เทศกาลหิมะซัปโปโร 2026 (Sapporo Winter Festival 2026) : คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับคนไทย ที่อยากไปเห็นของจริงสักครั้งในชีวิต!

15/12/2015 (อัพเดทเมื่อ 12/09/2025)
ชวนอ่านคู่มือเทศกาลหิมะซัปโปโร 2026 ฉบับภาษาไทย! ที่รวมข้อมูลน่าสนใจของงานเทศกาลหิมะซํปโปโร ตั้งแต่วันที่จัดงาน สถานที่ กิจกรรม เคล็ดลับเที่ยวแบบครอบคลุม และการเตรียมตัวกันหนาวแบบครบถ้วน พร้อมพิกัดลับถ่ายรูปสวยๆ ที่ต้องบอกว่าห้ามพลาดเลย!
Contents Index
  1. 1 เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) คืออะไร?
    1. 1.1 ประวัติความเป็นมา
    2. 1.2 ทำไมต้องไปงานนี้ให้ได้สักครั้งในชีวิต
    3. 1.3 ความแตกต่างจากเทศกาลหิมะอื่นในญี่ปุ่น
  2. 2 กำหนดการและข้อมูลล่าสุด (2026)
    1. 2.1 วันเวลาจัดงาน
    2. 2.2 พื้นที่จัดงานหลัก 3 โซน (Odori Park / Susukino / Tsudome)
    3. 2.3 ตารางกิจกรรมสำคัญและวันประกาศผลการประกวด
  3. 3 ไฮไลท์และกิจกรรมห้ามพลาด
    1. 3.1 ประติมากรรมหิมะขนาดใหญ่ที่ Odori Park
    2. 3.2 โชว์ไฟประดับยามค่ำคืน
    3. 3.3 การประกวดแกะสลักน้ำแข็งนานาชาติ
    4. 3.4 โซน Snow Activities สำหรับครอบครัว (Tsudome)
    5. 3.5 เวทีการแสดงและคอนเสิร์ต
    6. 3.6 กิจกรรม Limited เฉพาะปี
  4. 4 การเดินทางสู่เทศกาล
    1. 4.1 จากสนามบิน New Chitose → ซัปโปโร (JR Rapid / Bus / Taxi / รถเช่า)
    2. 4.2 วิธีเดินทางระหว่างโซน Odori – Susukino – Tsudome
  5. 5 การเตรียมตัวสำหรับอากาศหนาว
    1. 5.1 เสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวที่จำเป็น
    2. 5.2 เคล็ดลับเลือกอุปกรณ์กันลื่นและมือถือในหิมะ
    3. 5.3 อุณหภูมิและสภาพอากาศจริงในช่วงงาน
  6. 6 เคล็ดลับเลี่ยงความแออัดและเที่ยวสบาย
    1. 6.1 เวลาที่เหมาะสำหรับถ่ายรูป (เช้า/กลางคืน)
    2. 6.2 มุมลับถ่ายรูปไม่ติดคนเยอะ
  7. 7 สรุป
    1. 7.1 ทำไมเทศกาลหิมะซัปโปโรถึงพลาดไม่ได้
    2. 7.2 ความอลังการที่น่าจดจำ


พอถึงช่วงปลายปีของทุกๆ ปี หลายคนก็เริ่มคิดถึงการวางแผนเที่ยวต่างประเทศ และถ้าเป็นสาย Winter Wonderland แล้ว ต้องยอมรับเลยว่า เทศกาลหิมะซัปโปโร คือหนึ่งในลิสต์ Must-Go ที่ขาดไม่ได้!

เทศกาลหิมะซัปโปโร 2026 (Sapporo Winter Festival) เป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในเมืองซัปโปโร ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น งานมักจะจัดกันในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เรียกได้ว่าเป็นงานเทศกาลหิมะและน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในงานที่คนไทยนิยมเดินทางไปมากที่สุดเป็นประจำทุกปี ภายในงานจะเต็มไปด้วยประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมไฟประดับยามค่ำคืนที่โรแมนติก ท่ามกลางบรรยากาศหนาวเย็นที่แตกต่างจากเมืองไทยอย่างสิ้นเชิง ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของฤดูหนาว และความสวยงามงานของศิลปะจากก้อนน้ำแข็งที่มนุษย์รังสรรค์ขึ้นมา

เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) คืออะไร?

ประวัติความเป็นมา

รู้ไหมว่าเทศกาลดังระดับโลกนี้ เริ่มต้นได้อย่างสนใจ โดยเทศกาลหิมะซัปโปโรเริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1950 จากการที่นักเรียนมัธยมฯ ในเมืองซัปโปโรช่วยกันแกะสลักหิมะในสวนสาธารณะโอโดริ จนดึงดูดผู้คนจำนวนมากมาชมผลงาน ต่อมาเทศบาลเมืองซัปโปโรได้สนับสนุนให้จัดเป็นงานประจำปี และพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นเทศกาลระดับโลกที่มีชื่อเสียงในเวลาต่อมา

ปัจจุบันงานเทศกาลนี้ มีผู้เข้าชมกว่า 2 ล้านคนต่อปี และมีทีมจากนานาประเทศเข้าร่วมแข่งขันแกะสลักน้ำแข็ง ทำให้เมืองซัปโปโรกลายเป็นจุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว ไม่น่าเชื่อว่าจะเริ่มต้นจากกิจกรรมเล็กๆ ของเด็กนักเรียน จะกลายเป็นงานที่คนทั่วโลกรอคอยในทุกปี!

ทำไมต้องไปงานนี้ให้ได้สักครั้งในชีวิต

การได้ไปสัมผัสเทศกาลหิมะซัปโปโรสักครั้งในชีวิตถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เพราะงานนี้ไม่ได้มีเพียงประติมากรรมหิมะขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตร แต่ยังมีการประดับไฟที่สวยงามในตอนกลางคืน และบรรยากาศหิมะโปรยปรายที่หาไม่ได้ในเมืองไทย

ความยิ่งใหญ่ระดับโลกและบรรยากาศสุดโรแมนติกทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนยกให้เป็นหนึ่งในงานเทศกาลฤดูหนาวที่ต้องไปเห็นด้วยตาตนเองอย่างน้อยหนึ่งครั้ง คิดดูสิ เวลาเล่าให้คนอื่นฟัง จะได้ภูมิใจว่า “เราเคยไปงานนี้มาแล้วนะ!”

ความแตกต่างจากเทศกาลหิมะอื่นในญี่ปุ่น

หลายคนอาจสงสัยว่าเทศกาลหิมะซัปโปโรต่างจากงานหิมะอื่นๆ ในฮอกไกโดอย่างไร คำตอบคือ งานนี้ใหญ่ที่สุด! มีทั้งประติมากรรมหิมะขนาดมหึมา และการประกวดแกะสลักระดับนานาชาติให้ชมในคราวเดียวกัน

ขณะที่ Asahikawa Winter Festival แม้จะมีงานแกะสลักขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่ใหญ่เท่าซัปโปโร ส่วน Otaru Snow Light Path เน้นบรรยากาศโคมไฟหิมะโรแมนติกมากกว่า ดังนั้นซัปโปโรจึงถือว่าเป็นงานที่ครบและยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น อยากได้ครบรสชาติของเทศกาลหิมะ มาที่นี่ที่เดียวพอ!

กำหนดการและข้อมูลล่าสุด (2026)

Cr : www.snowfes.com

วันเวลาจัดงาน

เทศกาลหิมะซัปโปโร 2026 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 4–11 กุมภาพันธ์ 2026 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หิมะยังหนาแน่นและสวยงามที่สุดของฤดูหนาวในฮอกไกโด งานนี้จะจัดขึ้นทุกปีในสัปดาห์แรกถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และมีการประกวดแกะสลักหิมะนานาชาติ การแสดงไฟ และกิจกรรมพิเศษมากมาย

ข้อมูลสำคัญ! นักท่องเที่ยวที่วางแผนไปควรจองที่พักและตั๋วเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 3–6 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงที่พักถูกจองเต็มและราคาแพง เพราะช่วงเวลาดังกล่าวที่พักในซัปโปโรจะขึ้นราคาเกือบเท่าตัว!

พื้นที่จัดงานหลัก 3 โซน (Odori Park / Susukino / Tsudome)

งานเทศกาลหิมะซัปโปโรจะถูกแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่หลักดังต่อไปนี้

Odori Park – ใจกลางเมืองซัปโปโร ซึ่งมีประติมากรรมหิมะขนาดมหึมาและการแสดงไฟยามค่ำคืน โซนนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์หลักที่ทุกคนต้องไป ประติมากรรมที่นี่ใหญ่ถึงขนาดที่ใช้หิมะหลายสิบตัน!

Susukino – ย่านบันเทิงยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยงานแกะสลักน้ำแข็งรูปทรงสวยงามและไฟประดับระยิบระยับ บรรยากาศที่นี่จะแตกต่างจาก Odori เพราะมีบาร์และร้านอาหารรอบๆ เหมาะกับคนที่ชอบความคึกคัก

Cr : www.snowfes.com/sites/tsudome

Tsudome – โซนกิจกรรมสำหรับครอบครัว เช่น สไลเดอร์หิมะและลานเล่นหิมะ เหมาะมากถ้าไปกับเด็กๆ หรืออยากสัมผัสหิมะแบบใกล้ชิด

ทั้ง 3 พื้นที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อกันได้ง่ายด้วยรถไฟใต้ดินเมืองซัปโปโร แนะนำให้ซื้อ Day Pass จะประหยัดกว่าซื้อแบบรายทริป

ตารางกิจกรรมสำคัญและวันประกาศผลการประกวด

กิจกรรมสำคัญของเทศกาลหิมะซัปโปโรที่ไม่ควรพลาด:

  • การประกวดแกะสลักหิมะนานาชาติ – มีทีมจากหลายประเทศเข้าร่วมแข่งขัน ดูแล้วจะทึ่งกับฝีมือระดับโลก
  • การเปิดไฟประดับประติมากรรมหิมะ – ในตอนกลางคืนที่สร้างบรรยากาศสุดอลังการ ช่วง 17:00-22:00 น. ถือว่าเป็นโกลเด้นอาวร์
  • การแสดงดนตรีและการแสดงพื้นเมือง – มีเวทีกลางแจ้งให้ชมการแสดงต่างๆ
  • วันประกาศผลการประกวด – จัดขึ้นในช่วงท้ายของงาน บรรยากาศจะคึกคักมาก

ข้อมูลสำคัญ!: ควรตรวจสอบตารางกิจกรรมล่วงหน้าเพื่อไม่พลาดช่วงเวลาสำคัญ เพราะบางกิจกรรมจัดเพียงวันเดียว!

ไฮไลท์และกิจกรรมห้ามพลาด

ประติมากรรมหิมะขนาดใหญ่ที่ Odori Park

นี่คือจุดเด็ดที่ทุกคนต้องมา! ประติมากรรมหิมะที่ Odori Park ไม่ได้เป็นแค่ก้อนหิมะที่แกะสลักธรรมดาๆ นะ แต่เป็นผลงานศิลปะระดับโลกที่สร้างจากหิมะหลายสิบตันต่อชิ้น ทีมช่างฝีมือจะใช้เทคนิคพิเศษในการบีบอัดหิมะให้แข็งแกร่ง แล้วแกะสลักด้วยเครื่องมือแบบมืออาชีพ

ขนาดของประติมากรรมแต่ละชิ้นสูงได้ถึง 10-15 เมตร! จนต้องใช้รถบรรทุกขนหิมะมาสร้าง เรื่องราวที่นำมาแกะสลักจะเป็นตัวการ์ตูนญี่ปุ่น, สถานที่สำคัญทั่วโลก, หรือเทอมสำคัญในปีนั้นๆ การได้ยืนอยู่ข้างๆ ประติมากรรมเหล่านี้จะทำให้รู้สึกเล็กมาก!เวลาที่ดีที่สุด: ตอนกลางวันจะเห็นรายละเอียดของงานแกะสลักชัดเจน แต่ตอนกลางคืนจะมีไฟประดับทำให้ได้บรรยากาศสุดโรแมนติก

โชว์ไฟประดับยามค่ำคืน

พอดวงอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศงานก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง! การเปิดไฟประดับประติมากรรมหิมะจะเริ่มประมาณ 17:00 น. และจะเปิดจนถึงเที่ยงคืน แสงไฟหลากสีจะส่องประติมากรรมขาวโพลน ทำให้ดูเหมือนอยู่ในโลกแฟนตาซี

มุมที่แนะนำสำหรับถ่ายรูป:

  • หน้าประติมากรรมใหญ่ – ได้แบ็กกราวด์สวยๆ แต่คนจะเยอะ
  • มุมข้าง – คนไม่เยอะ แสงไฟยังสวย
  • จากด้านบน – ถ้าหาจุดสูงๆ ได้ จะเห็นทั้งงานในมุมกว้าง

Secret Spot: ลองขึ้นไปชั้น 2-3 ของ department store ใกล้ๆ จะมี viewing deck ให้ถ่ายรูปมุมสูงได้สวยๆ แถมอบอุ่นด้วย!

การประกวดแกะสลักน้ำแข็งนานาชาติ

นี่คือหนึ่งในไฮไลท์ที่หลายคนไม่รู้! การประกวดแกะสลักน้ำแข็งนานาชาติจะมีทีมจากหลายประเทศ รวมถึงทีมไทยในบางปี เข้าร่วมแข่งขัน การแข่งขันจะใช้เวลา 3 วัน ตั้งแต่เริ่มแกะจนถึงผลงานสำเร็จ

นักท่องเที่ยวจะได้เห็นกระบวนการแกะสลักตั้งแต่ก้อนน้ำแข็งใสๆ จนกลายเป็งผลงานศิลปะ ช่างแกะสลักจะใช้เลื่อยไฟฟ้า เสียม และเครื่องมือปลิกย่อยต่างๆ ทำงานต่อหน้าต่อตา บรรยากาศการแข่งขันตื่นเต้นมาก!

พิกัดเด็ด: โซน Susukino จะมีผลงานแกะสลักน้ำแข็งมากที่สุด และเปิดให้ชมฟรี แถมยังมีร้านอาหารและบาร์รอบๆ ด้วย

โซน Snow Activities สำหรับครอบครัว (Tsudome)

ถ้าไปกับครอบครัวหรือเพื่อนที่อยากเล่นหิมะจริงๆ Tsudome คือสวรรค์เล็กๆ ที่ไม่ควรพลาด! ส่วนที่นี่จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

  • Giant Snow Slide – สไลเดอร์หิมะยักษ์ที่ลื่นมากจนต้องใช้ยางรถยนต์รอง
  • Snow Maze – เขาวงกตหิมะที่สร้างใหม่ทุกปี
  • Snow Sculptures Workshop – สอนแกะสลักหิมะเบื้องต้น
  • Mini Snow Festival – ลานหิมะสำหรับเด็กๆ

ข้อดีของ Tsudome คือมีอาคารในร่ม ถ้าเล่นหิมะจนเหนื่อยหรือหนาวเกินไป ก็เข้าไปนั่งดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ พักได้ แถมยังมี Food Court ขายข้าวกล่องและของว่างไว้บริการด้วย

เสื้อผ้าแนะนำ: ที่นี่เล่นได้เต็มที่ จะเปียกจะเลอะ หรือจะใส่เสื้อกันฝนทับเสื้อกันหนาวก็สามารถทำได้

เวทีการแสดงและคอนเสิร์ต

ตลอดช่วงงานจะมีการแสดงดนตรีและคอนเสิร์ตเล็กๆ ให้ชมตลอดวัน เวทีหลักจะอยู่ที่ Odori Park โดยจะมีทั้ง:

  • Traditional Japanese Performance – การแสดงพื้นเมือง เช่น Taiko Drum
  • Local Band Concert – วงดนตรีท้องถิ่นฮอกไกโด
  • Special Guest – ศิลปินดังในบางปี (ต้องดูประกาศใหม่ทุกปี)

การแสดงจะเริ่มประมาณ 10:00 น. และมีทุกชั่วโมงจนถึงเย็น บรรยากาศดีมาก เพราะทุกคนจะนั่งฟังเพลงท่ามกลางหิมะโปรยปราย

Free Tip: ถ้าหนาวไปดื่ม Amazake (โจ๊กข้าวหวาน) ร้อนๆ ขายตามแผงลอยจะอุ่นท้องและอุ่นตัวได้ดี

กิจกรรม Limited เฉพาะปี

ทุกปีจะมีกิจกรรมพิเศษที่ทำแค่ปีนั้นๆ เช่น การคอลแลบกับแอนิเมะดัง หรือแบรนด์ใหญ่ บางปีจะมีการแกะสลักตัวการ์ตูนที่กำลังฮิต หรือมี pop-up store ของแบรนด์ญี่ปุ่น

ปี 2025 เพิ่งมี collaboration กับ Pokemon และมีประติมากรรม Pikachu ขนาดยักษ์! ส่วนปี 2026 ยังไม่ได้ประกาศ แต่มักจะประกาศประมาณเดือนธันวาคมFollow ข่าวสาร: เช็คเว็บไซต์ทางการก่อนไปเพื่อไม่พลาดกิจกรรมพิเศษ เพราะบางอันต้องจองล่วงหน้า

การเดินทางสู่เทศกาล

จากสนามบิน New Chitose → ซัปโปโร (JR Rapid / Bus / Taxi / รถเช่า)

การเดินทางจากสนามบิน New Chitose ไปยังตัวเมืองซัปโปโรมีหลายวิธี:

JR Rapid Airport Express (แนะนำ!)

  • ใช้เวลา: 37 นาที ถึงสถานี Sapporo
  • ราคา: 1,150 เยน สำหรับ regular seat / 1,650 เยน สำหรับ reserved seat
  • ข้อดี: รวดเร็ว ตรงเวลา ไม่กลัวติดรถ
  • ข้อเสีย: ถ้าหิมะตกหนักอาจดีเลย์บ้าง

Airport Bus

  • ใช้เวลา: 60-90 นาที (ขึ้นกับจราจร)
  • ราคา: 1,100 เยน
  • ข้อดี: ราคาถูกกว่าเล็กน้อย มีที่เก็บกระเป๋าใหญ่
  • ข้อเสีย: ช้ากว่า อาจติดรถถ้าหิมะตก

Taxi

  • ใช้เวลา: 60 นาที
  • ราคา: 10,000-15,000 เยน
  • ข้อดี: สะดวก ไม่ต้องลากกระเป๋า
  • ข้อเสีย: แพงมาก!

รถเช่า

  • ราคา: 5,000-8,000 เยน ต่อวัน + น้ำมัน + ที่จอดรถ
  • ข้อควรระวัง: ต้องมีประสบการณ์ขับรถในหิมะ และต้องเช่ารถที่มี snow tire

เตือนสำคัญ: ช่วงเทศกาลหิมะ Airport Express จะมีคนเยอะมาก แนะนำให้ซื้อตั๋ว reserved seat ล่วงหน้า

วิธีเดินทางระหว่างโซน Odori – Susukino – Tsudome

การเดินทางระหว่าง 3 โซนหลักทำได้ง่ายมาก:

Odori ↔ Susukino

  • เดินเท้า: 10 นาที (แต่ถนนลื่น ระวังล้ม!)
  • Subway: 2 นาที ด้วย Namboku Line
  • ค่าใช้จ่าย: 210 เยน

Odori/Susukino → Tsudome

  • Shuttle Bus: ฟรี! เดินทางทุก 15-20 นาที
  • ใช้เวลา: 20 นาที
  • จุดขึ้น-ลง: หน้า Odori Park และ Susukino

Pro Tips:

  • ซื้อ Sapporo 1-Day Pass (1,000 เยน) ถ้าจะเดินทางบ่อยๆ
  • Shuttle bus ไป Tsudome จะแออัดมาก แนะนำให้ไปเช้าๆ หรือเย็นๆ
  • แอพ Hyperdia ช่วยเช็ครถไฟและรถเมล์ได้

Google Maps ใช้ได้: ในซัปโปโรใช้ Google Maps ได้ดี รวมถึงข้อมูล public transport แต่อย่าลืมดาวน์โหลด offline map ไว้ป้องกันเน็ตไม่เก่ง

การเตรียมตัวสำหรับอากาศหนาว

เสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวที่จำเป็น

เอาจริงๆ นะ อย่าไปเล่นกับหิมะในฮอกไกโด! อุณหภูมิลบ 5-15 องศา ไม่ใช่เล่นๆ หนาวจนฟันกระดก ถ้าแต่งตัวผิด รับรองเที่ยวไม่เป็นแน่นอน นี่คือรายการที่ต้องมี:

เสื้อกันหนาวชั้นใน (Base Layer)

  • เสื้อ Heat Tech ของ Uniqlo หรือ Mizuno: 490-890 บาท
  • ซื้อที่ไหน: Uniqlo สยาม/เอ็มโพเรียม หรือออนไลน์
  • เลือกแบบ Extra Warm สำหรับคนกลัวหนาว
  • Tip: ซื้อ 2 ชุดไว้เผื่อเปลี่ยน

เสื้อกันหนาวชั้นนอก

  • Down Jacket ยี่ห้อดัง: Uniqlo (2,990-4,990 บาท), Columbia (8,000-15,000 บาท)
  • ต้องกันลมกันน้ำ มีฮู้ด
  • เลือกสีสดใสเพื่อถ่ายรูปสวย
  • อย่าเลือกขนาดฟิตเกินไป ต้องมีพื้นที่ใส่ชั้นใน

กางเกงกันหนาว

  • กางเกงผ้าหนา + กางเกงรัดรูปข้างใน: 800-2,000 บาท
  • หรือกางเกงสกี: 3,000-8,000 บาท (ถ้าไปเล่นหิมะ)
  • ห้ามใส่ยีนส์ธรรมดา จะเยือกแข็ง!

รองเท้า

  • รองเท้าบูทกันหิมะ: 3,000-8,000 บาท
  • ต้องกันน้ำ กันลื่น มีขนด้านใน
  • แบรนด์แนะนำ: Sorel, Columbia, Merrell
  • ซื้อใหญ่กว่าปกติ ½ ไซส์ เพื่อใส่ถุงเท้าหนา

ถุงมือและหมวก

  • ถุงมือกันหิมะกันน้ำ: 500-1,500 บาท
  • หมวกไหมพรมที่ปิดหู: 300-800 บาท
  • เลือกแบบที่ touch screen ได้จะสะดวกถ่ายรูป

Hot Pack (แพ็คร้อน)

  • ซื้อที่ญี่ปุ่น: 100 เยน = 24 บาท (แพ็ค 10 ชิ้น)
  • ซื้อที่ไทยล่วงหน้า: 150-300 บาท ต่อแพ็ค
  • แนะนำซื้อที่ Daiso หรือ Don Quijote ในญี่ปุ่น
  • ติดที่ท้อง หลัง และในรองเท้า จะอุ่นทั้งวัน

Secret Tips:

  • ใส่ถุงเท้าสองชั้น ชั้นในแบบบาง ชั้นนอกแบบหนา
  • เอาพลาสติกใสปิดโทรศัพท์ป้องกันหิมะเปียก
  • ใส่ครีมกันแดดแม้อากาศหนาว หิมะจะสะท้อนแสงแรงมาก

เคล็ดลับเลือกอุปกรณ์กันลื่นและมือถือในหิมะ

จริงๆ นะ หิมะมันไม่ได้มีแต่เรื่องสนุกสนานอย่างที่คิด เพราะถ้าได้ไปเห็น หรือเดินย้ำบนพื้นหิมะนั้นมันลื่นสุดๆ ล้มกันแหลก! และโทรศัพท์ก็เจ๊ง/ดับกันเป็นแถว เตรียมตัวป้องกันดีๆ นะ

อุปกรณ์กันลื่น

  • Ice Gripper/Crampons: ซื้อที่ญี่ปุ่น 1,000-2,000 เยน
  • จุดซื้อ: Don Quijote, Daiso, ร้านกีฬา
  • แบบที่แนะนำ: Yakutrax หรือ Kahtoola MICROspikes
  • วิธีใส่: ห่วงยางรัดส้นเท้าและหัวแม่เท้า จะมีหนามเล็กๆ กัดพื้น

เคล็ดลับเดินบนหิมะ:

  • เดินเท้าเปิดกว้างนิดหน่อย ห้ามเดินเท้าตรง
  • ย่ำให้แน่น อย่าเดินเร็ว
  • จับราวหรือผนังตลอดเวลา
  • รองเท้าเปียกให้เช็ดทันที ป้องกันแช่แข็ง

มือถือและกล้องในหนาว

  • แบตเตอรี่: หนาวแบตหมดเร็วกว่าปกติ 3-5 เท่า!
  • Power Bank: เตรียม 2-3 ก้อน ความจุ 20,000 mAh ขึ้นไป
  • เคสกันกระแทก: เลือกแบบหนา ป้องกันน้ำแข็ง
  • เก็บในเสื้อ: อย่าใส่ในกระเป๋าเฉยๆ แนะนำให้เก็บในกระเป๋าเสื้อหลายๆ ชั้นจะอุ่นขึ้น

เทคนิคถ่ายรูปในหิมะ:

  • ถ่าย 10 นาที พักในที่อุ่น 5 นาที
  • ใช้ถุงมือบาง ข้างใน + ถุงมือหนาข้างนอก ถอดง่าย
  • เช็ดเลนส์บ่อยๆ ไอน้ำจะเกาะ
  • ไม่ควรใช้แฟลช ไฟแฟลชจะสะท้อนหิมะเป็นจุดขาว

อุณหภูมิและสภาพอากาศจริงในช่วงงาน

อุณหภูมิจริงในซัปโปโรช่วงเทศกาล (กุมภาพันธ์):

  • กลางวัน: -3 ถึง -8 องศา
  • กลางคืน: -8 ถึง -15 องศา
  • ความรู้สึกจริง: หนาวกว่านี้เพราะลม! feel like -20 องศา

สภาพอากาศประจำวัน:

  • หิมะตก 60% ของวัน
  • ลมแรง โดยเฉพาะบริเวณ Odori Park (พื้นที่เปิด)
  • ชื่นปากชื่นใจมาก ใส่ลิปบาล์มบ่อยๆ
  • แสงแดดออกช้า (07.00 น.) ตกเร็ว (17.00 น.)

การปรับตัว:

  • วันแรก: ให้เวลาตัวเองปรับ อย่าเดินนานเกิน 2-3 ชั่วโมง
  • อาการเป็นลม: หายใจลึกๆ เข้าร้านเล็กๆ พักบ่อย
  • Jet Lag + หนาว: นอนเยอะขึ้น กิน วิตามินรวมเสริม
  • ผิวแห้ง: ใส่ Moisturizer หนากว่าปกติ ริมฝีปากแตกง่าย

เสื้อผ้าตามอุณหภูมิ:

  • -3 ถึง -5 องศา: 2 ชั้นพอ
  • -5 ถึง -10 องศา: 3 ชั้น + หมวกและถุงมือ
  • -10 องศาลงไป: ห่อแบบหมีขั้วโลกเลย!

เคล็ดลับเลี่ยงความแออัดและเที่ยวสบาย

เวลาที่เหมาะสำหรับถ่ายรูป (เช้า/กลางคืน)

ช่วงเช้า (09.00-11.00 น.):

  • คนน้อยที่สุด! โดยเฉพาะวันธรรมดา
  • แสงธรรมชาติสวยมาก ไม่ต้องใช้แฟลช
  • ประติมากรรมมีความสดใส เห็นรายละเอียดชัดเจน
  • อากาศยังไม่หนาวมาก สายถ่ายรูปอยู่ได้เป็นชั่วโมงๆ เลย

ช่วงบ่าย (12.00-15.00 น.):

  • คนเยอะที่สุด! โซน Odori เป็นพิเศษ
  • แสงแดดสว่าง แต่ไม่สวยเท่าแสงตอนเช้า
  • เหมาะดูรายละเอียดประติมากรรม ไม่เหมาะถ่ายรูป

ช่วงเย็นถึงกลางคืน (17.00-22.00 น.):

  • ไฮไลท์สำคัญ! ไฟประดับจะเปิดในช่วเวลานี้
  • บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ
  • คนเยอะ แต่บรรยากาศสุดคุ้ม
  • ถ่ายรูปสวยมาก แต่ต้องใช้เทคนิคในการถ่ายเพิ่มเติมทั้งในจุดที่มีแสงน้อย และคนเยอะด้วย

Golden Hour คือ:

  • ช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น 06.30-07.30 น. (Sunrise)
  • ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก 16.30-17.30 น. (Sunset)
  • ช่วงนี้แสงส้มอ่อนๆ สวยที่สุด แต่หนาวสุดด้วย!

โปรแกรมแนะนำ:

  • เช้า: ถ่ายรูปโซน Odori คนน้อย
  • บ่าย: เที่ยว Tsudome เล่นหิมะ
  • เย็น: กลับมา Odori + Susukino ดูไฟ

มุมลับถ่ายรูปไม่ติดคนเยอะ

Odori Park – Hidden Spots:

1. ชั้น 2-3 ของ Sapporo TV Tower

  • พิกัด: Odori Nishi 1-chome
  • เวลาเปิด: 09.00-22.00 น.
  • ค่าเข้าชม: 800 เยน
  • เซ็กเร็ต: มุมใต้หอคอยมีมุมกว้างสวยไม่ติดคน

2. ด้านหลังร้าน Daimaru (เดิม Mitsukoshi)

  • ห้าง Department ข้าง Odori Park
  • ชั้น 8 มี Rooftop Garden (ฟรี!)
  • เห็นทั้งงานมุมสูง สวยมากแต่ไม่ค่อยมีคนรู้

3. ข้าง Sapporo Clock Tower

  • เดิน 5 นาทีจาก Odori
  • มุมข้างๆ หอนาฬิกา ถ่ายได้ทั้งหอคอยและประติมากรรม
  • เวลาดี: 07.00-08.00 น.

Susukino Secret Areas:

4. ซอยเล็กหลัง Susukino Crossing

  • เดินฝั่งตรงข้าม Don Quijote
  • ประติมากรรมน้ำแข็งเล็กๆ แต่สวย ไฟสีต่างๆ
  • คนน้อย เพราะซ่อนอยู่

5. Nijo Market Area

  • 10 นาทีจาก Susukino
  • โซนตลาดเก่า มีประติมากรรมน้ำแข็งแปลกๆ
  • บรรยากาศญี่ปุ่นแท้ๆ

Tsudome Area:

6. ด้านหลังอาคาร Tsudome

  • พื้นที่เล่นหิมะส่วนตัว
  • เด็กๆ น้อย ผู้ใหญ่เล่นได้สบาย
  • ถ่ายแบบ Action ได้สบาย

7. ริมแม่น้ำ Toyohira

  • 5 นาทีจาก Tsudome
  • วิวแม่น้ำ + หิมะ สวยมาก
  • เงียบสงบ เหมาะคู่รัก

Exclusive Tips:

  • ดาวน์โหลดแอพ “Sapporo Snow Festival Map” จะมีจุดถ่ายรูปลับไว้ให้ตามรอย
  • ถามจาก Information Center จะได้แผนที่พิเศษ
  • เดินตรงข้าม Main Area มักจะมีมุมสวยๆ ซ่อนอยู่

สรุป

ทำไมเทศกาลหิมะซัปโปโรถึงพลาดไม่ได้

เอาจริงๆ นะ ถ้าใครยังลังเลอยู่ว่าจะไปหรือไม่ไป เราขอบอกเลยว่าไม่อยากให้พลาด เพราะนี่ไม่ใช่แค่งานเทศกาลธรรมดาๆ แต่เป็นประสบการณ์ที่จะติดตาติดใจที่ควรลองไปสัมผัสประสบการ์ณท่องเที่ยวแบบนี้สักครั้งในชีวิต

ความอลังการที่น่าจดจำ

ประติมากรรมหิมะในซัปโปโรไม่ได้เป็นแค่การนำหิมะมาแกะสลักเป็นรูปร่างต่างๆ นะ แต่ถือเป็นผลงานศิลปะระดับโลกที่สูงเท่าตึก 3-4 ชั้น! อีกทั้งยังมีเหล่าช่างแกะสลักจากทั่วโลกมารวมตัวกัน แล้วแสดงผลงานศิลปะในรูปแบบการแกะสลักน้ำแข็ง จนได้ผลงานที่ดูแล้วอึ้งว่า “เอ๊ะ! ทำจากหิมะได้ด้วยเหรอเนี่ย?” อีกทั้งในเวลากลางคืนก็มีการประดับประดาไฟสวยงามสะท้อนระยิบระยับท่ามกลางความขาวโพลนและเยือกเย็นของหิมะ บรรยากาศจะสวยจนคิดว่าคุณกำลังอยู่ในหนัง Disney! เลยก็ว่าได้ เผลอๆ รูปที่ถ่ายออกมาสวยจนเพื่อนๆ ต้องถามว่า “ไปไหนมา ทำไมสวยขนาดนี้” เลยทีเดียวนะ

Contents Index
  1. 1 เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) คืออะไร?
    1. 1.1 ประวัติความเป็นมา
    2. 1.2 ทำไมต้องไปงานนี้ให้ได้สักครั้งในชีวิต
    3. 1.3 ความแตกต่างจากเทศกาลหิมะอื่นในญี่ปุ่น
  2. 2 กำหนดการและข้อมูลล่าสุด (2026)
    1. 2.1 วันเวลาจัดงาน
    2. 2.2 พื้นที่จัดงานหลัก 3 โซน (Odori Park / Susukino / Tsudome)
    3. 2.3 ตารางกิจกรรมสำคัญและวันประกาศผลการประกวด
  3. 3 ไฮไลท์และกิจกรรมห้ามพลาด
    1. 3.1 ประติมากรรมหิมะขนาดใหญ่ที่ Odori Park
    2. 3.2 โชว์ไฟประดับยามค่ำคืน
    3. 3.3 การประกวดแกะสลักน้ำแข็งนานาชาติ
    4. 3.4 โซน Snow Activities สำหรับครอบครัว (Tsudome)
    5. 3.5 เวทีการแสดงและคอนเสิร์ต
    6. 3.6 กิจกรรม Limited เฉพาะปี
  4. 4 การเดินทางสู่เทศกาล
    1. 4.1 จากสนามบิน New Chitose → ซัปโปโร (JR Rapid / Bus / Taxi / รถเช่า)
    2. 4.2 วิธีเดินทางระหว่างโซน Odori – Susukino – Tsudome
  5. 5 การเตรียมตัวสำหรับอากาศหนาว
    1. 5.1 เสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวที่จำเป็น
    2. 5.2 เคล็ดลับเลือกอุปกรณ์กันลื่นและมือถือในหิมะ
    3. 5.3 อุณหภูมิและสภาพอากาศจริงในช่วงงาน
  6. 6 เคล็ดลับเลี่ยงความแออัดและเที่ยวสบาย
    1. 6.1 เวลาที่เหมาะสำหรับถ่ายรูป (เช้า/กลางคืน)
    2. 6.2 มุมลับถ่ายรูปไม่ติดคนเยอะ
  7. 7 สรุป
    1. 7.1 ทำไมเทศกาลหิมะซัปโปโรถึงพลาดไม่ได้
    2. 7.2 ความอลังการที่น่าจดจำ
Kintetsu Line LP R3
Pennapa Uttamang

Blogger : Pennapa Uttamang

อดีตบรรณาธิการผู้รับใช้ถ้อยคำมาตลอดหลายสิบปี ปัจจุบันก็ยังคงทำงานเขียน วาดภาพประกอบ เลี้ยงแมว และทำสตูดิโอออกแบบเล็กๆ เกี่ยวกับโบรชัวร์ญี่ปุ่น เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนผ่านเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรามากมายเช่นกัน

85 Posts

โหวต

| Polls
โหวต | Polls
  • เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น คุณมี “เมนูในดวงใจ” ที่ตั้งใจจะไปกินให้ได้ไหม?

    View Results

    Loading ... Loading ...

สถานที่เที่ยว

| Feature
CCJ Hotel Search

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

จองทริปของคุณ

| Book your trip
With:
City:

Check-in:

Night :

x