คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
17%
5%
10%
ในช่วงที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์การถ่ายรูปนั้นมาแรงสุด ๆ เพราะใคร ๆ ต่างก็อยากบันทึกภาพของความทรงจำเก็บเอาไว้ ซึ่งในปัจจุบันหลายคนนิยมแชร์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คกันมากขึ้น ทำให้เกิดเป็นการแข่งขันเล็ก ๆ ที่อยากจะอวดภาพสวย ๆ ที่ถ่ายมาให้โลกได้เห็น

และ ‘กล้องถ่ายรูป’ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้การบันทึกความทรงจำของเราสวยงามยิ่งขึ้น นอกเหนือไปจากองค์ประกอบภาพ แสงเงา มุมกล้อง และความสามารถของผู้ถ่าย แต่กล้องดี ๆ สักตัวมันก็แพงเหลือเกิน เพราะฉะนั้นเราลองไป ซื้อกล้องที่ญี่ปุ่น แบบมือสองที่ราคาถูกกว่าที่ญี่ปุ่นกันดีกว่าค่ะ
หากใครมีโอกาสเดินทางไปช้อปปิ้งที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่บ่อย ๆ ก็คงจะทราบดีว่าสินค้ามือสองของที่นี่เป็นของดีมีคุณภาพ ซึ่งบางชิ้นยังมีสภาพใหม่เอี่ยมราวกับไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน

กล้องถ่ายรูปเองก็เช่นกัน ด้วยความที่เป็นสินค้าที่มีการผลิตเป็นจำนวนมาก ทำให้มีกล้องรุ่นใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ส่วนรุ่นเก่าที่ตกรุ่นแล้วก็ถูกเจ้าของนำมาขายทอดตลาดกลายเป็นกล้องมือสองที่มีขายอยู่มากมายในญี่ปุ่นนั่นเอง
สำหรับกล้องที่จำหน่ายอยู่ในประเทศญี่ปุ่นถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

เป็นสินค้าที่ผลิตและขายในประเทศญี่ปุ่น ทุกอย่างจะเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ตั้งแต่เมนู คู่มือ ซอฟต์แวร์ ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนภาษาได้ และจะรับประกันเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งบางครั้งอาจใช้ไฟฟ้า 110 V. ได้อย่างเดียว ซึ่งไม่สามารถใช้ที่ไทยได้ แต่มีข้อดีคือราคาถูกกว่าประเภทอื่นมาก
ตัวกล้องจะมีเมนู คู่มือ และซอฟต์แวร์เป็นภาษาอังกฤษ (ยกเว้นกล้องดิจิตอลยี่ห้อ Sony และ Panasonic) กระแสไฟฟ้าที่ใช้รองรับตั้งแต่ 110-240 V. แต่จะรับประกันเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น และมีราคาไม่ต่างจากประเภทที่ 1 มากนัก
เป็นกล้องที่ผลิตขึ้นเพื่อส่งขายไปยังตลาดต่างประเทศ ทำให้รองรับได้หลายภาษา ซึ่งบางครั้งอาจมีภาษาไทยด้วย ตั้งแต่เมนู คู่มือ และซอฟต์แวร์ มีกระแสไฟฟ้าที่ครอบคลุมและการรับประกันแบบ Worldwide สามารถนำไปเคลมที่ประเทศใดก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่ามีราคาสูงที่สุดในบรรดากล้องทั้งสามประเภท

แม้ว่าจะเป็นกล้องมือสองที่ราคาถูกลดลงมากกว่าครึ่งแล้วก็ตาม เราก็ยังต้องใช้ความตั้งใจในการเลือกซื้อ โดยเพื่อน ๆ จะต้องรู้ก่อนว่าอยากได้กล้องไว้ใช้ทำอะไร เพราะถ้าใช้ในการทำงานก็ต้องเลือกกล้องเสปคสูง ๆ แต่ถ้าใช้เพื่อถ่ายภาพบันทึกความทรงจำก็อาจเลือกเสปคที่ต่ำลงมาหน่อย จะได้มีเงินเหลือเก็บไว้ช้อปปิ้งอย่างอื่นต่อ
และไม่ว่าจะซื้อกล้องรุ่นใด ราคาเท่าไร จะเสปคสูงหรือต่ำ สิ่งที่เราชาวไทยต้องยึดมั่นไว้เสมอคือหลักสิทธิผู้บริโภคนั่นเอง พูดง่าย ๆ ก็คือ ‘ซื้ออย่างไร…ไม่ให้เสียเงินฟรี’ และนี่คือข้อแนะนำและสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ ซื้อกล้องที่ญี่ปุ่น มือสอง

1. หากไม่ได้ซื้อ JR All Pass ไว้ แนะนำให้ซื้อเป็น 1 Day Pass ของจังหวัดที่ไปเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพราะเราอาจไม่เจอกล้องแบบที่ต้องการในร้านเดียว ทำให้ต้องเดินทางตามหา
2. อย่าลืมพกพาสปอร์ตติดตัวไปด้วยเพื่อใช้ในการขอยกเว้นภาษี (ในกรณีที่ซื้อสินค้าครบ 10,800 เยนขึ้นไป) เพราะถึงแม้จะเป็นกล้องมือสองแต่ก็สามารถยกเว้นภาษีได้ เท่ากับว่าเราได้ลดราคาไปอีก 8% เพราะฉะนั้นห้ามลืมเด็ดขาด
3. ร้านขายกล้องมือสองในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไม่ให้ต่อราคาเพราะเค้าไม่ได้ตั้งราคาสูงไว้เผื่อต่อเหมือนบ้านเรา
4. แทบทุกร้านจะมีระบบสมาชิกให้สะสมแต้มสำหรับการซื้อแต่ละครั้ง ซึ่งนักท่องเที่ยวอย่างเราที่ไม่ได้ซื้อบ่อย ๆ นั้นไม่จำเป็น จึงอาจลองพูดคุยเพื่อต่อรองกับพนักงานดูว่าเราสามารถเปลี่ยนเป็นสิทธิพิเศษอื่นได้หรือไม่ เช่น ส่วนลดเพิ่มจาก 5% เป็น 10% เป็นต้น
5. กล้องมือสองจะถูกแบ่งเกรดออกเป็น A, B และ C (บางร้านอาจแบ่งเกรดไว้มากกว่านี้) ซึ่งราคาก็จะลดหย่อนตามสภาพกันไป โดยการจัดเกรดจะเขียนไว้ที่มุมบนขวาของป้ายราคา รวมทั้งรายละเอียดสินค้าอย่างเช่นอุปกรณ์ที่มากับตัวกล้องหรือกล้องตัวนี้ขาดอุปกรณ์ใดและมีตำหนิตรงไหนบ้าง (เป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ แนะนำให้ขอพนักงานลองเล่นดู)
6. เมื่อเจอกล้องมือสองรุ่นที่ต้องการแล้ว อันดับแรกที่ต้องทำคือการทดลองใช้ด้วยตัวเองเพื่อทดสอบตัวกล้องเบื้องต้นกันก่อน เริ่มจากเช็คด้านกายภาพว่าสึกหรอมากน้อยเพียงใด แล้วจะส่งผลต่อการใช้งานหรือเปล่า ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่จะมาจากเลนส์ที่ได้มาพร้อมกล้อง เพราะหากมีราขึ้นเพียงจุดเล็ก ๆ ก็อาจทำให้เลนส์ไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
จากนั้นก็เริ่มทดสอบเมนูคำสั่งและปุ่มกดต่าง ๆ ว่ายังใช้งานได้ปกติหรือไม่ กดไปกดมาจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรที่ผิดปกติ และการทดสอบที่ดีที่สุดก็คือการลองถ่ายจริงแล้วดูว่าภาพที่ได้มีความคมชัดหรือแสงสีตามที่ต้องการไหม สุดท้ายคือเรื่องประกันว่าหมดอายุหรือยัง แต่ถ้าไม่ใช่แบบ Worldwide ก็ไม่มีผลเท่าไรนัก
7. และที่สำคัญที่สุดที่อยากบอกก็คือ “ควรซื้อกล้องมือสองในวันแรก ๆ ที่เดินทางไปถึงญี่ปุ่นและลองใช้งานจริงเลย เพราะหากมีปัญหายังสามารถนำกลับไปให้ที่ร้านดูได้ ฉะนั้น…ไม่ควรซื้อวันสุดท้ายก่อนกลับ”
ในโตเกียวนั้นมีร้านจำหน่ายกล้องอยู่มากมาย ตั้งแต่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ไปจนถึงร้านเล็ก ซึ่งแหล่งรวมร้านขายกล้องส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้น Akihabara ย่านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ นั่นเอง ซึ่งเกือบทุกร้านขายกล้องจะมีขายทั้งกล้องมือหนึ่งและมือสอง โดยอาจจะขายแยกกันคนละชั้นหรือคนละตึก
รุ่นของกล้องและราคาก็จะแตกต่างกันไป เพราะกล้องมือสองแต่ละตัวก็เปรียบเหมือนกับสินค้าที่มีตัวเดียวในโลก เพราะผ่านการใช้งานมาต่างกัน และตัวไหนถูกขายไปแล้วก็คือไม่มีแล้ว หมดแล้วหมดเลย ในฐานะลูกค้า เราก็ต้องอาศัยความใจเย็นและศึกษาข้อมูลมาให้เยอะ ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ
Yodobashi-Akiba
สำหรับร้าน Yodobashi สาขา Akihabara นั้นเป็นสาขาที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีขายทั้งกล้องมือหนึ่งและมือสองที่ให้เลือกกันแบบสะใจ ส่วนรุ่นและราคาก็มีหลากหลาย ค่อย ๆ เดินและหากันไปอย่าใจร้อน
| ที่อยู่ | 1-1 Kandahanaokacho, Chiyoda-ku, Tokyo 101-0028, Japan |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line มาลงสถานี Akihabara ออกทางออกฝั่งถนน Showa Dori แล้วเดินอีก 2 นาที |
| เวลาทำการ | 9.30-22.00 น. |
| โทรศัพท์ | 03-5209-1010 |
| Website | Yodobashi-Akiba |
Fujiya Camera
ร้าน Fujiya Camera สาขาที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี Nagano นั้น แบ่งร้านออกเป็นหลายตึกและหลายชั้นเพื่อแยกประเภทและยี่ห้อของกล้องออกจากกัน ซึ่งก็มีมากมายจนอาจเลือกไม่ถูก และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนเราควรเลือกประเภทของกล้องที่ต้องการเอาไว้ก่อน
Cr: Fujiya Camera
| ที่อยู่ | 5-61-1 Yubinbango, Nakano-ku, Nakano, Tokyo 164-0001 |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Chou Line มาลงสถานี Nagano แล้วเดินอีก 3 นาที |
| เวลาทำการ | 10.00-20.30 น. |
| โทรศัพท์ | 03-5318-2241 |
| Fujiya Camera |
Map Camera
หากไม่ใช่นักช้อปกล้องมือสองตัวจริง อาจไม่ค่อยคุ้นชื่อร้าน Map Camera มากนัก แต่ที่นี่เป็นอีกร้านขายกล้องมือสองที่น่าสนใจ ภายในร้านจะแบ่งประเภทของกล้องในแต่ละชั้นที่ค่อนข้างชัดเจน ทำให้สะดวกกับลูกค้าอย่างเรา
| ที่อยู่ | 1-12-5 อาคาร, Buranshe Nishi-Shinjuku, Shinjuku, Tokyo 160-0023 |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line มาลงสถานี Shinjuku ออกทางออกฝั่ง Shinjuku Post Office แล้วเดินอีก 5 นาที |
| เวลาทำการ | 10.30-20.00 น. |
| โทรศัพท์ | 03-3342-3381 |
| Website | Map Camera |
ตะลุยโอซาก้าตามล่าร้าน ‘กล้องมือสอง’ ที่เค้าว่าเด็ด !
ใครที่กำลังวางแผนจะไปโอซาก้าเชิญทางนี้ ! เราได้ทำการรวบรวมร้านขาย ‘กล้องมือสอง’ เด็ด ๆ ในโอซาก้ามาไว้ให้เพื่อน ๆ ได้ไปละลายทรัพย์แบบคุ้มค่ากันแล้ว

Blogger : Mytarn
เราเองก็เป็นหนึ่งในคนไทยที่หลงใหลในประเทศญี่ปุ่น ?? และรู้สึกเหมือนกับหลาย ๆ คนที่ไม่เคยเบื่อการเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศแห่งนี้ สิ่งที่ชอบที่สุดคงจะเป็นขนม เบียร์ และการช้อปปิ้ง อิ้ง อิ้ง อิ้ง~ ???
162 Posts

จากนาริตะไปโตเกียว รวมวิธีเดินทางสุดสะดวก เข้าเมืองชิลๆ
รวมมิตรวิธีการเดินทาง จากนาริตะไปโตเกียว ที่รู้ไว้ก่อนออกเดินทางแล้วรับรองไม่ม...

รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น เช็คได้ทั่วประเทศ ใช้สะดวก ไม่มีหลง
รวม แอพ รถไฟ ญี่ปุ่น สุดสะดวก จัดให้แบบเต็มๆ ทุกแอเรีย หาสาย เช็คเวลากันแบบชิล...

เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...

วิธีเดินทางสุดประหยัดจากโตเกียว เที่ยวฟูจิ ที่คาวากูจิโกะ
ทริป เที่ยวฟูจิ คราวนี้ไม่มีหลง เพราะเรารวบรวมวิธีการเดินทางจากกรุงโตเกียวไปยั...

รีวิว “Eslead Hotel Osaka Shinsaibashi” ที่พักสไตล์เหมือนพักที่บ้านใกล้แหล่งท่องเที่ยวใจกลางโอซาก้า
สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างสำหรับคนที่วางแผนจะมาเที่ยวญี่ปุ่นก็คือที่พัก ครั้งนี้เร...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515