วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักรูปแบบการกินที่ตอนที่เป็นที่สนใจ และใครหลายคนอยากลิ้มลองเมื่อไปญี่ปุ่น โอมากาเสะ คือ อะไร คุ้มค่าไหม อร่อยยังไง เราหาคำตอบมาแล้วเพื่อคุณ
โอมากาเสะ คืออะไร
โอมากาเสะ คือ วิถีการกินแบบตามใจเชฟ หรือ Chef’s Table นั่นเอง ในภาษาญี่ปุ่นคำว่า Omakase (お任せ) นั้นหมายถึง ‘ตามใจเชฟ’ นั่นคือการรับประทานอาหารโดยที่เราไม่ได้เลือกเมนูเอง แต่ละเมนูที่เสิร์ฟเชฟจะเป็นคนจัดให้เรา
ใน โอมากาเสะ หนึ่งชุด จะประกอบด้วยเมนูหลากหลาย ซึ่งแต่ละเมนูจะปรุงจากวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ละวัน โดยเชฟจะรังสรรค์ออกมาเป็นเมนูสุดเซอร์ไพรซ์เสิร์ฟให้ได้อร่อยกัน และในแต่ละวันเมนูก็จะไม่เหมือนกัน หากติดใจก็ขึ้นอยู่กับแต้มบุญแล้วว่าจะได้กินอีกหรือไม่
ส่วนมาก ซูชิมักจะเป็นพระเอกในโอมากาเสะ ทว่าไม่ได้มีแค่ซูชิ เพราะอาจจะมี ซาชิมิ เมนูเด็ดๆ ของเชฟ ซุป ของหวานในคอร์ส ซึ่งลำดับการเสิร์ฟจะเรียงตามความเหมาะสม เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
ทีนี้หลายคนอาจสงสัย ว่าถ้าเกิดถูกใจเมนูที่เพิ่มเติมจะสามารถสั่งได้หรือไม่ อันนั้นก็แล้วแต่ร้าน แต่ส่วนมากก็สามารถสั่งเพิ่มได้ซึ่งการสั่งแบบตามใจฉันนั้นเรียกว่า โอะโคะโนมิ (Okonomi) ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับการสั่งซูชิกินในร้านทั่วไปเช่นเดียวกัน เพียงแต่ในร้านโอมากาเสะ คุณจะไม่ทราบว่าแต่ละเมนูนั้นราคาเท่าไหร่ เรียกได้ว่าต้องวัดดวงกับความแพง จึงไม่ค่อยนิยมสั่งเพิ่ม
ราคาของ โอมากาเสะ
แน่นอนว่ารูปแบบ โอมากาเสะ นั้น ย่อมมีราคาแพงกว่าการสั่งซูชิ หรืออาหารเป็นเซ็ตตามร้าน หรือการเลือกจากเมนูที่เราจะรู้ว่าแต่ละชิ้นนั้นราคาเท่าไหร่ ทว่า ร้าน โอมากาเสะ ก็ไม่ได้มีแต่แบบที่ราคาแพงระยับ อย่างที่หลายคนเข้าใจ ราคาของโอมากาเสะ นั้นมีตั้งแต่ 3,000-30,000 เยน ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพ ระดับของร้าน
ทางร้านนั้นจะแจ้งราคาของโอมากาเสะก่อนคุณเข้าใช้บริการ ทว่าจะไม่ได้บอกว่าแต่ละเมนูนั้น ราคาเท่าไหร่ ดังนั้น การสั่งอะไรเพิ่มเติมเป็นอะไรที่ต้องเสี่ยงดวง ถ้างบไม่ได้มีเหลือมาก แนะนำให้กินเท่าที่เขาจัดให้จะเซฟที่สุด
ข้อควรรู้เกี่ยวกับโอมากาเสะ
1. ร้านโอมากาเสะ มักเป็นร้านที่รับลูกค้าได้จำกัดต่อวัน จะแบ่งเป็นรอบๆ คุณจะได้เห็นกรรมวิธีสร้างสรรค์เมนูของเชฟแบบใกล้ชิดติดขอบ เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่เรียกน้ำย่อยระหว่างรอได้ดีทีเดียว
2. ส่วนมากร้านแบบนี้ต้องจองก่อนเข้าใช้บริการ และถ้าคุณมีอาหารอะไรที่แพ้หรือไม่ชอบสามารถแจ้งได้ในขั้นตอนนนี้ ส่วนอีกหนึ่งขั้นตอนที่จะบอกว่าเราไม่รับประทานอะไรให้แจ้งอีกครั้งตอนที่เชฟโชว์วัตถุดิบที่จะใช้ ก่อนปรุงให้กิน
3. ด้วยความที่ลูกค้าน้อยและค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่ควรส่งเสียงดังรบกวนลูกค้าคนอื่น ก่อนจะถ่ายวิดีโอต้องเช็คกฏเกณฑ์ทางร้านว่าอะไรที่ทำได้บ้าง แต่หลักๆ เลยคือรับประทานทันทีหลังเสิร์ฟ เพราะบางเมนูถ้ารับประทานช้ารสชาติจะเสียไป
4. เนื่องจากโอมากาเสะ คือสุนทรียภาพแห่งการรับประทาน ดังนั้นไม่ควรใส่น้ำหอมจัดเต็มแบบรุนแรง เพราะกลิ่นอาจไปรบกวนการลิ้มรส บางร้านอาจมีข้อกำหนดเรื่องกลิ่น ให้ศึกษาก่อนจอง
5. ถ้าไม่ได้แพ้อาหาร แม้เป็นวัตถุดิบที่ไม่ชอบก็ขอให้ลอง เพราะคุณอาจเปลี่ยนใจรักเลยแหละ
6. อย่าเติมวาซาบิและซอสเยอะเพราะจะไปกลบกลิ่นและความอร่อยของวัตถุดิบ
ข้อสรุป
โอมากาเสะ คืออะไร ตอนนี้หลายคนคงได้คำตอบแล้ว ได้ไปญี่ปุ่นทั้งทีก็ลองชิมดูได้เพราะมีหลายราคาให้เลือก ครั้งหน้าเราจะนำเสนอข้อมูลร้านโอมากาเสะ ที่น่าลิ้มลองมาฝากกัน