Cr: HWA’s
ญี่ปุ่นเข้าหน้าฝนจริงจังแล้ว เราจึงจัดทริปพาตัวเองออกไปดูดอก ไฮเดรนเยียญี่ปุ่น หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า อะจิไซ มา เพราะช่วงนี้จะเป็นเวลาที่ดอกไม้ชนิดนี้เบ่งบานสวยสุด ๆ เรียกได้ว่าถ้ามาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมการไปชมดอกไฮเดรนเยียถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด
และพิกัดที่เราจะพาไปทัวร์ชมดอก ไฮเดรนเยียญี่ปุ่น กันนั้นคือเมืองคามาคุระ จังหวัดคานากาวะ (Kanagawa) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลโตเกียวนั่งรถไฟมาได้ไม่ยากและมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ มากมาย มีความเก่าแก่และน่ารัก แน่นอนว่ามีพิกัดชมดอกไฮเดรนเยียอยู่เพียบ คราวนี้เราจึงขอพาไปชมด้วยกัน 4 ที่ไปเลย!
สำหรับใครที่อยากรู้ พิกัดท่องเที่ยวในจังหวัดคานากาวะ ที่เราสามารถเดินเพียง 30 นาทีจากโตเกียว สามารถอ่านต่อได้เลย
Megetsu-in : วัดแห่งดอกไฮเดรนเยียญี่ปุ่น
Cr: HWA’s
พิกัดแรกเราเดินทางมาที่สถานี Kita-Kamarura ใกล้นี้มีวัดที่ชื่อว่า Meigetsu-in อันเป็นหนึ่งในจุดชมดอกไฮเดรนเยียที่ติดอันดับความสวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และยังขึ้นชื่อว่าสามารถเห็นดอกไฮเดรนเยียจำนวนมากแบ่งบานได้ที่นี่ สำหรับค่าเข้าชมอยู่ที่ 500 เยน
Cr: HWA’s
เมื่อจ่ายค่าตั๋วกันไปเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเดินชมด้านใน เนื่องจากวันที่เราไปอากาศดีมากและยังเป็นวันหยุดทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากมายซะเหลือเกิน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น
Cr: HWA’s
จำนวนนักท่องเที่ยวที่เยอะไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเรา แม้ว่าว่าจะต้องรอคิวนานแต่พอได้เข้ามาชมดอกไฮเดรนเยียมากมายด้านในแล้วก็รู้สึกหายเหนื่อยที่ต่อคิวรอ เพราะสวยมาก ๆ
Cr: HWA’s
ดอกไฮเดรนเยียด้านในมีให้เราชมหลากหลายสี และหลายแบบใครที่ชอบดอกไม้หรือชอบถ่ายรูปคู่กับดอกไม้บอกเลยว่าถ่ายได้ไม่ยั้ง ได้รูปโปรไฟล์สวย ๆ กลับไปแน่
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
ที่นี่ไม่ได้ห้ามเราถ่ายรูปคู่กับดอกไม้ แต่ก็ต้องระมัดระวังไม่ไปจับหรือเด็ดดอกไม้โดยเด็ดขาด ดอกไฮเดรนเยียสวย ๆ จะได้อยู่สวย ๆ ให้เราได้ถ่ายรูปกันต่อไป
Cr: HWA’s
ว่าจะมุมไหนก็น่าถ่ายรูปไปหมด ยิ่งถ้ามากับแฟนบรรยากาศที่นี่สุดจะเป็นใจดอกไม้บานหวานสุด ๆ
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
ดอกไฮเดรนเยียมีหลายสีสันอย่างที่บอก อย่างดอกที่มีสองสีในดอกเดียวก็มี เช่นดอกนี้เป็นสีเหลืองออกขาวและฟ้าอ่อน ๆ น่ารักเนอะ
Cr: HWA’s
ตรงโซนบันไดตรงนี้เป็นจุดที่สวยที่สุดของวัดแห่งนี้เนื่องจากดอกไฮเดรนเยียจะถูกปลูกไว้เรียงรายไล่ตามขั้นบันไดสวยงามมากเลยทีเดียว วันที่เราไปคนอาจจะเยอะหน่อย ไม่ได้ภาพบันไดโล่ง ๆ เหมือนคนอื่นเค้า แต่ก็ได้ฟิลคึกครื้นมาแทน
Cr: HWA’s
มุมทางเข้านี้ก็เป็นอีกจุดที่น่าถ่ายรูป ดอกไฮเดรนเยียกับทางเข้าที่เป็นประตูไม้เก่าดูขลังและเข้ากันดีไม่ใช่เล่น
Cr: HWA’s
ดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าเป็นสีที่เยอะที่สุด ของที่นี่ โดยแต่ละดอกก็จะมีสีที่แตกต่างกันเล็กน้อยด้วยนะ
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
ภายในบริเวณวัดมีโซนที่เป็นป่าไผ่ให้เราได้ไปถ่ายรูปด้วย ได้ฟิลเหมือนที่เกียวโตไม่มีผิด แถมยังได้ชมดอกไฮเดรนเยียไปพร้อม ๆ กันเลยด้วย
Cr: HWA’s
ก่อนกลับอย่างลืมแวะไปถ่ายหน้าต่างโบสถ์สวย ๆ ของวัดแห่งนี้ด้วย สำหรับใครที่อยากชมสวนญี่ปุ่นสวย ๆ ก็สามารถจ่ายเงินเพิ่ม 500 เยนเพิ่มเข้าชมได้ด้วยนะ เป็นพิกัดชมดอกไฮเดรนเยียแบบจุใจเลยล่ะ
Megetsu-in
ที่อยู่ | Japan, 〒247-0062 Kanagawa, Kamakura, Yamanouchi, 189 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kita-Kamakura จากนั้นเดินต่อเพียง 8 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-16.00 น. เฉพาะเดือนมิถุนายนจะเปิด 8.30-17.00 น. |
ราคา | ปกติ 300 เยน เฉพาะเดือนมิถุนายน 500 เยน |
Website | Megetsu-in |
Hase dera : วัดที่มีดอกไฮเดรนเยียเบ่งบาน
Cr: HWA’s
ต่อจากพิกัดแรกเราได้นั่งรถไฟมายังสถานี Hase ซึ่งรถไฟสายที่จะมาสถานีนี้ได้จะเป็นรถไฟ Enoden Line สำหรับใครที่คิดว่าจะนั่งรถไฟสายนี้ไปยังหลายสถานีแนะนำให้ซื้อตั๋ว ENODEN One-Day Free Pass ที่สามารถนั่งรถไฟสายนี้ได้ไม่จำกัดใน 1 วัน ราคา 600 เยน เพราะว่าคุ้มกว่าแน่นอน
Cr: HWA’s
วัดนี้ค่อนข้างไฮเทคเพราะเค้ามีเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติให้เรา เราสามารถใช้บัตร IC ของญี่ปุ่นชำระเงินได้ด้วยนะ
Cr: HWA’s
นอกจากตั๋วเข้าเช้าวัดสีเขียวแล้ว เราจะต้องรับบัตรคิวในการเข้าชมดอกไฮเดรนเยียของทางวัดมาด้วย ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่ม เพียงแต่เราต้องรอจนถึงหมายเลขคิวที่เราได้มาก่อนถึงจะเข้าชมได้
อย่างคิวที่เราได้ค่อนข้างนาน (คิวละ 10 นาที) เราก็สามารถเช็คคิวแบบเรียลถามได้ด้วยแสกนคิวอาร์โค้ดเพิ่มเข้าเว็บว่าตอนนี้คิวอยู่ที่หมายเลขอะไร ซึ่งทางวัดก็ใจดีมาก ๆ อนุญาตให้เราออกไปนอกวัดและกลับมาตอนที่ถึงคิวเราได้ด้วยนะ (ถ้ากลับมาช้ากว่าคิวเราก็ได้แต่ต้องกลับมาก่อนถึงเวลาวัดปิดทำการ)
Cr: HWA’s
ใครมีแพลนจะไปเที่ยวตรงอื่นก็ออกไปเที่ยวก่อนได้ ส่วนใครไม่มีแพลนก็เดินเล่นชมวัดแห่งนี้กันก่อน เพราะเค้ามีอะไรให้ดูเยอะเลยล่ะ
Cr: HWA’s
วัดนี้จะมีรูปสลักพระอยู่ตามวัดมากมาย อย่างภาพนี้ก็เป็นรูปสลักจากหินที่แสนจะน่ารัก จนใครก็อดใจไม่ไหวต้อง่ถายรูปกันทั้งนั้น
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
ภายในบริเวณก็มีจะมีบรรยากาศที่สมกับเป็นวัดจริง ๆ ไม่ว่าจะมีกระถางธูป ระฆังของวัดหรือแม้แต่พระพุทธรูปให้เราได้สักการะ
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
แล้วยังมีโซนให้เขียนคำอธิษฐานที่สิ่งที่เราใช้เขียนนั้นแตกต่างไปจากวัดอื่น เพราะมันคือเปลือกหอยนางรมนั่นเอง ! ใครอยากเขียนก็ลองดูได้แปลือกละ 300 เยน เขียนแล้วก็เอาไปแขวนตามที่เข้าแขวนเรียงเอาไว้ได้เลย
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
รูปสลักพระพุทธรูปของที่นี่เยอะมากจริง ๆ เรียกได้ว่าแปลกตาสำหรับเราเลยทีเดียว
Cr: HWA’s
จะมีอาคารเมนของวัดที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่มากกกกอยู่ด้านใน เสียดายที่ทางวัดไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ใครอยากเห็นว่าใหญ่ขนาดไหนต้องลองมาเที่ยวเองแล้วล่ะ
Cr: HWA’s
เดินชมวัดทั่วแล้ว ก็ยังมีจุดชมวิวที่มองไปแล้วเห็นทะเลอีกด้วย เพลินดีจริง ๆ ที่นี่
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
นอกจากนั้นทางวัดยังมีเก้าอี้ให้นั่งรอ นั่งพัก สำหรับใครที่เริ่มหิวขึ้นมานิด ๆ ทางวัดก็มีของหวานจำหน่ายไม่ว่าจะเป็นซาลาเปาไส้ต่าง ๆ หรืออย่างดังโงะลูกใหญ่ที่เราซื้อมาชิม เครื่องดื่มอย่างน้ำเปล่าหรือโซดาซ่า ๆ ดับร้อนก็มีจำหน่ายด้วย
Cr: HWA’s
รออยู่นานก็ถึงคิวเราสักที นอกจากดูในเว็บไซต์ที่สแกนจากคิวอาร์โค้ดได้แล้วบริเวณทางเข้าชมดอกไฮเดรนเยียจะมีจอบอกว่าตอนนี้ถึงคิวไหนด้วย
Cr: HWA’s
และเนื่องจากวัดนี้มีชื่อเสียงเรื่องดอกไฮเดรนเยียที่สวยงามและทิวทัศน์ที่งดงาม ทำให้ที่นี่ก็เป็นอีกพิกัดที่คนจะเยอะมากในช่วงฤดูกาลชมดอกไฮเดรนเยียนั่นเอง
Cr: HWA’s
แน่นอนว่าพอได้เห็นดอกไฮเดรนเยียเยอะ ๆ เราก็จิตใจเบิกบาน คุ้มกับความเหนื่อยที่ต้องรอคอย สวยไม่แพ้พิกัดแรกที่ไปมาเลยจริง ๆ
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
สำหรับการชมดอกไฮเดรนเยียของ Hase dera ถึงจะเป็นพื้นที่เล็ก ๆ แต่จะเป็นบันไดให้เราได้ไต่ความสูงขึ้นไปชมดอกไฮเดรนเยียมากมายจากมุมสูง
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
ดอกไฮเดรนเยียของที่นี่น่ารักไม่แพ้ที่ไหนเลยจริง ๆ แถมยังมีดอกไม้หน้าฝนพันธุ์อื่น ๆ ให้เราได้ชมด้วย
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
ถึงจะคนเยอะไปนิดแต่บรรยากาศคึกคักมากขอบอก สาว ๆ คนไหนอยากได้รูปสวย ๆ ขึ้นไปอีกแนะนำให้เช่าชุดกิโมโนใส่มาถ่ายรูปด้วยนะ
Cr: HWA’s
และนี่คือทิวทัศน์สุดงดงามของวัด Hase ที่เราเห็นแล้วรู้สึกว่าคุ้มจริง ๆ ที่รอคิว เพราะนอกจากเราได้ชมดอกไฮเดรนเยียสวย ๆ แล้ว เมื่อขึ้นบันไดมาเรื่อย ๆ ก็จะได้พบกับทิวทัศน์ของทะเลที่แสนงดงามเหนือคำบรรยาย
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
ถ่ายรูปจากด้านบนลงไปก็สวยไปอีกแบบ และบรรยากาศภายในวัดแห่งนี้ก็ร่มรื่นย์ด้วย มาที่นี่แล้วจะได้สัมผัสทั้งบรรยากาศเก่าแก่ของวัดญี่ปุ่น สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และได้ชมดอกไฮเดรนเยียสวย ๆ ไปด้วยในครวาเดียวกัน
Hase dera
ที่อยู่ | 3-11-2 Hase, Kamakura, Kanagawa 248-0016 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Hase จากนั้นเดินต่อประมาณ 4 นาที |
เวลาทำการ | ช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน 8.00-17.30 น. เดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ 8.00-17.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชมวัด ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก (6-11 ปี) 200 เยน ※ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง |
Website | Hase dera |
Gokurakuji Temple : วัดเล็ก ๆ ที่มีดอกไม้น่ารัก
Cr: HWA’s
สำหรับใครทีตั้งใจจะดูดอกไฮเดรนเยียที่ Hase dera แล้วตอนรอคิวไม่รู้จะไปไหนเราขอแนะนำนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Gokurakuji ที่อยู่ถัดจากสถานี Hase มาหนึ่งสถานีเพื่อมาชมดอกไฮเดรนเยียที่วัดใกล้สถานีนี้เป็นการฆ่าเวลา
Cr: HWA’s
Gokurakuji เป็นวัดเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้สถานีที่นี่ก็มีดอกไฮเดรนเยียให้เราได้ชม แม้จะไม่มากมายเท่าสองพิกัดแรกแต่ก็สวยไม่แพ้กันและไม่เสียค่าชมด้วยนะ
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
บรรยากาศในวัดก็ร่มรื่นย์มาก มาสูดอากาศสดชื่นที่นี่ก็คุ้มแล้ว อย่าลืมแวะไปไหว้พระก่อนกลับด้วยล่ะ
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
ที่นี่ก็มีดอกไม้พันธุ์อื่น ๆ นอกจาก ไฮเดรนเยียญี่ปุ่น ด้วย ใครชอบบรรยากาศสงบ ๆ ไม่วุ่นวายแนะนำให้แวะมาดูดอกไฮเดรนเยียเล็ก ๆ หน่อย ๆ กันที่นี่
Gokurakuji Temple
ที่อยู่ | 3-6-7 Gokurakuji, Kamakura, Kanagawa 248-0023 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Gokurakuji จากนั้นเดินต่อประมาณ 3 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-16.30 น. |
ราคา | ไม่เสียค่าใช้จ่าย (ถ้าเข้าโซนห้องเก็บสมบัติเสีย 300 เยน) ※ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง |
Website | Gokurakuji Temple |
Jojuin Temple : ทิวทัศน์ดอกไฮเดรนเยียญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนใคร
Cr: HWA’s
อีกพิกัดชมดอกไฮเดรนเยียที่อยู่ไม่ไกลกันจาก Gokurakuji ก็คือวัด Jojuin แห่งนี้ สำหรับวัดนี้จะต้องเดินขึ้นบันไดหน่อยอาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ แต่ถ้าใครสู้ตายละก็มาได้เลย!
Cr: HWA’s
ประตูทางเข้าวัดดูเก่าแก่และมีดอกไฮเดรนเยียมาต้อนรับกันตั้งแต่ทางเข้าเลยล่ะ
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
ดอกไฮเดรนเยียญี่ปุ่น ของวัดนี้จะมีหลากสีสันมากกว่าที่อื่น ๆ และเขาจะปลูกเอาไว้สองข้างทาง ถึงจะไม่เยอะเท่าสองที่แรกแต่ก็มีให้ชมจนชื่นใจอยู่เหมือนกัน
Cr: HWA’s
อย่างดอกสีขาวล้วนที่ไม่ค่อยได้เห็นในสองพิกัดแรกก็มีให้ชมกันที่วัดนี้ด้วย
Cr: HWA’s
หรือแม้แต่ดอกสีชมพูล้วนน่ารัก ๆ แบบนี้ก็มีด้วยเช่นเดียวกัน
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
จุดไคลน์แมกซ์ของที่นี่ก็คือบันไดทางลงไปยังสุสานของวัดที่เราจะได้ชมดอกไฮเดรนเยียไปพร้อมกับทิวทัศน์ทะเลที่แสนสวยงาม บอกเลยว่าได้ฟิลล์ไม่เหมือนที่อื่นเลยล่ะ
Cr: HWA’s
Cr: HWA’s
ก่อนกลับก็อย่าลืมแวะไหว้พระของที่นี่กันด้วยนะ ภายในวัดไม่ใหญ่มากแต่ร่มรื่นย์และศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ เลยเชียวล่ะ
Cr: HWA’s
อีกอย่างที่แนะนำก่อนกลับ ระหว่างเดินไปขึ้นรถไฟ แนะนำให้หยุดถ่ายรูปที่มุมนี้รอตอนรถไฟมาแล้วจะได้ภาพสวย ๆ กลับไปแน่นอน
Jojuin Temple
ที่อยู่ | 1-1-5 Gokurakuji, Kamakura, Kanagawa 248-0023 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Gokurakuji จากนั้นเดินต่อประมาณ 2 นาที |
เวลาทำการ | 8.00-17.00 น. *ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม ปิดเวลา 16.30 น. |
ราคา | ไม่เสียค่าใช้จ่าย |
Jojuin Temple |
ข้อสรุป
ทริปชม ไฮเดรนเยียญี่ปุ่น ของเราครั้งนี้ ได้ชมไฮเดรนเยียญี่ปุ่นกันแบบจุใจไปด้วยกัน 4 ที่ ซึ่งทุกที่สามารถไปในวันเดียวกันได้นะ หากทำการจัดสรรเวลาให้ดี เพราะแต่ละที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน และนอกจากจะได้เห็นดอกไม้ที่สวยงาม ยังได้สัมผัสบรรยากาศเก่าแก่น่ารัก ๆ ของเมืองนี้ไปพร้อมๆ กันเลยด้วยล่ะ
ที่คานากาวะเองก็มีเสน่ห์มากๆ เลย สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวลองหาข้อมูลท่องเที่ยวต่อเลย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
คานากาวะ เมืองท่าที่อยู่ติดโตเกียว พร้อมเสน่ห์ที่น่าค้นหา
รวมที่เที่ยวคานางาวะ (Kanagawa) เดินทางเพียง 30 นาที จากโตเกียว
ใครอยากได้ข้อมูลการเดินทาง หรือพาส ก็อ่านที่นี่ได้เลย