ประวัติความเป็นมา
การก่อตั้งไชน่าทาวน์ในยุคเอโดะ (ศตวรรษที่ 17)
ย้อนกลับไปในสมัยยุคเอโดะ ญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้นกำลังปิดประเทศอยู่ โดยมีท่าเรือ Nagasaki เพียงแห่งเดียวที่เปิดเพื่อค้าขายกับต่างชาติ ซึ่งก็มีไม่กี่ประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ค้าขายกับญี่ปุ่นได้ ซึ่ง 1 ในประเทศที่ได้รับอนุญาตก็คือประเทศจีน
โดยนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) ในอดีตเป็นสถานที่ที่ชาวจีนมักจะมาทำธุรกิจกัน ซึ่งเดิมทีบริเวณนี้เป็นเกาะที่ถูกถม จนเป็นที่มาของชื่อ Shinchi ที่ปรากฎในชื่อเต็มของที่นี่ ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน
ซึ่งชาวจีนกับชาวดัตซ์ ( ดัตซ์ก็เป็นอีกชาติที่มาติดต่อค้าขายกับญี่ปุ่นที่ท่าเรือ Nagasaki ) จะมีความเป็นอยู่ค่อนข้างต่างกัน โดยชาวดัตซ์จะต้องอาศัยอยู่ที่เกาะ Dejima ที่เดียว ผิดกับชาวจีนที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางในเมืองได้อย่างอิสระ
ในปัจจุบันนั้นนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ่้นชื่อของเมือง Nagasaki ชนิดที่ต้องบอกว่าห้ามพลาดโดยเด็ดขาดหากได้มาที่นี่ ภายในนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) นั้นประกอบไปด้วยร้านค้ามากมาย และที่ขาดไม่ได้คืออาหารท้องถิ่นที่ได้รับอิทธิพลจากประเทศจีนนั่นก็คือจัมปง ( Chanpon ) และ ซาระอุด้ง ( Sara Udon )
และทางเข้าของนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) ก็มีประตูสไตล์จีนสีแดง ที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้าทั้ง 4 ด้าน ซึ่งวัสดุที่ใช้สร้างนั้นได้นำเข้าจากประเทศจีน โดยประตูทางทิศตะวันออก เหนือ และใต้ สูง 9 เมตร กว้าง 9 เมตร ส่วนทิศตะวันตกสูง 9 เมตร กว้า 4 เมตร โดยประตูทั้ง 4ทิศสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1986
สิ่งที่น่าสนใจใน Nagasaki Shinchi Chinatown
อาหารขึ้นชื่อที่ต้องลอง
Champon (จัมปง): บะหมี่ซุปทะเลสไตล์นางาซากิ
แน่นอนว่าถ้ามาที่ Nagasaki อาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงและต้องลิ้มลองให้ได้ซักครั้งคงไม่พ้น Champon ( จัมปง ) ซึ่งเมนูชนิดนี้ก็มีที่มาจากชาวจีนที่มาค้าขายที่ Nagasaki นี่เอง ซึ่งผู้ที่คิดค้นเมนู Champon ( จัมปง ) นี้เป็นชาวจีนที่ชื่อว่า Ching Heijun ต่อไปผมจะข้อเรียนเขาว่านายชิง ซึ่งนายชิงผู้นี้ก็เป็นผู้ก่อนตั้งร้านอาหารที่ชื่อว่า Shikairou ซึ่งก็เปิดมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย
โดยเมนูจัมปงนั้นจะมีเส้นบะหมี่ พร้อมด้วยเครื่องเคียงที่ถูกนำไปผัดกับกะทะร้อนๆเช่นปลาหมึก กุ้ง หมู รวมถึงผัดชนิดต่างๆ แล้วนำมาใส่ร่วมกับบะหมี่พร้อมกับน้ำซุปกระดูกหมูร้อนๆ ซึ่งมีรสชาติกลมกล่อมน่ารับประทาน โดยนักท่องเที่ยวสามารถมากินเมนูนี้ได้ที่นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) และร้านอื่นๆทั่วเมือง
Sara Udon (ซาระอุด้ง): บะหมี่กรอบราดซอสข้น
ซาระอุด้งเป็นเมนูที่ถูกคิดค้นโดยนายชิง ( Ching Heijun ) คนเดียวกับผู้ที่คิดค้นจัมปง โดยเป็นการประยุกต์มาจากเมนูจัมปง ซึ่งการทำเมนูนี้นั้นจะต้องน้ำเส้นบะหมี่ไปทอดก่อน จัดนั้นจึงนำมาผัดกับพวกเนื้อต่างๆ กับผัก แล้วนำมาเสิร์ฟในจานชนิดแบน โดยเมนูนี้จะราดด้วยซอสข้น และเมนูนี้จะลดปริมาณน้ำซุปให้น้อยลงกว่าจัมปงอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถรับประทานเมนูนี้ได้ที่นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) ได้ด้วยเช่นกัน
Pork Bun (ซาลาเปาไส้หมู): ซาลาเปานุ่ม ๆ ไส้หมูฉ่ำ
เมนูนี้ถึงแม้จะเป็นเมนูซาลาเปา แต่ไม่ใช่ซาลาเปาไส้หมูสับหรือหมูแดงที่เรากินกันทั่วไป แต่ซาลาเปาของที่นี่นั้น จะเป็นหมู 3 ชั้นที่ชิ้นค่อนข้างหนา ซึ่งจะต้องถูกนำไปทอดจากนั้นค่อยนำมาตุ๋น จากนั้นก็นำมาเป็นไส้ซาลาเปา ที่รสชาติค่อนข้างฉ่ำและแทบจะล้นออกมาจากแป้งเลยทีเดียว ซึ่งหมูที่ถูกมานำมาเป็นไส้ซาลาเปานั้นเรียกว่า หมูตงพัว
ทั้ง 3 เมนูนี้สามารถหารับประทานได้ที่ร้านอาหารในบริเวณไชน่าทาวน์ ซึ่งเกือบทุกร้านก็จะมีเมนูทั้ง 3 อย่างครบ ซึ่งร้านแนะนำที่นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองทั้ง 3 เมนูนี้ได้คือ Lao Lee, Kairakuen, Ozuru และ Kyokaen เป็นต้น และร้านที่อยู่ด้านนอกไชน่าทาวน์อย่างร้านที่เป็นต้นกำเนิดของจัมปงอย่างร้าน Shikairo
เทศกาลสำคัญ
Nagasaki Lantern Festival (เทศกาลโคมไฟ) จัดขึ้นในช่วงตรุษจีน
ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้นที่นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) นั้นได้มีการประดับประดาโคมไฟแบบจีนมากกว่าหมื่นดวง ซึ่งตามความเชื่อนั้นการจุดโคมไฟนั้น เพื่อให้สามารถมองเห็นวิญญาณสวรรค์ที่กำลังบินขึ้นท้องฟ้าได้ชัดขึ้น
โดยการจัดเทศกาลตรุษจีนของย่านนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) นั้นได้ใช้โคมไฟจีนที่มีสีสันสดใสจนเป็นที่ได้รับความนิยมและกลายมาเป็นเทศกาลประจำเมืองจนมีชื่อเรียกว่า Nagasaki Lantern Festival
เทศกาลโคมไฟนั้นได้เริ่มขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1987
ในงานเทศกาลนอกจากจะมีการประดับประดาโคมไฟแบบจีนแล้วที่นี่ยังมีการแห่ขบวนจักรพรรดิ โดยมีคนมาสวมบทบาทเป็นจักรพรรดิและจักรพรรดินี, การเชิดสิงโต
Mid-Autumn Festival (เทศกาลไหว้พระจันทร์)
1 ใน 3 เทศกาลที่สำคัญของจีน ซึ่งนั่นก็คือเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์นั้นที่นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) ได้มีการประดับประดาโคมไฟสีเหลืองซึ่งมีรูปร่างคล้ายพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งสร้างบรรยากาศที่ดีมากๆ
นอกจากโคมไฟแล้ว ร้านอาหารต่างๆก็มีเมนูพิเศษสำหรับช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์อีกด้วย และสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ก็คือ ขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์นั้น นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อขนมไหว้พระจันทร์ได้ตามร้านต่างๆที่นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown )
การช้อปปิ้งและของฝาก
แน่นอนว่าการมาเที่ยวไชน่าทาวน์นั้นสิ่งที่พลาดไม่ได้อีกอย่างก็คือการซื้อของฝาก ขนมขบเคี้ยว ซึ่งผมจะแนะนำร้านค้าที่ขายของฝากให้ได้รู้จักกัน
ร้าน Ishibashi – Kamaboko
ร้านค้าเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1924 สินค้าขึ้นชื่อของร้านนี้คือ Kamaboko หรือลูกชิ้นปลานั่นเอง โดยปลาที่ใช้มาทำ Kamaboko นั้น ทางร้านได้ใช้ปลาที่จับได้แถว Nagasaki ซึ่งสามารถซื้อแล้วรับประทานเลย หรือซื้อไปฝากคนรู้จักก็ได้
ร้าน Nagasaki Cyubou
ร้านนี้ถือว่าเป็นร้านที่รวบรวมสินค้า ของที่ระลึก จากจีน ซึ่งสินค้ามีตั้งแต่ รองเท้า ร่ม จานชาม กาน้ำ เครื่องรางต่างๆ ซึ่งต้องบอกว่ามีตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ มากองรวมกันไว้ในร้านเดียว ซึ่งถือว่าเป็นร้านที่ต้องไปให้ได้ซักครั้ง
ร้าน Fukken
ร้านที่รวบรวมของหวานจีนแบบแฮนด์เมด ซึ่งร้านนี้มีขนมจีนมากมายให้เลือกซื้อ รวมถึงติ่มซำ ซึ่งนักท่องเที่ยวอยากลิ้มลองขนมของจีนแบบแฮนด์เมดละก็ ต้องมาที่ร้านนี้
ร้าน Taian Yoko
ร้านนี้จำหน่ายสินค้าจีนตั้งแต่ของกินยันเสื้อผ้า อย่างเช่นขนมไหว้พระจันทร์ ชาจีนต่างๆเช่น ชามะลิ ชาผู่เอ๋อ เป็นต้น แล้วก็สินค้าเบ็ดเตล็ดต่างๆเช่น ปลาทองนำโชค ชุดกังฟู รองเท้า เรียกได้ว่าร้านนี้แทบจะมีครบทุกอย่าง
วิธีการเดินทางไป Nagasaki Shinchi Chinatown
นั่งรถรางสาย 1 หรือ 5 มาลงป้าย Shinchi Chukagai หรือเดิน 20 นาทีจากสถานี Nagasaki
วันเวลาทำการของร้านค้า ร้านอาหาร
เวลาทำการของร้านค้าและร้านอาหารของนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) ส่วนใหญ่จะเปิดตั้งแต่ 11.00 น. – 21.00 น.
ตารางข้อมูล
นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown )
ที่อยู่ | 10-13 Shinchimachi, Nagasaki, 850-0842 |
Website | นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown )
Dejima (เดะจิมะ – อดีตเกาะการค้า) – ระยะทาง 700 เมตร
Dejima อดีตเกาะที่มีรูปร่างคล้ายพัดที่ถูกถมขึ้นมาโดยฝีมือมนุษย์ ซึ่งในอดีตนั้นเป็นที่พักอาศัยของชาวดัตซ์ที่มาติดต่อค้าขายกับญี่ปุ่น
ในปัจจุบันนั้นเกาะ Dejima ได้ถูกปรับปรุงให้ติดกับแผ่นดินใหญ่ของ Nagasaki และเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งก็จะมีบ้านเก่าๆที่ดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับชาวดัตซ์ที่มาค้าขายที่นี่ ร้านอาหาร โรงเรียนสอนศาสนาเก่าๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน
เดจิมะ ( Dejima )
ที่อยู่ | 6 Dejimamachi, Nagasaki, 850-086 |
วิธีเดินทาง | เดินจากนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) 8 นาทีหรือ จากสถานี Jr Nagasaki นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถบัสหมายเลข 17 หรือ 27 มาลงป้าย Dejima หรือนั่งรถรรางสายที่ไป Sofukuji แล้วลงที่สถานี Dejima หรือ Shinchi Chinatown |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 08.00 น. – 21.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 520 เยน เด็กมัธยมปลาย 200 เยน เด็กประถมและมัธยมต้น 100 เยน |
Website | เดจิมะ ( Dejima ) |
Glover Garden (สวนโกลฟเวอร์) – ระยะทาง 1.5 กม.
ที่นี่เดิมทีเป็นที่อยู่อาศัยของพ่อค้าชาวสก็อตแลนด์นามว่า Thomas Glover ซึ่งภายในสวนแห่งนี้จะประกอบไปด้วยบ้านไม้เก่าแก่ซึ่งก็ถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ และนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปชมในบ้านได้อีกด้วย
นอกจากบ้านเก่าแก่แล้ว ที่นี่ก็ยังมีร้านกาแฟไว้บริการนักท่องเที่ยว หรือร้านค้าให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้ออีกด้วย
สวนโกลเวอร์ Glover Garden
ที่อยู่ | 8-1 Minamiyamatemachi, Nagasaki, 850-0931 |
วิธีเดินทาง | เดิน 20 นาทีจากนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) หรือนั่งรถรางจากสถานี Nagasaki มา ลงป้าย Ouratenshudo แล้วเดินอีก 7 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 08.00 น. – 18.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 620 เยน เด็กมัธยมปลาย 310 เยน เด็กประถม – มัธยมต้น 180 เยน |
Website | สวนโกลเวอร์ Glover Garden |
Nagasaki Kofukuji Temple (วัดโคฟุกุจิ – วัดจีนเก่าแก่) – ระยะทาง 1 กม.
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1620 โดยพระชาวจีนซึ่งมีจุดประสงค์คือให้พ่อค้าชาวจีนมาขอพรให้เดินทางปลอดภัย โดยวัดนี้มีความแตกต่างจากวัดอื่นของญี่ปุ่นคือ มีสถาปัตยกรรมแบบจีน
ตัววัดนั้นประกอบไปด้วยอาคารต่างๆ โดยห้องโถงหลักก็เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนพร้อมกับมีโคมไฟแก้วขนาดใหญ่แขวนอยู่บนหลังคาของห้องด้วย และที่สำคัญคือวัดนี้มีป้ายอธิบายส่วนต่างๆของวัดเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย
Nagasaki Kofukuji Temple (วัดโคฟุกุจิ – วัดจีนเก่าแก่)
ที่อยู่ | 850-0872 Nagasaki, Teramachi, 4 – 32 |
วิธีเดินทาง | เดิน 10 นาทีจากนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) หรือ นั่งรถรางหมายเลข 3 มาลงป้าย Kokaido – Mae แล้วเดินอีก 8 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 09.00 น. – 17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กมัธยม 200 เยน เด็กประถม 100 เยน |
Website | Nagasaki Kofukuji Temple (วัดโคฟุกุจิ – วัดจีนเก่าแก่) |
เคล็ดลับการเที่ยว Shinchi Chinatown
การจะมาเที่ยวนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) ให้สนุกและได้บรรยากาศนั้น แนะนำให้มาช่วงที่มีเทศกาลโคมไฟ หรือเทศกาลไหว้พระจันทร์ เพราะนักท่องเที่ยวได้มาพบกับบรรยากาศสุดฟินน์ และความสวยงามตระการตาที่มาจากการประดับโคมไฟ ซึ่งถ้ามาในช่วงเย็นก็จะได้พบบรรยากาศแบบนี้แน่นอน
และการรับประทานอาหารที่ร้านอาหารจีนนักท่องเที่ยวจะศึกษาเรื่องมารยาทในการรับประทานอาหารจีนด้วยเช่นกัน อย่างเช่นการเติมข้าวหากผู้อาวุโสเติมข้าวให้เรา เราจะต้องขอบคุณท่าน หรือ ถ้าหากเราเจอเมนูที่ชอบก็อย่าเพิ่งรีบกินให้หมดรวดเดียว เป็นต้น
สรุป
แล้วก็จบลงไปแล้วนะครับสำหรับบทความแนะนำนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ( Nagasaki Shinchi Chinatown ) จะเห็นได้ว่าที่ไชนาทาวน์แห่งนี้จะมีร้านอาหารที่มีเมนูที่เป็นของขึ้นชื่อของ Nagasaki อย่างจัมปงและซาระอุด้ง กันแทบทุกร้าน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาหาของอร่อยๆกินได้ที่นี่ รวมถึงขนมหวานจีนหรือขากฝากจีนก็สามารถมาซื้อได้ที่นี่ด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องบอกได้เลยว่าไชน่าทาวน์แห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาลิ้มลองอาหารอร่อยๆให้ได้ซักครั้งในชีวิต