บินตรงไปชมความ Unseen
สำหรับใครที่อยากไปสัมผัสความ Unseen ขอแนะนำให้จองตั๋วแล้วบินตรงกันได้เลย ยิ่งถ้าใครมีแพลนจะมาญี่ปุ่นอยู่ในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม สามารถบินตรงกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จากสนามบินดอนเมืองมาสู่โตเกียวและโอซาก้าได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ ที่สายการบินนี้เขามีมาเสนออยู่ตลอด โดยเฉพาะช่วงเดือนกันยายนนี่โปรดีมาก ทั้งค่าตั๋วเครื่องบินและค่าโรงแรมราคาถูกมาก ช่วงกันยานี้อากาศถือว่าเริ่มเย็นลงแล้ว ทำให้เที่ยวได้สบายขึ้น เพราะไม่ต้องไปแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวกับคนอื่นอีกด้วย
โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ นั้นมีบินตรงจากดอนเมืองมาสู่โตเกียว ถึงวันละ 2 เที่ยวบิน และ บินตรงทุกวันมายังเมืองโอซาก้า และสามารถจองตั๋วไปเที่ยวญี่ปุ่นสบาย ๆ ด้วยตัวเองจากบ้านที่เพียงคลิ๊กไปที่ลิงก์นี้เลย >> จองตั๋วกับ AirAsia X
เที่ยวแบบ Unseen ใกล้โตเกียว
หากตั้งใจจะไปเที่ยวโตเกียวและอยากชมความ Unseen เที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่เหมือนใครด้วยล่ะก็ เรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามตามแบบฉบับความ Unseen มาแนะนำให้รู้จัก เป็น 3 ที่เที่ยวที่เดินทางไปจากโตเกียวได้ไม่ยากเพียงแค่คุณนั่งเครื่องบินตรงมายังกรุงโตเกียวจากนั้นนั่งรถไฟหรือรถบัสก็ถึงที่หมาย จะมีที่ไหนบ้างเก็บกระเป๋าเตรียมพร้อมไปด้วยกันกับเราเล้ยยย !
Kawaguchiko Music Forest : ชมฟูจิพร้อมเสียงเพลง
Cr: podjanee rotparsitporn
Cr: podjanee rotparsitporn
การไปชมภูเขาไฟฟูจิน่าจะเป็นเป้าหมายที่หลายๆ คนตั้งใจเอาไว้เมื่อเตรียมแพลนจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น สถานที่ที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้นั้นก็มีด้วยกันหลายแห่ง หนึ่งในสถานที่ที่มีความ Unseen และเดินทางจากโตเกียวเพื่อชมภูเขาไฟฟูจิได้ไม่อยากนั้นก็คือ Kawaguchiko Music Forest แห่งนี้
Cr: podjanee rotparsitporn
ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรีที่สร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปบรรยากาศของที่นี่จึงเปรียบเสมือนโลกแห่งเทพนิยาย สวยงามฟรุ้งฟริ้งน่าเดินเล่น แถมยังตั้งอยู่ในภูมิทัศน์สุดเลิศที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย และสามารถมาสนุกไปกับกิจกรรมต่าง ๆ ภายในพิพิธภัณฑ์ ทั้งชมการแสดงดนตรี กินอาหารอร่อย ๆ แต่งตัวเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายแบบในนิทาน รวมไปถึงเดินถ่ายรูปชมความสวยงามในบรรยากาศของที่นี่
มาเที่ยวที่นี่จะได้ทั้งความสนุกและได้เห็นบรรยากาศสวย ๆ ของพิพิธภัณฑ์ที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังรวมเป็นภาพที่แสนจะงดงามที่มีเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่น
Kawaguchiko Music Forest
ที่อยู่ | 3077-20 Kawaguchi, Fujikawaguchiko, Minamitsuru District, Yamanashi Prefecture 401-0304, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากโตเกียวสามารถเดินทางมาได้ด้วยรถบัส ขึ้นรถได้ที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal (ที่สถานี Shinjuku) เมื่อถึงสถานี Kawaguchiko ให้ขึ้นรถบัส Kawaguchiko Sightseeing Bus “Red-Line” (ได้ทั้ง Retro Bus และ Omni Bus) ที่ป้ายหมายเลข 1 หน้าสถานี นั่งไปลงป้ายหมายเลข 17 |
เวลาทำการ | 9.30-17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็กมัธยมปลาย 1,100 เยน เด็กประถม-มัธยมต้น 800 เยน |
โทรศัพท์ | +81 555-20-4111 |
Website | Kawaguchiko Music Forest |
Hakone Ropeway (Hakone) : ขึ้นกระเช้าชมวิวหุบเขานรก
Cr: podjanee rotparsitporn
Cr: podjanee rotparsitporn
หากคุณยังไม่เคยไปฮาโกเน่ เราขอแนะนำให้ใส่ One Day Trip in Hakone ในแพลนเที่ยวโตเกียวของคุณด่วน ๆ เพราะที่นี่มีความ Unseen ที่เราอยากให้ได้มาสัมผัส แถมยังเดินทางมาได้ไม่ยากจากโตเกียว
Cr: podjanee rotparsitporn
ความพิเศษของที่นี่คือมีธรรมชาติที่สวยงามและมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแช่ออนเซ็น ชมพิพิธภัณฑ์ ล่องเรือโจรสลัด ช้อปปิ้งที่ Outlet และกิจกรรมสุด Unseen อย่างการขึ้นกระเช้าชมภูเขาไฟฟูจิและหุบเขา Owakudani ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ Hakone เมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อน อันเป็นทิวทัศน์ที่น่าหวาดเสียวแต่ก็สวยงามและน่าประหลาดใจไม่เหมือนที่ใด ราวกับหุบเขาแห่งเทพนิยาย
ใครไม่กลัวความสูง อยากชมความงามในมุมมองใหม่ เราขอแนะนำให้นั่งกระเช้า Hakone Ropeway นี้ดูความสวยงามของหุบเขานี้สักครั้งในชีวิต
Hakone Ropeway
ที่อยู่ | Gora, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa Prefecture 250-0408, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR ชินคันเซนจากสถานี Tokyo มาลงที่สถานี Odawara ใช้เวลาประมาณ 35 นาที จากนั้นเปลี่ยนขบวนเป็น Tozan line ต่อไปยังสถานี Hakone-Yumoto อีกประมาณ 20 นาที นั่ง Cable Car สาย Hakonetazan มาลงสถานี Sounzan เพื่อขึ้น Hakone Ropeway |
เวลาทำการ | 09.00-16.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ : เริ่มต้น 840 เยน, เด็ก : เริ่มต้น 420 เยน |
Website | Hakone Ropeway |
Shinkyo Bridge (Nikko) : ชมความงามถิ่นมรดกโลก
Cr: podjanee rotparsitporn
Cr: podjanee rotparsitporn
สะพาน Shinkyo ถือเป็น 1 ใน 3 ของสะพานที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณประตูทางเข้าศาลเจ้าและวัดนิกโก้แห่งเมืองมรดกโลกที่มีความสวยงามและห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้เขียวขจี และแม่น้ำไหลเย็นให้บรรยากาศสดชื่น ด้านหลังของสะพานมีวิวภูเขาอันสวยงาม ที่จะงดงามยิ่งขึ้นในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเพราะต้นไม้ใบไม้บริเวณนี้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองสีส้มกันหมด ทิวทัศน์บริเวณนี้จึงเหมือนกับสะพานที่อยู่ในตำนานเก่าแก่หรือนิยายปรำปราไม่มีผิด
Cr: podjanee rotparsitporn
คำว่า Shinkyo ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า ‘ศักดิ์สิทธิ์’ สะพานนี้จึงถือว่าเป็นสะพานศักดิ์สิทธิ์และเป็นจุดเริ่มต้นของเมืองมรดกโลกแห่งนี้เพราะเมื่อข้ามสะพานแห่งนี้มาแล้วเราจะได้พบกับวัดและศาลเจ้าอันเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง
มาชมความงามของเมืองมรดกโลกแห่งนี้แล้วก็อย่าลืมแวะถ่ายรูปกับสะพาน พร้อมสัมผัสบรรยากาศและวิวสุด Unseen ที่หาชมได้ยากนี้กันนะ
Shinkyo Bridge
ที่อยู่ | Kamihatsuishimachi, Kaibaishi Town Nikko, Tochigi, 321-1401 Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Tobu Nikko Station แล้วขึ้นรถบัสไปลงที่ Shinkyo bus stop (5 นาที 200 เยน) หรือเดินไปประมาณ 20-30 นาที |
เวลาทำการ | เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน 8.00-17.00 น. ตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน 8.00-16.00 น.. กลางเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม 9.00-16.00 น. |
ราคา | ค่าเข้าชม 300 เยน |
Website | Shinkyo Bridge |
เที่ยวแบบ Unseen ไปง่ายจากโอซาก้า
หากใครตั้งใจจะบินตรงมาเที่ยวโอซาก้า บริเวณรอบเมืองโอซาก้าเองก็มีแหล่งท่องเที่ยว Unseen ให้ไปแวะเวียนกันด้วยเช่นกัน วิธีการเดินทางไปก็ไม่ยากและใช้เวลาไม่นานนักแต่ความสวยงามนั้นแสนคุ้มค่าที่จะเดินทางไปชม ถ้าพร้อมแล้วไปเที่ยวตามแบบฉบับ Unseen กับเรากันต่อรอบ ๆ เมืองโอซาก้ากันเถอะ
Nara Park (Nara) : ชมมวลหมู่กวางและความงามของแมกไม้
Cr: Chill Chill Japan
นารา เป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโอซาก้า เมืองนี้มีบรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยเหล่ากวางน้อยใหญ่ที่เดินเล่นกันอย่างอิสระภายในเมือง ซึ่งการที่มีกวางเดินอยู่ตามสวนและสถานที่ต่าง ๆ ของเมืองนารานี่แหละที่เป็นจุดเด่นของเมืองนี้
Cr: Chill Chill Japan
จากโอซาก้าสามารถเดินทางไปนาราได้ไม่ยากและใช้เวลาไม่นานนัก ภายในเมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจโดยเฉพาะวัดวาอารามและศาลเจ้าเก่าแก่ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์และสวนสาธารณะ หนึ่งในสวนสาธาารณะที่หลายคนน่าจะเดินผ่านขณะที่ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ก็คือ Nara Park แห่งนี้
Cr: Chill Chill Japan
Nara Park เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้มากมาย และที่สำคัญคือกวางที่เป็นไฮไลท์นั่นเอง หลายตัวค่อนข้างเชื่อง ซึ่งกวางที่นี่ส่วนใหญ่จะชอบกิน ‘ขนมเซมเบ้กวาง’ ที่มีขายอยู่ภายในสวนสาธารณะมาก ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวอย่างเราก็เราสามารถซื้อและให้มันกินได้ตามใจ (แต่ระวังโดนรุมขอขนมนะ เพราะกวางที่นี่ชอบขนมเซมเบ้กันมาก ๆ)
สถานที่ท่องเที่ยวหลาย ๆ แห่งของนาราอยู่ภายในบริเวณของสวนสาธารณะแห่งนี้ ทำให้หลาย ๆ มุมของสวนนี้ก็เป็นจุด Unseen ที่เราสามารถชมบรรยากาศของเมืองแห่งกวางนี้ได้ ให้ความรู้สึกเหมือนเราหลงไปอยู่ในเมืองที่เต็มไปแมกไม้และเหล่ากวางที่น่ารัก ความ Unseen แบบนี้สัมผัสได้ที่เมืองนาราที่เดียว
Nara Park
ที่อยู่ | 30 Noborioji-cho, Nara City 630-8501 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ลงรถไฟที่สถานี Kitetsu-Nara จากนั้นเดินต่อประมาณ 18นาที เวลาทำการ เปิดตลอด |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้า |
โทรศัพท์ | 0742-27-8028 |
Website | Nara Park |
Rokkosan Pasture (Kobe) : เที่ยวเล่นฟาร์มในฝัน
Cr: fffernnn
เราจะขอพาทุกคนนั่งรถไฟออกจากโอซาก้าไปยังอีกเมืองที่มีสถานที่สุด Unseen อย่างโกเบกันต่อ โกเบเป็นเมืองที่มีบรรยากาศและวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างดี
Cr: fffernnn
สถานที่หนึ่งที่ถือว่ามีความ Unseen ของเมืองนี้ก็คือ ฟาร์มบนภูเขาร็อกโก (Rokko) ที่มีชื่อว่า Rokkosan Pasture นั่นเอง บรรยากาศของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่บนภูเขา มีทุ่งหญ้าและสัตว์น้อยใหญ่ให้เราได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น แกะ ม้า วัว รวมไปถึงเจ้ากระต่ายน้อยน่ารัก
Cr: fffernnn
โดยฟาร์มแห่งนี้นอกจากจะให้เราได้มีโอกาสสัมผัสกับเหล่าสัตว์น้อยใหญ่อย่างใกล้ชิดแล้วยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่างให้ได้ลองทำกัน ไม่ว่าจะเป็นการลองทำชีส ไอศกรีมหรือเนย รวมไปถึง Workshop ต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังมีการแสดงต่าง ๆ ให้ชมและอาหารจานอร่อยให้รับประทานกันอีกด้วย ถือเป็นฟาร์มที่มีบรรยากาศสวยงามอบอุ่นน่ารักเหมาะจะไปใช้เวลาเที่ยวสัมผัสความ Unseen ได้ทุกเพศทุกวัย ไปพร้อมกันได้ทั้งครอบครัว
Rokkosan Pasture
ที่อยู่ | 1-1 Nakaichiriyama, Rokkosan cho, Nada-ku, Kobe-shi |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Rokkomichi จากนั้นขึ้น Kobe City bus ไปลงที่สถานี Hakyu Rokko ขึ้น Rokko Cable Car ไปลงที่ Rokko cable Sanjo Station ให้ขึ้น Sky Shuttle bus แล้วลงที่ป้าย Maya Ropeway Sanjo Station Line ก็จะถึงที่หมาย |
เวลาทำการ | 9:00-16:30 (ปิด 17:00, แตกต่างกันตามฤดูกาล) |
ราคา | ผู้ใหญ่ 500 เยน, นักเรียนประถมและมัธยมต้น: 200 เยน |
โทรศัพท์ | 078-891-0280 |
Website | Rokkosan Pasture |
Ikuta Shrine (Kobe) : ภาวนารักให้สมหวังดั่งเทพนิยาย
Cr: Chill Chill Japan
ยังอยู่ที่เมืองโกเบ เพราะเราจะพาทุกคนไปต่อกันที่ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จัก ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้มีความพิเศษและ Unseen อยู่ตรงที่เป็นศาลเจ้าแห่งความรัก เราสามารถมาขอพรเรื่องความรักให้สมหวังได้
Cr: Chill Chill Japan
Ikuta คือศาลเจ้าชินโตที่อยู่ในตัวเมืองของโกเบ มีประวัติเก่าแก่และยาวนาน เมื่อเราได้เข้าไปในตัวศาลเจ้าแล้วจะได้สัมผัสบรรยากาศแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เพราะภายในศาลเจ้าแห่งนี้นั้นแสนร่มรื่นย์และสงบเงียบ
Cr: Chill Chill Japan
กิจกรรมเสริมดวงความรักสุด Unseen ที่ไม่เหมือนที่ไหนของศาลเจ้าแห่งนี้นั้นก็มีตั้งแต่ การสัมผัสต้นซีดาร์ในศาลเจ้า ที่จะช่วยให้ความรักของคู่รักยืนยาว เซียมซีเสี่ยงโชคเรื่องรักที่ต้องเอาไปแช่ในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของวัดเพื่อให้คำทำนายปรากฏ และเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถซื้อเพื่อเพิ่มโชคเรื่องความรักได้
เรียกได้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้ถือเป็นดินแดนแห่งความรักที่แสนศักดิ์สิทธิ์ราวกับอาณาเขตแห่งมนตราในนิยายที่จะช่วยให้ความรักของคนทั้งคู่สมหวัง ใครมีปัญหาเรื่องความรักหรืออยากให้ความรักของตนยืนยาวละก็แวะมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้ดูสิ ความศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่จะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง
Ikuta Shrine
ที่อยู่ | 1 Chome-2-1 Shimoyamatedori, Chuo Ward, Kobe, Hyogo Prefecture 650-0011, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kobe-sannomiya จากนั้นเดินประมาณ 5 นาที |
เวลาทำการ | 7.00-18.00 น. |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
โทรศัพท์ | 07-8321-3851 |
Website | Ikuta Shrine |
ข้อสรุป
ไปสัมผัสความ Unseen กันได้ง่าย ๆ เพียงเลือกบินไปกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ มีบินตรงจากดอนเมืองมาสู่โตเกียวถึงวันละ 2 เที่ยวบิน และบินตรงทุกวันมายังเมืองโอซาก้า สามารถจองตั๋วไปเที่ยวญี่ปุ่นสบาย ๆ ด้วยตัวเองเพียงคลิ๊กไปที่ลิงก์นี้เลย >> จองตั๋วกับ AirAsia X