Mojiko Retro เมืองท่าที่พาออกเดินทางไปสัมผัสอดีตแสนโรแมนติกของคิวชู

16/01/2024
หากมีโอกาสไปเยือนเมืองคิตะคิวชู ในจังหวัดฟุกุโอกะ อยากให้ปักพิกัดของเมืองท่าที่ชื่อว่าโมจิโกะเอาไว้ด้วย โดยที่เมืองนี้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเกาะคิวชูและเกาะฮอนชูผ่านทางช่องแคบคันมง ซึ่งบริเวณใกล้กันนั้นเป็นที่ตั้งของเมืองท่า (Moji Port) ที่เคยรุ่งเรืองมากๆตั้งแต่สมัยเมจิตอนต้น โดยปัจจุบันมีการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่แต่ยังคงอนุรักษ์ตึกเก่าสไตล์ยุโรปให้มีความน่าสนใจและดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกภายใต้ชื่อ Mojiko Retro นั่นเอง
Contents Index
  1. 1 ย้อนเวลากลับไปในยุคเมจิตอนต้นของ Mojiko Retro
  2. 2 ที่มาที่ไปของชื่อ Mojiko Retro
  3. 3 Mojiko Retro ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคิวชู
  4. 4 พิกัดถ่ายรูปแนะนำ
    1. 4.1 สถานที่จัดกิจกรรมของท่าเรือโมจิโกะ (Mojiko Harbour Deck)
    2. 4.2 อาคารเรือพาณิชย์โอซาก้า (Old Mitsui Former O.S.K. Lines Ltd. Building)
    3. 4.3 สำนักงานศุลการกรเก่าโมจิ (Former Moji Customs Office)
    4. 4.4 จุดชมวิวโมจิโกะ (Mojiko Retro Observation Room)
    5. 4.5 อดีตสโมสรโมจิ มิตซุย (Old Moji Mitsui Club)
    6. 4.6 มาสคอตบานาน่าแมน (Bananaman and Bananaman Black)
    7. 4.7 สะพานบูลวิงค์โมจิ (Blue Wing Moji)
  5. 5 พิกัดเที่ยวแนะนำ
    1. 5.1 พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิเดมิตสึ (Idemitsu Museum of Arts, Moji)
    2. 5.2 พิพิธภัณฑ์ช่องแคบคันมง (Kanmon Strait Museum)
    3. 5.3 พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์รถไฟคิวชู (Kyushu Railway History Museum)
    4. 5.4 เมนูยากิคาเร (Yakikare)
    5. 5.5 เทศกาลดอกไม้ไฟที่ช่องแคบคันมง (Kanmon Strait Fireworks Festival)
    6. 5.6 งานประดับไฟประจำปีที่เมืองท่าโมจิโกะ เรโทร (Mojiko Retro Illumination)
  6. 6 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
    1. 6.1 Karato Fish Market
    2. 6.2 Kaikyokan
    3. 6.3 Akama Shrine
  7. 7 สรุป

ย้อนเวลากลับไปในยุคเมจิตอนต้นของ Mojiko Retro

นับตั้งแต่ท่าเรือเปิดในสมัยเมจิตอนต้น ที่นี่มีความรุ่งเรืองในฐานะศูนย์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ หลังจากการฟื้นฟูเมจิในปี ค.ศ. 1868 ได้มีการเปิดตัวระบบศักดินาญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ทางตอนเหนือของคิวชูกลายเป็นจุดสนใจหลัก สำหรับการผลิตถ่านหินและเหล็กกล้า


ในเวลาต่อมาอุตสาหกรรมของคิตะคิวชู ก็กลายเป็นฐานการค้าในทวีปเอเชีย และเมื่อถึงจุดสูงสุด ว่ากันว่าในแต่ละเดือนมีเรือโดยสารเดินทะเลเกือบ 200 ลำเข้ามาที่ท่าเรือแห่งนี้ และมีจำนนผู้โดยสารเกือบ 6 ล้านคนต่อปี รวมถึงเส้นทางภายในประเทศด้วย ส่งผลให้เมืองนี้เรียงรายไปด้วยบริษัท สถานบันเทิง และร้านค้ามากมายที่รองรับนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก ทำให้เมืองโมจิโกะมีบรรยากาศที่มีชีวิตชีวามากในช่วงเวลานั้น

เพราะความเจริญรุ่งเรืองที่มีมาแต่ครั้งโบราณ ในฐานะแหล่งค้าขายกับต่างประเทศ ทำให้ที่เมืองท่าแห่งนี้เต็มไปด้วยอาคารที่มีความสวยงาม อีกทั้งที่นี่ยังถูกพัฒนาขึ้นมาให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมหนัก จึงมีบริษัทผู้ผลิตบางรายอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมภายในบริเวณโรงงาน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือชมวิวยามค่ำคืนตั้งแต่จุดของช่องแคบคันมงจนถึงเขตนิคมอุตสาหกรรมก็เป็นอีกกิจกรรมยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว และในเวลาต่อมาช่วงปี ค.ศ.1989 ท่าเรือแห่งนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นหลัก

ที่มาที่ไปของชื่อ Mojiko Retro 

“Retro” เป็นตัวย่อของคำภาษาอังกฤษ ” Retrospective” เนื่องจากท่าเรือโมจิ “Mojiko Port” นั้นครั้งหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะท่าเรือการค้าระหว่างประเทศ อีกทั้งในปัจจุบันยังคงมีทิวทัศน์ของเมืองเก่าแก่ที่ชวนให้หวนหาอดีต ชาวเมืองจึงร่วมมือร่วมใจสร้างสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำการผสมผสานทิวทัศน์เมืองเก่า เข้ากับรูปแบบใหม่ของเมืองได้สำเร็จ และตั้งชื่อให้สถานที่นี้ใหม่ว่า “Mojiko Retro”

Mojiko Retro ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคิวชู

พื้นที่หลักของ Mojiko Retro อยู่ห่างออกไปตามรัศมีประมาณ 1 กม. ตามแนวท่าเรือโมจิโกะ โดยมีสถานีรถไฟโมจิโกะอยู่ตรงกลางของพื้นที่ ซึ่งตัวอาคารของสถานีรถไฟโมจิโกะในปัจจุบันนั้น เต็มไปด้วยความทรงจำและประวัติศาสตร์มากมายอัดแน่นอยู่ในอาคารสถานี ที่อยู่ร่วมกับคนในท้องถิ่นมานานกว่า 100 ปี และเป็นสถานีรถไฟแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินสำคัญทางวัฒนธรรมของชาติอีกด้วย

โดยจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป แน่นอนว่ามีที่สถานีรถไฟโมจิโกะด้วย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบของพื้นที่ Mojiko Retro ที่อยู่รอบๆ สถานีอีกมากมาย สามารถเดินเท้าถึงได้โดยใช้เวลาไม่นาน นอกจากนี้ยังมีทั้งแหล่งรวมร้านค้า ร้านขายของฝาก และร้านอาหารขึ้นชื่อของคิตะคิวชูอีกด้วย

พิกัดถ่ายรูปแนะนำ 

สำหรับใครที่เป็นสายถ่ายรูปแล้ว เมืองท่าโมจิโกะเป็นอีกเมืองที่คุณต้องเพลิดเพลินกับบรรยากาศ รวมทั้งสถาปัตยกรรมที่แปลกแตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ทำให้ทริปนี้ของคุณประทับใจอีกเท่าตัวแน่ๆ

สถานที่จัดกิจกรรมของท่าเรือโมจิโกะ (Mojiko Harbour Deck) 

บริเวณพื้นที่นี้เหล่านักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับลมทะเล และบรรยากาศของอาคารเก่า ท่ามกลางงานกิจกรรมที่น่ารื่นรมย์ จะมาเดินเล่นเพลินๆ หรือเดินถ่ายรูปอัพลงโซเชียลก็สนุกมาก โดยช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายนจะมีการจัดงาน Harbor Deck Jazz ขึ้นที่บริเวณนี้เป็นประจำทุกปี

อาคารเรือพาณิชย์โอซาก้า (Old Mitsui Former O.S.K. Lines Ltd. Building)

เดิมทีที่นี่เป็นสำนักงานของบริษัทขนส่งทางทะเลชื่อ Mitsui O.S.K. Lines สาขาเมืองโมจิโกะ ที่สร้างขึ้นด้วยรูปทรงแปลกตาเพราะเป็นงานสถาปัตยกรรมสไตล์ Vienna Secession เป็นเพนต์เฮาส์ 8 เหลี่ยมแสนโดดเด่น จึงขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 อาคารที่น่าประทับใจที่สุดในเมืองนี้ ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดงานศิลปะ หรืองานนิทรรศการที่น่าสนใจ โดยในส่วนของชั้นล่างถูกอุทิศให้เป็นพื้นที่แสดงผลงานของวาตาเสะ เซโซ นักวาดการ์ตูนชื่อดังชาวคิตะคิวชู

สำนักงานศุลการกรเก่าโมจิ (Former Moji Customs Office) 

อีกอาคารที่เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองท่าแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1912 โดยในช่วงต้นยุคโชวะถูกใช้เป็นอาคารสํานักงานศุลกากร บนชั้นหนึ่งมีโถงทางเข้าที่กว้างขวางพร้อมห้องโถงเพดาน ห้องพักผ่อนร้านกาแฟ “Morn de Retro” และห้องนิทรรศการที่นำเสนอภาพการลักลอบนําเข้าสินค้าผิดกฎหมายในยุคนั้น ส่วนบริเวณชั้นสามเป็นห้องสังเกตการณ์ ที่สามารถชมภาพสะพานและเรือที่แล่นผ่านเข้ามายังช่องแคบคันมงจากที่นี่ได้

Cr : www.mojiko.info

จุดชมวิวโมจิโกะ (Mojiko Retro Observation Room)

สถานที่ชมวิวอันงดงามที่คุณสามารถมองเห็นโมจิโกะเรโทร และช่องแคบคันมงได้สุดสายตาจากบนความสูง 103 เมตร โดยห้องสังเกตการณ์นี้ตั้งอยู่บนชั้น 31 ของคอนโดมิเนียมสูงจากที่นี่ยังสามารถมองเห็นเกาะกันริวจิมะอันโด่งดัง ซึ่งเป็นที่ที่นักดาบมูซาชิและโคจิโระต่อสู้กันได้จากที่นี่ด้วย สำหรับห้องสังเกตการณ์นี้หลังเวลา 20.00 น. จะหรี่ไฟลงเล็กน้อยเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิด เพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของช่องแคบคันมงและย่านย้อนยุคในบรรยากาศสุดโรแมนติก ผ่านกล้องโทรทรรศน์ดิจิตอล และกล้องส่องทางไกลได้

อดีตสโมสรโมจิ มิตซุย (Old Moji Mitsui Club)

ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สําคัญของชาติแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในปีที่ 10 ของยุคไทโช ตัวอาคารทําด้วยไม้แบบยุโรปดั้งเดิม และผนังทําโดยการเติมช่องว่างระหว่างกรอบไม้โดยใช้ปูนปลาสเตอร์ อิฐ หิน ฯลฯ ในแต่ละห้องและกรอบประตูกรอบหน้าต่างรวมทั้งเสาของบันไดใช้การตกแต่งแบบอาร์ตเดคโครูปทรงเรขาคณิต และสถานที่นี้เมื่อดร.อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์มาที่ญี่ปุ่นเพื่อบรรยายวิชาการ เขาได้มาพักอยู่ที่นี่ โดยมีการจำลองห้องที่เขาพักไว้ให้ชมด้วย นอกจากนั้นยังมีห้องอนุสรณ์ของฟุมิโกะ ฮายาชินักเขียนหญิงชาวคิตะคิวชูไว้ให้ระลึกถึงด้วยเช่นกัน  

มาสคอตบานาน่าแมน (Bananaman and Bananaman Black)

จุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกจุดของที่นี่คือเจ้ามาสคอตนี้ โดยที่มาที่ไปก็คือเมื่อก่อนบริเวณสถานีรถไฟโมจิโกะ เคยเป็นลานประมูลกล้วยมาก่อน เพราะมีการขนส่งกล้วยมาลงที่ท่าเรือโมจิโกะจำนวนมากนั่นเอง (เมื่อก่อนญี่ปุ่นปลูกกล้วยไม่ได้เลยต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศเท่านั้น) บริเวณนี้จึงมีทั้งอนุสาวรีย์และมาสตคอตที่สื่อถึงแหล่งกำเนิดการขายกล้วยในเมืองท่าโมจิโกะแห่งนี้

สะพานบูลวิงค์โมจิ (Blue Wing Moji) 

สะพานชักสำหรับคนเดินโดยเฉพาะมีความยาวทั้งหมด 108 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเป็นสะพานเคลื่อนที่ได้โดยจะชักขึ้นเป็นมุม 60 องศากับพื้นน้ำ 6 ครั้งต่อวัน ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดในการชมทิวทัศน์ช่องแคบคันมงและสะพานคันมง ว่ากันว่าคู่รักที่ข้ามไปได้เป็นคู่แรกหลังสะพานปิดจะผูกพันกันไปชั่วชีวิต จึงได้รับเลือกเป็น “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของคู่รัก” ในเวลากลางคืนบริเวณสะพานจะมีการจัดส่องไฟสวยงามมากด้วย

พิกัดเที่ยวแนะนำ 

นอกจากโมจิโกะเรโทรจะเป็นเมืองที่ถ่ายรูปเพลินมากๆ แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์งานศิลปะ บ้านโบราณ ถนนสายเก่า หรือเมนูอาหารที่ต้องลองให้ได้เมื่อมาที่นี่

พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิเดมิตสึ (Idemitsu Museum of Arts, Moji)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิเดมิตสึแห่งโมจิ ถือกําเนิดขึ้นในปีเฮเซ 12 เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะส่วนตัวที่จัดแสดงงานศิลปะที่รวบรวมโดยซาโสะ อิเดมิตสึ ผู้ก่อตั้งบริษัทน้ำมัน Idemitsu Kosan และผู้รอบรู้ด้านงานศิลปะตัวยงคนหนึ่ง โดยตัวพิพิธภัณฑ์ได้รับการปรับปรุงใหม่ ที่มองจากภายนอกจะเห็นภาพอิฐที่ผสมผสานกับภูมิทัศน์ของย่านย้อนยุคได้อย่างลงตัว

พิพิธภัณฑ์ช่องแคบคันมง (Kanmon Strait Museum) 

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุณสามารถสัมผัสอดีตและปัจจุบันของช่องแคบคันมงด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าของคุณ โดยที่นี่มีไฮไลท์มากมายเช่น “Strait Atrium” และ “Strait History Corridor” ที่นำเสนอประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับช่องแคบคันมงแบบจุกๆ  รวมถึง “Kaikyo Retro Street” ที่สร้างภูมิทัศน์ของเมืองในยุคไทโชออกมาได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ที่นี่เพิ่งเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 21 กันยายน ค.ศ.2019 ซึ่งเป็นปีแรกของยุคเรวะอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์รถไฟคิวชู (Kyushu Railway History Museum) 

อดีตสํานักงานใหญ่ของบริษัทรถไฟคิวชู ปัจจุบันถูกปรับให้เป็นหอรําลึกรถไฟคิวชู โดยที่นี่เหมือนสวนสนุกเกี่ยวกับรถไฟ มีการจัดแสดงยานพาหนะจริงที่ชวนให้นึกถึงอดีตและการจัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมทางรถไฟ สิ่งอํานวยความสะดวกในการขับขี่ ภาพพาโนรามาขนาดใหญ่ของทางรถไฟคิวชู และสวนรถไฟขนาดเล็กที่คุณสามารถขับรถมินิรถไฟด้วยตัวเองและวิ่งบนรางรถไฟได้อย่างเพลิดเพลิน

เมนูยากิคาเร  (Yakikare) 

เมนูแกงกะหรี่ย่างแสนอร่อยแห่งคิตะคิวชู เป็นเมนูแนะนำเมื่อมาเยือนยังเมืองท่าโมจิโกะ เมนูนี้จะเรียกว่าเมนูแกงกะหรี่ย่าง หรือแกงกะหรี่กระทะร้อนก็ได้ เป็นเมนูอาหารที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและได้รับความนิยมตลอดมาจนกลายเป็นอาหารประจำเมืองนี้ไปแล้ว จุดเด่นของเมนูนี้คือข้าวราดแกงกะหรี่เข้มข้นโดยหน้าด้วยมอสซาเรลล่าชีสตามด้วยไข่แดง อาหารทะเล หรือผักอบ ในเมืองโมจิโกะมีร้านยากิคาเรหลายร้าน สายกินห้ามพลาดเลยนะเมนูนี้

เทศกาลดอกไม้ไฟที่ช่องแคบคันมง (Kanmon Strait Fireworks Festival)

เราได้มีโอกาสไปเที่ยวงานเทศกาลฤดูร้อนที่นี่ มีการจัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟแบบอลังการสุดๆ เนื่องจากเป็นงานที่จัดร่วมกันระหว่าง 2 เมือง นั่นคือเมืองชิโมโนะเซกิ จ.ยามากุจิ และเมืองคิตะคิวชู จ.ฟุกุโอกะ ส่วนใหญ่งานจะจัดช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี จะมีการแสดงพลุราวๆ  15,000 นัด และมีผู้เข้าชมงานราวๆ  1,100,000 คน นับเป็นงานเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นฝั่งตะวันตกเลยก็ว่าได้ หากมีโอกาสมาเยือนเมืองท่าโมจิโกะในช่วงฤดูร้อนแนะนำให้มาร่วมงานเทศกาลนี้ดูนะ

งานประดับไฟประจำปีที่เมืองท่าโมจิโกะ เรโทร (Mojiko Retro Illumination)

ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองช่วงปลายปีตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีที่เมืองท่าแห่งนี้จะมีการประดับประดาไฟสวยงาม ส่งผลให้เมืองย้อนยุคโมจิโกะเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความโรแมนติกในตัว เหล่าอาคารโบราณ ต้นไม้ ริมทางเดิน ร้านรวงยามพระอาทิตย์ตก จะเต็มไปด้วยไฟระยิบระยับสว่างไสวให้บรรยากาศที่แตกต่างจากในช่วงเวลากลางวัน โดยในช่วงเดือนนี้ที่นี่จะมีการจัดงานคริสต์มาสและการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่เป็นประจำทุกปี ถือเป็นช่วงเวลาแสนพิเศษเหมาะกับการการมาเยือน

พิกัด โมจิโกะ เรโทร (Mojiko Retro)

ที่อยู่Minatomachi, Moji Ward, Kitakyushu, Fukuoka 801-0852 
วิธีเดินทางจากสถานี JR Hakata นั่ง Limited Express Sonic หรือ Kirameki ลงที่สถานี Kokura แล้วเปลี่ยนรถไฟมาลงที่สถานี Mojiko
เวลาทำการ9.00 – 18.00 น.
ราคาฟรี
WebsiteMojiko Retro

ดูแผนที่ Mojiko Retro

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง 

มาเที่ยวคิตะคิวชูแล้วบอกเลยว่าสนุกสนาน คุ้มค่า แถมยังอิ่มท้องด้วย เพราะไม่ไกลกันยังสามารถข้ามไปเที่ยวอีกจังหวัดได้โดยใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดปลาสดๆ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และศาลเจ้าวิวสวยมากๆ อีกแห่งในญี่ปุ่น

Karato Fish Market

ตลาดคาราโตะเริ่มให้บริการเมื่อปีค.ศ. 1909 เป็นตลาดปลาที่เดินทางสะดวกจากฝั่งคิตะคิวชูได้สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารทะเลสดๆ ที่นี่มีให้เลือกมากมายในราคาย่อมเยา โดยปัจจุบันตลาดแห่งนี้ส่งปลาออกขายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าสินค้าส่วนใหญ่ในตลาดจะเป็นอาหารทะเล แต่ก็สามารถซื้อวัตถุดิบของท้องถิ่นจากชาวไร่ชาวสวนในจังหวัดยามากุจิได้เช่นกัน  

พิกัด ตลาดปลาคาราโตะ (Karato Fish Market)

ที่อยู่5-50 Karatocho, Shimonoseki, Yamaguchi 750-0005  
วิธีเดินทางจากสถานี Mojiko สามาถนั่งเรือไปที่ตลาดปลาคาราโตะได้เลย ราคา 400 เยนา 10 นาทีเพื่อเดินจากสถานีเกียวโต
เวลาทำการ05.00 – 15.00 น. ,วันอาทิตย์ 08.00 – 15.00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
ราคาฟรี
WebsiteKarato Fish Market

ดูแผนที่ Karato Fish Market

Kaikyokan

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kaikyokan หรือชื่อเต็มๆ ว่า Shimonoseki Marine Science Museum เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีสัตว์มากกว่า 20,000 ชนิด 500 สายพันธุ์ และมีตู้จัดแสดงที่มีกระแสน้ำจากช่องแคบคันมงไหลเวียนอยู่ตลอดเวลาด้วย อีกทั้งยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาปักเป้าหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงโซนจัดแสดงโครงกระดูกของปลาวาฬสีน้ำเงิน และเหล่าเพนกวินหายาก เรียกได้ว่าเป็นสถานที่มาทั้งครอบครัวได้เลยแหละ  

พิกัด พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคเคียวคัง (Kaikyokan) 

ที่อยู่26-1 Arcaport, Shimonoseki, Yamaguchi 750-0036
วิธีเดินทางจากตลาดปลาคาราโตะเดิน 6 นาที
เวลาทำการ09.30 – 17.30 น.
ราคาผู้ใหญ่ 2,090 เยน, เด็ก 940 เยน และเด็กเล็ก 410 เยน 
WebsiteKaikyokan

ดูแผนที่ Kaikyokan

Akama Shrine

เป็นศาลเจ้าชินโตในเมืองชิโมโนเซกิที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ดวงวิญญาณของจักรพรรดิอันโตกุผู้มีพระชนมายุเพียง 6 พรรษาและสิ้นพระชนม์ในสมรภูมิดันโนะอุระระหว่างตระกูลมินาโมโตะและตระกูลไทระในปีค.ศ. 1185 โดยจุดเด่นของศาลเจ้าที่นี่คือฐานสีขาวขนาดใหญ่ที่รองรับส่วนหนึ่งของหลังคาสีแดงตัดกันสวยงาม ว่ากันว่าเป็นจุด Power Spot ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเมืองนี้ โดยบริเวณด้านหน้าศาลเจ้า สามารถมองเห็นช่องแคบคันมงได้ถือเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมากเช่นกัน  

พิกัด ศาลเจ้าอากามะ (Akama Shrine)

ที่อยู่ 4-1 Amidaijicho, Shimonoseki, Yamaguchi 750-0003 
วิธีเดินทางจากตลาดปลาคาราโตะเดิน 5 นาที
เวลาทำการ09.00 – 17.00 น.
ราคาฟรี
WebsiteAkama Shrine

ดูแผนที่ Akama Shrine

สรุป

เชื่อเลยว่าใครที่มาเยือนที่เมืองคิตะคิวชูแล้วต้องแวะมาที่เมืองท่าสุดคลาสสิคแห่งนี้ เพราะเสน่ห์ในทุกๆ มุมของเมืองนี่เอง ที่ทำให้สายถ่ายรูปก็เพลิน สายประวัติศาสตร์ก็ข้อมูลแน่น สายช้อปก็ชิล สายกินก็มีเมนูท้องถิ่นยอดนิยมให้ลิ้มลอง มาที่นี่แล้วได้ฟีลของการย้อนเวลาไปหาอดีต เพราะเต็มไปด้วยอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกเก่าแก่ ผสมผสานกับความโมเดิร์นและนวัตกรรมสมัยใหม่ให้ชม คุณสามารถใช้เวลาทั้งวันอยู่ที่เมืองนี้เพื่อสัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าสุดโรแมนติก ทั้งช่วงเวลากลางวันและยามค่ำคืนอันน่าประทับใจได้อย่างแน่นอน

Contents Index
  1. 1 ย้อนเวลากลับไปในยุคเมจิตอนต้นของ Mojiko Retro
  2. 2 ที่มาที่ไปของชื่อ Mojiko Retro
  3. 3 Mojiko Retro ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคิวชู
  4. 4 พิกัดถ่ายรูปแนะนำ
    1. 4.1 สถานที่จัดกิจกรรมของท่าเรือโมจิโกะ (Mojiko Harbour Deck)
    2. 4.2 อาคารเรือพาณิชย์โอซาก้า (Old Mitsui Former O.S.K. Lines Ltd. Building)
    3. 4.3 สำนักงานศุลการกรเก่าโมจิ (Former Moji Customs Office)
    4. 4.4 จุดชมวิวโมจิโกะ (Mojiko Retro Observation Room)
    5. 4.5 อดีตสโมสรโมจิ มิตซุย (Old Moji Mitsui Club)
    6. 4.6 มาสคอตบานาน่าแมน (Bananaman and Bananaman Black)
    7. 4.7 สะพานบูลวิงค์โมจิ (Blue Wing Moji)
  5. 5 พิกัดเที่ยวแนะนำ
    1. 5.1 พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิเดมิตสึ (Idemitsu Museum of Arts, Moji)
    2. 5.2 พิพิธภัณฑ์ช่องแคบคันมง (Kanmon Strait Museum)
    3. 5.3 พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์รถไฟคิวชู (Kyushu Railway History Museum)
    4. 5.4 เมนูยากิคาเร (Yakikare)
    5. 5.5 เทศกาลดอกไม้ไฟที่ช่องแคบคันมง (Kanmon Strait Fireworks Festival)
    6. 5.6 งานประดับไฟประจำปีที่เมืองท่าโมจิโกะ เรโทร (Mojiko Retro Illumination)
  6. 6 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
    1. 6.1 Karato Fish Market
    2. 6.2 Kaikyokan
    3. 6.3 Akama Shrine
  7. 7 สรุป
Pennapa Uttamang

Blogger : Pennapa Uttamang

อดีตบรรณาธิการผู้รับใช้ถ้อยคำมาตลอดหลายสิบปี ปัจจุบันก็ยังคงทำงานเขียน วาดภาพประกอบ เลี้ยงแมว และทำสตูดิโอออกแบบเล็กๆ เกี่ยวกับโบรชัวร์ญี่ปุ่น เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนผ่านเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรามากมายเช่นกัน

47 Posts

CCJ Hotel Search

สถานที่เที่ยว

| Feature

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515