คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
						
						15%
						
						15%
						
						5%
ศาลเจ้าคามาโดะตั้งอยู่ในพื้นที่เงียบสงบทางตะวันออกเฉียงเหนือของเชิงเขาโฮมัน ภูเขาแห่งนี้มีความสูงอยู่ที่ 829 เมตร สำหรับภูเขาโฮมันนั้น ตั้งอยู่ทางทิศคิมง (ตรงกับทิศตะวันออกเฉัยงเหนือ) ของรัฐบาลดาไซฟุในอดีต ซึ่งเชื่อว่าเป็นทิศอัปมงคล เพื่อเป็นการป้องกันสิ่งชั่วร้าย จึงได้มีพิธีกรรมปัดเป่าวิญญาณร้าย และมีการสร้างศาลเจ้าคามาโดะขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามายังในเมือง
Kamado Shrine

ที่นี่จึงเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ด้วยกัน 2 จุด นั่นคือบริเวณเชิงเขาและบริเวณยอดเขา โดยได้รับการบูชามาตั้งแต่สมัยโบราณในฐานะที่เป็นที่พำนักของคามิ (เทพแห่งความเชื่อชินโต) เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อเทพีทามาโยริ ฮิเมะในศาสนาชินโต ซึ่งเป็นพระมารดาของจิมมุ จักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่น และจักรพรรดินีจินกุและโอจินพระราชโอรส  ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 15 ของญี่ปุ่น
ว่ากันว่าการสักการะที่นี่เริ่มต้นขึ้นในศตวรรษที่ 7 เมื่อดาไซฟุกลายเป็นเมืองหลวงทางตะวันตกของญี่ปุ่น ตำนานเล่าว่าทามาโยริ ฮิเมะเป็น “เทพแห่งการจับคู่” มาตั้งแต่สมัยโบราณ และเป็นเทพเจ้าที่นำความสัมพันธ์อันดีระหว่างชายและหญิง ครอบครัว เพื่อน การงาน ธรรมชาติ ฯลฯ และในเวลาต่อมาศาลเจ้าคามาโดะได้กลายเป็นสถานที่รวมตัวสำหรับคู่รัก และคนโสดที่กำลังมองหาความรักด้วยนั่นเอง

จากเชิงเขาไปยังยอดเขาโฮมัน มีระยะทางไปกลับประมาณ 6 กิโลเมตรและใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงจึงจะพิชิตยอดเขาสำเร็จ ว่ากันว่าวิวบนยอดเขาแห่งนี้นั้นยอดเยี่ยมมาก และสภาพทั่วไปของป่าระหว่างทางก็มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และถูกดูแลเป็นอย่างดี
แผ่นจารึกคำอธิษฐานมากมาย เขียนคำอธิษฐานลงบนแผ่นเดียวแล้วแขวนไว้ในบริเวณศาลเจ้า จากศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการขอพรด้าน “ความรัก” หากไปที่ศาลเจ้าแล้ว จะพบเห็นแผ่นป้ายขอพร (เอมะ) ที่ทางผู้มาสักการะเขียนไว้ มีทั้งที่วาดเป็นลวดลายตัวละครของเรื่องอยู่เป็นจำนวนมากค่ะ

อาคารที่จำหน่ายเครื่องราง รวมทั้งแผ่นจารึกคำอธิษฐานมากมายนั้น ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2012 ด้วยการออกแบบที่ทันสมัย ผลงานของคุณมาซามิจิ คาตายามะ (Masamichi Katayama) นักออกแบบภายในชื่อดังระดับโลก ที่มีความตั้งใจจะให้อาคารนี้มีอายุไปกว่า 100 ปี และจะเป็นสถานที่ที่มีผู้คนหลากหลายมารวมตัว อาคารในศาลเจ้าสุดชิคแห่งนี้จึงมักพบในหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบร่วมสมัย ที่นำเสนอเครื่องรางหลากสีสันที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม และแต่ละชิ้นก็มีพลัง มีจุดประสงค์เฉพาะตัว ราคาย่อมเยา ทำให้เป็นของขวัญที่วิเศษมากสำหรับผู้มาเยือนที่นี่

และในส่วนของด้านหลังอาคารเป็นจุดชมวิวพร้อมม้านั่งมีสไตล์โดดเด่น ซึ่งออกแบบโดยคุณแจสเปอร์ มอร์ริสัน (Jasper Morrison) นักออกแบบอุตสาหกรรมชาวอังกฤษ เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนช่วงสั้นๆ และมองเห็นวิวบริเวณโดยรอบรวมถึงทิวทัศน์ของพื้นที่ดาไซฟุอีกด้วย

ศาลเจ้าคามาโดะนั้นมีชื่อเสียงมายาวนานในฐานะจุดชมดอกซากุระ และเป็นหัวข้อของบทกวีญี่ปุ่นโบราณหลายบท ส่งผลให้ในทุกฤดูใบไม้ผลิบริเวณศาลเจ้าจะเต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่ง มีต้นซากุระที่อุทิศให้กับศาลเจ้าเพื่อรำลึกถึงการแต่งงาน เหตุการณ์สำคัญในชีวิต และเพื่อขอพรให้มีความสุขชั่วนิรันดร์

ส่วนช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะพบภาพใบไม้เปลี่ยนสีแสนงดงามที่ศาลเจ้าคามาโดะ ทุกปีตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ต้นไม้ผลัดใบประมาณ 300 ต้น เช่น ต้นแปะก๊วยและต้นเมเปิลจะค่อยๆ เปลี่ยนสีเนื่องจากอุณหภูมิที่แตกต่างกัน และบริเวณศาลเจ้าจะถูกย้อมด้วยผ้าสีแดงและสีส้มของใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ในช่วงกลางคืนจะมีการประดับไฟส่องสว่างทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับโลกลึกลับที่แตกต่างจากกลางวัน โดยจะเปิดไฟตั้งแต่ตอนพระอาทิตย์ตกไปจนถึงเวลา 21.00 น. 

อย่างที่รู้กันว่าศาลเจ้าคามาโดะนั้นเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งการจับคู่ และยังเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับการชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของภูเขาโฮมัน จึงเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการเฉลิมฉลองการเริ่มต้นชีวิตคู่และการขอพรให้มีความสุขไปชั่วนิรันดร์ ทำให้ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่นนิยมมาจัดพิธีแต่งงานแบบชินโตอันศักดิ์สิทธิ์โดยสามารถมีผู้เข้าร่วมงานราวๆ 40 คนด้วยกัน
เนื่องจากศาลเจ้าแห่งนี้มีความเชื่อมโยงกับการ์ตูนเรื่องดังเรื่องนี้อยู่หลายจุด ไล่ตั้งแต่ชื่อของตัวละครหลักอย่าง “คามาโดะ ทันจิโร่” ที่มีความคล้ายคลึงกับชื่อของศาลเจ้าแห่งนี้ และความเชื่อมโยงในลำดับต่อไปคือ ตัวละครในเรื่องจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับ “การปราบปรามยักษ์ชั่วร้าย” ซึ่งก็มีความสอดคล้องในบางมุมนั่นก็คือ ศาลเจ้านี้ในสมัยโบราณยังถูกใช้เป็นสถานที่ปราบวิญญาณชั่วร้ายของรัฐบาลดาไซฟุ โดยผู้คนมักจะเดินทางไปที่นี่เพื่อสวดภาวนาขอให้ปลอดภัยจากการเดินทางและมีความสำเร็จในการทำธุรกิจ
จึงส่งผลให้ศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการป้องกันและปัดเป่าวิญญาณ รวมทั้งสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และอีกเรื่องที่มีความเกี่ยวโยงกันคือ ผู้ที่ขึ้นมาฝึกตนบนภูเขาลูกนี้ จะต้องสวมใส่ชุด “ลวดลายอิจิมัทสึ” ซึ่งเป็นลายเดียวกันกับเสื้อคลุมของคามาโดะ ทันจิโร่อีกด้วย โดยความเชื่อมโยงต่างๆ ดังที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ล้วนส่งผลให้แฟนๆ ของมังงะเรื่องนี้ต่างเดินทางมาสักการะเทพศักดิ์สิทธิ์ที่นี่กันไม่ขาดสาย และพร้อมใจกันออกแบบลวดลายตัวละครของมังงะเรื่องนี้ บนแผ่นป้ายขอพร หรือที่เรียกกันว่าเอมะอยู่เป็นจำนวนมากด้วย
พิกัด ศาลเจ้าคามาโดะ (Kamado Shrine)
| ที่อยู่ | 883 Uchiyama, Dazaifu, Fukuoka 818-0115 | 
| วิธีเดินทาง | จากสถานีรถไฟฮากาตะ ขึ้นรถไฟ Nishitetsu สาย Tenjin-Omuta Line มาลง ที่ Nishitetsu-Futsukaichi Station ต่อรถไฟ    สาย Dazaifu Line ลงที่สถานีNishitetsu Gojō Station แล้วต่อรถบัส MahorobaGo มาลงป้าย Uchiyama(Kamado Jinja-Mae)  | 
| เวลาทำการ | 8.30 – 18.00 น. | 
| ราคา | ฟรี | 
| Website | Kamado Shrine | 
ไม่ไกลจากศาลเจ้าคามาโดะแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงหลายจุดที่น่าสนใจ และน่าไปเยือนไม่แพ้กัน โดยจะมีที่ไหนบ้างตามมาเลยค่ะ

ไปถึงเมืองดาไซฟุทั้งที ไม่แวะที่นี่ไม่ได้นะ เพราะศาลเจ้าดาไซฟุเทนมังกุแห่งนี้เป็นศาลเจ้าคู่บ้านคู่เมืองของจ.ฟุกุโอกะเลยก็ว่าได้ ว่ากันว่าศาลเจ้าที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องให้โชคด้านการเรียนการศึกษา ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจหากไปแล้วจะเจอเด็กนักเรียนมากมาย เพราะในทุกปีจะมีนักเรียนนักศึกษาที่ต้องเตรียมสอบมาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้มากถึง 7 ล้านคนด้วยกัน นอกจากนั้นยังมีนักท่องเที่ยวที่ต่างแวะเวียนมาที่นี่ไม่ขาดสาย ตัวศาลหลักสร้างขึ้นอยู่เหนือหลุมฝังศพของซุกาวาระ มิจิซาเนะ (Sugawara Michizane) นักวิชาการและนักการเมืองชาวญี่ปุ่นผู้มีบทบาทสำคัญในอดีตเมื่อราว 1,000 ปีก่อน ซึ่งหลังจากเสียชีวิตลงเขาได้กลายเป็นที่สักการะบูชาของชาวญี่ปุ่นในฐานะเทพเจ้าแห่งการศึกษานั่นเอง
พิกัด ศาลเจ้าดาไซฟุเทนมังกุ (Dazaifu Tenmangu)
| ที่อยู่ | 4-7-1 Saifu, Dazaifu, Fukuoka 818-0117 | 
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Nishitetsu Dazaifu Line ไปลงที่สถานี Nishitetsu Dazaifu ใช้เวลา 8 นาทีแล้วเดินต่ออีก 5 นาที | 
| เวลาทำการ | 6.00 – 19.30 น. | 
| ราคา | ฟรี | 
| Website | Dazaifu Tenmangu | 

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติคิวชูแห่งนี้เปิดทำการในปี ค.ศ. 2005 เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งที่ 4 ของประเทศญี่ปุ่น อีก 3 แห่งนั้นตั้งอยู่ในโตเกียว เกียวโต นารา ถือเป็น 1 ใน 4 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่ทำการจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของการแลกเปลื่ยนกันทางวัฒนธรรมระหว่างภูมิภาคเอเชียและญี่ปุ่นผ่านทางสมบัติประจำชาติต่างๆ ภายในทำการจัดแสดงนิทรรศการศิลปะและประวัติศาสตร์แบบหมุนเวียนมีความล้ำสมัย โดดเด่นที่ตัวอาคารทำจากกระจกทำให้สะท้อนเงาของท้องฟ้าและภูเขาที่รายล้อม เป็นทัศนียภาพที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง
พิกัด พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติคิวชู (Kyushu National Museum)
| ที่อยู่ | 4-7-2 Ishizaka, Dazaifu, Fukuoka 818-0118 | 
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Nishitetsu Dazaifu Line ไปลงที่สถานี Nishitetsu Dazaifu ใช้เวลา 8 นาทีแล้วเดินต่ออีก 5 นาที | 
| เวลาทำการ | 9.30 – 17.00 น. (ปิดวันจันทร์) | 
| ราคา | ฟรี | 
| Website | Kyushu National Museum | 
ปราสาทอิวายะเป็นปราสาทบนภูเขาที่สร้างขึ้นบนภูเขาชิโอจิ ในช่วงยุคเซ็นโกกุ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นฐานสำคัญในการปกครองเมืองดาไซฟุ และข้าราชบริพารของตระกูลโออุจิในซูโอะ นางาโตะ และตระกูลโอโตโมะในบุงโกะก็กลายเป็นขุนนางของปราสาทแห่งนี้ โดยซากปรักหักพังของปราสาทนั้นเป็นจุดชมวิวที่ดีเยี่ยมสำหรับการชมทิวทัศน์เมืองดาไซฟุทั้งหมด นอกจากนั้นช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี ที่นี่ยังเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมอีกแห่งในจ.ฟุกุโอกะอีกด้วย
พิกัด ซากปราสาทอิวายะ (Iwaya Castle Ruins)
| ที่อยู่ | 704 Kanzeonji, Dazaifu, Fukuoka 818-0101 | 
| วิธีเดินทาง | เดินจากสถานีรถไฟนิชิเทตสึ ดาไซฟุ ไปประมาณ 40 นาที | 
| เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง | 
| ราคา | ฟรี | 
| Website | Iwaya Castle Ruins | 
ทุกวันนี้ผู้คนจำนวนมากต่างแวะเวียนมาเยี่ยมชมศาลเจ้าคามาโดะในฐานะศาลเจ้าที่เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งการจับคู่ ช่วยในเรื่องนำโชคลาภ และขับไล่วิญญาณชั่วร้าย นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิและชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงอีกด้วย สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในเมืองดาไซฟุ เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จึงได้รับการอนุรักษ์และส่งต่ออย่างระมัดระวังในฐานะที่ตั้งของ “ภูเขาศักดิ์สิทธิ์” ภูเขาที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเพราะมีการทำพิธีกรรมระดับชาติ และมีความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น

Blogger : Pennapa Uttamang
อดีตบรรณาธิการผู้รับใช้ถ้อยคำมาตลอดหลายสิบปี ปัจจุบันก็ยังคงทำงานเขียน วาดภาพประกอบ เลี้ยงแมว และทำสตูดิโอออกแบบเล็กๆ เกี่ยวกับโบรชัวร์ญี่ปุ่น เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนผ่านเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรามากมายเช่นกัน
86 Posts
				
ไปคิวชูทั้งที ต้องไม่พลาด SUNQ Pass! พาเที่ยวทั่วเกาะ คุ้ม ครบ จบในใบเดียว
SUNQ Pass คือบัตรโดยสารสุดคุ้มที่ให้คุณขึ้นรถบัสได้ไม่จำกัด ทั้งรถบัสด่วนและรถ...

รีวิวที่พักฟุกุโอกะ Cross Life Hakata Yanagibashi และ Cross Life Hakata Tenjin
รีวิว Cross Life Hakata Yanagibashi Hotel และ Cross Life Hakata Tenjin มีสิ่งอ...

เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...

อยากเที่ยวคิวชูให้คุ้ม ต้องรู้จัก! SUNQ Pass กับ 4 ข้อดีที่คุณไม่ควรพลาด
ไปคิวชูทั้งที เที่ยวยังไงให้คุ้มที่สุด? คำตอบคือ... SUNQ Pass! บัตรเดียวขึ้นรถ...

สนุกกับการเที่ยวรอบเมืองฟุกุโอกะให้เต็มที่ ด้วยบัตรโดยสาร “Fukuoka City 1-Day Pass” ที่ทั้งคุ้มและสะดวก!
บัตร Fukuoka City 1-Day Pass ช่วยให้คุณสามารถนั่งรถบัสของ Nishitetsu ภายในเมือ...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515