ขับรถเที่ยว Chubu ตอนที่ 5 : Unseen Gifu เที่ยวครบรสในอ้อมกอดขุนเขา

ในที่สุดเราก็ได้มุ่งหน้าสู่ จังหวัดกิฟุ แต่ความพิเศษของทริปนี้คือเราจะพาคุณไปเปิดหูเปิดตา ไปรู้จักที่นี่ในมุมใหม่ ครบทุกความสนุก ทั้นกิน เที่ยว กิจกรรมแน่นๆ กันไปเลย

Gujo Hachiman : เมืองสวย น้ำใส บรรยากาศโบราณ

จุดหมายแรกของวันนี้คือ Gujo Hachiman เมืองเล็กๆ บรรยากาศดี เพราะยังคงความเป็นรูปแบบญี่ปุ่นของบ้านเรือน ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขาและสายน้ำ

เมืองนี้เป็นเมืองน่ารักไม่พลุกพล่าน บรรยากาศดีสุดๆ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ไม่ชอบความพลุกพล่าน แต่อยากเดินชมเมืองโบราณ วิวสวยๆ

อีกหนึ่งกิจกรรมไม่ควรพลาดคือการเดินชมวิวลัดเลาะลำธาร ฟังเสียงน้ำไหล ก็เป็นกิจกรรมอานเป็นที่นิยม หรือจะเดินชมบ้านเมือง ร้านรวง พิพิธภัณฑ์ก็น่าสนใจ

Gujo Hachiman

Jionsenji Temple : สงบงามวิวสวย สวนญี่ปุ่น

ทีนี้หลายคนคงอยากรู้แบบละเอียดว่าที่ Gujo Hachiman มีที่เที่ยวเด็ดๆ บ้างหรือเปล่า เราก็จะพาทุกคนมาเจาะลึกกัน ที่แรกที่ไม่ควรพลาดคือวัดจิอนเซ็นจิ (Jion-Zenji Temple / 慈恩禅寺)

วัดโบราณแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1606 โดดเด่นด้วยความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นอันเรียบง่าย ที่ผสานเข้ากับบรรยากาศของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

ไฮไลท์ของวัดนี้คือคือการชมสวนเท็ตโชเอ็ง สวนญี่ปุ่น บรรยากาศสงบซึ่งเปี่ยมด้วยความงดงามของธรรมชาติ ฟังน้ำไหลเอื่อย และสวยเป็นพิเศษ เพราะในช่วงที่ไปใบไม้เปลี่ยนสีพอดี ไม่น่าเชื่อว่าวิวสวยๆ บรรยากาศผ่อนคลายก็ช่วยชาร์ตแบตความรู้สึกได้ไม่น้อยทีเดียว

Jionsenji Temple

Sample Kobo : ทำแซมเปิลอาหารที่เหมือนสุดๆ

นอกจากความสวยงาม ธรรมชาติ และอะไรโบราณๆ ที่กุโจอาชิมัน ยังเต็มไปด้วยร้านรวงที่น่าสนใจ แต่จะพาเข้าร้านของฝากทั่วไปมันก็จะไม่แนว เพราะงั้นเราจะพาทุกคนไปเลือกซื้อ และทำแซมเปิ้ลอาหารเองที่ร้าน Sample Kobo

ร้านนี้เรียกได้ว่าโด่งดังมากของเมืองนี้ เพราะเค้าทั้งรับทำ และขายของที่ระลึกที่เป็นตัวอย่างอาหาร ซึ่งขอบอกเลยว่าเหมือนมากๆ

นอกจากมีของที่ระลึกจำหน่าย ที่นี่ยังมี Workshop ทำตัวอย่างอาหารด้วย มีให้เลือกหลายแบบ แต่เราเลือกที่วางโทรศัพท์ สนนราคา 900 เยน ได้ของกลับบ้านเลย

Sample Kobo

สำหรับใครที่สนใจคอร์สอื่น ดูได้ที่นี่

Sample Kobo

Hida furukawa : เดินเที่ยว กินข้าว ตามรอย Your Name

Hida furukawa เมืองเล็กๆ น่ารัก อีกหนึ่งเมืองที่มีการผสมผสาน รักษาความดั้งเดิมแบบฮิดะไว้กับวิถีชีวิตปัจจุบัน ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่นับว่ามีความน่าสนใจหลายจุด

ฉากในเรื่อง yourname นาทีที่ 47m28s

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีความพิเศษ คือ เป็นโลเคชั่นของ Your Name การ์ตูนเรื่องดัง ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปตามรอย ประเดิมด้วยสถานที่แรกสถานีรถไฟHida furukawa

ฉากในเรื่อง yourname นาทีที่ 47m42s

ฉากในเรื่อง yourname นาทีที่ 47m50s

เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ บรรยากาศดี เดินเล่นได้แบบ ชิลล์ๆ ยิ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสียิ่งสวย มีจุดถ่ายรูปชิคๆ เพียบ

ก่อนช่วงฤดูหนาวที่นี่จะปล่อยปลาคราฟลงที่ร่องน้ำ ดูเพลินๆ ช่วนให้เมืองมีความน่ารักมากขึ้น และจะเก็บปลาเมื่ออากาศเริ่มหนาว เพราะงั้นถ้าอยากมาดูปลา เลือกช่วงดีๆ นะ

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เที่ยงๆ แบบนี้ขอแวะทานอาหารก่อน ที่ร้าน Ajidokoro Furukawa ทั่งเซตในรูป ราคา 1000 เยน

Ajidokoro Furukawa

สนใจเมนูเซ็ตอื่น ดูได้ที่นี่

สำรองที่นั่ง จองอาหารได้ที่อีเมล์ [email protected]

นอกจากมีอาหารที่อร่อยแล้ว ร้านนี้ยังเป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นของ Your Name ด้วย อย่าลืมสั่ง โกเฮโมจิ (Gohei Mochi) จากทางร้านมานั่งกินด้วยล่ะ

ฉากในเรื่อง yourname นาทีที่ 48m10s

Hida furukawa

Kamioka rail mountain bike : ปั่นจักรยานราง ชมวิวฟินระดับสิบ

สถานีต่อไปเราจะพาทุกคนไปที่สถานีรถไฟ Oku Hida Onsenguchi แต่ไม่ได้ไปนั่งรถไฟเพราะเราจะไปปั่นจักรยานบนรางรถไฟ ซึ่งที่นี่ใช้เส้นทางรถไฟเก่าที่ยกเลิกแล้ว มาทำเป็นเส้นทางจักรยานรางให้นักท่องเที่ยวได้ปั่นชมบรรยากาศ

กิจกรรมนั้นมีเป็นรอบๆ โดยเค้าจะแบ่งคนออกเป็นชุดๆ รถมีให้เลือกหลายแบบ ซึ่งสามารถเลือกให้เหมาะกำจำนวนคน มีการอบรม สอนใช้เครื่องมือ และการรับมือหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

ขอบอกเลยว่าวิวนี้ดีสุดๆ ใกล้ชิดธรรมชาติ จักรยานปั่นง่ายไม่เหนื่อย ระยะทางไปกลับรวม 5.8km ซึ่งจะไปหยุดที่จุดชมวิว แวะถ่ายรูป ก่อนปั่นกลับ

ใครอยากสัมผัสผิวที่แตกต่างล่ะก็ ต้องไม่พลาดกิจกรรมนี้เพราะทั้งได้ชมวิว และออกกำลังกาย ให้อาหารตา ประทับใจสุดๆ เป็นหนึ่ง Unseen ที่ไม่ควรพลาด

Kamioka rail mountain bike

Hotel Hotaka : ที่พักสุดฟิน อาหารเยี่ยม ออนเซ็นชั้นยอด

จัดเต็มกิจกรรมกันมาทั้งวัน ขอจบด้วยการพักผ่อนให้สบายที่ Hotel Hotaka ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นกระเช้า Shin-Hotaka ที่เราจะขึ้นกระเช้าไปเที่ยวพรุ่งนี้เช้า

โรงแรมตกแต่งในสไตล์สากล เมื่อประกอบกับวิวเทือกเขาก็แอบให้อารมณ์คล้ายกับมาเที่ยวยุโรป อยุ่เหมือนกัน เรียกได้ว่ามาเที่ยวหนึ่งได้ถึงสอง

ที่ชั้นหนึ่งหลังจากเช็คอินที่ล็อบบี้ ใครอยากใส่ยูกาตะลายสวยๆ สามารถเช่าได้ แต่ถ้าไม่ซีเรียส ทางโรงแรมมียูกาตะลายมาตรฐานบริการในห้องพักอยู่แล้ว

ห้องพักของที่นี่มีบริการตั้งแบบห้องญี่ปุ่น และห้องพักแบบสากล มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบในห้อง ทั้งทีวี ตู้เย็น ชุดชงชากาแฟ มีตู้กดน้ำแข็งบริการฟรี มีตู้ขายสินค้าอัตโนมัต นับว่าสะดวกสบายมากๆ

หลังจากขึ้นห้องแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย ที่การรับประทานอาหารเย็น ซึ่งพนักงานจะแจ้งเวลาเสิร์ฟไว้ ให้เราไปที่ห้องอาหารตามเวลาที่กำหนด

มาถึงแถบฮิดะทาคายาม่า ต้องไม่พลาดกินเนื้อ ชุดไคเซกิของที่นี่เต็มไปด้วยอาหารจากวัตถุดิบกันโดดเด่นในแถบนี้ โดยมีพระเอกคือ เนื้อฮิดะวากิว A5 ย่างนิดๆ รสชาตินุ่มลิ้นจนแทบละลาย

อิ่มหนำกับรสชาติสุดประทับใจของวัตถุดิบเลื่องชื่อที่เสิร์ฟเป็นคอร์ส ทั้งคาวหวาน พร้อมเครื่องดื่มพิเศษที่สั่งได้(จ่ายเพิ่ม) ทำให้มื้อนี้เป็นมื้อดีงาม ห้ามพลาด

มาพักที่นี่ต้องไม่พลาดการแช่ออนเซ็น ซึ่งเป็นออนเซ็นจากแหล่งธรรมชาติ อุดมด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย คลายความเหนื่อยล้า ผ่อนคลายร่างกายได้เป็นอย่างดี

นอกจากความสบายแล้ว วิวออนเซ็นกลางแจ้งของที่นี่นับว่าเด็ดมาก ออนเซ็นมีทั้งแบบสีใส และน้ำสีฟ้าอ่อนที่มีแร่ธาตุต่างกัน

ตอนรับเช้าวันใหม่ด้วยอาหารเช้าเบาๆ สไตล์ฮิดะ ที่เต็มไปด้วยของอร่อยท้องถิ่น ใครพักที่นี่แนะนำให้ลองทั้งมื้อเช้ามื้อเย็นเลย

Hotel Hotaka

Shinhotaka Ropeway : กระเช้าสองชั้นวิวตระการตาแห่งเดียวในญี่ปุ่น

วันนี้เราขอพาทุกคนนั่งกอนโดล่า 2 ชั้น เจ้าแรกเจ้าเดียวในญี่ปุ่น ชมวิวสุดตระการตา อีกหนึ่งจุดของทาคายาม่าที่ไม่ควรพลาด

shinhotaka ropeway กระเช้าสองชั้นเจ้าเดียวของญี่ปุ่นที่จะพาเราชมทัศนียภาพบนยอดเขาโฮทากะ ชมเทือกเขาเจแปนแอลป์ที่สวยในทุกฤดูกาล นอกจากการนั่งกระเช้า การเดินชมเส้นทางธรรมชาติอันงดงาม ที่นี่ยังมีที่พัก และออนเซ็นชั้นเยี่ยม เรียกได้ว่าเป็นสถานที่เที่ยวครบรสแห่งหนึ่ง

จุดหมายแรกเราขอพาคุณนั่งกระเช้าชมวิวกันก่อน สถานีแรกคือ Shin-Hotaka Onsen Station โดยต้องซื้อตั๋วเพื่อนั่งกระเช้า ซึ่งมีจุดชมวิวสองชั้นด้วยกัน สำหรับในวันนี้เราขอไปที่จุดสูงสุดเพื่อชมวิว อย่าลืมเสื้อกันหนาวเพราะข้างบนจะหนาวเป็นพิเศษ

ราคาของตั๋วก็จะแตกต่างกันไปตามภาพด้านล่าง ตอนซื้อตั๋วก็บอกพนักงานได้เลย ที่สำคัญต้องเก็บตั๋วให้ดีจนกว่าเราจะลงมา เพราะจะมีการตรวจตั๋วด้วย

เพื่อขึ้นไปยังจุดสูงสุดคือสถานีนิชิโฮทะคะกุจิ(Nishi Hotaka Guchi)นั้น ต้องขึ้นกระเช้าสองครั้ง คือกระเช้าชั้นเดียวไปที่จุดที่ 1 ซึ่งจะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ออนเซ็น จากนั้นก็นั่งกระเช้าจากจุดที่ 1 ไปที่จุดที่ 2 ซึ่งเป็นจุดชมวิวชั้นสูงสุด

ยิ่งสูงขึ้นไปจะพบทัศนียภาพที่งดงามของแนวเทือกเขา ซึ่งน่าเสียดายที่เราไปไม่ทันช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้ตอนนี้จึงเริ่มร่วงแล้ว ทว่าก็ถือว่าวิวที่ได้นั้นก็สวยมาก

สำหรับจุดชมวิวชั้นสูงสุดในสถานีนิชิโฮทะคะกุจิ(Nishi Hotaka Guchi)นั้นเป็นเหมือนดาดฟ้าที่เปิดให้คุณชมวิวระดับล้านที่เห็นเทือกเขาอันงดงาม จากความสูง 2156 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

สำหรับใครที่มาเที่ยวคนเดียวเค้ามีพนักงานบริการถ่ายรูปโดยใช้กล้องเราให้ฟรี แต่ถ้าอยากอุดหนุนสามารถเลือกรูป ในอัลบั้มอย่างดีในราคา 1500 เยน พนักงานพูดไทยได้ด้วย ยิ้มหน่อย แชะ!

ถ้าตาเปล่ามองวิวไม่ชัดก็มีกล้องส่องทางไกลแบบหยอดเหรียญให้บริการ ด้านบนอากาศเย็นกว่าด้านล่างมากๆ วันนี้ฟ้าเปิดเลยเห็นวิวสวยสุดๆ

นอกจากไฮไลต์จุดชมวิวที่ชั้นสูงสุดแล้ว ยังมีร้านค้าให้บริการอาหาร ขนม เส้นทางการเดินชมธรรมชาติ

ใครที่อยากซื้อขนมของฝากก็สามารถหาซื้อได้เช่นกัน เพราะที่นี่มีให้เลือกเยอะ ทั้งขนม ของขึ้นชื่อในแถบฮิดะ สาเก และของที่ระลึกมากมาย

มาถึงที่นี่ทั้งที อยากให้ลองชิมเค้กชินโฮทากะ หอมนุ่ม อร่อย มีความกรุบกรอบข้างในด้วย เค้ามีให้ลองชิมก่อนซื้อด้วยนะ

สำหรับใครที่สนใจมาเที่ยวเวลาทำการในแต่ละฤดูกาลจะแตกต่างกันไปเลือกมาฤดูไหนต้องศึกษาให้ดี แต่แนะนำให้มาแต่เช้าจะได้เที่ยวให้ทั่ว

Shinhotaka Ropeway

Le Midi : ชิมโซบะวากิว อร่อยยกซด

ก่อนกลับเข้านาโกย่า ขอสั่งลาด้วยร้านเด็ดที่ไม่ควรพลาดในแถบนี้ คือร้าน Le Midi เป็นร้าน Ramenที่อยู่แถบเมืองทาคายาม่า

ใครไปร้านนี้แนะนำให้ลองRamenร้อนเนื้อฮิดะ หรือเป็นเซตRamenกับเนื้อย่างก็ได้ สนนราคา 1500 เยน อร่อยมากกก คือดีงาม ใครไปทาคายาม่าอยากให้ไปลอง เพราะน้ำซุปกลมกล่อม เมื่อรวมกับวัตถุดิบเกรดพรีเมียมก็แทบละลายในปาก

Le Midi

ข้อสรุป

บอกแล้วว่ากิฟุไม่ได้มีแค่ย่านเมืองโบราณทาคายาม่า ยังมีอะไรเด็ดๆ เพียบ ทริปวันนี้เป็นคำตอบได้เป็นอย่างดีทีเดียว สำหรับเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคชูบุล่ะก็ดูได้ที่นี่เลย

ขับรถเที่ยว Chubu อินไซต์ใจกลางญี่ปุ่น ตอนที่ 1 : เที่ยวละมุน กรุ่นความสุข ที่ชิซูโอกะ

Autumn นี้เราขอพาตะลุยชูบุ ภูมิภาคใจกลางญี่ปุ่นที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ คราวนี้เราลอง ขับรถเที่ยว Chubu เพื่อชม Unseen ที่สวยงาม ใครที่กำลังสนใจการขับรถเที่ยวญี่ปุ่นต้องไม่พลาด แล้วจะรู้ว่าไม่ยาก และประหยัดกว่าที่คิด!!! ประเดิมวันแรกเมืองชิซูโอกะ เมืองสุดน่ารัก ที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ และของสุดอร่อย

ขับรถเที่ยว Chubu ตอนที่ 2 : Unseen Aichi ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีสุดอเมซิ่ง

ทริป ขับรถเที่ยว Chubu ดำเนินมาถึงวันที่สอง สำหรับวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาเยือนจังหวัดไอจิ ชม Unseen ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม พร้อมกิจกรรมสุดสนุกเปิดมุมใหม่ไอจิที่น่าไปเยือน

ขับรถเที่ยว Chubu อินไซต์ใจกลางญี่ปุ่น ตอนที่ 3 : ตะลุยเมืองนินจา ปาดาวกระจาย!!!

วันที่สามของการ ขับรถเที่ยว Chubu เราจะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์การเป็นนินจา ถึงต้นกำเนิด พร้อมเที่ยวจังหวัดมิเอะ แวะทำงานฝีมือชิ้นเดียวในโลก เอาล่ะ ไปดูกันว่าจะสนุกขนาดไหน

ขับรถเที่ยว Chubu ตอนที่ 4 : ชมงานประดับไฟสุดอลังการ

เข้าสู่วันที่สี่ของการเดินทางขับรถ วันนี้เรายังคงอยูกันที่จังหวัดมิเอะ พร้อมพาทุกคนตะลุยเที่ยวแบบครบรส ทั้งทัวร์สายบุญ ตลาดนัดสุดเจ๋ง วิวสวย และอาหารอลังการ โหจัดเต็มขนาดนี้ต้องดูแล้วล่ะ

ขับรถเที่ยว Chubu ตอนที่ 6 : จบทริปสุดฟิน ตะลุยช๊อปนาโกย่า

เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายของ ทริป ขับรถเที่ยว chubu เรียกได้ว่าเก็บที่เที่ยวได้เยอะ ที่สำคัญเที่ยวครบรส แบบสะดวกสบายสุดๆ วันนี้เราขอส่งท้ายที่นาโกย่า ก่อนบินกลับมีกิจกรรมน่าสนใจอะไรบ้างตามมาดูเลย!!!