รู้จัก JR All Area Pass แบบละเอียด พาสเดียวเที่ยวคุ้ม ทั่วญี่ปุ่น

29/05/2019 (อัพเดทเมื่อ 15/07/2024)
JR ALL AREA PASS พาสสุดคุ้มที่จะให้คุณเที่ยวทั่วญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจรดใต้แบบสะใจไปเลย ถ้าคุณกำลังมองหาพาสที่จะพาคุณเที่ยวได้ทั่วญี่ปุ่น เหมาะสำหรับคนที่จะอยู่เที่ยวหลายๆ วัน หลายๆ เมือง ไม่ควรพลาดพาสนี้เด็ดขาด เพราะไม่ว่าจะจังหวัดไหนในญี่ปุ่นก็ใช้ได้ แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าบัตรนี้ดียังไงลองมาดูกัน
Contents Index
  1. 1 JR All Area Pass คืออะไร
    1. 1.1 หลังอัพเดท 1 ตุลาคม 2023 มีอะไรเปลี่ยนบ้าง
  2. 2 ประเภทและราคาของ JR All Area Pass
  3. 3 ขอบเขตการใช้ JR All Area Pass
    1. 3.1 รถไฟ
    2. 3.2 รถบัส
    3. 3.3 เรือเฟอร์รี่
  4. 4 วิธีการสำรองที่นั่ง
  5. 5 สถานที่ซื้อ JR All Area Pass
    1. 5.1 ซื้อที่ญี่ปุ่น
    2. 5.2 ซื้อจากไทย
    3. 5.3 ช่องทางการซื้อพาสผ่านเอเจนซี่
    4. 5.4 วิธีแลกรับ JR ALL AREA PASS ทำยังไง
  6. 6 วิธีใช้งาน JR ALL AREA PASS
  7. 7 จองที่นั่ง JR ALL AREA PASS แบบ Reserved-Seat ทำยังไงไปดูกัน
    1. 7.1 การจองที่นั่งที่ตู้ซื้อตั๋ว
    2. 7.2 การจองที่นั่งออนไลน์
  8. 8 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำเดินทางด้วย JR All Area Pass
    1. 8.1 เที่ยวเมืองฟูกุโอกะ(Fukuoka)
    2. 8.2 เที่ยวเมืองโกเบ (Kobe)
    3. 8.3 เที่ยวเกียวโต (Kyoto)
    4. 8.4 เที่ยวโอซาก้า(Osaka)
    5. 8.5 เที่ยวมิเอะ (Mie)
    6. 8.6 เที่ยวโตเกียว(Tokyo)
    7. 8.7 เที่ยวมิยางิ (Miyagi)
    8. 8.8 เที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido)
  9. 9 สรุป

 JR All Area Pass คืออะไร

JR Rail Pass

JR All Area Pass เป็นพาสที่ใช้ในการเดินทางตั้งแต่ทางใต้ของเกาะคิวชูไปจนถึงเหนือสุดอย่างฮอกไกโด โดยสามารถใช้บริการโดยสารในเครือ JR ได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้งในระยะเวลาที่กำหนด รวมไปถึงการใช้บริการ Shinkansen อีกด้วย 

https://japanrailpass.net/th/

แต่การซื้อพาสนี้นั้นสามารถซื้อได้เฉพาะ ผู้ที่ถือพาสปอร์ตต่างชาติ และต้องถือวีซ่าท่องเที่ยวเที่ยวนั้น ไม่สามารถใช้ได้กับผู้ที่พำนักอยู่ในประเทศญี่ปุ่น

หลังอัพเดท 1 ตุลาคม 2023 มีอะไรเปลี่ยนบ้าง 

  1. ราคา 

มีการปรับราคาของ JR Pass ใหม่ทั้งหมด

  1. การใช้ตั๋ว

แต่ก่อนนี้การใช้ JR Pass นี้ จะได้รับมาเป็นเล่ม แต่หลังจากอัพเดทแล้วจะได้รับเป็นตั๋วที่ใช้ขึ้นรถไฟ เมื่อสอดเข้าเครื่องตรวจตั๋วแล้วต้องรับตั๋วกลับด้วยทุกครั้ง เพราะต้องใช้ตลอดการเดินทาง

  1. ขอบเขตการใช้งาน 

สามารถใช้งานได้กว้างมากขึ้น เพิ่มสายรถไฟเพื่อสะดวกต่อการใช้งานของนักท่องเที่ยว

ประเภทและราคาของ JR All Area Pass

ประเภทจำนวนวันราคาหลังปรับเปลี่ยน
สําหรับทีนั่งชั้นธรรมดา 5 (ผู้ใหญ่)แบบ 7 วัน¥50,000
แบบ 14 วัน¥80,000
แบบ 21 วัน¥100,000
สําหรับทีนั่งชั้นกรีนคาร์ 5
(ผู้ใหญ่)
แบบ 7 วัน¥70,000
แบบ 14 วัน¥110,000
แบบ 21 วัน¥140,000

หมายเหตุ:

*โดยราคาเด็กจะคิดเป็นครึ่งหนึ่งของราคาผู้ใหญ่

*ราคานี้เริ่มต้นใช้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566

ขอบเขตการใช้ JR All Area Pass

JR All Area Pass สามารถใช้งานได้กับการโดยสารรถไฟ รถบัส เรือเฟอร์รี่ และชินคันเซน ตามข้อมูลด้านล่าง

รถไฟ

JR Rail Pass
  1. ชินคันเซน
  2. ขึ้นได้ทุกสายในกลุ่มบริษัท JR แต่สำหรับเส้นทาง Nozomi และ Mizuho มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  3. รถไฟด่วนพิเศษ, รถไฟด่วน, รถไฟเร็ว, รถไฟธรรมดา และ BRT
  4. โตเกียวโมโนเรลล์
  5. Aoimori Railways (Aomori-Hachinohe)
  6. ใช้ลงได้เฉพาะสถานี Aomori, Noheji และ Hachinohe
  7. รถไฟ IR Ishikawa (ระหว่างKanazawa – Tsubata)
  8. ใช้โดยสารได้เฉพาะสาย IR อิชิคาวะ ที่วิ่งระหว่าง Kanazawa – Tsubata
  9. โนโซมิ และมิซูโฮะ *มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มเติม

  • แผนที่เดินรถไฟ JR ทั่วญี่ปุ่น

  • แผนที่ชินคันเซน

  • อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่

รถบัส

JR Rail Pass

สายรถบัสท้องถิ่นในกลุ่มบริษัท JR (บริษัท JR Bus = JR Hokkaido Bus, JR Bus Tohoku, JR Bus Kanto, JR Tokai Bus, West Japan JR Bus, Chugoku JR Bus, JR Shikoku Bus, JR Kyushu Bus)

เรือเฟอร์รี่

JR Rail Pass

JR Miyajima ferry  เพื่อข้ามฟาก แต่ไม่สามารถใช้เรือ Jetfoil ฮะคะตะ – ปูซาน (เกาหลี) เรือความเร็วสูง JR คิวช

วิธีการสำรองที่นั่ง

โดยที่นั่งของ JR Rail Pass นี้แบ่งเป็น 2 ระดับ ก็คือ Ordinary Car และ Green Car ซึ่งราคาก็จะต่างกันไปด้วยเช่นกัน และในบางสายก็อาจขึ้นไม่ได้ หรือมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย

นำ Japan Rail Pass ยื่นที่สำนักงาน JR เพื่อทำการจองที่นั่งแบบระบุที่ล่วงหน้า

สถานที่ซื้อ JR All Area Pass

มีให้เลือก 2 วิธี คือ ซื้อที่ญี่ปุ่น หรือซื้อออนไลน์ เราสามารถสั่งซื้อตามความสะดวกของเราได้เลย

ซื้อที่ญี่ปุ่น

เราสามารถซื้อพาสได้ตามตัวแทนจำหน่าย หรือเคาท์เตอร์ JR ในสถานีใหญ่ๆ  ได้เลย

ซื้อจากไทย 

การซื้อจากประเทศไทยนั้นเป็นการซื้อผ่านเอเจนซี่ โดยจะมีหลายเจ้าให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น HIS, KKDay หรือ Klook เองก็เช่น โดยเราสามารถเลือกวิธีการรับที่สะดวกได้เลย

เมื่อซื้อเรียบร้อยแล้วก็จะได้ตั๋วสำหรับนำไปเปลี่ยนเป็น Japan Rail Pass ที่ญี่ปุ่น โดยใช้เอกสารในการยื่นคือตั๋ว และ พาสปอร์ต รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็น

ช่องทางการซื้อพาสผ่านเอเจนซี่

การซื้อด้วยเอเจนซี่เราสามารถเลือกรับได้ที่ไทยได้เลย ทำให้สะดวกมากขึ้น

วิธีแลกรับ JR ALL AREA PASS ทำยังไง

สำหรับใครที่ต้องการแลกรับ JR Pass ที่ญี่ปุ่นสามารถทำตามขั้นตอนนี้ในบทความนี้ได้เลย

วิธีใช้งาน JR ALL AREA PASS

โดยในปี 2023 นี้การใช้ JR All Area Pass นี้เปลี่ยนไป จากที่ให้เป็นเล่มของพาส เปลี่ยนเป็นตั๋วสำหรับการเดินทาง โดยสามารถเอาเสียบลงเครื่องตรวจตั๋วได้เลย แต่หากมีตั๋วรถไฟที่ต้องใช้ประกอบได้ ให้เอาตั๋วเรียงกัน แล้วเสียบลงเครื่องตรวจตั๋วพร้อมกันได้เลย

จองที่นั่ง JR ALL AREA PASS แบบ Reserved-Seat ทำยังไงไปดูกัน

สำหรับคนที่ต้องการจองที่นั่งสำหรับการเดินทางที่เปิดให้สำรองที่นั่งก็ทำไม่ยากเลย แต่การจองให้จองล่วงหน้าก่อนเดินทางสัก 3 วัน โดยให้ไปที่ตู้ซื้อตั๋ว หรือไปจองที่พนักงาน

การจองที่นั่งที่ตู้ซื้อตั๋ว 

  1. นำ JR PASS สแกนคิวอาร์โค้ด
  2. เลือก Train to use now
  3. เลือกจำนวนผู้เดินทาง *หากเลือกมากกว่า 1 คน ระบบจะให้แสกนคนต่อไปโดน และให้กรอกเลขพาสปอร์ตของแต่ละคน)
  4. กรอกเลขพาสปอร์ต
  5. เลือกสถานีต้นทาง ปลายทาง เวลา ที่เราต้องการเดินทาง
  6. กดยืนยันข้อมูล
  7. คอนเฟิร์มที่นั่งแต่ละขบวน
  8. เลือกจองที่นั่ง แล้วเลือก Select from seat map
  9. เมื่อจองที่นั่งเสร็จแล้วให้กด Confirm
  10. รับตั๋ว

*ตอนใช้งานให้ใช้บัตรที่จองและบัตร JR All Area Pass เสียบเข้าเครื่องตรวจตั๋วพร้อมกัน

การจองที่นั่งออนไลน์

อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย บอกทุกสเต็ป ทำตามง่ายมาก

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำเดินทางด้วย JR All Area Pass

ถ้าซื้อพาส 7 วันไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง ลองไปดูตัวอย่างกันเถอะ

เที่ยวเมืองฟูกุโอกะ(Fukuoka)

เป็นเมืองที่อยู่บนเกาะใหญ่ทางใต้สุดของญี่ปุ่น หรือก็คือเกาะคิวชูนั่นเอง หากเราเลือกบินมาลงที่คิวชูแล้วค่อยนั่งรถไฟชินคันเซนต่อไปเที่ยวตามที่ต่างในญี่ปุ่น ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว แถมยังได้เที่ยวอีกหลากหลายอีกด้วย 

โดยฟุกุโอกะนี้เป็นเมืองที่มีความน่าสนใจไม่น้อย ทั้งอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์อย่างมาก

  • อ่านบทความท่องเที่ยวฟุกุโอกะเพิ่มเติม

เที่ยวเมืองโกเบ (Kobe)

เมืองแห่งเนื้อแสนอร่อย เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่อุดมไปด้วยอาหาร ออนเซ็น และวัฒนธรรม แต่นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติก็อลังการไม่แพ้กัน และหากเราได้มีโอกาสเที่ยวทั่วญี่ปุ่นแล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาที่นี่

  • อ่านบทความท่องเที่ยวโกเบเพิ่มเติม

  • หรือจะอ่านบทความท่องเที่ยวเฮียวโงะ ก็ครบรส

เที่ยวเกียวโต (Kyoto)

เมืองเกียวโตเป็นอีกเมืองยอดนิยมในญี่ปุ่น ที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม และกลิ่นอายของสมัยเอโดะ โดยที่เมืองเกียวโตนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งศาลเจ้า อาหาร ย่านเก่าแก่ และสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาตอย่างอาราชิยาม่า

  • อ่านบทความท่องเที่ยวเกียวโต

เที่ยวโอซาก้า(Osaka)

เที่ยวโอซาก้า เป็นอีกเมืองที่สถานที่ท่องเที่ยวอัดแน่นไม่แพ้กัน ร่วมถึงการช้อปปิ้ง และอาหารที่มีเอกลักษณ์ไม่น้อย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสวนสนุกชื่อดังอย่าง Universal Japan อีกด้วย 

  • อ่านบทความท่องเที่ยวโอซาก้าเพิ่มเติม

เที่ยวมิเอะ (Mie)

จังหวัดมิเอะ เป็นอีกที่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ไม่ว่าจะเป็น Nabana no Sato และที่เที่ยวริมทะเลอีกมากมาย เป็นอีกเมืองที่กำลังมาในหมู่นักท่องเที่ยวไม่น้อย

  • อ่านบทความท่องเที่ยวมิเอะเพิ่มเติม

เที่ยวโตเกียว(Tokyo)

แล้วก็มาถึงคิวเมืองหลวง เมืองยอดนิยมอย่างโตเกียว ที่เต็มไปด้วยทั้งแสงสีเสียง ไม่ว่าจะช้อปปิ้ง อาหารการกิน และที่เที่ยว เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวที่แท้จริง

  • อ่านบทความท่องเที่ยวโตเกียวเพิ่มเติม

เที่ยวมิยางิ (Miyagi)

อีกเมืองนึงจุดศูนย์กลางแห่งโทโฮคุ อย่างจังหวัดมิยางิ เป็นอีกเมืองที่มีท่องเที่ยวทั้งเมือง และธรรมชาติที่ดีไม่แพ้กัน และยังมีจุดเด่นในช่วงฤดูหนาวอีกด้วย สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวที่นี่ก็ไม่ควรพลาดสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ และอาหารขึ้นชื่อนะ

  • อ่านบทความท่องเที่ยวมิยางิเพิ่มเติม

เที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido)

มาถึงเมืองเหนือสุดอย่างฮอกไกโด โดยเราสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปได้ทั่วญี่ปุ่นแล้วมาจบที่ฮอกไกโดก่อนบินกลับได้ก็ได้เช่นกัน โดยที่ฮอกไกโดนี้ก็จะเด่นเรื่องเที่ยวเมืองหนาว แต่ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่เหมาะกับการท่องเที่ยวในฤดูร้อนญี่ปุ่นอย่างฟุราโนะอีกด้วย

  • อ่านบทความท่องเที่ยวซัปโปโรเพิ่มเติม

  • อ่านบทความท่องเที่ยวฮอกไกโดเพิ่มเติม

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ JR ALL AREA PASS ที่ให้คุณเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นแบบสุดคุ้ม ตั้งแต่เหนือจรดใต้ อีกทั้งยังขึ้นได้ทั้งรถไฟ รถบัส และเรือเฟอร์รี่ เหมาะสำหรับคนวางแผนเที่ยวระยะยาว ช่วยประหยัดค่าเดินทางไปได้อีกเยอะเลย โดยเฉพาะคนที่ต้องการขึ้นชินคันเซ็นด้วยก็ยิ่งคุ้ม เพราะไม่จำกัดรอบการเดินทางอีกด้วย แต่พาสนี้สามารถซื้อได้นอกประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าหากใครต้องการใช้พาสนี้ แนะนำให้วางแผนล่วงหน้าก่อนนะ

Contents Index
  1. 1 JR All Area Pass คืออะไร
    1. 1.1 หลังอัพเดท 1 ตุลาคม 2023 มีอะไรเปลี่ยนบ้าง
  2. 2 ประเภทและราคาของ JR All Area Pass
  3. 3 ขอบเขตการใช้ JR All Area Pass
    1. 3.1 รถไฟ
    2. 3.2 รถบัส
    3. 3.3 เรือเฟอร์รี่
  4. 4 วิธีการสำรองที่นั่ง
  5. 5 สถานที่ซื้อ JR All Area Pass
    1. 5.1 ซื้อที่ญี่ปุ่น
    2. 5.2 ซื้อจากไทย
    3. 5.3 ช่องทางการซื้อพาสผ่านเอเจนซี่
    4. 5.4 วิธีแลกรับ JR ALL AREA PASS ทำยังไง
  6. 6 วิธีใช้งาน JR ALL AREA PASS
  7. 7 จองที่นั่ง JR ALL AREA PASS แบบ Reserved-Seat ทำยังไงไปดูกัน
    1. 7.1 การจองที่นั่งที่ตู้ซื้อตั๋ว
    2. 7.2 การจองที่นั่งออนไลน์
  8. 8 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำเดินทางด้วย JR All Area Pass
    1. 8.1 เที่ยวเมืองฟูกุโอกะ(Fukuoka)
    2. 8.2 เที่ยวเมืองโกเบ (Kobe)
    3. 8.3 เที่ยวเกียวโต (Kyoto)
    4. 8.4 เที่ยวโอซาก้า(Osaka)
    5. 8.5 เที่ยวมิเอะ (Mie)
    6. 8.6 เที่ยวโตเกียว(Tokyo)
    7. 8.7 เที่ยวมิยางิ (Miyagi)
    8. 8.8 เที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido)
  9. 9 สรุป
ALISA

Blogger : ALISA

มนุษย์ชอบกิน ชอบเที่ยว มีคติว่า ถ้าเที่ยวต้องเที่ยวให้สุด กับเรื่องกินก็เช่นกัน เรื่องอะไรที่คนอื่นไม่เคยทำ เราต้องได้ทำ เต็มที่กับทุกอย่าง ไปให้สุดแล้วหยุดที่หมดตัว แต่รวยประสบการณ์ รักการเรียนรู้ และสนใจญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ชอบการพูดคุยกับชาวบ้าน หรือได้พบเจออะไรใหม่ๆ เสมอ

161 Posts

สถานที่เที่ยว

| Feature

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515