การเดินทาง
การเดินทางมายังเมือง Aizu Wakamatsu นั้นสามารถเดินทางมาได้หลายวิธี
เครื่องบิน
โดยเครื่องบิน สามารถนั่งเครื่องบินภายในประเทศมาลงที่
รถไฟ
โดยรถไฟสามารถโดยสารรถไฟมาลงที่สถานี Aizu Wakamatsu
การเดินทางท่องเที่ยวภายในเมือง Aizu Wakamatsu
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เช่ารถ หรือ ปั่นจักรยาน การโดยสารรถบัสแบบวนรอบเมือง นับว่าเป็นการเดินทางที่สะดวก โดยมีค่าโดยสารเที่ยวละ 210 เยน เด็ก 110 เยน ถ้าซื้อตั๋วแบบ 1 Day Pass จะมีราคาคนละ 600 เยน เด็ก 300 เยน ซึ่งสามารถโดยสารได้ไม่จำกัดเที่ยวภายใน 1 วัน
โดยรถเมล์ Loop Bus ที่นี่จะเรียกว่ารถ Hairaka San ซึ่งเป็นรถที่วิ่งทวนเข็มนาฬิกา และ รถ Akabe ซึ่งวิ่งตามเข็มนาฬิกา
ซึ่งทริปในบทความนี้จะเป็นการโดยสารรถ Hairaka San
โดยสถานที่ที่ผมจะพาเพื่อนๆไปรู้จักในวันนี้คือ
ปราสาท Tsuruga
หลังจากที่นั่งรถ Haikara san แล้ว ให้เพื่อนๆลงป้ายที่ชื่อว่า Tsurugajo Iriguchi หรือป้ายหมายเลข H14
แต่ก่อนจะไปเที่ยวปราสาทผมจะแนะนำปราสาทคล่าวๆ ก่อนนะครับ ปราสาท Tsuruga มีอีกชื่อหนึ่งว่า Aizuwakamatsu Castle สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1384 เดิมที่มีชื่อว่า Kurokawa Castle ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น Aizuwakamatsu Castle ในภายหลัง ก่อนที่จะถูกทำลายลงในปี ค.ศ. 1874 และ สร้างขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1965
หลังจากที่ได้ทราบประวัติโดนคล่าวๆแล้วก็ กลับมาที่ทริปวันนี้กันต่อ
ระหว่างนั่งรถ Haikara san เพื่อนๆ สามารถถ่ายรูปวิวปราสาทตั้งตระหง่านคล้ายๆ กับตั้งอยู่กลางถนนได้
ป้ายรถเมล์ Tsurugajo Iriguchi จะคล้ายๆ กับศาลาครับ มีกลิ่นอายความคลาสสิคหลงเหลืออยู่
เมื่อเข้ามาบริเวณปราสาทแล้วจะพบคู่น้ำขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบฐานปราสาทอยู่ โดยช่วงที่ผมไปนั้นเป็นช่วงมีหิมะ ทำให้น้ำในคูน้ำแข็งเป็นน้ำแข็งบางส่วน
ใกล้ๆกับตัวปราสาทก็จะมีศาลเจ้าที่เรียกว่า Tsurugajo Inari Shrine ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปสักการะได้
ตัวปราสาท Tsuruga นั้น นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมด้านในได้ โดยจะต้องซื้อบัตรเข้าชมบริเวณจุดขายบัตร โดยด้านในปราสาทก็จะจัดแสดงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเมือง Aizu Wakamatsu
ปราสาท Tsuruga นั้นถือว่าเป็น 1 ในปราสาทที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ได้หลายมุม
นอกจากปราสาทแล้ว ที่นี่ยังมีจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายวิวเมือง Aizu Wakamatsu ได้อีกด้วย
ปราสาท Tsuruga
ที่อยู่ | 1-1 Otemachi, Aizuwakamatsu, Fukushima 965-0873 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัส Haikara san มาลงป้ายที่ชื่อว่า Tsurugajyo iriguchi (H 14) |
เวลาทำการ | เปิดตั้งแต่ 8.30 น. – 17.00 น. เข้าได้ถึงถึง 16.30 น. |
ราคา | เฉพาะค่าเข้าปราสาทผู้ใหญ่ 410 เยน เด็ก 150 เยน |
Website | ปราสาท Tsuruga |
หลังจากเที่ยวปราสาทเสร็จแล้วก็ให้กลับรอรถ Haikara San ที่ป้ายรถเมล์เดิม แล้วนั่งรถ Hikara San มาลงป้ายที่ชื่อว่า Aizu Bukeyashiki Mae (H24)
บ้านซามูไร Aizu Bukeyashiki
บ้านซามูไรแห่งนี้ในอดีตเคยที่พำนักของซามูไรที่ชื่อว่า Saigo Tanomo ซึ่งในสมัยสงคราม Boshin นั้น บ้านซามูไร Aizu Bukeyashiki ได้ถูกเผาทำลายลง แต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ โดยปัจจุบัน บ้านซามูไร แห่งนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ จำลองวิถีชีวิตของซามูไรในยุคนั้นให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา
ด้านในก็จะมีการหุ่นจำลองวิถีชีวิต อริยาบทต่างๆของผู้คนชั้นสูงในสมัยโบราณ
การจำลองอริยาบทต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าใจวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมต่างๆ ของ ซามูไรในยุคนั้นได้เข้าใจง่าย
ห้องน้ำแบบโบราณ โดยรถล้อเลื่อนด้านล่างจะเป็นรถที่คอยเก็บสิ่งปฏิกูลจากผู้ที่มาใช้ห้องน้ำแล้วค่อยเข็นออกไปทิ้ง
สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ยามมาเยือนบ้านซามูไรนั่นคือ ชุดเกราะซามูไร
และอาวุธชนิดต่างๆ
บ้านซามูไรแห่งนี้ยังมีจุดที่สามารถมองเห็นปราสาท Tsuruga ได้อีกด้วย
ที่นี่ยังมีร้านขนม ร้านอาหารให้นักท่องเที่ยวได้รับประทานด้วย
บ้านซามูไร Aizu Bukeyashiki
ที่อยู่ | Innai-1 Higashiyamamachi Oaza Ishiyama, Aizuwakamatsu, Fukushima 965-0813 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถ Haikara san มาลงป้าย Aizu Bukeyashiki Mae (H24) |
เวลาทำการ | เดือนเมษายน – เดือนพฤศจิกายน เปิดตั้งแต่ 8.30 น. – 17.00 น. เดือนธันวาคม – เดือนมีนาคม เปิดตั้งแต่ 9.00 น. – 16.30 น. |
ราคา | |
Website | Aizu Bukeyashiki |
หลังจากเที่ยวหมู่บ้านซามูไรเสร็จแล้วสถานที่ต่อไปที่ผมจะพาไปให้เพื่อนๆรู้จักก็คือ เนินเขา Iimoriyama (อีโมริยามะ) แนะนำให้เพื่อนมาขึ้นรถเมล์ Haikara san ที่ป้ายหมายเลข H30 คนละป้ายกับ H24 ที่ลงตอนขามานะครับ ป้ายจะอยู่ใกล้ๆ ยกเว้นว่าเพื่อนๆ Higashiyama Onsen ก็สามารถนั่งรถจากป้ายเดิมได้
เนินเขา Iimoriyama
เนินเขาแห่งนี้นับว่าเป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยต้องย้อนกลับไปที่สมัยสงครามโบชิน ช่วงปี คศ. 1868 – ค.ศ. 1869 กลุ่มนักรบซามูไรกลุ่มหนึ่งซึ่งมีชื่อเรียกว่า กลุ่ม Biakkotai หรือ แปลไทยคือ กลุ่มพยัคฆ์ขาว ซึ่งประกอบไปด้วยซามูไรวัยรุ่น อายุประมาณ 14 – 16 ปี จำนวน 20 คน ได้ถูกข้าศึกตีจนต้องถอยมาตั้งมั่นบริเวณเนินเขา Iimoriyama ประกอบกับสถานการณ์ที่รอบๆปราสาท Tsuruga นั้นโดนโจมตีอย่างหนักและเกิดเปลวเพลิงไหม้ขึ้นมา ทำให้กลุ่มพยัคห์ขาวนั้น เข้าใจผิดคิดว่าได้ไฟไหม้ปราสาท และพวกตนจะแพ้สงคราม และ ไม่อยากถูกจับไปเป็นเชลย ดังนั้น นักรบทั้ง 20 นายจึงได้ทำการปลิดชีพตัวเอง ด้วยวิธีการเซปปุกุ แต่ทว่ายังมีผู้รอดชีวิตมา 1 คน คือคุณ Iinuma Sadakichi หลังจากนั้นเรื่องราวของกลุ่ม Biakkotai ก็ได้ถูกเล่าขานมาถึงปัจจุบัน
และในปีค.ศ. 1928 นั้น Benito Mussolini ผู้นำอิตาลีในสมัยนั้น ได้บริจาคเสาจากเมือง Pompeii มาตั้งที่เนินเขา Iimoriyama ด้วย หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราว และ ประทับใจในความจงรักภักดีของกลุ่มพยัคฆ์ขาว
ตู้ขายน้ำอัตโนมัติก็จะมีลวดลายเกี่ยวกับกลุ่ม Biakkotai
การเดินขึ้นเขา Iimoriyama นั้น สามารถเดินขึ้น หรือ ใช้บันไดเลื่อนได้ แต่จะมีค่าใช้จ่าย 250 เยน ซึ่งการเที่ยวเนินเขา Iimoriyama ช่วงที่ผมไปเที่ยวจะต้องเดินตามป้ายลูกศร ซึ่งจะผ่านสุสานกลุ่มพยัคฆ์ขาว, เจดีย์ Sasaedo, และศาลเจ้า Itsukushima Shrine (คนละที่กับ Hiroshima นะครับ) เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนก็จะพบหลุมศพของกลุ่มพยัคฆ์ขาว โดยจะมีแผ่นหินทั้งหมด 19 แผ่น
ใกล้ๆกับหลุมศพก็จะมีเสารูปทรงโรมัน ซึ่งเสาต้นนี้คือ เสาที่ Mussolini ผู้นำฟาสซิสของอิตาลี เป็นมอบให้นั่นเอง
เจดีย์ Sasaedo
ถัดจากสุสานกลุ่มพยัคฆ์ขาว ให้เพื่อนๆ เดินตามป้ายมาเรื่อยๆ จนบันไดลงเขา แต่เพื่อนๆไม่ต้องลงให้เดินไปทางเล็กๆที่อยู่ทางขวาของบันได เดินทางไปเรื่อยๆ ก็จะถึงเจดีย์ Sasaedo โดยเจดีย์แห่งนี้เป็นเจดีย์โบราณที่ทำมาจากไม้ ด้านในออกแบบคล้ายๆ กับก้นหอย ซึ่งหมายความว่าเมื่อเข้าไปด้านในแล้ว เดินตามทางเรื่อยๆ ก็เจอทางออกอีกทางโดยไม่ต้องเดินย้อนกลับทางเก่า
เจดีย์ Sasaedo
ที่อยู่ | Takizawa-155 Itsuki, Oaza Yahata, Aizuwakamatsu, Fukushima 965-0003 |
---|---|
เวลาทำการ | เปิดทุกวันตั้งแต่ 09.00 น. – 16.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็กมัธยมปลาย 300 เยน เด็กประถาม 200 เยน |
ศาลเจ้า Itsukushima
ถัดจากเจดีย์ Sasaedo เดินตามทางมาเรื่อยๆก็จะพบกับศาลเจ้า Itsukushima ซึ่งที่ผมมาช่วงหิมะตกบรรยากาศก็จะร่มรื่นและเย็นยะเยือก หลังจากที่สักการะเสร็จ ก็จะพบกับทางลงมาจากตีนเขา Iimoriyama
ซึ่งทางลงนั้นจะค่อนข้างชันมาก และ ลื่น เนื่องจากหิมะได้ละลายเป็นบาง เพื่อนต้องระวังนะครับ ถ้าช่วงที่มีหิมะ เพราะจะไม่มีราวจับ เมื่อลงมาถึงด้านล่างก็เดินเลี้ยวซ้ายไปก็จะกลับมาสู่ทางขึ้นเขาที่เข้ามาตอนแรก
รูปปั้นของนักรบพยัคฆ์ขาวบริเวณด้านล่างของเขา Iimoriyama ซึ่งจะอยู่บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ Biakkotai
บริเวณด้านล่างของเนินเขา Iimoriyama จะมีร้านขนมที่ชื่อว่า Kushituru ซึ่งสินค้าในร้านจะออกไปทางแนว Katsu
ซึ่งผมได้กินไข่ยางมะตูมชุบเกล็ดขนมปังทอด รสชาติอร่อยมากเลยทีเดียว ส่วนการกลับสถานี Aizu Wakamatsu นั้นให้เพื่อนๆกลับไปขึ้นรถ Haikara San ที่ป้ายเดิมก็จะสามารถนั่งรถกลับไปยังสถานีได้แล้วก็จบทริปในวันนี้
สรุป
เมือง Aizu Wakamatsu เป็นเมืองเล็กๆ แต่ความน่าสนใจของเมือง ประวัติของเมืองไม่ได้เล็กตามเมือง ซึ่งเพื่อนๆที่ชอบเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์การมาเที่ยวในเมืองนี้นั้นค่อนข้างจะตอบโจทย์ได้พอมากสมควร ไม่ว่าจะเป็นการไปชมปราสาท Tsuruga, การศึกษาวิถีความเป็นอยู่ของซามูไรที่บ้านซามูไร Aizu Bukeyashiki, การฟังเรื่องราวความกล้าหาญของซามูไรกลุ่ม Biakkotai ใครที่ชอบเที่ยวแนวประวัติศาสตร์จะพลาดเมืองนี้ไม่ได้เป็นอันขาดสำหรับใครที่อยากอ่านบทความ เที่ยวฟุกุชิมะ ต่ออ่านเลย
เที่ยวฟุกุชิมะ เดินเที่ยวหมู่บ้านโบราณ แช่ออนเซ็นน้ำนม ตามรอยอนิเมะชื่อดัง แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติไม่ไกลจากโตเกียว เหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวธรรมชาติ ดื่มด่ำความงามของญี่ปุ่นในอีกมุมหนึ่ง ถ้าหากว่ายังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหนล่ะก็อ่านต่อเลย
เที่ยวฟุกุชิมะ หมู่บ้านโบราณ งดงามธรรมชาติ
อ่านต่อแล้วเตรียมตัวไปเที่ยวกันเลย