โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 4 จังหวัด คือ โทชิงิ ฟุกุชิมะ มิยางิ และยามากาตะ โดยจังหวัดโทชิงินั้นอยู่ในภูมิภาคคันโต ส่วนฟุกุชิมะ มิยางิ และยามากาตะ อยู่ทางตอนใต้ของภูมิภาคโทโฮคุ เราจึงเรียกทั้งสามจังหวัดนี้ว่า มินามิโทฮคุ ซึ่งมีความหมายว่าโทโฮคุตอนใต้นั่นเอง
โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ มีหิมะตกหนักมากในฤดูหนาว ซึ่งนอกจากกินซังออนเซ็นที่ตั้งอยู่ในยามากาตะแล้ว ในแต่ละจังหวัดก็มีแหล่งออนเซ็นเช่นกัน และในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็มีซากุระที่ผลิบานอย่างสวยงามเช่นกัน แต่ในภูมิภาคนี้มีอากาศที่ค่อนข้างเย็นกว่าโตเกียว จึงทำให้ดอกซากุระบานช้ากว่าโตเกียวนั่นเอง โดยที่นี่ซากุระจะบานในช่วงสงกรานต์ของไทย เหมาะสำหรับใครที่อยากหลบร้อนมาพึ่งเย็นมากๆ ในบางช่วงเวลาเราสามารถชมซากุระพร้อมกับหิมะขาวๆ ได้ในบางพื้นที่อีกด้วย อีกทั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในภูมิภาคนี้ยังมีใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงาม
ในการเดินทางไปท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางได้อย่างง่ายด้วยชินคันเซ็น และรถไฟด่วนพิเศษได้ในเวลาสั้นๆ และสะดวกอีกด้วย
ทริปนี้เหมาะสำหรับคนที่เที่ยวกับครอบครัว ชื่นชอบการทำกิจกรรม หรือมีเด็กๆ ไปเที่ยวด้วย นั่นก็เพราะว่าเราสามารถเที่ยวเล่นหิมะ ทำกิจกรรมสัมผัสวัฒนนธรรม ชมสัตว์น้อยน่ารักอย่างใกล้ชิด เก็บประสบการณ์ดีๆ ไว้เป็นที่ระลึก หากมีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาวอยู่ล่ะก็ จับมือกับครอบครัว หรือจะมากันเป็นทีมไปตะลุยมิยางิ-ยามากะตะกันเลย
วิธีเดินทางสู่เซนได
สำหรับการบินตรงสู่เซนไดจากประเทศไทยนั้น ตอนนี้ทางสายการบินไทยยังคงงดให้บริการ จนถึงปัจจุบัน (เดือนมีนาคม 2021) สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงหรือประกาศได้จาก เว็บไซต์ของการบินไทย
กรณีที่เดินทางจากโอซาก้า หรือ ฟุกุโอกะ แนะนำให้นั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินเซนไดได้เลย สำหรับการเดินทางจากโตเกียวมีวิธีตามด้านล่างนี้ โดยสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับงบประมาณรวมถึงสถานที่ที่เราจะไปพักได้ด้วย
สามารถนั่งเครื่องมาลงยังสนามบินเซนไดได้เลย
สำหรับใครที่ต้องการเดินทางมาจากโตเกียว มีวิธีการเดินทางดังนี้
ชินคันเซ็น
เส้นทาง:Tokyo Station(Tohoku Shikansen Hayabusa / Hayate / Yamabiko)→ Sendai Station
เวลาที่ใช้:ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีขึ้นไป
ราคา:10,560 เยนเป็นต้นไป(ราคาจะต่างไปตามประเภทชินคันเซ็นและคลาสของที่นั่ง)
บัสด่วน
เส้นทาง:Tokyo Station(Tohoku Express Bus เป็นต้น)→ Sendai Stion
เวลาที่ใช้:ประมาณ 5 ชั่วโมง〜7 ชั่วโมง
ราคา:3100 เยนขึ้นไป〜(ขึ้นอยู่กับบริษัทรถบัส)
JR EAST PASS(Tohoku Area)พาสสุดคุ้มที่ใช้ขึ้นรถไฟ JR รวมถึงชินคันเซ็นในบริเวณโทโฮคุแบบไม่อั้นถึง 5 วัน หากเดินทางด้วยรถไฟ JR หรือชินคันเซ็นเป็นหลัก พาสนี้คุ้มมาก
ราคา:ผู้ใหญ่ (12 ขึ้นไป) 20,360 เยน
เด็ก (6 – 11 ปี) 10,180 เยน
รายละเอียด→ คลิก
DAY1 : Zao Fox Village – Togatta Onsen
สำหรับการเดินทางไปยังปราสาทชิโรอิชิ สามารถเดินทางได้ตามนี้
วิธีการเดินทาง
จากสถานี Sendai นั่งรถไฟ JR Tohoku Main Line ไปลงสถานี Shiroishi ใช้เวลา 50 นาที
*กรณีที่ใช้ JR EAST PASS สามารถนั่งชินคันเซ็นไปลงที่สถานี Shiroishi Zao ใช้เวลา 25 นาที และเดินต่ออีก 15 นาที
ปราสาทชิโรอิชิ (Shiroishi Castle)
ปราสาทชิโรอิชิ เป็นปราสาทของ Katakura Kagetsuna ซึ่งเป็นมือขวาของ Date Masamune โดยที่นี่อยู่ไม่ไกลจากสถานีที่อยู่ใกล้หมู่บ้านจิ้งจอก Zao ที่สุด โดยเมื่อเรามาลงที่สถานีเราจะต้องต่อรถไปยัง หมู่บ้านจิ้งจอก Zao แต่ก่อนที่จะไปหาน้องจิ้งจอกเรามาแวะเที่ยวปราสาทชิโรอิชิกันก่อนเลย
โดยที่นี่เราสามารถแต่งชุดเกราะซามูไรได้ ให้เด็กๆ ได้สนุกกับการจำลองเป็นซามูไร พร้อมไปกับการศึกษาวัฒนธรรมธรรม และความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นสมัยก่อนได้ด้วย
ปราสาทชิโรอิชิ (Shiroishi Castle)
ที่อยู่ | 1-16 Masuokacho, Shiroishi, Miyagi 989-0251 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ Tohoku Line มาลง Shiroishi Station เดินต่อ 10 นาที |
เวลาทำการ | เมษายน ถึง ตุลาคม 9.00 น. – 17.00 น. พฤศจิกายน ถึง มีนาคม 9.00 น. – 16.00 น. วันหยุด 28 -31 ธันวาคม |
ราคา | ใส่ชุดเกราะซามูไรเต็มยศ:20,000 เยน ใส่ชุดเกราะซามูไร Light:2,000 เยน ใส่ชุดเกราะซามูไร SuperLight:500 เยน ※มีค่าเข้าชมอีก 400 เยน |
โทร | 0224-24-3030 |
Website | Shiroishi Castle |
หลังจากที่เราเที่ยวปราสาทชิโรอิชิเราก็จะไปต่อกันที่หมู่บ้านจิ้งจอก Zao โดยสามารถเดินทางได้ตามนี้
วิธีการเดินทาง
จาก Shiroishi Station ให้นั่งรถแท็กซี่ไปยังหมู่บ้านจิ้งจอก Zao ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
หมู่บ้านจิ้งจอก (Zao Fox Village)
หมู่บ้านจิ้งจอก Zao ที่แห่งนี้มีน้องจิ้งจอกอยู่มากกว่า 100 ตัวเลย โดยเราสามารถพบเจอจิ้งจอกพันธุ์หายากได้ที่นี่ และนอกจากนี้หมู่บ้านจิ้งจอก ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยอีกด้วย สำหรับใครที่เป็นแฟนจิ้งจอกน้อยแสนน่ารักบอกเลยว่าควรมาที่นี่ เพราะเราสามารถสัมผัสใกล้ชิดโดยสามารถให้อาหารน้องได้ด้วยล่ะ
น้องจิ้งจอกมากมายหน้าตาน่ารักๆ ให้เราได้ชมความน่ารักอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ยังสามารถให้อาหารน้องได้อีกด้วย โดยเจ้าหน้าที่จะวางถุงอาหารเอาไว้ให้แบบนี้
หมู่บ้านจิ้งจอก (Zao Fox Village)
ที่อยู่ | 11-3 Kawarago, Fukuokayatsumiya, Shiroishi, Miyagi 989-0733 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งแท็กซี่ประมาณ 20 นาทีจาก Shiroishi Zao Station หรือ Shiroishi Station |
เวลาทำการ | 16 มีนาคม ถึง 30 พฤศจิกายน. 09.00 น. – 17.00 น. เข้าก่อน 16.30 น. 1 ธันวาคม ถึง 31 มกราคม 09.00 น. – 16.00 น. เข้าก่อน 15.30 น. 1 กุมภาพันธ์ ถึง 20 มีนาคม 09.00 น. – 16.30 น. เข้าก่อน 16.00 น. วันหยุด ทุกวันพุธ |
ราคา | ผู้ใหญ่(มัธยมต้นขึ้นไป)1000 เยน เด็ก(ประถมและต่ำกว่า)เข้าฟรี |
โทร | 0224-24-8812 |
Website | Zao Fox Village |
จากหมู่บ้านจิ้งจอก Zao เราจะไปเที่ยวต่อกันที่ Togatta Onsen ไปแช่ออนเซ็นผ่อนคลายความหนาวกัน
วิธีการเดินทาง
นั่งแท็กซี่จากหมู่บ้านจิ้งจอก Zao ไป 25 นาที
โทกัตตะออนเซ็น (Togatta Onsen)
หมู่บ้านออนเซ็นบรรยากาศอบอุ่นที่มีประวัติยาวนานถึง 400 ปีมีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่างๆ ทั้ง อาการปวดเส้นประสาท ไขข้ออักเสบ และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ นอกจากจะได้แช่ออนเซ็นคุณสมบัติดีแล้ว เรายังสามารถแช่ออนเซ็นพร้อมกับชมวิวธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติตามแต่ละฤดู เป็นบรรยกาศแบบญี่ปุ่นขนานแท้ นอกจากนี้เรายังสามารถเดินเที่ยวจากออนเซ็นได้ เพราะที่นี่ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย
Kami no yu
(c)Miyagi Prefectural Government Tourism Division
ออนเซ็นรวมบรรยากาศญี่ปุ่นด้านหน้าออนเซ็นมีบ่อสำหรับแช่เท้าไว้ด้วย เป็นออนเซ็นบรรยากาศโบราณสักหน่อย ด้านในออนเซ็นเป็นบ่อรวม แต่เป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาด ถ้าหากว่าเดินเที่ยวจนเหนื่อยอาจจะแวะมาแช่เท้าคลายเมื่อยสักหน่อย
Zao BOO Burger
ร้านเบอร์เกอร์เนื้อเน้นๆ จาากเนื้อวัวซาโอกิว เนื้อหอมๆ นุ่มๆ ละมุน ที่ถูกนำมาทำเป็นแฮมเบอร์เกอร์ให้เราได้ทานในราคาถูกใจ พร้อมด้วยคุณภาพ บรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งอย่างอบอุ่น น่านั่งชิลๆ ทานเบอร์เกอร์เติมพลังระหว่างดินทาง
โดยเบอร์เกอร์เลือกใช้เนื้อซาโอกิว จากแบรนด์ท้องถิ่นจังหวัดมิยางิ โดยถูกทำออกมาเป็น 2 ไซส์ให้เราเลือกทานตามความหิวของเรา คือไซส์เล็กและไซส์
Zao Town Tourist Information Center
※สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโทกัตตะออนเซ็นได้ที่ Zao Town Tourist Information Center
หากต้องการข้อมูลท่องเที่ยว Togatta Onsen เพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Zao Town Tourist Information Center
Zao Town Tourist Information Center
ที่อยู่ | 189 Ubayanagicho Nakagyo-ku Kyoto Kyoto |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นบัสด่วนที่ป้าย 33 หน้า Sendai Station ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง / นั่ง Miyagi Kotsu bus มาลงป้าย Togatta Onsen |
เวลาทำการ | 12:00~15:00(L.O.), 18:00~20:00(L.O.) |
โทร | 0224-34-2725 |
Website | Zao Town Tourist Information Center |
ที่พักในโทกัตตะออนเซ็น
หลังจากเที่ยวกันมาเหน็ดเหนื่อยทั้งวันแล้ว เราก็พักกันที่โทกัตตะออนเซ็นสักคืน! โดยที่โทกัตตะออนเซ็นนั้นมีที่พักมากมายหลายแบบให้เลือกพัก
นอนพักเอาแรงกันสักคืนแล้วพรุ่งนี้ไปเที่ยวกันต่อเถอะ!
DAY2 : เก็บผลไม้จากสวน ตระเวนช้อปปิ้งรอบสถานีเซนได
วิธีการเดินทาง
JR Fruit Park Arahama
วันถัดมาเรานั่งรถกลับมาที่สถานีเซนได แล้วมุ่งหน้าต่อไปที่ JR Fruit Park Arahama โดยที่นี่ เป็นสวนสำหรับการท่องเที่ยว เปิดในวันที่ 18 มีนาคม 2021 มีผลไม้ให้เก็บมากถึง 8 ชนิด มีมากถึง 156 สายพันธุ์ โดยผลไม้ที่นี่นั้นได้รับการเอาใจใส่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มรสความอร่อยจากธรรมชาติ
โดยมีผลไม้ให้เลือกเก็บดังนี้ สตรอเบอร์รี่ องุ่น แอปเปิ้ล และอื่นๆ สามารถมาเก็บได้ตลอดปี โดยในปี 2021 นี้ มีสตรอเบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่ให้เก็บ และในปี 2022 ก็จะมีองุ่น แอปเปิ้ล สาลี่ มะเดื่อ กีวี่ เคอร์แรนท์ ให้เก็บกินกันอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้เราสามารถทานอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มที่เก็บได้จากภายในฟาร์ม และท้องถิ่น โดยถูกนำมารังสรรค์เป็นเมนูแสนอร่อยโดยเชฟจาก Hotel Metropolitan Sendai
JR Fruit Park Arahama
ที่อยู่ | 2-17-1 Arahamashin, Wakabayashi, Sendai 984-0034 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากSubway Arai Station นั่ง Sendai City Bus (Bound for Former Arahama Elementary School bus) มาลงสุดสาย เดินต่อประมาณ 5 นาที |
เวลาทำการ | 10.00 น. – 17.00 น. วันหยุด:วันอังคาร(หากเป็นวันหยุดจะหยุดวันถัดไป) |
โทร | 022-390-0770 |
Website | JR Fruit Park Arahama |
จากสวนผลไม้ JR Fruit Park Arahama เราก็จะไปต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเซนได อุมิโนะโมริ ชมฝูงปลา
วิธีการเดินทาง
จากสวนผลไม้ JR Fruit Park Arahama นั่งรถแท็กซี่ต่ออีก 15 นาที
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเซนได อุมิโนะโมริ (Sendai Umino-mori Aquarium)
หลังจากเก็บผลไม้ กินกันจนอิ่มแล้วก็ไปเดินย่อยกันสักหน่อยที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเซนได อุมิโนะโมริ โดยที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโทโฮคุเลยล่ะ
ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือฝูงปลาซาดีนกว่า 25,000 ตัว จนกลายเป็นฝูงปลาขนาดใหญ่ ดูเผินๆ แล้วเหมือนปลายักษ์ ที่ว่ายอยู่ในทะเล ช่วนให้นึกภาพในหนังสือเลยล่ะ
นอกจากนี้เรายังสามารถชมการแสดงของโลมาและสิงโตทะเล แถวหน้าสุดจะอยู่หน้าสระ ได้สนุกตื่นตาไปกับการแสดงในระยะประชิด
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเซนได อุมิโนะโมริ (Sendai Umino-mori Aquarium)
ที่อยู่ | 4-6 Nakano, Miyagino, Sendai, Miyagi 983-0013 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จาก Sendai Station นั่งรถไฟ JR Senseki Line มาลง Nakanosakae Station ใช้เวลาประมาณ 18 นาทื แล้วเดินต่ออีก 15 นาที |
เวลาทำการ | ผู้ใหญ่(18 ปีขึ้นไป) 2,200 เยน มัธยม(12~18 ปี) 1,600 เยน ประถม(6~12 ปี) 1,100 เยน เด็กเล็ก(4 ปีและต่ำกว่า) 600 เยน ผู้สูงอายุ(มากกว่า 65 ปี) 1,600 เยน |
โทร | 022(355)2222 |
Website | Sendai Umino-mori Aquarium |
เดินเล่นกันจนเพลิน อย่าพึ่งลืมเวลาล่ะ นัดต่อไปของเราคือการไปช้อปปิ้งกันต่อที่ Mitsui Outlet Park Sendai Port สถานที่ถัดไปนี้นับว่าไม่ไกลเลย เพราะสามารถเดินไปได้
วิธีการเดินทาง
เดินจาก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเซนได อุมิโนะโมริ ไป 10 นาที ก็จะถึง Mitsui Outlet Park Sendai Port
Mitsui Outlet Park Sendai Port
ที่ Mitsui Outlet Park Sendai Port เป็น Outlet Mall ขนาดใหญ่ในเซนไดที่รวบรวมแบรนด์ดังทั้งจากญี่ปุ่นและต่างประเทศ นอกจากนี้ก็ยังมี select Shop ให้เลือกซื้อสินค้าคุณภาพดีราคาสบายกระเป๋า สำหรับใครที่อยากช้อปของแบรนด์ หรือมองหาที่ซื้อของฝากราคาดีอยู่ ที่นี่น่าสนใจมาก ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สนุกกับการช้อปปิ้งได้ ที่นี่มีชิงช้าสวรรค์ ให้นั่งสวีท หรือจะไปสนุกกับเด็กๆ ก็ได้
(c)MITSUI OUTLET PARK SENDAI PORT
เดินช้อปกันจนเหนื่อยแล้วก็แวะมาทานอาหารกันที่ฟู้ดคอร์ท นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหารมากมายให้เลือกทานตามความชอบ และยังสามารถสนุกไปกับครอบครัวได้ทั้งวัน
Mitsui Outlet Park Sendai Port
ที่อยู่ | 3-7-2 Nakano, Miyagino, Sendai, Miyagi 983-0013 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จาก Sendai Station นั่งรถไฟ JR Senseki Line.มาลง Nakanosakae Station ใช้เวลาประมาณ 18 นาที แล้วเดินต่อประมาณ 8 นาที |
เวลาทำการ | 10.00 น. – 20.00 น. |
โทร | 022-355-8800 |
Website | Mitsui Outlet Park Sendai Port |
หลังจากเดินช้อปกันจนเหนื่อย เราจะไปกินข้าวเย็นกันที่ VLANDOME
วิธีการเดินทาง
*กรณีที่ใช้ JR EAST PASS สามารถใช้ขึ้น JR Senseki Line ได้
ย่านการค้า VLANDOME
ซื้อของกันเสร็จแล้วแวะกลับมาหาของกินกันที่สถานี Sendai กันเถอะ บริเวณหน้าสถานี Sendai เชื่อมกับย่านการค้าที่ให้เราช้อปปิ้งกันได้อย่างสนุกแม้ว่าฝนจะตก ย่านการค้า VLANDOME เป็นหนึ่งในย่านการค้าใหญ่ ซึ่งอยู่ถัดจากสถานี Sendai ไป 1 สถานี โดยนั่ง Municipal Subway Tozai Line ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย คนท้องถิ่นก็ต่างนิยมกันแวะเวียนมาที่นี่เป็นจำนวนมาก
หากพูดถึง Sendai แล้ว อาหารขึ้นชื่อที่เราจะต้องนึกถึงเป็นอย่างแรกเลยก็คือ ลิ้นวัว ซึ่งที่นี่เองก็มีร้านลิ้นวัวชื่อดังและอาหารท้องถิ่นอย่างเฮียวตันอาเกะ ลิ้นวัวย่างนุ่มๆ หอมๆ
เฮียวตันอาเกะ อาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อที่ต้องลอง ทานอาหารจนอิ่มแล้วก็แวะพักที่นี่สักคืนแล้วพรุ่งนี้ค่อยไปต่อ
VLANDOME
ที่อยู่ | Ichibancho, Aoba, Sendai |
---|---|
วิธีเดินทาง | จาก Sendai Station นั่งรถไฟ Tozai Subway Line มาลง Aoba-dori Ichibancho Station |
Website | VLANDOME |
ที่พักบริเวณสถานีเซนได
เซนได มีที่พักมากมายหลายแบบให้เลือก หากยังไม่มีที่พักในใจ หรือที่ที่ต้องการพักแล้วล่ะก็ลองดูที่นี่เลย
หลากที่พักให้เลือกตามแบบที่ชอบ
DAY3 : Kaminoyama Onsen – Zao Snow Monster
หลังจากนอนพักเติมพลังกันเต็มอิ่มแล้ว วันนี้เราก็ออกเดินทางกันต่อ ยังคงไปเที่ยวออนเซ็นและเติมความหนาวถึงใจกันอย่างต่อเนื่อง
วิธีการเดินทาง
หรือ
นั่งรถไฟ JR ประมาณ 1 ชั่วโมง 25 นาที ไปลงที่ สถานี Yamagata
*หากมี JR EAST PASS ควรนั่งรถไฟจากสถานี Sendai
คามิโนะยามะออนเซ็น (Kaminoyama Onsen)
เข้าสู่วันที่ 3 ของการเที่ยวแล้ว วันนี้เราจะมุ่งหน้าไปยังยามากาตะ กันแต่เช้า
จากสถานี Sendai ให้นั่งบัสด่วนมาลงที่สถานี Kaminoyama Onsen โดยให้ขึ้นรถบัส Yamako Bus ที่จุดขึ้นรถบัสหมายเลข 23 หน้าสถานี Sendai โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที ในการเดินทางไปยังสถานี Kaminoyama Onsen ราคา 1,150 เยน
*กรณีใช้ JR EAST PASS นั่งรถไฟJR จาก Sendai Station จะคุ้มกว่า
วันนี้เราจะพักกันที่คามิโนะยามะ ออนเซ็น จึงแนะนำให้ฝากสัมภาระก่อนแล้วค่อยออกไปเดินเล่นในเมืองคามิโนะยามะ เคยเป็นเมืองรอบปราสาทคามิโนะยามะ โดยในสมัยเอโดะนั้นเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของที่พักแรมอันเฟื่องฟูบนถนนสายหลัก ทั้งสองฝั่งจึงเรียงรายไปด้วยคฤหาสน์ซามูไร และบ้านเรือนเก่าที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายญี่ปุ่นโบราณอยู่
เมื่อมาถึงที่ คามิโนะยามะ ออนเซ็นแล้ว อย่าลืมเช็คเวลาและสถานีที่สำหรับการเข้าร่วมชมทัวร์ปีศาจหิมะในช่วงเย็นด้วย
ที่คามิโนะยามะออนเซ็นนั้น มีปราสาทคามิโนะยามะ เป็นปราสาทเก่าแก่สมัยเอโดะ
Kurikawainari Shrine
Kurikawainari Shrine ศาลเจ้าเก่าแก่ ให้บรรยากาศย้อนยุคหน่อยๆ พร้อมด้วยเสาโทริอิสีแดงที่เรียงเป็นทาง ให้บรรยากาศสวยงามไปอีกแบบ เราสามารถเดินเล่นมาที่นี่แบบชิลๆ ชมวิวข้างทางได้ด้วย
ทางเดินตามแนวเสาโทริอิยาวไปจนถึงศาลเจ้าเลย
นอกจากนี้ภายในเมืองก็มีบ่อสำหรับแช่เท้าหลายแห่ง หากเราเดินไปเจออย่าลืมแวะแช่สักหน่อยนะ หรือจะตามลายแทงก็ได้เช่นกัน
บ่อแช่เท้าในปราสามคามิโนะยามะ
บ่อแช่เท้า Maekawa
บ่อแช่เท้า Hayama Onsen
Kaminoyama Onsen Tourist Information Center
ที่อยู่ | 1-2-1, Yarai, Kaminoyama, Yamagata 999-3134 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จาก Sendai Station นั่งรถ Yamako Bus มาลง Kaminoyama Onsen Station ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที |
Fmi | 023-672-5703 |
Website | Kaminoyama Onsen Tourist Information Center |
ชิมขนมในคามิโนะยามะ
เดินเที่ยวกันเพลิน เริ่มหิวกันแล้วหรือยัง ไปทานขนมหวานกันเถอะ
Yamagata Pudding
ด้านหน้าของร้านยามากาตะพุดดิ้ง
หลากเมนูน่ากิน
เป็นขนมที่กำลังเป็นที่นิยมในยามากาตะตอนนี้ โดยตัวเอกของร้านนี้ก็คือ นามะพุดดิ้ง ที่ต้องกินภายใน 10 นาที และอีกหนึ่งเมนูคือ พุดดิ้งผลไม้ยามากาตะ ตัวขนมนั้นมีความละมุนนุ่มละลายในปาก พอได้กินแล้วนอกจากจะสดชื่น ยังเป็นความอร่อยที่ทำให้มีความสุขอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพุดดิ้งแบบอื่นๆ ให้ลิ้มลองอีกหลายรสเลยล่ะ ยังไงก็อย่าลืมไปแวะชิมพุดดิ้งที่นี่นะ
Yamagata Pudding
ที่อยู่ | 4-33 Hayama, Kaminoyama, Yamagata 999-3242 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ Yamagata Shinkansen มาลง Kaminoyama Onsen Station จากนั้นเดินต่อ 20 นาที |
เวลาทำการ | 9.00 น. – 17.30 น. (คาเฟ่ LO 17.00 น.) |
โทร | 023-665-1955 |
Website | Yamagata Pudding |
Cafe and Gallery Tsuki to Hoshi
นอกจากร้านพุดดิ้งขึ้นชื่อแล้ว ที่นี่ยังมีคาเฟ่น่ารักๆ และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอีกด้วย อย่าง Cafe and Gallery Tsuki to Hoshi ที่ไม่แค่คาเฟ่น่ารักๆ ธรรมดา แต่ที่มียังมีเครื่องปั้นดินเผา และแกลอรี่ให้ชมอีกด้วย โดยที่คาเฟ่นี้ก็มีทั้งอาหารคาวหวาน และนอกจากนี้ยังมี Workshop ให้เราเข้าร่วมอีกด้วยนะ
Cafe and Gallery Tsuki to Hoshi
ที่อยู่ | 8-42 Hayama, Kaminoyama, Yamagata 999-3242 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ Yamagata Shinkansen มาลง Kaminoyama Onsen Station จากนั้นเดินต่อ 20 นาที |
เวลาทำการ | 11.00 น. – 18.00 น. วันหยุด:ทุกวันศุกร์ |
โทร | 023-679-5986 |
Website | Cafe and Gallery Tsuki to Hoshi |
หลังจากสนุกสนานใน คามิโนะยามะ ออนเซ็นกันมาตลอดทั้งวันแล้วก็ถึงเวลาไปตามล่าหาปีศาจหิมะกันแล้ว
วิธีการเดินทาง
จาก Kaminoyama Onsen Tourist Information Center นั่งรถ Juhyo Night Go Bus แบบทัวร์ 3 ชั่วโมง ไปยัง Zao Onsen Ski Resort
Light up ปีศาจหิมะที่ Zao Onsen Ski Resort
ปีศาจหิมะ หรือ Snow Monster ก็คือ ต้มไม้ที่เต็มไปด้วยหิมะหรือน้ำแข็งที่ปกคลุมจนสูงใหญ่ดูเหมือนปีศาจ จึงทำให้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Ice Monster ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชม Snow Monster เพราะสามารถชมปีศาจหิมะที่เรียงรายจนสุดลูกหูลูกตาเลย ถือว่าเป็นความสวยงามของธรรมชาติอีกอย่างเลย
สำหรับใครที่มาเที่ยวที่ คามิโนะยามะ ออนเซ็น สามารถเข้าร่วมทัวร์ชมปีศาจหิมะ ได้ โดย Kaminoyama Juhyo Night Go Bus โดนรถจะออกตอน 16.20 น. ขึ้นที่ Kaminoyama Onsen Tourist Information Center โดยทัวร์นี้จะพาเราขึ้นโรปเวย์ไปชม Light Up ตอนกลางคืนด้วย
Zao Ropeway
ที่อยู่ | 229-3 Zao Onsen, Yamagata |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถ Yamako Bus จาก Yamagata Station ไปลง Zao Onsen Bus Terminal ประมาณ 45 นาที |
โทร | 023-694-9518 |
Website | Zao Ropeway |
ที่พักคามิโนะยามะ ออนเซ็นv
และสำหรับใครที่ต้องการพักที่คามิโนะยามะ ออนเซ็นแล้วยังไม่รู้จะไปพักที่ไหน ดูที่นี่เลย
DAY4 : Yonezawa – Onogawa Onsen
วันนี้เราจะเดินเที่ยวกันต่อไปยัง โยเนซาวะ และโอโนกาวะ ออนเซ็นวิธีการเดินทาง
*ใช้ JR EAST PASS ได้
ศาลเจ้าอุเอซุงิ (Uesugi Shrine) / Uesugi Joshien
ในวันที่ 4 นี้เรามาเที่ยวต่อกันที่เมืองโยเนซาวะ การเดินทางจากคามิโนะยามะ มายังโยเนซาวะนั้น ไม่ยากเลย เพียงนั่ง Yamagata Shinkansen ประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ก็มาถึงแล้ว
เมืองโยเนซาวะ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแถบโอคิทามะ จังหวัดยามากาตะ มีชื่อเสียงเรื่องเมืองรอบปราสาทของตระกุลอุเอสึงิ ซึ่งเป็นเหมือนตัวแทนของอุเอสึงิ เคนชิน นักรบสมัยเช็นโกคุ สำหรับใครที่สงสัยว่าอุเอสึงิเป็นใคร อุเอสึงิ เคนชิน เป็นซามูไรที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เป็นที่รู้จักในฐานะนักรบมือฉมังในสมัยเช็นโกคุ
เมื่อมาถึงแล้วก็อย่าลืมไปไหว้ศาลเจ้าอุเอสึงิ ที่ Uesugi Shrine ที่สร้างไว้อุทิศให้แก้ อุเอสึงิ เคนชิน จากนั้นเราก็ไปท่องประวัติศาสตร์กันต่อที่ Uesugi Joshien ตั้งอยู่ข้างๆ ศาลเจ้านี่เอง ที่นี่ก็จะมีของที่ระลึกขายด้วยล่ะ
ศาลเจ้าอุเอซุงิ (Uesugi Shrine)
ที่อยู่ | 1-4-13 Marunouchi, Yonezawa, Yamagata 992-0052 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR Yamagata Shinkansen มาลง Yonezawa Station นั่งบัสประจำทางประมาณ 11 มาลงป้าย Uesugi Jinja-mae |
เวลาทำการ | ฤดูใบไม้ผลิ/ร้อน/ใบไม้ร่วง 6.00 น. – 17.00 น. ฤดูหนาว 7.00 น. – 17.00 น. |
ราคา | ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 400 เยน |
โทร | 0238-22-3189 |
Website | Uesugi Shrine |
ทานมื้อเที่ยง ที่สถานี Yonezawa
หลังจากเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์กันแล้ว เรามาหาอาหารอร่อยๆ กินกันดีกว่า โดยที่บริเวณสถานีนี้เต็มไปด้วยร้านเนื้อวากิวขึ้นชื่อของยามากาตะ อย่าง เนื้อโยเนซาวะ โดยเราสามารถเลือกได้ตามความชอบเลย
ร้านเนื้อโยเนซาวะ
Yonezawa Wagyu Dining Bekoya
ร้านเนื้อฟีล Dining น่ากินมากๆ
Steakhouse Organ
ร้านเนื้อวากิวย่างกะทะร้อน เสิร์ฟกันแบบร้อนให้กินฟินๆ
Kongokaku – Yonezawa Beef Restaurant
ร้านเนื้อฟีลผู้ดีสักหน่อย แต่น่าทานมากๆ
Gyunabe Oki
ร้านนาเบะเนื้อวากิว สำหรับคนชอบกินหม้อไฟ
Onogawa Onsen Kamakura Village
มาต่อกันที่เทศกาลหิมะญี่ปุ่นโบราณ เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่มีชื่อเสียง โดยในฤดูหนาวของทุกปี โอโนกาวะออนเซ็น ในเมืองโยโนซาวะ จะมีการสร้างหมู่บ้านคามาคุระ คือ อิกกลู หรือ กระท่อมหิมะ ที่มีความสูง 3 เมตร กว้าง 5 เมตร
โดยกระท่อมหิมะ คามาคุระ หลังหนึ่งนั้นมีความกว้างพอให้ผู้ใหญ่ 6คนเข้าไปได้ นอกจากจะมีโต๊ะกับเก้าอี้แล้ว ยังมีเมนูอาหารให้เราได้สั่งราเมงโยเนซาวะ และอื่นๆ มาเสิร์ฟถึงในกระท่อมหิมะ คามาคุระ ด้วย อากาศหนาวๆ มาอบอุ่นร่างกายด้วยราเมงกันเถอะ
Onogawa Onsen Kamakura Village
ที่อยู่ | 2501-1 Onogawamachi, Yonezawa City, Yamagata 992-0076 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จาก Yonezawa Station นั่งรถประมาณ 25 นาที |
เวลาทำการ | กลางมกราคมถึงกลางมีนาคมของทุกปี (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) |
โทร | 0238-32-2740 |
Website | Onogawa Onsen Kamakura Village |
ที่พักในโอโนกาวะออนเซ็น
เมื่อมาที่นี่แล้วยังไงต้องพักค้างแรมสักคืนเพื่อชมความสวยงามของคามาคุระ แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะพักที่ไหนลองดูข้อมูลที่นี่เลย
เดินทางเที่ยวกันมา 4 วันแล้วก็ได้เวลากลับบ้านแล้วล่ะ โดยการเดินทางกลับก็ไม่ยากเลย แค่ทำตามนี้เลย
วิธีการเดินทาง
นั่งรถบัสประจำทางจากสถานี โอโนกาวะ ออนเซ็น ไปลงยังสถานี โยเนซาวะ ใช้เวลา 25 นาที
นั่ง Yamagata Shinkansen จากสถานี โยเนซาวะ ไปลงสถานีโตเกียว ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที
ข้อสรุป
สำหรับทริป 4 วัน เที่ยว โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ สำหรับพาร์ท เที่ยวยามากะตะ-มิยางินี้ เรียกได้ว่าเต็มอิ่ม เที่ยวครบรส ทั้งกินช้อปเที่ยว กิจกรรม ใครที่อยากเปิดโลกการท่องเที่ยวแบบใหม่ทริปนี้เหมาะมาก ทั้งชมสัตว์น่ารักแบบใกล้ชิด ลิ้มลองอาหารรสเด็ด ประวัติศาสตร์น่าตื่นตา นอกจากนั้นยังมีออนเซ็นที่เป็นทีเด็ด ไม่ควรพลาด เที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้า อย่าลืมมาเที่ยว โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ นะติดตามบทความอื่นๆ
สัมผัสฤดูหนาว เส้นทางใหม่ โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ เที่ยวสุดพรีเมียม ครบรส(ภาค 1 โทชิงิ-ฟุกุชิมะ)
ทริปสัมผัสฤดูหนาวโทชิงิ-มินามิโทโฮคุ เส้นทางใหม่ เที่ยวสะดวก ครบรส (ภาค 2 มิยางิ-ยามากาตะ)
ตะลุยแดนหิมะ โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ พาเที่ยวโทชิงิ-ฟุกุชิมะ-มิยางิ พิกัดถ่ายรูปจัดเต็ม!
ทริปครอบครัวฤดูหนาว เปิดเส้นทางใหม่ สายโทชิงิ-มินามิโทโฮคุ ตระเวนเที่ยวยามากาตะ-มิยางิ
Golden route พิกัดเด็ดเที่ยวญี่ปุ่น สนุกกับกิจกรรมหิมะในเส้นทางใหม่ สายโทชิงิ-มินามิโทโฮคุ (ภาค1โทชิงิ-ฟุกุชิมะ-มิยางิ)
Golden route เที่ยวญี่ปุ่นเส้นทางใหม่ สนุกกับกิจกรรมหิมะ โทชิงิ-มินามิโทโฮคุ (ภาค2มิยางิ-ยามากาตะ)