่มีสวนส้ม กว่า 20 สายพันธุ์ แต่เราเก็บกันจะเป็น ส้มชนิดหนึ่ง เรียกว่า Tosa buntan ส้ม Tosa buntan เก็บเกี่ยวใน เดือนมกราคม กว่าจะได้เก็บก็ใช้เวลานาน ลักษณะคล้ายส้มโอบ้านเรา

เมื่อปลูกส้ม Tosa-buntan ต้องให้ส้มมีอายุ 4-5 ปีก่อน ถึงจะเริ่มปล่อยให้มีดอก และมีผลที่พร้อมเก็บเกี่ยวไปขาย หลายต้นสามารถเก็บเกี่ยวได้ถึง 30 – 40 ปีเลยนะ

คุณอะริคิ เจ้าของฟาร์มพาเราเดินชมสวนที่มีพื้นที่มากมาย มีปลูกผักตามฤดูกาลหลายชนิด คนที่มาพักที่นี่เลยจะได้สัมผัสประสบการณ์เก็บผักด้วย เช่น หัวไชเท้า ผักโขม สำหรับเราขอเก็บ ส้ม Tosa-buntan ก่อนนะ

คุณลุงคุณป้า ช่วยดูแลเราเป็นอย่างดี และได้รับความรู้อีกเพียบ ทั้งเรื่องการดูแลสวน การใช้ชีวิตของคนท้องถิ่น กิจกรรมของฟาร์มสเตย์ ว่าแต่ละเดือนมีอะไรบ้าง ที่นี่บรรยากาศดี ลมพัดเย็นสบาย ดินดี และไม้ผลที่ปลูกก็ชุ่มฉ่ำอุดมสมบูรณ์

ภายในบ้านมีเตาผิงให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว ห้องนี้จะกลายเป็นทั้งห้องนั่งเล่น และทานข้าว ทุกคนช่วยกันทำกับข้าวและพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกัน ส่วนของห้องใต้หลังคาสามารถจัดให้ลูกค้าเป็นห้องนอนได้ มีห้องน้ำและห้องสุขาที่สะอาด

ใครที่อยากจะมาพักที่ ฟาร์มสเตย์คุณอะริคิ รับรองว่า จะได้ทำกิจกรรมสนุกๆเพียบเลยนะ ซึ่งเค้าจะช่วยดูแลแนะนำให้ว่า เราน่าจะทำกิจกรรมอะไรดี เช่น หน้าร้อนก็กิน nagashi somen โซเมงที่ใช้รางไม้ไผ่ หรือลองทำขนมฮิวงะนัตสึ เป็นต้น

FarmStay ArikiFarm

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำอื่นๆ

มีสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ในจังหวัด Miyazaki มากมายนอกเหนือจากสถานที่ที่เราแวะไปเที่ยวในทริปนี้! ด้านล่างเป็นสถานที่ข้างเคียงที่แนะนำ ดังนั้นอย่าลืมแวะไปด้วยนะ

Ikoma Kogen

Ebino Kogen

Saitobaru Burial Mounds (rape blossoms and cherry blossoms)

สรุป เมือง Miyazaki และ เมือง Aya จังหวัดมิยาซากิ

รูทนี้ เหมาะสำหรับคนรักกิจกรรม ได้ทานไอศกรีมอร่อยๆ ได้เดินไปศาลเจ้าในเกาะ และกินกุ้งมังกร หรือ อิเสะเอบิ อาหารขึ้นชื่อของ จ.มิยาซากิ และได้ลองประสบการณ์เก็บผลไม้

รีวิวเที่ยว Miyazaki วันที่ 3 ที่เมือง Aya, เมือง Hyuga, เมือง Takachiho

[รีวิวที่เที่ยว] Day 3 เมือง Aya, เมือง Hyuga, เมือง Takachiho จังหวัดมิยาซากิ แวะสะพานแขวนใหญ่ สัมผัสศิลปะการแสดงชินโต “โยคางุระ” แวะ จุดชมวิวสวยๆที่ Sea Cruz

อ่านบทความวันถัดไปได้ ที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้องกับ การท่องเที่ยวมิยาซากิ

เที่ยวมิยาซากิ โมอายญี่ปุ่น ไหว้ศาลเจ้าริมน้ำ เสน่ห์เมืองเกาะ

อ่านบทความทั้งหมดได้ ที่นี่