รวม 10 มรดกโลกญี่ปุ่น ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต

17/10/2019 (อัพเดทเมื่อ 25/05/2021)
ญี่ปุ่นมีหลายที่ที่ได้ขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกจากยูเนสโก ซึ่งประกอบด้วยมรดกโลกทางวัฒนธรรม และมรดกโลกทางธรรมชาติ จึงมีทั้งปราสาท วัด ศาลเจ้า และภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ แน่นอนว่าทุกที่ย่อมมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงดงามที่เป็นเอกลักษณ์ต่างกันไป แต่ไม่ว่าที่ไหนก็รับประกันความอลังการของสถาปัตยกรรมและธรรมชาติได้เลย เรามาดูกันว่า มรดกโลกญี่ปุ่น ที่ไหนที่น่าไปดูไปชมสักครั้งในชีวิต

ภูเขาไฟฟูจิ จังหวัด Shizuoka และ Yamanashi

ภูเขาไฟชื่อดังที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก ได้รับเลือกจาก UNESCO ให้เป็น สถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลกด้านวัฒนธรรมแห่งที่ 17 ของประเทศญี่ปุ่นในปี 2013 เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นที่เคารพบูชาของชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่โบราณ และในปัจจุบันยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชมภูเขาลูกใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้วยตาของตนเอง นักปีนเขาหลายคนก็อยากมาฝากรอยเท้าจากการพิชิตเขาลูกนี้ให้ได้ ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากศิลปินทั่วโลกนับไม่ถ้วนอีกด้วย

หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิราคาวาโกะ จังหวัด Gifu

หมู่บ้านประวัติศาสตร์ที่มีอายุกว่า 100 ปี ได้รับการคัดเลือกจาก UNESCO ให้เป็นหมู่บ้านมรดกโลกในปี 1995 เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในหุบเขาลึก แต่ก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้าไปชมกันทุกๆ ปี เพราะเสน่ห์ของหมู่บ้านเล็กๆ นี้ก็คือรูปทรงบ้านแบบสมัยโบราณที่ยังมีการอนุรักษ์เอาไว้อย่างดี ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ยังมีมนต์ขลังดูสวยงาม ยิ่งตอนช่วงหน้าหนาวที่มีหิมะปกคลุมหลังคาบ้านพร้อมกับไลท์อัพที่เปิดตอนกลางคืนนั้นเป็นภาพที่ชวนหลงใหลเหมือนอยู่ในเทพนิยายเลยล่ะ

อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า จังหวัด Hiroshima

บางคนอาจจะคุ้นชินในชื่อของ โดมปรมาณู ซึ่งที่นี่ตั้งอยู่ในอาณาเขตของสวนสันติภาพฮิโรชิม่า และขึ้นทะเบียนมรดกโลกในปี 1996 เป็นอาคารที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางการระเบิดและยังมีสภาพหลงเหลืออยู่ ซึ่งปัจจุบันก็ได้รับการอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจให้รำลึกถึงการสูญเสียและความโหดร้ายของระเบิดปรมาณู ถึงแม้ว่าประวัติศาสตร์จะเศร้า แต่นักท่องเที่ยวก็ยังนิยมมาถ่ายภาพเก็บไว้เตือนใจและระลึกถึงผู้สูญเสียอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ

เทือกเขาชิราคามิ จังหวัด Akita และ Aomori

เป็นเทือกเขายาวตามแนวแบ่งเขตของทั้งสองจังหวัด มีผู้คนอาศัยอยู่มาเนิ่นนาน รวมถึงสัตว์ป่าต่างๆที่อาศัยอยู่ด้วย มีธรรมชาติที่แสนอุดมสมบูรณ์ เรียกได้ว่าเป็นป่าบีชยุคดึกดำบรรพ์ ทั้งยังมีความเชื่อว่ามีป่าศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นสถานที่มรดกโลกในปี 1993 มีเส้นทางสำหรับนักปีนเขาหลายเส้นทาง หรือสามารถจ้างไกด์นำทางเพื่อนเดินเที่ยวชมป่าได้ คุณจะได้เห็นระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ แหล่งน้ำที่ใสสะอาด แสงแดดที่ลอดผ่านต้นไม้ที่สูงใหญ่บนหัวพร้อมกับใบไม้ที่ผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่ก็สวยงามเช่นกัน

วัดโทไดจิ จังหวัด Nara

วัดอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อโต (Daibutsu-den) เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนมากที่สุดในจังหวัดนารา เพราะด้วยขนาดและพื้นที่ที่ใหญ่ของของวัด รวมถึงประวัติความเป็นมานั้นดูมีความเก่าแก่น่าศึกษามากๆ และที่นี่คุณจะได้พบกับฝูงกวางที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวแจกเซมเบ้เป็นอาหาร พร้อมทั้งถ่ายภาพน้องๆอย่างเป็นกันเองได้ด้วย

ศาลเจ้าชินโตอิสึกุชิมะ จังหวัด Hiroshima

ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี 1996 และรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกฐานะให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นอีกด้วยล่ะ โดยศาลเจ้าแห่งนี้เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของเกาะ โดยต้องเดินทางผ่านเสาโทริอิสีแดงนี้เพื่อออกไปกลางทะเล เสานี้เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น และยังถูกจัดให้เป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์งดงาม 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นอีกด้วย ! โดยเมื่อเวลาที่นำขึ้นก็จะเห็นภาพเหมือนเสานั้นตั้งลอยอยู่กลางน้ำ แต่เมื่อถึงเวลาน้ำลงก็สามารถเดินไปถ่ายภาพและวางเหรียญขอพรได้

วัดคิโยมิสึ จังหวัด Kyoto

วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส ที่คนไทยน่าจะคุ้นชื่อกันดี ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่น จุดเด่นของวัดคืออาคารหลักที่มีเสาไม้รองรับฐานอยู่กว่าร้อยต้น โดยสร้างยื่นออกมาจากเนินเขา ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของบริเวณเมืองเกียวโต และธรรมชาติรอบๆ ภูเขาในแต่ละฤดูได้ นอกจากนี้ยังมีน้ำตกโอตาวะ ซึ่งเป็นน้ำ 3 สายที่ไหลลงมาจากภูเขา ที่เชื่อกันว่าถ้าดื่มน้ำจากสายน้ำตกทั้ง 3 นี้ จะโชคดีในเรื่องของสุขภาพ ความรัก และความสำเร็จในการศึกษา

แหล่งกุซุกุและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องของอาณาจักรริวคิว จังหวัด Okinawa

เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่ถูกคัดเลือกในปี 2000 ประกอบด้วย ปราสาท และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ตามแบบวัฒนธรรมของอาณาจักรริวคิวที่เจริญรุ่งเรืองในอดีต ความโดดเด่นของปราสาทชูริคือสีแดงสดของตัวปราสาทซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของโอกินาว่า โดยสำนักพระราชวังนั้นเป็นอาคารไม้ 3 ชั้น ซึ่งเป็นสถานที่ในการจัดงานต่างๆ รวมถึงบริเวณรอบๆ ปราสาทที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้คุณได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ได้ด้วย ถึงแม้ปราสาทชูริจะเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี 2019 แต่ก็ยังไม่ถูกถอดออกจากมรดกโลก

ศาลเจ้านิกโกโทโชกุ จังหวัด Tochigi

เป็นศาลเจ้าชินโตที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แด่โชกุนคนแรกของตระกูล Tokugawa ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกในปี 1999 ด้วยโบราณสถานและสิ่งก่อสร้างอันทรงคุณค่า ซึ่งต้องบอกว่าเป็นสถานที่ที่เข้าไปแล้วรู้สึกถึงความขลังของโบราณสถาน และความผ่อนคลายจากธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน มีจุดท่องเที่ยวรอบๆ บริเวณหลายที่ หากใครที่ชอบท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์คงจะต้องชอบที่นี่อย่างแน่นอน

หมู่เกาะโอกาซาวาระ จังหวัด Tokyo

เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงโตเกียว และมีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 2,000 คน ขึ้นทะเบียนมรดกโลกในปี 2011 ในอดีตที่นี่เคยเป็นสถานที่ล่าวาฬ และมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงครามแปซิฟิก ซึ่งในปัจจุบันก็ยังหลงเหลือร่องรอยเกี่ยวกับสงครามอยู่บ้าง เช่น ป้อมปืนกล หรือฐานทัพ เป็นต้น จุดเด่นของการท่องเที่ยวที่นี่คือการชมธรรมชาติรอบๆ เกาะ ทั้งน้ำทะเล และป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ จากจุดชมวิวบนเขา คุณสามารถมองเห็นเหล่าปลาโลมาที่กระโดดโผล่มาเหนือผืนน้ำพร้อมเสียงร้องน่ารักให้ได้ตื่นตาตื่นใจเล่นๆ ด้วยนะ

ข้อสรุป

ขึ้นชื่อว่าได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO แน่นอนว่าไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ทั้งที่มาและความสวยงามนั้นไม่ต้องพูดถึง หากใครที่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้ ก็ช่วยกันดูแลรักษาความสะอาด ไม่ไปขีดเขียนทำลาย หรือสร้างความวุ่นวายอย่างเด็ดขาด ! และนอกจาก 10 สถานที่นี้ ในญี่ปุ่นเองก็มีอีกหลายที่ที่ได้รับเลือกเป็นมรดกโลกเช่นกันนะ

Kintetsu Line LP R3
Morning Kids

Blogger : Morning Kids

นัก(ฝึก)เขียนที่ใช้ชีวิตที่เกียวโต 2 ปี ปัจจุบันตัวอยู่ออฟฟิศจิตอยู่ดาวพุธ เลี้ยงชิวาว่าหน้าประหลาด นับถือศาสนาหม่าล่า และรักการกินส้มตำปูม้าเจ๊ไก่

59 Posts

โหวต

| Polls
โหวต | Polls
  • เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น คุณมี “เมนูในดวงใจ” ที่ตั้งใจจะไปกินให้ได้ไหม?

    View Results

    Loading ... Loading ...

สถานที่เที่ยว

| Feature
CCJ Hotel Search

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

จองทริปของคุณ

| Book your trip
With:
City:

Check-in:

Night :

x