ตะลอนทั่วคันไซให้คุ้มด้วย Kansai Area Pass และ Kansai WIDE Area Pass

11/09/2016 (อัพเดทเมื่อ 24/06/2022)
มีเพื่อนคนไหนกำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวโอซาก้าหรือจังหวัดอื่น ๆ ในแถบคันไซกันบ้างมั้ยคะ เพราะวันนี้เราจะพาไปเที่ยวคันไซด้วยวิธีเดินทางสุดประหยัดโดยใช้ JR Kansai Pass แค่ใบเดียวก็เก็บได้ครบทุกสถานที่ยอดฮิตทั่วคันไซ มาพร้อมกับ JR Kansai WIDE Pass ที่หลายคนยังสงสัยว่าแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนจะใช่สุด ตามไปดูเลย!

※นี่คือข้อมูลในปี 2022 ราคาและรายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลง
SOMPO

Kansai WIDE Area Pass

Kansai (คันไซ) คือ หนึ่งในภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับว่ามีความสำคัญทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมมานานกว่าพันปี ด้วยความที่ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงถึง 2 เมืองด้วยกัน คือ Nara (นารา) และ Kyoto (เกียวโต) และยังเป็นที่ตั้งของจังหวัด Osaka (โอซาก้า) ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย และแน่นอนว่าเป็นจังหวัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

Kansai WIDE Area Pass

ซึ่งเมืองอื่นที่ตั้งอยู่ใกล้ในคันไซเองก็มีความน่าสนใจและน่าท่องเที่ยวไม่แพ้กัน หากมีโอกาสได้ไปโอซาก้าแล้วก็ควรจะแวะเวียนไปเที่ยวเมืองรอบ ๆ ด้วย และหากอยากเที่ยวให้ทั่วในราคาสุดคุ้มก็ต้องเลือกวิธีการเดินทางให้เหมาะสมและคุ้มค่า นั่นคือการซื้อ Pass สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟ JR ที่ครอบคลุมการเดินทางในหลายสถานที่ท่องเที่ยว

JR West Rail Pass

Cr: www.westjr.co.jp

JR West Rail Pass คือ Pass สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟ JR ที่นักท่องเที่ยวหลายคนคุ้นเคยกับชื่อกันเป็นอย่างดี โดยจะเป็นเส้นทางรถไฟที่ครอบคลุมการเดินทางในภูมิภาคทางฝั่งตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประเภทของ Pass จะมีหลากหลายโดยมีการปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งาน อันได้แก่

แต่สำหรับบทความครั้งนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ Pass ยอดฮิตอย่าง Kansai Area Pass และ Kansai WIDE Area Pass กันก่อน เพราะเป็น Pass ที่ครอบคลุมเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ยอดฮิตต่าง ๆ ทั่วคันไซ จึงเหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินทางให้ทั่วภูมิภาคเพื่อเก็บสถานที่เที่ยวให้ครบในราคาที่คุ้มค่า

Kansai Area Pass

Kansai Area Pass เป็น Pass ที่จะพาเพื่อน ๆ เที่ยวไปทั่วคันไซด้วยรถไฟ JR แบบไม่จำกัดเที่ยว โดยความพิเศษอยู่ที่เราสามารถเลือกได้ว่าต้องการซื้อ Pass ประเภทใช้งานกี่วันเพื่อให้ตรงกับความต้องการและเวลาเที่ยวที่มีให้มากที่สุด เพียงแค่ถือ Pass นี้เพียงใบเดียวก็จะจะได้เที่ยวไปตามสถานที่ชื่อดังที่เป้นสัญลักษณ์ของคันไซแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโอซาก้า โกเบ เกียวโต นารา ฮิเมจิ

เส้นทางท่องเที่ยว

Cr: westjr.co.jp

เพื่อน ๆ สามารถใช้ Pass ใบนี้เดินทางไปตามสถานีรถไฟ JR ต่าง ๆ ได้ตามภาพ หากสถานที่ท่องเที่ยวที่วางแผนว่าอยากจะไปนั้นยังอยู่ในเส้นทางรถไฟที่ใช้ Pass นี้เดินทางได้ก็นับว่าสะดวกมาก และหากต้องเดินทางไปกลับระหว่างสถานีต่าง ๆ บ่อยครั้ง บอกเลยว่า Pass นี้คุ้มสุด ๆ

ประเภทรถไฟที่สามารถโดยสารได้

Kansai Area Pass Cr: westjr.co.jp

หมายเหตุ : ▲ ต้องชำระเงินเพิ่ม, ✔ ไม่ต้องชำระเงินเพิ่ม

  • สัญลักษณ์ *1 หมายถึง ต้องใช้บัตรโดยสาร First Class (Green) หรือบัตรโดยสาร Sleeper และบัตรโดยสาร Express แยกต่างหาก
  • สัญลักษณ์ *2 หมายถึง ต้องใช้บัตรโดยสาร Express แยกต่างหาก
  • สัญลักษณ์ *3 หมายถึง ต้องใช้บัตรโดยสาร First Class (Green) สำหรับขึ้นรถไฟ Local
  • สัญลักษณ์ *4 หมายถึง ต้องใช้บัตรโดยสารแบบจองที่นั่ง

*กรณีที่ต้องใช้บัตรโดยสารเพิ่มเติม โปรดแลกรับบัตรโดยสารที่สถานี JR-WEST ก่อนเดินทาง

ราคา

Cr: westjr.co.jp

*หมายเหตุ : ราคาจองล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์

สำหรับการซื้อ Kansai Area Pass นั้นเราสามารถเลือกประเภท Pass ได้ด้วยตัวเอง เพราะมีให้เลือกตั้งแต่ 1, 2, 3, และ 4 วัน แล้วแต่การใช้งานของแต่ละคน โดยราคาก็จะแตกต่างกันไป

ช่องทางการซื้อ Kansai Area Pass

● ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย

    1. ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย โดยจะได้รับเป็น MCO (Miscellaneous Charges Order) ที่เปรียบเหมือนตั๋วชั่วคราวเพื่อนำไปแลกเป็นตั๋วจริงเมื่อเดินทางไปถึงประเทศญี่ปุ่น

    2. เมื่อเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วสามารถนำ MCO และพาสปอร์ตไปแสดงที่จุดแลก Pass ได้แก่ Kyoto, Shin-Osaka, Osaka, Sannomiya, Kansai-airport, Nara และ Wakayama

>>ตรวจสอบตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยที่นี่<<

● ซื้อผ่านระบบออนไลน์

    1. เลือก “Kansai Area Pass Agree” เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการจอง
    2. กรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ จำนวนผู้เดินทางที่ต้องการซื้อ Pass พร้อมประเภทและวันที่เริ่มใช้ Pass และจุดรับ Pass ที่สะดวก โดยมีให้เลือก คือ Kyoto, Shin-Osaka, Osaka และ Kansai-airport
    3. รอรับ Booking Confirmation และ Reservation Number ทางอีเมล์
    4. ปริ้นท์ Booking Confirmation ที่ได้รับทางอีเมล์พร้อมแสดงพาสปอร์ตเพื่อยืนยันตัวตนในการรับ Pass
    5. ชำระเงินด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต

สามารถซื้อออนไลน์ได้ที่ Hisgo ด้วยนะ เพียงแค่ของผ่านเว็บนี้เลย

floating-restaurant-1

Kansai Area Pass

ซื้อออนไลน์ง่ายนิดเดียว

ซื้อผ่าน KLOOK ก็ได้เช่นกัน

● ซื้อที่ JR-WEST Ticket Office

    1. เมื่อเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่่นแล้วสามารถซื้อ Pass ได้ที่จุดจำหน่ายได้แก่ Tsuruga, Kyoto, Shin-Osaka, Osaka, Kobe, Shin-Kobe, Sannomiya, Himeji, Nijo, Uji, Saga-Arashiyama, Kyobashi, Tsuruhashi, Tennoji, Shin-imamiya, Bentencho, Nishikujo, Kansai-airport, Nara, JR-Namba และ Wakayama
    2. ชำระเงินด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต

Kansai WIDE Area Pass

Kansai WIDE Area Pass คือ Pass ที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความรวดเร็ว เพราะสามารถใช้โดยสารรถไฟหัวจรวด Shinkansen สาย Sanyo ได้ ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟที่วิ่งตรงจากโอซาก้าสู่ Okayama ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากกว่ารถไฟ Local และยังครอบคลุมเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยวที่มากกว่า Kansai Area Pass ตามชื่อของมันนั่นเอง แต่เส้นทางหลักโดยรวมนั้นคล้ายกัน และด้วยความที่เส้นทางเดินรถมากกว่าจึงมี Pass จำหน่ายประเภทเดียวเท่านั้น คือ Pass สำหรับ 5 วัน

เส้นทางท่องเที่ยว

Cr: westjr.co.jp

ถือ Pass ใบนี้ก็พร้อมเที่ยวทุกที่ในคันไซได้แบบครอบคลุมสุด ๆ แค่โดยสารรถไฟ Shinkansen ทั้งไปและกลับก็คุ้มค่ากินราคา Pass ที่ต้องจ่ายแล้ว เป็น Pass ที่เหมาะสำหรับคนชอบเที่ยวทั้งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตและสถานที่ใหม่ ๆ เพราะความตั้งใจของการทำ Pass ก็เพื่ออยากให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้มีโอกาสไปเที่ยวในสถานที่ใหม่ ๆ บ้างนั่นเอง

ประเภทรถไฟที่สามารถโดยสารได้

Cr: westjr.co.jp

หมายเหตุ : ▲ ต้องชำระเงินเพิ่ม, ✔ ไม่ต้องชำระเงินเพิ่ม

  • สัญลักษณ์ *1 หมายถึง ต้องใช้บัตรโดยสาร First Class (Green) หรือบัตรโดยสาร Sleeper และบัตรโดยสาร Express แยกต่างหาก
  • สัญลักษณ์ *2 หมายถึง ต้องใช้บัตรโดยสาร Express แยกต่างหาก
  • สัญลักษณ์ *3 หมายถึง ต้องใช้บัตรโดยสาร First Class (Green) สำหรับขึ้นรถไฟ Local
  • สัญลักษณ์ *4 หมายถึง ต้องใช้บัตรโดยสารแบบจองที่นั่ง

*กรณีที่ต้องใช้บัตรโดยสารเพิ่มเติม โปรดแลกรับบัตรโดยสารที่สถานี JR-WEST ก่อนเดินทาง

ราคา

*หมายเหตุ : ราคาช่องแรก คือซื้อผ่านตัวแทนที่ไทย /ขีดเส้นใต้ คือ ราคาจองล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์, สีเทา คือ ราคาซื้อในประเทศญี่ปุ่น

Kansai Area WIDE Pass นั้นแตกต่างกับ Kansai Area Pass ตรงที่มีให้เลือกประเภทของ Pass แบบเดียวเท่านั้น คือ Pass ประเภท 5 วัน สำหรับใครที่ตั้งใจเดินทางมาเที่ยวในภูมิภาคคันไซเป็นเวลานานตั้งแต่ 5 วันขึ้นไปอาจพิจารณาเลือกซื้อ Pass ประเภทนี้เพื่อความคุ้มค่า แต่จะสามารถซื้อได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นต่อการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นแต่ละครั้ง

ช่องทางการซื้อ Kansai Area WIDE Pass

● ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย

    1. ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย โดยจะได้รับเป็น MCO (Miscellaneous Charges Order) ที่เปรียบเหมือนตั๋วชั่วคราวเพื่อนำไปแลกเป็นตั๋วจริงเมื่อเดินทางไปถึงประเทศญี่ปุ่น

    2. เมื่อเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วสามารถนำ MCO และพาสปอร์ตไปแสดงที่จุดแลก Pass ได้แก่ Kyoto, Shin-Osaka, Osaka, Sannomiya, Kansai-airport, Nara, Wakayama, Toyooka, Kinosaki-Onsen, Fukuchiyama, Nishi-Maizuru, Higashi-Maizuru และ Okayama

>>ตรวจสอบตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยที่นี่<<

● ซื้อผ่านระบบออนไลน์

    1. เลือก “Kansai Area Pass Agree” เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการจอง
    2. กรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ จำนวนผู้เดินทางที่ต้องการซื้อ Pass พร้อมประเภทและวันที่เริ่มใช้ Pass และจุดรับ Pass ที่สะดวก โดยมีให้เลือก คือ Kyoto, Shin-Osaka, Osaka และ Kansai-airport
    3. รอรับ Booking Confirmation และ Reservation Number ทางอีเมล์
    4. ปริ้นท์ Booking Confirmation ที่ได้รับทางอีเมล์พร้อมแสดงพาสปอร์ตเพื่อยืนยันตัวตนในการรับ Pass
    5. ชำระเงินด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต

● ซื้อที่ JR-WEST Ticket Office

    1. เมื่อเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่่นแล้วสามารถซื้อ Pass ได้ที่จุดจำหน่ายได้แก่ Tsuruga, Kyoto, Shin-Osaka, Osaka, Kobe, Shin-Kobe, Sannomiya, Himeji, Nijo, Uji, Saga-Arashiyama, Kyobashi, Tsuruhashi, Tennoji, Shin-imamiya, Bentencho, Nishikujo, Kansai-airport, Nara, JR-Namba, Wakayama, Toyooka, Kinosaki-Onsen, Fukuchiyama, Nishi-Maizuru, Higashi-Maizuru และ Okayama
    2. ชำระเงินด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต

ซื้อผ่าน KLOOK ก็ได้เช่นกัน

ข้อควรรู้

    1. เมื่อชำระเงินแล้ว จะไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงประเภท Pass หรือวันเริ่มต้นใช้งานได้
    2. ไม่สามารถใช้โดยสารรถไฟ Shinkansen ได้
    3. หากต้องการเปลี่ยนแปลงการจอง จะต้องทำการกรอกรายละเอียดผ่าน Cancellation Form ก่อนทำการเริ่มจองใหม่ด้วยการกรอก Booking Application Form อีกครั้ง ล่วงหน้าเป็นเวลา 3 วันก่อนวันเริ่มใช้งานที่ระบุไว้
    4. ต้องพกพาสปอร์ตทุกครั้งเมื่อใช้ Pass ในการเดินทางท่องเที่ยว
    5. Pass ทุกประเภทจะเริ่มนับวันตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นใช้งานต่อเนื่องจนหมดอายุ
    6. ไม่สามารถเปลี่ยนเป็น Pass ใบใหม่ได้ในทุกกรณี ไม่ว่าจะสูญหายหรือถูกขโมย
    7. Pass 1 ใบ สามารถพาผู้โดยสารที่อายุ 1-5 ปีไปด้วยได้ไม่เกิน 2 คนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
    8. สามารถทำการจองผ่านระบบออนไลน์ล่วงหน้าได้ตั้งแต่ 2 วันขึ้นไป แต่ไม่เกิน 27 วัน
    9. เมื่อทำการจองล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์จะต้องนำ “Booking Confirmation” มาแสดงตอนรับ Pass มิฉะนั้นจะถือว่าไม่มีหลักฐานการจองและต้องชำระในราคาที่สูงกว่า
    10. จุดแลก MCO และจุดจำหน่าย Kansai Area WIDE Pass จะมีจำนวนมากกว่า Kansai Area Pass

ข้อสรุป

เรียกได้ว่ารวมข้อมูล Kansai Area Pass และ Kansai WIDE Area Pass แบบจัดเต็ม ใครที่สนใจสองพาสนี้หวังว่าจะได้ข้อมูลที่ต้องการนะ เป็นสองพาสที่ตอบโจทย์คนเที่ยวคันไซมากๆ เลยทีเดียว

IMAGE NAME HERE

เดินทางสะดวกสบาย ด้วยตั๋วสุดพิเศษ Kansai Thru Pass เที่ยวได้ทั่วคันไซ

ตะลุยคันไซด้วยตั๋วสุดพิเศษ Kansai Thru Pass (คันไซ ทรู พาส) ใบเดียวเอาอยู่ ในราคาคุ้มแสนคุ้ม แนะนำละเอียดตั้งแต่ประเภท โซนที่ใช้ได้ ข้อดีของการใช้พาส ราคา สถานที่ซื้อ พร้อมช่องทางการซื้อจากไทย มีไว้สบายใจเที่ยวได้ทั่วคันไซ ทัวร์ทุกเมืองฮิต

Mytarn

Blogger : Mytarn

เราเองก็เป็นหนึ่งในคนไทยที่หลงใหลในประเทศญี่ปุ่น ?? และรู้สึกเหมือนกับหลาย ๆ คนที่ไม่เคยเบื่อการเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศแห่งนี้ สิ่งที่ชอบที่สุดคงจะเป็นขนม เบียร์ และการช้อปปิ้ง อิ้ง อิ้ง อิ้ง~ ???

169 Posts

สถานที่เที่ยว

| Feature

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515