Cover Photo Cr : The Japan Times
อาหารฮาลาลญี่ปุ่น
อาหารฮาลาล (Halal Food) หมายถึง อาหารหรือผลิตภัณฑ์อาหารซึ่งอนุมัติตามบัญญัติศาสนาอิสลามให้มุสลิมบริโภคหรือใช้ประโยชน์ได้Cr: สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
‘เครื่องหมายฮาลาล’ จึงหมายถึงการได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการอิสลามของประเทศต่าง ๆ อนุญาตให้ผู้ประกอบการทำการประทับ หรือแสดงบนสลาก หรือผลิตภัณฑ์ หรือกิจการใด ๆ โดยใช้สัญลักษณ์ที่เรียกว่า ‘ฮาลาล’ เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าอาหารหรือผลิตภัณฑ์อาหารนี้ผ่านกรรมวิธีในการทำ ผสม ปรุง ประกอบ หรือแปรสภาพตามศาสนบัญญัติ ซึ่งเป็นการรับประกันได้ว่าชาวมุสลิมโดยทั่วไปสามารถบริโภคอาหารหรืออุปโภคสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ได้อย่างสนิทใจ
Cr: springs.co.jp
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บรรดาผู้ประกอบการการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเริ่มตื่นตัวกับความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมกันมากขึ้น เพราะทุกวันนี้มีชาวมุสลิมเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็ตระหนักดีในปัญหาหลาย ๆ ด้านที่ชาวมุสลิมยังไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกจากประเทศญี่ปุ่นเท่าที่ควร
ตัวอย่างเช่นร้านอาหารในญี่ปุ่นที่ยังคงพบสัญลักษณ์การรับรองจากฮาลาลน้อยอยู่มาก ทำให้ชาวมุสลิมหลายคนมีความกังวลใจว่าร้านอาหารที่ต้องการเข้าไปฝากท้องนั้นมีวิธีการปรุงและส่วนผสมที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามหรือไม่ ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาหลักสำหรับการท่องเที่ยวในต่างประเทศของพวกเขา
แต่วันนี้ Chill Chill Japan ขอแนะนำให้รู้จักกับร้านอาหารทั้ง 5 ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทุกร้านนั้นตั้งอยู่ในกรุงโตเกียวแหล่งท่องเที่ยวที่ใคร ๆ ก็อยากมาเยือนทั้งสิ้น รับรองว่าแต่ละร้านนั้นหาไม่ยาก ไม่ลึกลับ เพื่อน ๆ ที่นับถือศาสนาอิสลามสามารถเดินทางไปอร่อยกันได้แบบไร้กังวล
Sumiyakiya Nishiazabu (炭やき屋) : ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นและเกาหลี
ร้านเนื้อย่างในโตเกียวที่ชาวอิสลามสามารถทานได้อย่างสบายใจแห่งนี้มีชื่อว่า ‘Sumiyakiya Nishiazabu Halal Restaurant’ ที่นี่เป็นร้านเนื้อย่างที่เลือกใช้เนื้อวัวแท้จากเมืองดังมิยาซากิ
คุณ Roger Diaz เจ้าของร้านชาวศรีลังกาที่ตัวเขาเองไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามแต่มีโอกาสได้พูดคุยกับชาวศรีลังกาที่นับถือศาสนาอิสลามว่าพวกเขาเหล่านี้ประสบปัญหาเรื่องอาหารการกินเมื่อต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพราะ อาหารฮาลาลญี่ปุ่น นั้นหาทานยากมาก และสิ่งนี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เค้าเริ่มศึกษาเกี่ยวกับฮาลาลและอาหารฮาลาลเป็นเวลากว่า 3 ปีเต็ม ก่อนตัดสินใจเปิดร้านแห่งนี้
เมื่อเดินเข้าร้านไปก็จะพบกับใบประกาศการันตีรับรองจากฮาลาลที่ดำเนินการออกให้โดยบริษัท ฮาลาลมาเลเซีย จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าอาหารของที่นี่นั่นถูกหลักของชาวอิสลาม รวมทั้งรูปภาพข่าวที่เจ้าของร้านเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อต่าง ๆ และรูปภาพเมื่อครั้งที่เค้ามีโอกาสบริการมื้ออาหารให้แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียเมื่อครั้งที่เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น
ขนาดของร้านนั้นไม่ใหญ่นัก สามารถรองรับได้สูงสุด 24 ที่นั่ง แต่เรื่องความสะอาดนั้นต้องยกนิ้วให้เลยทีเดียว เพราะที่นี่เค้าใช้เตาย่างเนื้อเพียงครั้งเดียวแล้วทิ้งเลย ไม่มีการนำกลับมาใช้อีกครั้ง
สำหรับเมนูอาหารนั้นก็ยั่วน้ำไหลสุด ๆ มีให้เลือกสั่งแบบเป็นจานและเป็นคอร์สที่มีเสิร์ฟตั้งแต่เมนูเรียกน้ำย่อยไปจนถึงจานหลัก หรือเลือกเป็นเนื้อวัวสดส่วนที่ชอบเป็นจานเพื่อนำมาย่างเองก็อร่อยตามใจฉัน
ส่วนเมนูมื้อเย็นอื่น ๆ ที่ช่วยทำให้เราอิ่มท้องได้ก็มีหลากหลายอย่างข้าวยำเกาหลี หรือซุปกิมจิะร้อน ๆ ก็มีให้ซดเพื่อความลื่นคอ
เนื้อของที่นี่ได้จากวัวที่ถูกเลี้ยงและผ่านกรรมวิธีการผลิตจากมิยาซากิ ดูแลระบบการผลิตโดยชาวญี่ปุ่น และมีผู้เชือดวัวเป็นชาวมุสลิมจากประเทศมาเลเซียจึงมั่นใจได้ว่ามีการดำเนินการตามหลักศาสนาอย่างแน่นอน
Cr: scontent.fbkk5-2.fna.fbcdn.net
วิธีการกินเนื้อย่างให้อร่อยคือการกินคู่กับผัก เมื่อย่างจนได้ที่แล้วก็จัดการนำลงจากเตาแล้วห่อเนื้อด้วยผักกาดแก้ว ใส่ต้นหอมและแครอทเพิ่มรสและกลิ่น จากนั้นก็นำเข้าปากเพื่อสัมผัสกับรสชาติอาหารสุดพิเศษมื้อนี้ได้เลย
ใครอยากกินเนื้อย่างอร่อย ๆ จากเมืองมิยาซากิก็สามารถแวะมาฝากท้องกันได้ที่ร้านแห่งนี้เลย รับรองว่าอร่อยถูกใจอย่างแน่นอน นอกจากเนื้อย่างก็มีเมนูสไตล์ญี่ปุ่นและเกาหลีอีกมากให้เราได้เลือกกินมากมายอีกด้วย
Sumiyakiya Nishiazabu (炭やき屋)
ที่อยู่ | 3-20-16 Minato-Ku, Nishiazabu, Tokyo, Japan 106-0031 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดินสาย Hibiya Line มาลงสถานี Roppongi แล้วเดินต่ออีก 12 นาที |
เวลาทำการ | มื้อกลางวัน : 11.30-15.00 น. มื้อเย็น : 17.00-23.00 น. (วันหยุดนักขัตฤกษ์เปิดทำการเฉพาะช่วงกลางวัน หาต้องการใช้บริการในช่วงเย็นต้องทำการจอง) |
ราคา | ประมาณ 5,000 เยน |
โทรศัพท์ | 03-3403-5397 |
Sumiyakiya Nishiazabu Halal Restaurant |
Shinjukugyoen Ramen Ouka (新宿御苑らーめん桜花) : ราเมนฮาลาล
ถัดจากเนื้อย่างเราก็มาเปลี่ยนบรรยากาศกันด้วยอาหารมื้อเบา ๆ อย่างราเมนกันบ้างที่ร้าน ‘Shinjukugyoen Ramen Ouka’ ที่แต่เดิมร้านแห่งนี้เป็นร้านขนาดเล็กที่เปิดตัวขึ้นที่จังหวัดโยโกฮาม่าตั้งแต่ปี 2002 เป็นร้านที่มีชื่อเสียงอีกร้านของจังหวัด
และในวันหนึ่งที่เจ้าของร้านได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนชาวมาเลเซียที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นแต่ไม่มีโอกาสได้กินราเมนเพราะร้านราเมนส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นนั้นเสิร์ฟน้ำซุปที่ทำจากกระดูกหมู เพื่อนของเขาจึงกินได้เพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้น และเรื่องของเพื่อนคนนี้ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ทางร้านตัดสินใจศึกษาเกี่ยวกับ อาหารฮาลาลญี่ปุ่น จนสามารถขอใบอนุญาตและเปิดเป็นร้านราเมนฮาลาลมาจนถึงทุกวันนี้
ร้าน Shinjukugyoen Ramen Ouka โฉมใหม่ที่ได้รับรองจากฮาลาลแล้วตั้งอยู่ที่ย่านแฟชั่นอย่างชินจูกุ ตัวร้านทั้งภายนอกและภายในตกแต่งได้อย่างสวยงามน่าเดินเข้าไปตามกลิ่นหอมของราเมนที่ลอยออกมายั่วน้ำลายของเรา
ขนาดของร้านไม่ใหญ่นัก สามารถรองรับลูกค้าได้ 18 คน ที่นั่งเป็นแบบเคาน์เตอร์บาร์ทั้งหมด ซึ่งทำให้เราสามารถมองเห็นการทำงานของเชฟได้อย่างชัดเจนตามสไตล์ของร้านอาหารญี่ปุ่น แต่จุดเด่นของร้านนี้ก็อยู่ที่ชามราเมนซึ่งมีรูปทรงคล้ายสามเหลี่ยมและวงกลมพร้อมลวดลายแบบญี่ปุ่นที่สวยงาม
เมนูแนะนำยอดนิยมของร้านนี้ คือ Gozen Ramen ราเมนซุปใสที่ได้จากปลาทะเลผสมเข้ากันกับน้ำซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษ ท้อปปิ้งด้วยวิปเนื้อเนียนนุ่มที่มีส่วนผสมจากส้ม Yuzu ซึ่งมีความหอมและรสชาติที่สดชื่นได้เป็นราเมนหน้าตาเรียบง่ายได้รสชาติสไตล์ญี่ปุ่นแท้ดั้งเดิม เพื่อน ๆ ที่นับถือศาสนาอิสลามจะได้ลิ้มรสราเมนสไตล์ญี่ปุ่นสุดอร่อยแบบไร้กังวลว่าจะเป็นน้ำซุปกระดูกหมูหรือเปล่าได้ที่ร้านแห่งนี้เลย เพราะที่นี่เค้าได้รับเครื่องหมายฮาลาลแล้วว่ามีกรรมวิธีการผลิตที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอย่างแน่นอน
Shinjukugyoen Ramen Ouka (新宿御苑らーめん桜花)
ที่อยู่ | 1-11-7 Shinjuku, Shinjuku-ku, Tokyo 160-0022 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Marunouchi Line มาลงสถานี Shinjukugyoen Maeแล้วเดินอีก 3 นาที |
เวลาทำการ | จันทร์-ศุกร์ : 12.30-15.00 น./18.00-22.00 น. เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 12.00-22.00 น. |
ราคา | ประมาณ 1,000-1,900 เยน |
โทรศัพท์ | 03-5925-8426 |
Shinjukugyoen Ramen Ouka |
Asakusa Sushi Ken (浅草すし賢) : ซูชิร้านแรกที่ฮาลาลรับรอง
มาญี่ปุ่นทั้งทีจะไม่กินซูชิได้อย่างไร แม้ว่าร้านซูชิส่วนใหญ่เมนูอาหารจะปรุงด้วยวัตถุดิบจากทะเลอย่างปลาแซลมอน ปลาทูน่า และอื่น ๆ ซึ่งเป็นอาหารที่ผู้นับถือศาสนาอิสลามสามารถทานได้อยู่แล้วแต่เพื่อให้มั่นใจยิ่งขึ้น เราจะขออาสาพาไปรู้จักกับร้าน ‘Asakusa Sushi Ken’ ร้านซูชิที่ได้การรับรองเครื่องหมายฮาลาล
เมื่อสิ้นปี 2015 ที่ผ่านมา ทางร้าน Asakusa Sushi Ken แห่งนี้สามารถขอใบรับรองจากฮาลาลได้เป็นที่เรียบร้อย ที่นี่จึงเป็นร้านซูชิร้านแรกในประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการรับรอง เพราะทางร้านตระหนักได้ว่าในปัจจุบันมีชาวมุสลิมเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากขึ้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ทางร้านจะดำเนินการในเรื่องนี้เพื่อรองรับ
ทางร้านมองว่าการที่มีลูกค้าชาวมุสลิมมาสอบถามถึงเมนู อาหารฮาลาลญี่ปุ่น ก็เหมือนกับลูกค้ากำลังถามหาช้อนส้อมหรือตะเกียบ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ร้านอาหารต้องสามารถให้บริการลูกค้ากลุ่มนี้ได้เหมือนกับลูกค้ากลุ่มอื่น
Cr: Asakusa Sushi-Ken For Muslim Customers
เมนูซูชิของที่นี่ได้มีการปรับเปลี่ยนกรรมวิธีขั้นตอนการทำซูชิเพื่อให้ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้รสชาติซูชิของพวกเขาเปลี่ยนไป เพราะซูชิยังคงมีความเอร็ดอร่อยเหมือนกับซูชิปกติไม่มีผิดเพี้ยน
ลูกค้าชาวมุสลิมของที่นี่ก็มาจากหลายประเทศอย่างเช่นมาเลเซีย สิงคโปร์ หรืออินโดนีเซีย ซึ่งเมนูที่พวกเขานิยมสั่งคือข้าวหน้าปลาไหล เซ็ตอาหารญี่ปุ่นซึ่งมีหลากหลายเมนูให้ได้อิ่มอร่อย และเซ็ตซูชิหลากหน้าชวนหิว
บรรยากาศของร้านก็สวยงามและอบอุ่น มีการตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่นที่ผสมผสานไอเดียเก๋ ๆ ไว้ที่หลายมุมของร้าน นอกจากนั้นที่นี่ยังมีให้บริการห้องละหมาดสำหรับลูกค้าอีกด้วย บอกเลยว่าครบถ้วนจริง ๆ
Asakusa Sushi Ken (浅草すし賢)
ที่อยู่ | 2-11-4 Asakusa, Taito, Tokyo |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Asakusa Line มาลงสถานี Asakusa แล้วเดินอีก 9 นาที |
เวลาทำการ | จันทร์-เสาร์ : 12.00-14.00 น./17.00-24.00 น. วันหยุดนักขัตฤกษ์ : 11.30-15.00 น./17.00-22.00 น. |
ราคา | ประมาณ 4,000-4,999 เยน |
โทรศัพท์ | 03-5246-6547 |
Website | Asakusa Sushi Ken |
Hanasakaji-san (花咲かじいさん 桜丘店)
กินแบบปิ้งย่างบ่อย ๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องดีนัก เพราะฉะนั้นต้องสลับมาเป็นเมนูต้ม ๆ อย่างชาบู ชาบูกันบ้างเพื่อให้ร่างกายได้พัก และถ้าได้กินเมนูร้อน ๆ แบบนี้ตอนช่วงหน้าหนาวของญี่ปุ่นด้วยแล้ว คงเป็นอะไรที่ฟินจนลืมความหนาวกันไปเลย
ร้าน ‘Hanasakaji-san’ แห่งนี้มีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Shibuya มาก ๆ เดินไม่ไกลก็จะมาถึงดินแดนของคนรักเนื้อแล้ว ที่นี่เป็นร้านชาบูร้านแรกในญี่ปุ่นที่ได้รับการรับรองเครื่องหมายฮาลาล จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เราจะสามารถพบเห็นพี่น้องชาวมุสลิมทั้งที่เป็นชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่เดินทางมายังร้านแห่งนี้เพราะชื่อเสียงอันโด่งดัง
หมายเลขของใบรับรองของที่นี่คือ ‘NO.0001’ ที่ดำเนินการออกให้โดยบริษัท ฮาลาลมาเลเซีย จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งจากหมายเลขก็คงบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าที่นี่คือร้านแรกจริง ๆ และยังคงได้รับการรับรองมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
เนื้อวัวที่ใช้สำหรับเมนูชาบูนั้นได้มาจากจังหวัดมิยาซากิซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องเนื้อวัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และผ่านขั้นตอนการผลิตและปรุงรสอย่างถูกต้อง ไม่มีส่วนผสมต้องห้ามสำหรับชาวมุสลิมอย่างเช่นแอลกอฮอลล์
หากมาทานอาหารที่นี่สามารถเลือกสั่งเป็น ‘เซ็ตฮาลาล’ ได้เลย เพราะเป็นเซ็ตที่ได้รับความนิยมมากจากชาวมุสลิมในญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกเหนือจากเนื้อสำหรับชาบูแล้วก็ยังเสิร์ฟมาพร้อมเมนูอาหารญี่ปุ่นอย่างเทมปุระ ซาชิมิ และอื่น ๆ
สำหรับวิธีการกินชาบูให้อร่อยนั้นจะต้องคีบเนื้อวัวไว้ด้วยที่คีบที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ จากนั้นนำลงหม้อต้มชาบูเพื่อลวกให้เนื้อสุก แต่ไม่สุกมากจนเกินไปเพราะจะทำให้เนื้อนั้นเหนียวและไม่อร่อย ส่วนขั้นตอนอื่น ๆ ที่จะทำให้อาหารมื้อนี้ของคุณอร่อยขึ้นก็สามารถสอบถามพนักงานได้เลย เพราะพวกเขายินดีให้บริการอยู่เสมอ
เมื่อได้เนื้อที่ความสุกตามต้องการแล้วก็นำลงจิ้มน้ำจิ้มน้ำมันงาสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งสำหรับชาวไทยอย่างเราผู้ชื่นชอบในอาหารรสแซ่บก็สามารถใส่พริก กระเทียมหรือพริกไทยเพิ่มเติมเพื่อปรุงรสชาติให้กับตัวคุณเองได้อย่างง่าย ๆ
คนรักเมนูต้ม ๆ ต้องห้ามพลาดอย่างแน่นอนสำหรับร้านชาบูสุดอร่อยแบบนี้ เพราะนอกจากอาหารจะอร่อยแล้วยังมีบรรยากาศที่ดีน่านั่งอีกด้วย สามารถมาลิ้มรสความอร่อยแบบนี้ที่รับประกันว่าถูกต้องตามหลักศาสนาได้ที่ร้านแห่งนี้ แถมยังเดินทางง่ายและอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวอีกด้วย
Hanasakaji-san (花咲かじいさん 桜丘店)
ที่อยู่ | 3-22 ชั้น B1 Sakurabiru, Sakuragaoka -cho, Shibuya-ku, Tokyo 150-0031 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line มาลงสถานี Shibuya แล้วเดินอีก 3 นาที |
เวลาทำการ | จันทร์-ศุกร์ : 10.30-15.00 น./17.00-24.00 น. วันเสาร์ : 17.00-24.00 น. |
ราคา | ประมาณ 4,000-4,999 เยน |
โทรศัพท์ | 03-3496-7777 |
Hanasakaji-san |