เที่ยว เซนได (Sendai) แนวใหม่ นั่งเรือตกปลา เล่นsup ปั่นจักรยาน เก็บผลไม้ แลนด์มาร์กเด็ด จ.มิยางิ

รู้จักกับเมืองเซนได (Sendai city)

เมื่อพูดถึงการเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นนอกเหนือจากการถ่ายภาพ ชมวิวและทานอาหารอร่อยๆแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมที่สนุกมากมายอีกนะ เราเลยพาทุกคนมาเที่ยวที่เมืองสำคัญของภูมิภาคโทโฮคุ นั่นคือ เซนได (Sendai) จ.มิยางิ (Miyagi) พร้อมสัมผัสความสนุกสนานที่อาจจะเป็นประสบการณ์การเที่ยวญี่ปุ่นแบบใหม่

แนะนำเมืองเซนได(Sendai)กันก่อนนะ เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญของเส้นทางรถไฟชินคันเซ็นโทโฮคุ ตั้งอยู่ในเขตจ.มิยางิ (Miyagi) ที่เดินทางมาได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะจากโตเกียวหรืออาโอโมริ โดยเส้นทางนี้สามารถใช้พาสรถไฟ JR Pass ได้ หรือจะเดินทางมาจากสนามบินเซนไดก็ได้ หากนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที

ที่นี่แวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ปราสาทเก่าแก่ สวนสาธารณะ อาหารอร่อยและกิจกรรมสนุกแบบคนรักธรรมชาติจะต้องชอบเลยล่ะ

แนะนำสถานีเซนได (Sendai station)

สำหรับสถานีJRเซนได (Sendai station) อยู่บนสายรถไฟชินคันเซ็น Akita และ Tohoku จากที่นี่เรายังสามารถเดินทางไปยังจ.ยามากาตะและสนามบินเซนไดได้ง่ายเช่นกัน

แม้จะเป็นสถานีที่รวบรวมรถไฟหลายสายแต่ด้านในสถานีก็กว้างขวางและเดินง่าย มีตู้ล็อกเกอร์ทุกชั้นรวมถึงร้านอาหาร ร้านขายของฝาก คาเฟ่ และห้างสรรพสินค้า

สถานีเซนไดยังเป็นจุดศูนย์กลางในการรวมรถบัสทางด่วนจากหลายเส้นทาง เช่น โตเกียว(Tokyo) อาโอโมริ(Aomori) โยโกฮาม่า(Yokohama) โอซาก้า(Osaka) หรือนาโกย่า(Nagoya) เป็นต้น

สถานีเซนไดยังเป็นจุดศูนย์กลางในการรวมรถบัสทางด่วนจากหลายเส้นทาง เช่น โตเกียว(Tokyo) อาโอโมริ(Aomori) โยโกฮาม่า(Yokohama) โอซาก้า(Osaka) หรือนาโกย่า(Nagoya) เป็นต้น หากใครที่สะดวกเดินทางด้วยรถบัสจากโตเกียว-เซนได ก็มีทั้งรอบกลางวันและกลางคืน หากเดินทางช่วงกลางคืนก็สามารถประหยัดค่าที่พักได้อีก 1 คืนเลยนะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงก็ถึงจุดหมายแล้ว สามารถเลือกจุดขึ้นลงบัสได้ตามสะดวก เช่น สถานีชินจูกุ อิเคะบุคุโระ สถานีโตเกียว เป็นต้น

เล่นSup Board (Ogihama,Matsushima)

คาเฟ่แนวชิคๆ MOLA MOLA CAFE ซึ่งอยู่แถวท่าเทียบเรือ Hamada Fishery Habor ที่มีวิวอ่าวมัทสึชิมะอันกว้างใหญ่ (Matsushima bay) นอกจากจะเป็นคาเฟ่ที่ให้บรรยากาศสบาย สามารถนั่งริมหาดชมวิวได้แล้ว คนต่างชาติที่มาเที่ยวโซนนี้จะนิยมมาจอดแวะพักผ่อนกัน

เค้าบอกว่า ช่วงพระอาทิตย์ตกดินของที่นี่ สวยโรแมนติกเชียวล่ะ แล้วด้านหน้าคาเฟ่นอกจากจะมีวิวที่สวยงามแล้วทะเลตรงนี้ยังอยู่ในเส้นทางของการเล่น Sup (ซัพบอร์ด) อีกด้วย ว้าวๆๆ

ว่าแล้ว เราก็พาทุกคนไปลองกิจกรรมซัพบอร์ดกันเถอะ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นเช่นกัน โดยครูที่จะช่วยดูแลเรานี้ชื่อว่า คุณอู หรือ เรียกว่า Yayu ก็ได้ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้

ว่าแล้ว เราก็พาทุกคนไปลองกิจกรรมซัพบอร์ดกันเถอะ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นเช่นกัน โดยครูที่จะช่วยดูแลเรานี้ชื่อว่า Chia-Ju, Wu หรือเราเรียกว่า คุณยายุ(Yayu)ซึ่งYayuก็ใช้เป็นชื่อเรียกของร้านด้วยเช่นกันคุณยายุสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ดังนั้นจึงสะดวกมากๆสำหรับคนต่างชาติอย่างเรา

ซัพบอร์ด(Sup)ของที่นี่คือแบบเป่าลม ที่สะดวกในการพกพาเพราะว่าคุณอูต้องการให้ลูกค้าสามารถเลือกเส้นทางได้หลากหลายมากขึ้น เช่น ไปตามเกาะต่างๆ หรือเริ่มคอร์สจากที่ไหนก็ได้ สามารถนัดหมายจัดรถไปรับกันได้เลย เราสามารถไปเล่นซัพได้ที่โอกิฮามะ(Ogihama)และเขื่อนโอคุระ(Okura dam)ด้วยนะ โดยต้องนัดหมายกันล่วงหน้า สะดวกสบายมากๆ

คุณอูมีความคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาก และมีความรู้และเข้าใจสภาพทะเลและลมเป็นอย่างดี รวมถึงเตรียมมาตรการดูแลความปลอดภัยไว้เสมอ สบายใจได้

Cr: 野遊YAYU

ที่เราชอบมากๆคือ หากเราตั้งใจทำและสามารถไปตามเส้นทางที่คุณอูพาไปได้ ที่นี่สามารถจ้างการถ่ายภาพได้ด้วยนะ เช่น ภาพจากโดรน หรือ แม้จะเป็นการถ่ายภาพทั่วไปแต่รับรองว่าเท่ไม่เหมือนใคร

Cr: 野遊YAYU

หากใครชอบพายซัพเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเล คุณยายุก็พาไปได้จ้า ว้าวๆ เอาเป็นว่าไม่ใช่แค่ความสนุกและแข็งแรง แต่คือการได้เห็นและสัมผัสกับธรรมชาติที่งดงามจริงๆ

Cr: 野遊YAYU

ความพิเศษของการเล่นซัพคือ จะนำพาเราไปสู่ธรรมชาติที่ซ่อนเร้น โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งเค้าจะมีมุมพิเศษที่พาเราไปถ่ายภาพด้วยนะ สามารถออกทริปได้ตั้งแต่ 1 คนไปจนถึง 5 คน

Cr: 野遊YAYU

MOLA MOLA CAFE

YAYU

กิจกรรมตกปลาทะเล บาร์บีคิว (Harbor House Kaname)

มาลองนั่งเรือไปตกปลาและชมการปลูกสาหร่ายทะเลกัน หากเราเป็นคนชอบทะเล นี่จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เที่ยวชมทะเลญี่ปุ่น จุดจอดรถและลงเรือนั้น ก็อยู่ที่เดียวกัน สะดวกมากๆและการนั่งเรือก็แสนง่ายดาย

หากวันไหนฝนตก เค้าก็จะมีชุดกันฝนให้เรายืมใส่ด้วยนะ เอาเป็นว่าต่อให้ฝนตก ก็ไม่ต้องเปลี่ยนแพลน เที่ยวแบบนี้ก็เย็นสบายดีเหมือนกัน ทะเลไม่มีคลื่นแรง สบายใจหายห่วง

กิจกรรมตามคอร์สคือเราจะนั่งเรือออกไปที่ทะเล ชมเกาะต่างๆซึ่งสวยมากๆ ตกปลาฮาเสะและชมจุดเลี้ยงสาหร่ายทะเล – ตัดสาหร่ายทะเล แวะทานชาบูชาบูสาหร่ายทะเลกันบนเรือ แต่วันที่เราไปนั้นฝนตก จึงปรับเปลี่ยนแพลนนิดหน่อย เค้าก็เลยมีชุดกันฝนให้เรายืมใส่ เอาเป็นว่าต่อให้ฝนตก ก็ไม่ต้องกังวล เที่ยวแบบนี้ก็เย็นสบายดีเหมือนกัน ทะเลไม่มีคลื่นแรง สบายใจหายห่วง ไม่ต้องกลัวเสื้อผ้าเปียกเลย

เรือที่พาเราโดยสารนี้ บรรจุผู้โดยสารได้ประมาณ 10 คน รวมทั้งเด็กเล็กก็เดินทางได้ ไม่อันตราย ด้านบนเรือมีเก้าอี้วางไว้ให้นั่ง ไม่ว่าจะนั่งฝั่งซ้ายหรือขวาก็จะได้เห็นวิวเหมือนๆกัน ระหว่างนั้นก็มีการเก็บสาหร่ายทะเลสดๆโชว์ให้เราดูด้วย

ขณะที่นั่งเรือออกไปกลางทะเล กัปตันเรือจะบรรยายชื่อเกาะต่างๆให้เราได้ฟัง และพาเราไปชมแหล่งเพาะพันธุ์สาหร่ายทะเล หรือ วากาเมะ ด้วยนะ แต่ช่วงเวลานี้ก็ชัตเตอร์รัวๆเลยจ้า

ถึงแม้ว่าฝนตก แต่เราก็ไม่ผิดหวังเลยเพราะนอกจากจะได้นั่งเรืออย่างสนุกสนานกับเพื่อนๆแล้ว มื้อเที่ยงนี้ทางร้านยังเตรียมเมนูพิเศษให้เราทันทีที่กลับเข้าฝั่ง ด้วยปลาฮาเสะที่ทอดเทมปุระสดใหม่ น่าอร่อยมาก เมนูสาหร่าย และชุดบาร์บีคิวที่ย่างกันเองอย่างเพลิน

ปลาฮาเสะ(ภาษาอังกฤษ คือ Goby)ซึ่งเป็นปลาที่มีความยาวประมาณ 5-10 ซม.เป็นหนึ่งในปลายอดนิยมของเหล่าบรรดาผู้ที่ชื่นชอบการตกปลาในญี่ปุ่น เมื่อนำมาทอดแล้ว มีความนุ่ม เนื้อหวาน สด อร่อยดีนะ ทานคู่กับเทมปุระสาหร่ายจิ้มเกลือและยังมีเมนูอื่นๆเช่น เนื้อย่าง ซุปมิโสะใส่ปู เป็นต้น

Harbor House Kaname

รับประทานอาหารในบรรยากาศแกลมปิ้ง (Sendai Royal Park Hotel)

แกลมปิ้ง (Glamping) เป็นการผสมคำว่า Glamorous ที่แปลว่าหรูหรา และคำว่า Camping ให้บรรยากาศแบบสนุกเหมือนแคมป์ปิ้งแต่ก็ยังมีความสะดวกสบาย

เรามาที่ Sendai Royal Park Hotel เพื่อที่ว่าเที่ยงนี้เราจะมาทานมื้อพิเศษท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ อบอุ่น และสวยงามแบบสไตล์ตะวันตก

อาหารเที่ยงมีแบบเป็นคอร์สที่ได้ทานทั้งแบบบุฟเฟต์หรือสั่งแบบเมนูให้มาเสิร์ฟถึงโต๊ะก็ได้ หากเราจะนั่งทานในเต็นท์แบบแกลมปิ้งก็ต้องจองล่วงหน้า แต่รับรองความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศที่ถูกใจ

ภายในเหมาะสำหรับไม่เกิน 6 ท่าน มีเก้าอี้ไม้สานทรงสูงและยังมีเก้าอี้ยาวไว้นั่งพักผ่อนด้วย โคมไฟด้านบนช่วยให้แกลมปิ้งดูหรูหรามากขึ้น

เมื่อทานเสร็จแล้วอยากเดินไปช้อปปิ้ง เลือกชมสินค้าของฝากเอาท์เลทก็ยิ่งสบายเลย เพราะใกล้กับโรงแรมคือ Sendai Izumi Premium Outlets มาที่นี่ทั้งทีก็อยู่ได้ทั้งวันเลย

Sendai Royal Park Hotel

ปั่นจักรยานชมเมือง (Giant Store Sendai)

การออกกำลังกายอีกอย่างนึงที่ได้รับความนิยม คือการปั่นจักรยาน แต่เราจะไม่ปั่นแค่เพื่อสุขภาพที่ดีเท่านั้น เราจะปั่นเพื่อออกไปเที่ยวสำรวจเมือง Sendai กัน โดยเราเช่าจักรยานที่ร้าน Giant Store Sendai (ติดต่อจองทางอีเมลล่วงหน้า)

หลังจากพนักงานเลือกจักรยานที่เหมาะกับเราให้แล้ว เราก็พากันกางแผนที่แล้วออกปั่นกันไปเป็นแกงค์เพื่อนเลย ที่นี่รถน้อย ปั่นจักรยานง่าย สบายมาก โดยจุดหมายของเราคือการไปเก็บผลไม้สดๆที่สวนและเยี่ยมชมโรงเรียนประถมศึกษาเซนไดอะระฮามะ

เก็บผลไม้สดจากต้น (JR Fruit Park Sendai Arahama)

เคยปั่นจักรยานไปเก็บผลไม้ที่สวนกันหรือยัง ถ้ายังมาลองกันนะ รับรองความสนุกเลย เราจอดจักรยานไว้ที่ JR Fruit Park Sendai Arahamaเพื่อติดต่อขอจ่ายค่าเข้าสวนก่อน ในสวนมีพื้นที่ประมาณ 11 เฮกตาร์ มีการปลูกผลไม้ 156 ชนิดจาก 8 รายการ เช่น สตรอว์เบอร์รี่ องุ่น และแอปเปิ้ล เพื่อเราจะได้สัมผัสประสบการณ์การเก็บได้ตลอดทั้งปี

ด้านในคือร้านขายของฝาก สินค้าท้องถิ่น ขนมหวานและมีห้องน้ำไว้บริการ เมื่อเก็บผลไม้เสร็จแล้ว มาเลือกชมสินค้าท้องถิ่นราคาย่อมเยากันต่อ

สำหรับการเก็บผลไม้ในเดือนตุลาคมที่อยากแนะนำนี้คือ สาลี่ ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า นาชิ-Nashi สาลี่ของที่สวนนี้มีความสด หวาน กรอบอร่อยมากๆ เค้าจะอธิบายว่าเก็บได้สายพันธุ์ละกี่ลูก เนื่องจากในสวนมีถึง 3 สายพันธุ์ พร้อมแจกถุงและกรรไกรตัด

สาลี่แต่ละพันธุ์มีความใหญ่และสีไม่เหมือนกัน ระหว่างที่เดินชมไป ตัดไปก็สนุกสนานกันมาก

สาลี่ของแถบนี้มีความอุดมสมบูรณ์หวานกรอบมาก เนื่องด้วยภูมิอากาศที่เหมาะสม และที่ชอบสุดๆคือ ลูกใหญ่มาก ครั้งนี้ที่เราไปสามารถเก็บได้ถึง 3 สายพันธุ์ รวมแล้วถือกลับมาบ้าน 6 ลูกเลยจ้า

JR Fruit Park Sendai Arahama

โรงเรียนประถมศึกษาเซนไดอะระฮามะ (Sendai Arahama Elementary School)

ใครจำเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่โทโฮคุเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011ที่เกิดสึนามิได้บ้างไหม ครั้งนั้นแผ่นดินไหวมีขนาด 9.0 แมกนิจูด เกิดขึ้นที่มหาสมุทรแปซิฟิกก่อให้เกิดสึนามิขนาดใหญ่ที่ท่วมพื้นที่ชายฝั่งทะเลมากกว่า 200 ตารางไมล์ คลื่นคาดว่าจะสูงถึง 38 เมตร หรือเท่าความสูงของอาคาร 12 ชั้น โรงเรียนประถมศึกษาเซนไดอะระฮามะ ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่ง 700 เมตร เป็นอาคารสี่ชั้น และถูกคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ถล่มถึงชั้นสองเช่นกัน

ในตอนนั้นที่โรงเรียนแห่งนี้ มีคน 320 คน (เด็ก ครู และคนในท้องถิ่น) ติดอยู่ แต่พวกเขาสามารถอพยพขึ้นไปบนหลังคาที่ปลอดภัยได้ ที่นี่ถูกยกย่องให้อยู่ในส่วนหนึ่งของโครงการอนุสรณ์แผ่นดินไหว อาคารเรียนเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่เดือนเมษายน 2017 ในหัวข้อ “การรักษาความทรงจำของแผ่นดินไหวและสึนามิสำหรับลูกหลาน”

ห้องเรียนที่อยู่บริเวณชั้น 1 ที่น้ำท่วมทั้งหมด เมื่อน้ำลดไปแล้วเราจึงได้เห็นสภาพความเสียหายที่ยังคงเหลืออยู่พร้อมความรู้สึกสะเทือนใจเล็กๆ และสามารถชมนาฬิกาของโรงเรียนที่หยุดเวลาไว้ที่ 15 นาฬิกา 55 นาทีจนกระทั่งสึนามิมา

โมเดลจำลองโดยอ้างอิงถึงอัตราส่วนภูมิศาสตร์จริง มุมที่เห็นจากในภาพเสมือนว่าเรายืนอยู่ที่โรงเรียนแล้วมองออกไปด้านหน้า ในอดีตเต็มไปด้วยบ้านเรือนและร้านค้ามากมาย โมเดลบ้านทุกหลังมีชื่อเขียนเสียบไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์จดจำว่าตำแหน่งนี้เคยมีบ้านคนนี้อยู่ แต่พอแหงนมองออกไปนอกหน้าต่าง ตอนนี้เหลือเพียงแค่พื้นที่ว่างเปล่าสุดลูกหูลูกตาและสวนสาธารณะเล็กๆที่มีป้าย ทางหนีสึนามิ เป็นระยะๆ

ชั้น 4 มีห้องที่จัดแสดงภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับเหตุการณ์ “3.11 ความทรงจำในอะระฮามะ ” ซึ่งเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนประถมเซนไดอะระฮามะสามารถเสิร์จได้ตามยูทูปเช่นกัน เพราะเป็นโรงเรียนที่สามารถรักษาชีวิตของเด็กๆและครูได้ปลอดภัยทุกคน และได้รับความช่วยเหลือใน 27 ชั่วโมงต่อมา เราสามารถเดินขึ้นไปชมถึงดาดฟ้าได้ จากด้านบนเราสามารถเปรียบเทียบทิวทัศน์ก่อนและหลังภัยพิบัติพร้อมๆ กับชมทัศนียภาพรอบด้านของเขตอะระฮามะทั้งหมด

นักท่องเที่ยวอย่างเราสามารถปลุกจิตสำนึกในการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติและบรรเทาความเสียหายได้ด้วยการทำความเข้าใจถึงพลังและภัยคุกคามจากแผ่นดินไหวและสึนามิโดยตรงจากที่นี่ ดังนั้นการเตรียมพร้อมและเรียนรู้จึงสำคัญเสมอ

Sendai Arahama Elementary School

เส้นทางผจญภัยนักปั่น

แม้ว่าแผ่นดินไหวที่โทโฮคุในปี 2011ได้สร้างความเสียหายอย่างท่วมท้นแต่ตอนนี้ได้รับการฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว ถนนสวยงามและทิวทัศน์รอบๆพร้อมอากาศที่สดชื่น ทำให้ที่นี่กลับมามีเสน่ห์อีกครั้งจนทำให้เราต้องมาเยือน

หากใครคิดว่าญี่ปุ่นสวยแล้ว ถ่ายรูปหรือช้อปปิ้งก็แล้วแต่ยังอยากลองทำอะไรใหม่ๆดูบ้าง แนะนำการปั่นจักรยานเที่ยวแบบนี้แหล่ะ ที่สุดของความสดชื่นเลย

“ภูเขาฮิโยริ-Mt.Hiyori” เป็นที่รู้จักในฐานะ “ภูเขาที่ต่ำที่สุดในญี่ปุ่น” ที่ระดับความสูงเพียง 3 เมตร ในปี 2011 ได้รับผลกระทบของสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่น

ทำให้ภูเขาฮิโยริหายไปจากแผนที่ แต่หลังจากนั้น ชาวบ้านช่วยกันทำกิจกรรมอนุรักษ์และประชาสัมพันธ์ จนได้รับการฟื้นฟูกลับมาเป็น “ภูเขาที่ต่ำที่สุดในญี่ปุ่น” อีกครั้งในปี 2014

ศูนย์สวนการเกษตรเซนได (Sendai Agricultural Gardening Center)

หลังภัยพิบัติแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 ที่นี่ได้รับการทำนุบำรุงขึ้นใหม่ใช้เป็นศูนย์เขตแดนในการให้ความช่วยเหลือด้านอาหารและการเกษตร

มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรที่หลากหลายเพื่อเป็นฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการเกษตร มีโปรแกรมกิจกรรม / ประสบการณ์และการดำเนินงานของฟาร์มเทศบาล มีโรงงานเกษตรกรรมและพืชสวน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สนามหญ้าและสวนสาธารณะ เป็นที่นิยมในฐานะที่เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ของคนท้องถิ่น

เมนูลิ้นวัวย่าง

เซนได หนึ่งในเมืองที่ใหญ่ในภูมิภาคโทโฮคุ ขึ้นชื่อด้านอาหารรสเลิศที่หลากหลาย ในบรรดาอาหารเหล่านี้ มีอาหารหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมมาก คือ ลิ้นวัวย่าง(Gyutan)หรือลิ้นวัวที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่ดึงดูดใจและชุ่มฉ่ำ ในเซนได เราจะพบร้านขายลิ้นวัวแบบพิเศษได้ทุกที่ ทั้งหน้าสถานีและในย่านใจกลางเมือง รายการเมนูมาตรฐานคือ ชุดลิ้นวัวย่างถ่านปรุงรสด้วยเกลือ ราคาตั้งแต่ 1000 เยนขึ้นไป

เดินเที่ยวเซนไดยามค่ำคืน

เซนไดยังมีอะไรให้เราได้เพลิดเพลินอีกมากในแง่ของวัฒนธรรมและความบันเทิง และเซนไดในตอนกลางคืนก็มีความหลกหลายไม่ต่างกัน ตึกสูง ห้างสรรพสินค้า สถานีเซนไดและอาคารประดับไฟ รวมถึงการเดินทางของผู้คนทำให้เมืองดูคึกคักมาก

Hapina Nakakecho Shopping Arcade คือจุดรวมร้านค้าและร้านอาหารไว้มากมาย มีการแสดงเทศกาลต่างๆตามโอกาสและในช่วงเทศกาลทานาบาตะชื่อดังก็มีการตกแต่งประดับอย่างสวยงาม

ข้อสรุป

มาเที่ยวเซนไดแล้วมีแต่ความสนุก รอบนี้ได้ทำกิจกรรมมากมายทั้ง นั่งเรือออกทะเล ทานบาร์บีคิว ลองเล่นซัพบอร์ด ทานอาหารแนวแกลมปิ้งแบบญี่ปุ่น ปั่นจักรยานชมเมืองกับเหล่าเพื่อนๆ ซึ่งทำให้ได้รู้ว่า ความสนุกของการมาเที่ยวญี่ปุ่นนั้น ยังรอเราอีกมากมาย นอกจากจะเดินทางมาง่ายแล้ว กิจกรรมของเมืองเซนไดยังทำให้เราได้มีภาพสวยๆเท่ๆมากมายกลับไปเป็นความประทับใจด้วย