ขับรถเที่ยว กิฟุ (Gifu) กุโจ (Gujo) และ เกโระ (Gero) ทริปตามใจ 3 วัน 3 รส EP.3 เกโระออนเซ็น ชมเมืองน่ารัก พักดี อาหารอร่อย

ใครยังไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้า อ่านได้ที่นี่

ขับรถเที่ยว กิฟุ (Gifu) กุโจ (Gujo) และ เกโระ (Gero) ทริปตามใจ 3 วัน 3 รส EP.1 ตะลุยกิฟุ ใส่กิโมโน ชิมปลา ชมวิว

ขับรถเที่ยวกิฟุ กุโจและเกโระ พาไปแต่งกิโมโนเที่ยวตัวเมืองกิฟุ ชิมปลาอายุ ชมวิวจากปราสาทบนยอดเขา พร้อมรีวิวบริการ Toyota Rent a Car สายขับรถเที่ยวต้องไม่พลาด

ขับรถเที่ยว กิฟุ (Gifu) กุโจ (Gujo) และ เกโระ (Gero) ทริปตามใจ 3 วัน 3 รส EP.2 กุโจ เมืองแห่งสายน้ำ มนต์ขลังวัฒนธรรม

ขับรถเที่ยว Gifu สัมผัสวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ที่เมืองกุโจ (Gujo) พร้อมหลากกิจกรรมและจุดเช็คอินที่อยากให้ได้ไป จากเมืองกิฟุ ขึ้นทางด่วนใช้เวลาแค่ 30-40 นาที

1. ตลาดเช้า Ideyu Morning Market ที่ Gero Onsen

ตลาดเช้า Ideyu Morning Market เป็นตลาดเช้าที่ชาวบ้านจะนำผลผลิตจากในครัวเรือนมาขาย เช่น น้ำมะเขือเทศสด โซบะทำมือ เห็ดสด บลูเบอร์รี่ และของทำมือต่างๆ

คนขายส่วนใหญ่เป็นคุณลุงคุณป้าใจดี ที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง สินค้าส่วนมากเป็นสินค้าท้องถิ่น ที่ชาวบ้านทำมาขาย รวมถึงผักสดและอาหารท้องถิ่นก็มีให้เลือกชิม

คุณป้าใจดีท่านหนึ่งเล่าว่า เคยไปเมืองไทย และชอบเมืองไทยมาก เราได้ฟังก็อดยิ้มตามเรื่องที่แกเล่าไม่ได้ สินค้าท้องถิ่นของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งน้ำแอปเปิ้ล คินพิระโกโบะ ที่เป็นเครื่องเคียงที่ถ้าทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ และยังมีขนมชิราซากิ ที่มีรสชาติหวานเฉพาะตัว

และสำหรับใครที่มองหาของฝากพื้นเมืองที่ไม่เหมือนใคร เราขอแนะนำลองซื้อของท้องถิ่นของที่นี่ไปฝากดูนะคะ เชื่อว่าจะได้ของฝากที่ไม่เหมือนใคร ยังไงก็ลอง ไปอุดหนุนคุณลุงคุณป้ากันดูนะ แล้วจะประทับใจเหมือนกับเรา

ตลาดเช้า Gero Onsen Ideyu

2. ชมหมู่บ้านโบราณ Gassho-Mura

Gassho เป็นคำเรียกชื่อบ้านสไตล์โบราณที่มีหลังคาเป็นทรงจั่วลาดชัน เหมือนมือกำลังพนมอยู่ (Gassho แปลว่า พนมมือ) สาเหตุที่ต้องมีความลาดชัน ก็เพื่อให้หิมะไม่ทับถมจนทำให้หลังคาพังทลาย เป็นภูมิปัญญาเก่าแก่ในอดีตในการสร้างบ้านของผู้คนแถบนี้

ที่หมู่บ้านนี้ นอกจากเราจะได้เดินชมบรรยากาศหมู่บ้านโบราณแล้ว ด้านในบ้านแต่ละหลัง ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้และข้าวของโบราณ ไปจนถึงชุดเกราะ และตุ๊กตา ให้เราได้เรียนรู้กัน

ตุ๊กตาโบราณ สำหรับวันเด็กผู้หญิง มีเจ้าหญิง เจ้าชาย ขุนนาง นักรบ

ที่นี่ยังสามารถมาเรียนรู้การปั้นดิน และงานเพนท์ต่างๆ กับช่างท้องถิ่น นำไปเป็นของฝากกลับบ้านได้ด้วย เหมาะสำหรับพาเด็กๆมาทดลองเล่นสนุก

หมู่บ้านGassho-Mura

3. Gero Pudding แพกเกจจิ้งน่ารัก พุดดิ้งหลากรส

เราก็ขับรถมาต่อกันในตัวเมือง เพื่อมาตามหาพุดดิ้งที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้ที่ร้าน Gero Pudding

พอเข้าไปด้านในจะเจอบรรยากาศที่ทำเลียนแบบออนเซ็น มีน้องเป็ดเหลืองและน้องกบเกโระจำนวนมาก

พุดดิ้งของที่นี่มีหลายรสให้เลือก ทั้งออริจินัล และรสชาติตามฤดูกาล ตอนเสริฟจะจัดมาในถังสีเหลืองแบบที่ใช้กับโรงอาบน้ำ

เรามาลองรสมองบลังกัน เนื้อครีมนุ่ม มี texture ของเกาลัดกรุบๆ และมีเกาลัดชิ้นใหญ่ตรงกลาง ส่วนพุดดิ้งนั้นไม่ต้องพูดถึงหอมกลิ่นนมและวนิลามากๆ

มีช่องให้แอบมองคุณพนักงานตอนเตรียมพุดดิ้งด้วย

ร้าน Gero Pudding

4. เดินเล่นในตัวเมือง มองหากบเกโระ

เกโระ ในภาษาญี่ปุ่น เป็นคำที่แทนเสียงร้อง “อ๊บๆ” ของเจ้ากบ ซึ่งเป็นคำพ้องเสียงกับชื่อของเมืองพอดี เราจึงได้เห็นอะไรสนุกๆที่มีสัญลักษณ์รูปกบอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้ากบ ฝาท่อลายกบ หรือพื้นถนนยังโรยหินเป็นรูปกบเลย น่ารักจริงๆ

กลางตัวเมืองมีแม่น้ำไหลผ่าน สองข้างทางมีออนเซ็น ร้านค้า ร้านกาแฟน่ารักๆมากมาย

บริเวณริมแม่น้ำถือเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองทุกเพศทุกวัย ทั้งยังมีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งที่ใครก็สามารถลงไปแช่เท้าได้ตามสบาย

ใครชอบทานกาแฟ ลองหาร้านที่ชอบ เข้าไปนั่งชิลล์ดู วันนี้เรามาลองร้านเปิดใหม่ที่ชื่อ Perigord กัน

ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ที่ตกแต่งแบบอบอุ่นเป็นกันเอง มีกาแฟหลายชนิดให้เลือก รวมถึงแซนด์วิชของทางร้านก็ขึ้นชื่อ

ไอติมไข่ออนเซ็น หรือ อนทามะซอฟท์ (Ontama Soft) ของร้าน ยุอามิยะ (Yuamiya) (ราคารวมภาษี 410 เยน) เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่น่าสนใจของเมืองนี้ ตอนทานบี้ให้ไข่ละเอียด ในเนื้อไอติมนุ่มๆจะมีเทกซ์เจอร์ที่กรุบๆของคอร์นเฟลก และมีกลิ่นหอมของไข่ที่เข้ากัน ในวันอากาศหนาวเราสามารถนั่งทานไอติมไปด้วย แช่เท้าในบ่อน้ำร้อนไปด้วยแบบในภาพ

นอกจากนี้ในตัวเมืองยังมีของฝากที่น่ารัก ทำเป็นตีมรูปกบ ได้ฟิลลิ่งต่างจากของฝากเมืองกิฟุ ที่เป็นรูปโอดะ โนบุนากะ หรือของฝากเมืองกูโจ ที่มักจะเป็นรูปหญิงสาวร่ายรำ

5. ทานเมนูไก่บ้านที่ร้าน Hinokiya

Hinokiya เป็นร้านอาหารที่จัดเสริฟอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ มีทั้งอาหารเซ็ต และแบบไคเซกิ (ฟูลคอร์สสไตล์ญี่ปุ่น) วันนี้เราจะมาทานอาหารเซ็ตมื้อเทียงเมนูท้องถิ่นขึ้นชื่อ ที่มีพระเอกเป็นไก่บ้านย่างซอสกับหัวหอม

เมนูแนะนำของที่นี่มีชื่อว่า เคอิจัง เป็นคำเรียกไก่คล้ายๆชื่อเล่น เมนูนี้มีเฉพาะฤดูใบไม้ผลิจนถึงใบไม้ร่วงเท่านั้น ในเซ็ตมีมะเขือม่วงชิ้นโตราดมิโสะ ที่อร่อยสุดๆ รสชาติมะเขือม่วงมันๆตัดกับความหวานและหอมของมิโสะได้เป็นอย่างดี

ปิดท้ายด้วยอีกจานเป็นปลาแม่น้ำทอดชิ้นโต ที่อิ่มแล้วก็ยังอยากกินอีก แต่เราไม่กังวล เพราะสถานที่ถัดไปต้องใช้พลังงานเยอะอยู่

ร้าน Hinokiya

6. น้ำตกฮิดะ-โอะซะกะ (Hida-Osaka) กับทางเดินป่าแสนสวย

“โตโตโร่จะออกมารึเปล่านะ” คุณเจ้าหน้าที่ที่พาเราเดินป่าพูดขึ้นมาในจังหวะเดียวกับที่เรานึกในใจพอดี ว่าป่าที่นี่ให้บรรยากาศเหมือนในเรื่องโตโตโร่เลย

ตอนแรกที่เห็นชื่อ น้ำตกฮิดะ-โอะซะกะ (Hida-Osaka) เราก็นึกไปถึงเมืองโอซาก้า เฉยเลย ซึ่งขอบอกว่า ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน และน้ำตกนี้ก็ไม่ได้ไหลไปที่เมืองโอซาก้าแต่อย่างใด! แต่เป็นธารน้ำไหลผ่านแก่งหินที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ Ontake เมื่อ 54,000 ปีมาแล้ว ลดหลั่นกันเป็นชั้นๆสวยงาม

ที่สำคัญในบริเวณนี้มีน้ำตกทั้งหมดถึง 216 แห่ง จึงเป็นที่นิยมในการเดินป่า เพื่อชมน้ำตก และมีเส้นทางเดินให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ไปจนถึงระดับโปร

แน่นอนว่าระดับเรา ก็ต้องเลือกเดินเส้นทางง่ายสุดอยู่แล้ว! คอร์สที่เราเดินเป็นเส้นทางประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งก็ถือว่าพอเพียงที่จะได้เห็นความสวยงามน่าตื่นใจของธารน้ำตกสีฟ้าอมเขียว และป่าที่เต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ล

สำหรับสายธรรมชาติ ยังมีอีกหลายน้ำตกที่น่าค้นหา สามารถจองทัวร์ลุยป่าแบบแอดเวนเจอร์ ไปปีนเขา เล่นน้ำตกได้

ไม่ไกลจากที่นี่ เป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนและออนเซ็น Himeshaga no Yu ที่มีจุดเด่นคือ ในน้ำนั้นมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในปริมาณสูง จึงมีความซ่าเหมือนน้ำอัดลม ส่วนสีส้มเป็นสีของแร่ธาตุที่มีปริมาณสูง

บริเวณด้านหน้ามีบ่อน้ำพุร้อนคาร์บอเนตให้ลองดื่มฟรี หลายคนติดใจในคุณสมบัติของน้ำจนเอาแกลลอนมาขนกลับบ้านไปก็มี สำหรับใครอยากผิวดี ต้องมาแช่ออนเซ็นที่นี่เลย เพราะมีแร่ธาตุเพียบ

น้ำตกฮิดะ-โอะซะกะ (Hida-Osaka)

7. คาเฟ่ต้องมนตร์ Siegfrieda

หลังจากดื่มน้ำคาร์บอเนต เราก็ออกตะลุยหาเค้กอร่อยๆทานกันต่อ ความสวยและบรรยากาศดีตั้งแต่หน้าร้านของร้านกาแฟ Siegfrieda ทำเอาเราสตั๊นไป 10 วิ!

เค้กในตู้ก็ทำเอาเราสตั๊นไปอีก เพราะมีแต่ของน่ากิน จากนั้น ด้วยความที่อะไรๆก็สวยไปหมด เราก็ถ่ายรูปเค้กกันรัวๆ เพราะมีความน่ารัก น่ากิน เกินห้ามใจ

ในร้านที่ตกแต่งสไตล์วินเทจ สวยน่าถ่ายรูปไปหมดทุกมุม เหมือนอยู่ในเทพนิยาย ให้บรรยากาศอบอุ่นผ่อนคลาย

หน้าต่างร้าน เห็นวิวแม่น้ำ และต้นเมเปิ้ล ที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงในฤดูใบไม้ร่วง ไว้จะกะเวลาดีๆแล้วกลับมาใหม่ปีหน้านะ

ร้าน Siegfrieda

8. โรงแรมสุดอะเมซิ่ง กับออนเซ็นวิวสวยบนดาดฟ้า Hotel Armeria

หลังจากหมด 1 วันอันยาวนาน เราก็มาพักที่ โรงแรม Armeria เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่เราชอบ เพราะนอกจากมีออนเซ็นสวยงามแล้ว ห้องยังเป็นสไตล์ญี่ปุ่นกว้างมาก แถมอาหารมือเย็นก็ อะเมซิ่งสุดๆ

โรงแรมนี้อยู่บนเนินเขา จึงมีวิวที่สวย แถมพอเดินเข้าไป เราก็ตกใจ เพราะตกแต่งเหมือนอยู่ในปราสาทของยุโรป แถมทางไปห้อง ต้องรถนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไป เนื่องจากอาคารสร้างเอียง เคียงไปกับภูเขา เราจึงต้องเคลื่อนที่แบบเฉียงๆ สนุกไปอีกแบบ

พอเปิดประตูเข้าห้องมาปุ๊บ ก็เจอห้องญี่ปุ่นขนาดใหญ่ เหมือนไปยุโรปแล้ววาร์ปกลับมาญี่ปุ่น เล่นเอาเปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทัน

หลังจากนั้นก็ไปแช่ออนเซ็นและเตรียมตัวทานข้าวกัน บุฟเฟ่ต์ของที่โรงแรมนี้มีหลากหลายมาก และมีเซทยืนพื้นให้เราทาน นั่นก็คือ เนื้อวากิวย่าง ทั้งนุ่ม หอม และมีไขมันแทรกทำให้เนื้อมีความชุ่มฉ่ำ

และอีกหนึ่งไฮไลต์ของงานนี้ก็คือเจ้าปูยักษ์นั่นเอง มื้ออาหารที่โรงแรม Armeria เป็นอีกมื้อในทริปที่น่าประทับใจและอยากแนะนำให้มาลองทาน

Hotel Armeria

ข้อสรุป

เกโระ เป็นเมืองออนเซนที่น่ารักและมีบรรยากาศที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งยังมีของกินที่อร่อย มีหลากหลายสถานที่ที่มีมุมน่ารักๆให้ถ่ายภาพและนั่งชิลล์ ถ้ามากันหลายคน การเช่ารถยนต์เป็นอีกวิธีที่เราอยากแนะนำ เพราะสามารถเช่าและคืนได้อย่างสะดวกสบาย และไปได้ทุกที่ที่อยากไป ถ้ามีโอกาสได้มาแถบนี้ทั้งที อย่าลืมแวะให้ครบทั้ง ตัวเมืองกิฟุ กุโจ และเกโระ สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านทริปก่อนหน้า คลิกอ่านเลย

ขับรถเที่ยว กิฟุ (Gifu) กุโจ (Gujo) และ เกโระ (Gero) ทริปตามใจ 3 วัน 3 รส EP.1 ตะลุยกิฟุ ใส่กิโมโน ชิมปลา ชมวิว

ขับรถเที่ยวกิฟุ กุโจและเกโระ พาไปแต่งกิโมโนเที่ยวตัวเมืองกิฟุ ชิมปลาอายุ ชมวิวจากปราสาทบนยอดเขา พร้อมรีวิวบริการ Toyota Rent a Car สายขับรถเที่ยวต้องไม่พลาด

ขับรถเที่ยว กิฟุ (Gifu) กุโจ (Gujo) และ เกโระ (Gero) ทริปตามใจ 3 วัน 3 รส EP.2 กุโจ เมืองแห่งสายน้ำ มนต์ขลังวัฒนธรรม

ขับรถเที่ยว Gifu สัมผัสวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ที่เมืองกุโจ (Gujo) พร้อมหลากกิจกรรมและจุดเช็คอินที่อยากให้ได้ไป จากเมืองกิฟุ ขึ้นทางด่วนใช้เวลาแค่ 30-40 นาที