12 ที่เที่ยวชิซูโอกะ (Shizuoka) ชมวิวฟูจิ เที่ยวเมืองแห่งธรรมชาติ พร้อมชิมของเด็ด

26/09/2016 (อัพเดทเมื่อ 02/01/2024)
ชิซูโอกะ (Shizuoka) คืออีกจังหวัดน่ารัก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว นั่งรถไฟมาเที่ยวหรือจะขับรถมาก็สะดวกสบาย เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอยู่หลายแห่งที่แฝงไปด้วยความน่ารักสไตล์ญี่ปุ๊นญี่ปุ่น แถมยังมาพร้อมวิวฟูจิแบบใกล้ชิด วันนี้จะขอพาไป 5 ที่เที่ยวในชิซูโอกะ เปี่ยมเสน่ห์น่าค้นหา ใครที่อยากลองเที่ยวสถานที่ใหม่ ๆ ก็ขอชวนมาสัมผัสความเป็น ชิซูโอกะ ที่นี่เลย

สำหรับการไปเที่ยวชิซูโอกะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่สามารถเที่ยวฟูจิ หรือจะชมธรรมชาติก็ได้ เป็นจังหวัดที่สามารถชมวิวภูเขาก็ได้ หรือจะทะเลก็สวยสุดใจ และสำหรับใครที่อยากได้ข้อมูลการเดินทาง หรืออาหาร เราก็จัดมาให้ครบเตรียมเดินทางเที่ยวอย่างสบายๆ ได้เลย
Meiji Step RakuRaku Cube LP R1
Meiji Step RakuRaku Cube LP R2
Contents Index
  1. 1 ทำความรู้จักชิซูโอกะ (Shizuoka)
  2. 2 การเดินทางมา ชิซูโอกะ (Shizuoka)
  3. 3 แนะนำที่เที่ยวใน ชิซูโอกะ (Shizuoka) ห้ามพลาด
    1. 3.1 ชายหาดมิโฮะ (Miho Beach)
    2. 3.2 ไร่ชานิฮนไดระ (Nihondaira)
    3. 3.3 สะพานยูเมะ โนะ ทสึริบาชิ (Yume no Tsuribashi)
    4. 3.4 ศาลเจ้าคุโนซัน โทโชกุ (Kunozan Toshogu)
    5. 3.5 แม่น้ำอุรุอิ (Urui River Shizuoka)
    6. 3.6 แม่น้ำคาวาซุ (Kawazu River)
    7. 3.7 ซูเซนจิออนเซน (Shuzenji Onsen)
    8. 3.8 ศาลเจ้าฟุจิซังเซนเงน (Fujisan Sengen Shrine)
    9. 3.9 แหลมอิโรซากิ (Cape Irozaki)
    10. 3.10 สวนดอกไม้ฮามะมัตสึ (Hamamatsu Flower Park)
    11. 3.11 สะพานสายรุ้ง (Okuoi Rainbow Bridge)
    12. 3.12 อาตามิ (Atami)
  4. 4 การเดินทางภายใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)
    1. 4.1 JR Pass ที่แนะนำใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)
    2. 4.2 ช่องทางการซื้อพาส
  5. 5 สภาพอากาศที่ต้องรู้ใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)
    1. 5.1 การแต่งตัวเที่ยวใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)
  6. 6 อาหารขึ้นชื่อ ของดีต้องลอง ชิซูโอกะ (Shizuoka)
  7. 7 ข้อสรุป

ทำความรู้จักชิซูโอกะ (Shizuoka)

Shizuoka (ชิซูโอกะ) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุ บนเกาะฮนชู ระยะทางนั้นก็อยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงอย่างกรุงโตเกียวสักเท่าไร นั่งรถไฟประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

ตัวเมืองมีความสวยงามและน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ของญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟฟูจิ คาบสมุทรอิซุ และไร่ชาเขียว ซึ่งถือว่าใบชานั้นเป็นผลิตภัณฑ์ประจำจังหวัดเลยทีเดียว

ว่าแต่ว่าตอนนี้มีเพื่อน ๆ คนไหนกำลังสนใจจังหวัดน่ารัก ๆ นี้อยู่แต่ไม่รู้จะไปยังไงหรือไปแล้วจะเที่ยวที่ไหนอยู่บ้างมั้ยคะ เพราะวันนี้เรานำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัด Shizuoka มาฝาก

รวมไปถึงวิธีการเดินทาง ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เราแนะนำแล้วจัดเป็น 1 Day Trip เพื่อไปเที่ยวให้สนุกสนานภายในเวลาเพียง 1 วัน

การเดินทางมา ชิซูโอกะ (Shizuoka)

  • ท่าอากาศยานฟูจิซังชิซึโอกะ
  • สามารถนั่งเครื่องบินในประเทศมาลงที่สนามบินฟูจิซังชิซึโอกะได้ แล้วหลังจากนั้นค่อยเดินทางต่อ

  • เดินทางด้วยรถประจำทางจากท่าอากาศยานฟูจิซังชิซึโอกะ ไปยังสถานี JR ชิซึโอกะ
  • ไปสถานีชิซึโอกะ มีจำนวนมากถึง 12 รอบต่อวัน (11:00 – 21:00 น.)
  • ไปสถานีฟูจิเอดะ 6 รอบต่อวัน (ช่วง 11:00 ถึงช่วง 20:00 น.)
  • ไปสถานีชิมาดะ มีจำนวนมากถึง 7 รอบต่อวัน (12:00 – 21:00 น.)
  • *เดินทางประมาณ 26 นาที ด้วยรถไฟสายหลักโทไคโด จากสถานีชิมาดะถึงสถานีชิซึโอกะ

  • ทางรถไฟ
  • จากสถานีโตเกียวประมาณ 1 ชั่วโมง
  • จากสถานีนาโกย่า ประมาณ 1 ชั่วโมง
  • จากสถานีชินโอซาก้าประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
  • แนะนำที่เที่ยวใน ชิซูโอกะ (Shizuoka) ห้ามพลาด

    สำหรับใครที่อยากได้ข้อมูลที่เที่ยวมาทางนี้เลย กับที่เที่ยวแนะนำแบบจุใจในชิซูโอกะ

    ชายหาดมิโฮะ (Miho Beach)

    Miho Beach (ชายหาดมิโฮ) เป็นคาบสมุทรที่มีพื้นที่ยื่นออกไปในอ่าว Suruga เป็นที่รู้จักกันดีว่าที่นี่เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามแห่งหนึ่ง มีพื้นที่ทอดตัวยาว 3 กิโลเมตรโดยประมาณ

    เมื่อทอดสายตายาวเรื่อยไปจากตำแหน่งที่อยู่บริเวณชายหาด เราจะได้พบกับฟูจิซัง สัญลักษณ์ประจำประเทศญี่ปุ่นที่กำลังส่งยิ้มต้อนรับเราอยู่ห่าง ๆ เป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้เราได้ไม่รู้ลืม

    หากเขยิบตัวจากชายหาดมาอีกนิดก็จะเข้าสู่พื้นที่ของ Hagaromo Park ซึ่งเป็นสวนที่เต็มไปด้วยต้นสนขึ้นเรียงรายเลียบทางเดินใกล้กับชายหาด เป็นจุดที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ปลดปล่อยความคิดสักพักให้ใจได้พักเหนื่อย

    ซึ่งที่นี่มีต้นสนต้นหนึ่งที่เรียกว่า Hagoromo-no-Matsu เป็นต้นสนที่มีตำนานเล่าขานเรื่องราวเกี่ยวกับชายชาวประมงที่พบเชือกของนางฟ้าจากสรวงสวรรค์ที่แขวนอยู่บนกิ่งของต้นสนต้นนี้เกิดเป็นความสวยงามจุดหนึ่งของชายหาด

    Miho Beach

    ที่อยู่ 424-0901 Miho, Shimizu-ku, Shizuoka-shi
    วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Shizuoka Tetsudo Line มาลงสถานี Shin-Shimizu แล้วนั่งรถบัส Miho Yamanote Line ต่อมาประมาณ 25 นาที แล้วเดินอีก 20 นาที
    ราคา ไม่เสียค่าเข้าชม

    ดูแผนที่ Miho Beach

    ไร่ชานิฮนไดระ (Nihondaira)

    ใบชาของจังหวัด ชิซูโอกะ นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังจนกลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ประจำจังหวัดไปแล้ว ซึ่งทางไร่เค้าก็เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้เข้าไปสัมผัสกับใบชาอย่างใกล้ชิด

    ซึ่งในช่วงกลางเดือนเมษายนเรื่อยไปจนถึงเดือนตุลาคมที่เป็นฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยวใบชานั้นจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิธีการเก็บใบชาอีกด้วย แต่ถ้าเดินทางมาในเดือนอื่นก็ยังคงมีความสวยงามและผู้คนไม่หนาแน่นมาก มาเที่ยวได้สบาย ๆ

    และนอกจากความสวยงามของไร่ชาสีเขียวชอุ่มที่เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมองเห็นไกลจนสุดสายตาแล้ว เรายังจะได้ชื่นชมกับวิวภูเขาไฟฟูจิสีฟ้าขาวที่มีสีสันตัดกันกับสีเขียวของไร่ชากลายเป็นภาพแห่งความสวยงามที่สร้างสรรค์โดยจิตกรแห่งธรรมชาติจนได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่่น แบบนี้ไม่มาไม่ได้แล้วล่ะ

    ไร่ชา Nihondaira

    ที่อยู่ 424-0875 Mabase, Shimizu-ku, Shizuoka-shi
    วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Tokaido Line มาลงสถานี Shizuoka แล้วนั่งรถเมล์สาย 42 จากป้าย 11 หน้าสถานีรถไฟมาลงที่ป้ายรถบัสป้ายสุดท้าย Nihondaira Ropeway แล้วเดินต่อประมาณ 15-20 นาที
    เวลาทำการ 09.00-15.00 น.
    ราคา ค่าเรียนรู้การเก็บใบชา: 500 เยน
    โทรศัพท์ 054-334-1391
    Website Ocha Kaiken

    ดูแผนที่ ไร่ชา Nihondaira

    สะพานยูเมะ โนะ ทสึริบาชิ (Yume no Tsuribashi)

    Yume no Tsuribashi คือ สะพานแห่งความฝันที่เป็น 1 ใน 100 สะพานที่ควรข้ามสักครั้งก่อนตาย สะพานแห่งนี้มีที่ตั้งอยู่ที่ Sumatakyo Onsen ในจังหวัด ชิซูโอกะเป็นพื้นที่ที่รายล้อมไปด้วยหุบเขาและป่าไม้ เรียกได้ว่าธรรมชาติทุกอย่างยังคงอุดมสมบูรณ์มากที่นี่

    สะพาน Yume no Tsuribashi แห่งนี้ความยาวประมาณ 90 เมตร และมีความกว้างเพียง 30 เซนติเมตรเท่านั้น เป็นขนาดที่พอดีสำหรับการเดินเรียงเดี่ยว และจำกัดจำนวนคนข้ามไม่เกิน 10 คนต่อครั้งเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย

    นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อที่บอกต่อกันมาว่าถ้าหากข้ามสะพานจนถึงกลางสะพานแล้วอธิษฐานข้อพรเกี่ยวกับความรัก เราจะสมหวังอีกด้วย ใครอยากมีรักดี ๆ อย่าลืมก้าวผ่านความกลัวนี้ไปให้ได้นะ

    Yume no Tsuribashi

    ที่อยู่ 428-0411 Shizuoka Prefecture, Haibara District, Japan
    วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Tokaido Line มาลงสถานี Kanaya แล้วนั่งรถไฟ SL หรือรถไฟหัวจักรไอน้ำ Oigawa Railway ต่อประมาณ 40 นาทีเพื่อมาลงสถานี Senzu แล้วต่อรถบัสอีก 20 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 30 นาทีเพื่อไปยังจุดข้ามสะพาน
    เวลาทำการ ควรกลับก่อนพระอาทิตย์ตกดินเพื่อความปลอดภัย
    ราคา ไม่เสียค่าใช้จ่าย
    โทรศัพท์ 0547-59-2746

    ดูแผนที่ สะพาน Yume no Tsuribashi

    ศาลเจ้าคุโนซัน โทโชกุ (Kunozan Toshogu)

    ศาลเจ้า Kunozan Toshogu แห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่มีพื้นที่บริเวณกว้างขวางและคับคั่งไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่เป็นอาคารจำนวนมากมาย สถาปัตยกรรมของศาลเจ้ามีความสวยงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกของชาติเลยทีเดียว เป็นสถาปัตกรรมการออกแบบที่เหมือนกันกับที่ Nikko

    การออกแบบของศาลเจ้านั้นใช้สีแดงสดใสและสีทองอร่ามแซมตามส่วนต่าง ๆ ของสิ่งก่อสร้างภายในศาลเจ้า ประกอบกับลวดลายจากผลงานการแกะสลักที่งดงามตราตรึงใจ พร้อมด้วยภาพวาดบนประตู Romon ที่มีเอกลักษณ์ให้เราได้ชื่นชมในความสวยงาม

    บริเวณนอกศาลเจ้าที่อยู่ไม่ไกลกันนั้นยังถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ของโชกุนคุโนซังที่มีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของท่าน และสมบัติอื่น ๆ อย่างเช่นอาวุธที่ใช้การรบและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในยุคสมัยนั้นเป็นต้น

    การเดินทางมายังศาลเจ้าทำได้ไม่ยาก เราสามารถโดยสารกระเช้า Nihondaira Ropeway ขึ้นมายังภูเขาอันเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแห่งนี้ได้ ซึ่งระหว่างเส้นทางที่กระเช้าพาเราขึ้นมานั้นก็จะได้ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวซูรูกะ ท่าเรือชิมิสุ ไร่ชา Nihondaira รวมไปถึงภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย

    รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nihondaira Ropeway คลิกที่นี่

    ศาลเจ้า Kunouzan Toshogu

    ที่อยู่ 390 Negoya, Suruga-ku, Shizuoka-shi, Shizuoka
    วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Tokaido Line มาลงสถานี Shizuoka แล้วนั่งรถบัส Shizutetsu Justline Bus ฟรีมาลงที่ Nihondaira Ropeway เพื่อขึ้นกระเช้าต่อ
    เวลาทำการ 09.00-17.00 น. (สามารถเข้าชมได้ครั้งละไม่เกิน 2 ชั่วโมง)
    ราคา ศาลเจ้า : ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 200 เยน, พิพิธภัณฑ์ : ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 300 เยน
    โทรศัพท์ 054-237-2438
    Website ศาลเจ้า Kunouzan Toshogu

    ดูแผนที่ ศาลเจ้า Kunouzan Toshogu

    แม่น้ำอุรุอิ (Urui River Shizuoka)

    เป็นหนึ่งในจุดชมวิวซากุระที่มองเห็นฟูจิยอดนิยม โดยเฉพาะช่วงต้นเมษายนที่ต้นซากุระจะเบ่งบาน ทำให้ช่างภาพต่างๆ พากันมาปักหลักถ่ายรูปวิวที่นี่

    สำหรับใครที่มองหาจุดชมวิวฟูจิพร้อมดอกซากุระ เราแนะนำให้มาที่นี่ เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดที่สวยงามสุดๆ มีทั้งซากุระ ฟูจิ และธารน้ำที่ไหล ได้บรรยากาศซึมซับธรรมชาติ

    แม่น้ำอุรุอิ Urui River Shizuoka

    ที่อยู่ 350 Iwamoto, Fuji, Shizuoka 419-0202
    วิธีเดินทาง นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Iriyamase Station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 12 นาที หรือ 1 กิโลเมตร

    ดูแผนที่ Urui River Shizuoka จุดชมสะพาน Takito Bridge

    แม่น้ำคาวาซุ (Kawazu River)

    เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระยอดนิยมที่เห็นทั้งสามวิว คือ ภูเขา แม่น้ำ และซากุระ เรียกได้ว่าเป็นวิวที่สวยจับใจ อีกทั้งยังเป็นมุมยอดนิยมที่ไม่ว่าจะนักท่องเที่ยว หรือช่างภาพมืออาชีพก็จะมาจับจองพื้นที่เก็บภาพกันเอาไว้ เป็นมุมที่วิวสวยจริงๆ

    ที่นี่มีต้นซากุระคาวาซีเรียงรายยาวกว่า 4 กิโลเมตร อีกทั้งบริเวณนี้ยังมีศาลเจ้าเก่าแก่ และต้นการบูรพันปีอีกด้วย

    แม่น้ำคาวาซุ Kawazu River

    ที่อยู่ Kawazu, Kamo, Shizuoka
    วิธีเดินทาง นั่งรถไฟไปลง MISHIMA STATION แล้วนั่งรถไฟไปลงที่ Shuzenji Station เดินไปที่สถานีรถบัสแล้วขึ้นรถ C50: สถานีชูเซ็นจิ – คาวาสึ ไปลงที่ ชิโมซากาโนะ เดินต่อ 1 นาที

    ดูแผนที่ แม่น้ำคาวาซุ Kawazu River

    ซูเซนจิออนเซน (Shuzenji Onsen)

    หนึ่งในออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น อยู่ท่ามกลางภูเขาในเมืองชิซุโอกะ โดยที่เมืองออนเซ็นแห่งนี้ยังรักษากลิ่นอายความดั่งเดิมเอาไว้ได้อย่างดี ทำให้ผู้คนที่นี่ถูกใจกับบรรยากาศ การแช่ออนเซ็นไปกับธรรมชาติอย่างมาก

    ถึงแม้จะเป็นเมืองติดทะเล แต่ที่นี่ไม่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ เนื่องจากอยู่ห่างจากบริเวณคาบสมุทร และถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขา แต่น้ำออนเซ็นของที่นี่ก็ดีไม่แพ้ที่อื่นเลยนะ

    Shuzenji Onsen Ryokan Cooperative

    ที่อยู่ Shuzenji, Izu, Shizuoka 410-2416
    วิธีเดินทาง ลงที่สถานี Mishima แล้วนั่งรถไฟบนสาย Tokaido หรือ Shinkansen และลงที่สถานี Shuzenji ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายของรถไฟ Izuhakone (ประมาณ 32 นาที)

    จากสถานี Shuzenjin ขึ้นรถบัสประมาณ 10 นาที สาย “To Shuzenji Onsen” ลงที่สถานี Shuzenji Onsen ซึ่งเป็นป้ายสุดท้าย
    Website Shuzenji Onsen Ryokan Cooperative

    ดูแผนที่ Shuzenji Onsen Ryokan Cooperative

    ศาลเจ้าฟุจิซังเซนเงน (Fujisan Sengen Shrine)

    อีกหนึ่งศาลเจ้าสำคัญประจำภูเขาไฟฟูจิ โดยศาลเจ้านี้มีอาณาเขตกว้างขวางกินพื้นที่บริเวณของภูเขาไฟไปด้วย และน้อยคนนักที่จะเยี่ยมชมพื้นที่สำคัญของศาลเจ้านี้ได้ครบอีกด้วย

    สำหรับใครที่ชอบการ Trecking เราแนะนำให้ลองมาที่นี่ เพราะนอกจากจะไหว้ศาลเจ้าขอพรแล้ว เรายังสามารถเดินขึ้นไปด้านบนภูเขาไฟ เพื่อเยี่ยมชมจุดต่างๆ ของศาลเจ้าได้อีกด้วย

    ศาลเจ้าฟุจิซังเซนเงน (Fujisan Sengen Shrine)

    ที่อยู่ 1-1 Miyacho, Fujinomiya, Shizuoka 418-0067
    วิธีเดินทาง นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Fujinomiya Station แล้วเดินต่ออีก 12 นาที
    เวลาทำการ 5:00–20:00
    Website Fujisan Sengen Shrine

    ดูแผนที่ Fujisan Sengen Shrine

    แหลมอิโรซากิ (Cape Irozaki)

    เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก โดยบริเวณแหลมอิโรซากิจะมีโขดหินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และวิวของทะเลที่สวยงาม แต่นอกจากการมาเที่ยวชมวิวแล้ว เราสามารถแวะไหว้ศาลเจ้า

    หรือใครที่อยากทำกิจกรรมก็สามารถนั่งเรือชมวิวทะเลได้เช่นกัน

    แหลมอิโรซากิ (Cape Irozaki)

    ที่อยู่ Irozaki, Minamiizu, Kamo District, Shizuoka 415-0156
    วิธีเดินทาง นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Izukyū-Shimoda แล้วขึ้นรถบัส S53: สถานีชิโมดะ – คิวกามูระ – อิโรซากิ แล้วขึ้นรถบัสไปลงที่ Irozaki Ocean Park แล้วเดินต่ออีก 500 เมตร
    Website Cape Irozaki

    ดูแผนที่ Cape Irozaki

    สวนดอกไม้ฮามะมัตสึ (Hamamatsu Flower Park)

    เอาใจหนุ่มสาวสายดอกไม้กันบ้าง กับ สวนดอกไม้ฮะมะมัตสึ ที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ตระการตา หลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะช่วงซากุระ ที่จะเต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่ง

    แต่ไม่ได้มีแค่ซากุระเท่านั้น ที่นี่ยังมีดอกไม้อื่นๆ กว่า 3000 สายพันธุ์ ที่ต่างพลักกันออกมาให้ชมตามฤดูกาล

    สวนดอกไม้ฮามะมัตสึ (Hamamatsu Flower Park)

    ที่อยู่ 195 Kanzanjicho, Nishi Ward, Hamamatsu City, Shizuoka Prefecture 431-1209
    วิธีเดินทาง ขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไป Kanzanji Onsen จากสถานีขนส่งหมายเลข 1 ที่ทางออกทิศเหนือของสถานี Hamamatsu ลงที่ป้ายรถเมล์ “Flower Park” ใช้เวลาประมาณ 40 นาที รถออกทุกๆ 30 นาที
    เวลาทำการ 9:00-17:00 น
    ราคา 800เยน เฉพาะสวนดอกไม้ 1,050 เยน รวมค่าเข้าสวนสัตว์ ข้อมูลค่าเข้าชมเพิ่มเติม
    Website Hamamatsu Flower Park

    ดูแผนที่ Hamamatsu Flower Park

    สะพานสายรุ้ง (Okuoi Rainbow Bridge)

    สถานีรถไฟลับกลางแม่น้ำโออิกาวะ โดยเป็นเส้นทางรถไฟเชื่อมไปสู่ Ikawa โดยเป็นเส้นทางยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวเพราะเป็นจุดที่มีสถานีอยู่บริเวณเกาะกลางแม่น้ำ ซึ่งป็นสถานีที่เราสามารถไปเที่ยวสะพานแห่งความฝัน หรือ Yume no Tsuribashi ได้

    โดยหัวจักรรถไฟยังเป็นหัวรถไฟไอน้ำอยู่เลย มีเสน่ห์มาก

    สะพานสายรุ้ง (Okuoi Rainbow Bridge)

    ที่อยู่ Sessoko , Inuma, Kawanehon, Haibara District, Shizuoka 428-0402
    วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสายอิคาวะ (Ikawa Line) ที่สถานีคานายะ (Kanaya) เพื่อชมความงามของธรรมชาติในเส้นทางนี้

    ส่วนวิธีการมาที่สถานี Kanaya ให้นั่งรถไฟสาย Tokaido จากสถานี Shizuoka Station ได้เลย

    Website Okuoi Rainbow Bridge

    อาตามิ (Atami)

    เป็นแหล่งออนเซ็นชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความงาม มีที่พักแบบโรงแรมและเรียวกังให้เลือกพักมากมาย อยู่ในจังหวัดชิซุโอกะ ด้านหน้าคือทะเล ด้านหลังคือภูเขา ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ เป็นแหล่งออนเซ็นชื่อดังแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

    ออนเซ็นของที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ “ออนเซ็นแห่งความงาม” เพราะคุณสมบัติของน้ำที่อ่อนโยนต่อผิวและช่วยบำรุงผิวพรรณ อีกทั้งยังบำบัดอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้อีกด้วย

    อาตามิ (Atami)

    วิธีเดินทาง JR Atami Station มีรถไฟผ่าน 3 สาย ได้แก่ Tokaido Shinkansen, Tokaido Main Line และ Ito Line ทางเลือกที่ถึงเร็วที่สุดคือชินคันเซ็น โดยแนะนำให้ขึ้นสาย Kodama จะใช้เวลาประมาณ 50 นาที นอกจากนี้ยังมีรถไฟด่วนพิเศษ Odoriko ซึ่งใช้เวลา 80-90 นาที หรือใครจะนั่งสายปกติมายาวๆ ก็ได้เหมือนกัน ราคาถูกที่สุด แต่จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที

    ดูแผนที่ อาตามิ (Atami)

    การเดินทางภายใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)

    วิธีการเดินทาง รายละเอียด
    รถไฟ มีทั้งรถไฟ JR รถไฟท้องถิ่น และรถไฟท่องเที่ยว
    รถบัส จะมีรถประจำทาง รถด่วน และรถนำเที่ยวให้บริการเช่นกัน

    JR Pass ที่แนะนำใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)

    PASS ราคา จำนวนวัน รายละเอียด
    Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass Mini ฿ 1,117 3 วัน ใช้เดินทางในพื้นที่ชิซูโอกะ และภูเขาไฟฟูจิ
    บัตร JR Tokyo Wide Pass ฿ 2,492 3 วัน ใช้เดินทางในพื้นที่ชิซูโอกะ โตเกียว และรอบๆ

    ช่องทางการซื้อพาส

    Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass Mini

    บัตร JR Pass สำหรับภูเขาฟูจิและชิซูโอกะ (3 วัน)

    ซื้อผ่าน Klook ในราคาสุดคุ้ม ถูกกว่าซื้อเองที่ญี่ปุ่น!

    Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass Mini

    บัตร JR Pass สำหรับโตเกียว

    ซื้อผ่าน Klook ในราคาสุดคุ้ม ถูกกว่าซื้อเองที่ญี่ปุ่น!

    สภาพอากาศที่ต้องรู้ใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)

    ที่จังหวัดนี้มีสภาพอากาศที่ค่อนข้างอุ่น ในฤดูร้อนมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 28 องศา หรืออาจจะมากกว่านั้น และฤดูหนาวอยู่ที่ 0 องศา อากาศโดยทั่วไปจะสบาย และมีฝนค่อนข้างเยอะในช่วงเดือนตุลาคม

    การแต่งตัวเที่ยวใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)

    ใครที่อยากรู้ว่าช่วงฤดูหนาวแต่งตัวยังไง ต้องหนาแค่ไหนถึงจะพอ อ่านที่นี่เลย

    IMAGE NAME HERE

    เทคนิค แต่งตัวไปญี่ปุ่นหน้าหนาว ให้อุ่นสบาย ไม่อ้วนกลม!

    บอกครบทุกสภาพอากาศ ห้ามพลาด!

    แต่สำหรับใครที่มองหาการแต่งตัวไปเที่ยวฤดูร้อนในญี่ปุ่น ก็มาทางนี้เลย

    IMAGE NAME HERE

    แนะนำการ แต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น หน้าร้อน จาก 3 แบรนด์ฮิต

    หน้าร้อนไม่ร้อนใจ แต่งตัวเข้ากันฤดูเที่ยวเพลิน

    อาหารขึ้นชื่อ ของดีต้องลอง ชิซูโอกะ (Shizuoka)

    เกี๊ยวซ่าฮามามัตสึ (Hamamatsu Gyoza)

    เกี๊ยวซ่า 1 ในอาหารจีนที่แผ่อิทธิพลมาจนถึงญี่ปุ่น และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หากมาที่ฮามามัตสึต้องทานเกี๊ยวซ่าให้ได้ กับเกี๊ยวซ่าทอดเรียงเป็นแพสวย ทานคู่กับผักเคียงและข้าว

    Fujinomiyaki

    อีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อประจำเมืองฟูจิโนะมิยะ กับผัดยากิโซบะที่หลายๆคนต้องรู้จัก เป็นอาหารบ้านๆ ที่ราคาเป็นกันเอง แต่กับที่นี่รสชาติของมันอร่อยจนติดอันดับในญี่ปุ่นเลยทีเดียว

    ข้อสรุป

    เชื่อแล้วใช่มั้ยคะว่า ชิซูโอกะ นั้นมีของดี ! แต่ละสถานที่นั้นเด็ด ๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก หรือสถานที่ที่ควรไปสักครั้งในชีวิต ทุกแห่งในจังหวัดนี้มีความอลังการงานสร้างที่เกิดจากการรังสรรค์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติเกิดเป็นความสวยงามที่ทำให้เราต้องหาโอกาสไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต

    Contents Index
    1. 1 ทำความรู้จักชิซูโอกะ (Shizuoka)
    2. 2 การเดินทางมา ชิซูโอกะ (Shizuoka)
    3. 3 แนะนำที่เที่ยวใน ชิซูโอกะ (Shizuoka) ห้ามพลาด
      1. 3.1 ชายหาดมิโฮะ (Miho Beach)
      2. 3.2 ไร่ชานิฮนไดระ (Nihondaira)
      3. 3.3 สะพานยูเมะ โนะ ทสึริบาชิ (Yume no Tsuribashi)
      4. 3.4 ศาลเจ้าคุโนซัน โทโชกุ (Kunozan Toshogu)
      5. 3.5 แม่น้ำอุรุอิ (Urui River Shizuoka)
      6. 3.6 แม่น้ำคาวาซุ (Kawazu River)
      7. 3.7 ซูเซนจิออนเซน (Shuzenji Onsen)
      8. 3.8 ศาลเจ้าฟุจิซังเซนเงน (Fujisan Sengen Shrine)
      9. 3.9 แหลมอิโรซากิ (Cape Irozaki)
      10. 3.10 สวนดอกไม้ฮามะมัตสึ (Hamamatsu Flower Park)
      11. 3.11 สะพานสายรุ้ง (Okuoi Rainbow Bridge)
      12. 3.12 อาตามิ (Atami)
    4. 4 การเดินทางภายใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)
      1. 4.1 JR Pass ที่แนะนำใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)
      2. 4.2 ช่องทางการซื้อพาส
    5. 5 สภาพอากาศที่ต้องรู้ใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)
      1. 5.1 การแต่งตัวเที่ยวใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)
    6. 6 อาหารขึ้นชื่อ ของดีต้องลอง ชิซูโอกะ (Shizuoka)
    7. 7 ข้อสรุป
    Meiji Step RakuRaku Cube LP R3
    Meiji Step RakuRaku Cube LP R4
    Meiji Step RakuRaku Cube LP R5

    สถานที่เที่ยว

    | Feature
    Meiji Step RakuRaku Cube LP R6

    กรณีฉุกเฉิน

    | Emergency
    • Police

      110

    • Ambulance

      119

    • AMDA International Medical Information Center

      03-6233-9266

    • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

      090-4435-7812

    • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

      090-1895-0987

    • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

      090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

    Meiji Step RakuRaku Cube LP R7