คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
15%
5%
17%
ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher’s Path หรือ Tetsugaku-no-michi) ที่นี่เป็นเส้นทางเดินเลียบคลองที่มีต้นซากุระเรียงรายอยู่ประมาณ 500 ต้นซึ่งในนั้นมีดอกซากุระสายพันธุ์โซเมอิโยชิโนะ (Somei Yoshino) เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรวมอยู่ด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ช่วงเทศกาลฮานามิ ถนนสายนี้จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งคนญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเส้นทางนี้ เมื่อพระอาทิตย์เริ่มจะลับขอบฟ้า จะมีไฟส่องสว่างในช่วงเวลากลางคืนด้วย ซึ่งดูมีมนต์เสน่ห์อย่าบอกใครเลย และการมาเยือนยังถนนสายนี้แนะนำให้เริ่มจากวัดคินคะคุจิ หรือวัดนันเซนจิ ซึ่งอยู่ทางใต้สุดและทางเหนือสุดของถนนแห่งนี้นั่นเอง
เส้นทางนี้เปิดใช้งานครั้งแรกในปีค.ศ.1890 และขยายขนาดอีกครั้งในปีค.ศ.1912 เดิมเป็นเส้นทางชลประทานในเกียวโตที่มีการนำน้ำจากทะเลสาบบิวะมาใช้ในเขตฮิกาชิยามะและที่นี่ยังขนส่งน้ำมาใช้เป็นพลังงานให้กับโรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งแรกของญี่ปุ่นด้วย ส่วนชื่อนี้ว่ากันว่าเกิดจากการที่มีศาสตราจารย์ด้านปรัชญาของมหาวิทยาลัยเกียวโตที่มีชื่อเสียงในช่วงศตวรรษที่ 20 ชื่อว่านิชิดะ คิตาโร มักใช้เส้นทางนี้เดินไปมหาวิทยาลัย เดินทำสมาธิ และใช้ชีวิตประจำวัน

หากไล่เรียงดูจะพบได้ว่าตลอดเส้นทางราวๆ 2 กิโลเมตรใช้เวลาเดินเร็วๆ ประมาณ 30 นาที จะผ่านวัด ศาลเจ้าและสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น วัดโฮเนนอิน ศาลเจ้าโอโตโยะ วัดเอคันโดะ สุสาน แกลอรี่ คาเฟ่ ร้านอาหารด้วย เดินเพลินๆ ชมความงามของธรรมชาติ แล้วก็แวะพักได้ตามที่ใจต้องการ บางคนอาจจะเดินเพลินมากกว่า 30 นาทีในบริเวณนี้ก็เป็นได้ (บางคนใช้เวลา 1 – 2 ชั่วโมง) เส้นทางเดินนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลฮานามิในฤดูใบไม้ผลิ

การเดินเล่นไปตามถนนสายนักปราชญ์ จะพบภาพการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูใบไม้ผลิจะแสดงให้เห็นความคลาสสิกตามฤดูกาลของญี่ปุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม และไม่เพียงแต่สองฤดูกาลยอดนิยมนี้เท่านั้น ดอกคามีเลียที่เบ่งบานในฤดูหนาวก็สวยงาม ไปจนถึงแมกไม้เขียวขจีที่เป็นแหล่งหิ่งห้อยในช่วงฤดูร้อนก็แนะนำให้มาเดินเล่นเพลินๆ ได้เช่นกัน

สิ่งที่ทําให้ The Philosopher’s Path แตกต่างคือทิวทัศน์อันน่าทึ่ง เส้นทางทอดยาวประมาณสองกิโลเมตรและเรียงรายไปด้วยต้นซากุระหลายร้อยต้นที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกแห่งในเกียวโต ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่งมากที่สุดโดยปกติแล้วจะใช้ เวลาเดินประมาณ 30 นาทีแต่ช่วงใบไม้ผลิอาจจะใช้เวลาในการเดินชมดอกไม้นานมากกว่านั้น

นอกจากจะเป็นเส้นทางเดินที่ชวนหลีกหนีจากความวุ่นวายในย่านท่องเที่ยวยอดนิยมของเกียว โต ถนนสายนักปราชญ์ยังเป็นจุดท่องเที่ยวแนะนำในฤดูใบไม้ร่วงด้วย ภาพสีสันของใบไม้ที่เปลี่ยนสีไปตามฤดูกาลทำให้ถนนสายนี้ยิ่งมีชีวิตชีวา บริเวณใกล้เคียงมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างวัดเอคันโด วัดนันเซนจิ และวัดคินคะคุจิ แนะนำให้มาสำรวจด้วยกัน โปรดเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นไปตามเส้นทางที่งดงามนี้
จะว่าไปแล้วใครอยากทัวร์ 9 วัดและศาลเจ้าแล้ว รอบๆ พื้นที่บริเวณนี้ยังมีวัดและศาลเจ้าน้อยใหญ่ให้เที่ยวชมได้อย่างสบายใจ สายทัวร์ไหว้พระแนะนำย่านนี้เลย แถมวัดและศาลเจ้าส่วนใหญ่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าสนใจ อีกทั้งความสวยงามตามฤดูกาลที่ทำให้วัดและศาลเจ้าในย่านนี้เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ และไม่อยากให้พลาดเช่นกัน

ถือจุดเริ่มต้นของถนนสายนักปราชญ์อย่างวัดคินคะคุจิ หรือ วัดเงินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่งในเกียวโต โดยวัดแห่งนี้ เดิมทีเป็นบ้านพักตากอากาศหลังเกษียณอายุของโชกุนอาชิกางะ โยชิมาซา ในช่วงศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันกลายเป็นวัดที่มีสวนมอสและตัวอาคารโบราณที่งดงาม มีการนำแนวคิดแบบเซนมาใช้ในวัดแห่งนี้ ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบของวัด และความสําคัญทางประวัติศาสตร์ทําให้วัดเป็นตัวอย่างของความสุนทรียศาสตร์แบบเซนของญี่ปุ่น และความน่าสนใจอีกอย่างคือ แม้ว่าจะมีชื่อว่าวัดเงิน แต่ที่นี่กลับไม่มีสีเงินอยู่เลย

หรือที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการในชื่อวัดเซนรินจิ อยู่ในนิกายโจโดะของพุทธศาสนาในญี่ปุ่นที่นี่มีชื่อเสียงมากในเรื่องวัดที่เต็มไปด้วยสีสัน และการประดับไฟยามเย็นในฤดูใบไม้ร่วง ส่วนตัววัดมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีอาคารหลากหลายและสวนสระน้ำสวยงาม ส่วนที่มาที่ไปของที่นี่คือทางราชสำนักขุนนางแห่งยุคเฮอัน (ค.ศ.794 – 1185) ได้บริจาควิลล่าของเขาให้กับนักบวช ซึ่งได้เปลี่ยนให้เป็นวัดภายใต้ชื่อเซนรินจิ ที่แปลตามตัวอักษรว่า “วัดในป่าอันเงียบสงบ” จุดเด่นของที่นี่คือ เจดีย์ทาโฮโตะซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขานักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปด้านบนแล้วมองภาพเมืองเกียวโตในมุมกว้างได้

วัดนี้ตั้งอยู่บริเวณถนนสายนักปราชญ์ด้วย จุดเด่นคือแมกไม้ที่รายล้อมวัดให้ความร่มรื่นและเขียวขจีในฤดูร้อน มีมอสขึ้นปกคลุมบนประตูด้านหน้า ให้ความรู้สึกแตกต่างจากวัดอื่นๆ ในเกียวโต และยังเป็นที่นิยมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเพราะติดอันดับ 1 ใน 10 วัดที่ต้องไปชมในช่วงใบไม้ร่วงของเกียวโตด้วย ส่วนที่มาที่ไปของวัดนั้นถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1680 เพื่อรำลึกถึงนักบวชโฮเนนผู้เผยแพร่ศาสนาพุทธนิกายโจโดะ พื้นที่ภายในวัดยังมีการจัดแสดงผลงานศิลปะที่น่าสนใจให้เข้าชมฟรีอีกด้วย
นอกจากตลอดเส้นทางนี้จะเหมาะในการมาเดินทอดน่องชมดอกไม้ ไหว้พระตามวัดและศาลเจ้าระหว่างทางแล้ว ยังอยากแนะนำให้นักท่องเที่ยว แวะถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ระหว่างทาง แวะร้านน้ำชา คาเฟ่และร้านอาหารแปลกตาที่เรียงรายตลอดเส้นทางนี้ อย่าลังเลที่จะทำกิจกรรมตามที่เราแนะนำกันนะ

แม้ว่าในปัจจุบันจะเป็นอีกเส้นทางท่องเที่ยวที่หลายคนนิยม แต่เส้นทางนักปราชญ์ก็ยังคงเป็นสถานที่สำหรับการทำสมาธิ เป็นพื้นที่ของศาลเจ้า วัด และสถานที่ทางจิตวิญญาณเล็กๆ นับไม่ถ้วน ตลอดเส้นทางเดิน นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาชื่นชมเสียงน้ำไหล เสียงนกร้อง และความผ่อนคลายไปตามการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลรอบตัว
เกียวโต ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเมืองชั้นนำของญี่ปุ่นในการถ่ายภาพอันน่าทึ่ง และเป็นหนึ่งในเมืองที่ดีที่สุดในเอเชียที่น่าไปเยือนในปีค.ศ. 2022 พิกัดของถนนสายนักปราชญ์เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของเหล่าช่างภาพจากทั่วโลกเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่จะเต็มไปด้วยเหล่าช่างภาพ รวมทั้งคนที่ชอบบันทึกฤดูกาลที่สวยงามไว้ในภาพถ่าย บางคนถือโอกาสนี้ถ่ายภาพที่ระลึกในโอกาสพิเศษต่างๆ เก็บไว้ดูด้วยนะ
เดินชมบรรยากาศเพลินๆ แล้ว แวะพักหายใจหายคอที่ร้านน้ำชา หรือคาเฟ่ระหว่างเส้นทางกันสักหน่อย จะพบได้ว่ากระจายอยู่ตามเส้นทางมากมาย ร้านน้ำชาและคาเฟ่ที่นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับชาและขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ท่ามกลางฉากหลังที่สวยงามของเส้นทางเดินนี้

ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher’s Path)
| ที่อยู่ | Tetsugaku-no-michi, Sakyō-ku, Kyōto-shi, Kyōto |
| วิธีเดินทาง | เดินจาก Ginkakuji Michi Bus Stop ประมาณ 6 นาที |
| เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
| ราคา | เข้าชมฟรี |
| Website | Philosopher’s Pat |
ตามที่บอกไว้ข้างต้นใครอยากทัวร์ 9 วัดให้พุ่งตรงมาที่เกียวโต และโดยเฉพาะย่านถนนสายนักปราชญ์เส้นนี้ด้วย เรียกว่าวัดแน่นมาก สองข้างทางของถนนเรียงรายไปด้วยวัดและศาลเจ้าน้อยใหญ่ แบบทั้งที่มีชื่อเสียง มีประวัติศาสตร์ และมีความสำคัญต่อเกียวโต หรือเป็นวัดและศาลเจ้าเล็กๆ ในท้องถิ่นก็สามารถเข้าไปสักการะได้

วัดชินเนียวโดเป็นวัดนิกายเทนได และเป็นที่รู้จักในฐานะจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียง แต่ยังมีสีสันสวยงามของดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ส่วนในฤดูกาลอื่นๆ ก็มีดอกไม้สีสันสวยงามให้ชม ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเยี่ยมชมตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารต่างๆ เช่น ห้องโถงหลักและเจดีย์สามชั้นที่สร้างขึ้นใหม่ในสมัยเอโดะ นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินไปกับการมาเยือนยังวัดแห่งนี้ รวมถึงบรรยากาศในห้องโถงหลัก ผลงานศิลปะในห้องอ่านหนังสือ และภูมิทัศน์โดยรอบ
วัดชินเนียวโด (Shinnyo-do)
| ที่อยู่ | 82 Jodoji Shinnyocho, Sakyo Ward, Kyoto, 606-8414 |
| วิธีเดินทาง | ขึ้นรถบัสเมืองเกียวโต No. 5, 7 จากสถานี JR Kyoto Station ไปลงที่ป้าย Shinnyo-do-mae เดินต่อประมาณ 8 นาที |
| เวลาทำการ | 9.00 – 16.00 น. |
| ราคา | เข้าชมฟรี |
| Website | Shinnyo-do |

ชวนย้อนเวลากลับไปในประวัติศาสตร์ที่นี่ แต่เดิมเป็นสถานที่ประทับขององค์จักรพรรดิคาเมยามะหลังสละราชสมบัติ พระองค์ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนานิกายเซน จึงได้อุทิศที่ประทับแห่งนี้ให้สร้างเป็นวัดนันเซนจิและโรงเรียนสอนศาสนานิกายดังกล่าว ซึ่งโดยรอบแล้วมีพื้นที่กว้างขวางและล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม นักท่องเที่ยวนิยมมาที่นี่กันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แนะนำให้เยี่ยมชมโฮโจซึ่งเป็นที่พำนักของอดีตเจ้าอาวาส และเป็นพระอารามหลักของวัดนันเซนจิซึ่งมีสวนหินที่มีชื่อเสียงและมีภาพวาดศิลปะที่งดงามให้ชม
วัดนันเซนจิ (Nanzenji Temple)
| ที่อยู่ | 86 Nanzenji Fukuchicho, Sakyo Ward, Kyoto, 606-8435 |
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Subway Line ลงสถานี Keage Station |
| เวลาทำการ | 8.40 -17.00 น. |
| ราคา | บริเวณวัดเข้าชมฟรี / ค่าเข้าโฮโจ ผู้ใหญ่ 600 เยน /มัธยม 500 เยน และประถม 400 เยน |
| Website | Nanzenji Temple |

เป็นอีกวัดที่มีทัศนียภาพที่งดงามมากอีกแห่งในเกียวโต จึงเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม เหล่านักท่องเที่ยวมักมาขอพรในเรื่องการค้าขาย และขอพรให้ประสบความสำเร็จทางด้านอาชีพการงานเกี่ยวกับการค้าขายและศิลปะ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจอยู่มากมาย นอกจากจุดเด่นจะมีรูปปั้นทานูกิเรียงรายจำนวนมากแล้ว ที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องตัวอาคารที่มีลักษณะคล้ายกับวัดคิโยมิซึหรือวัดน้ำใส แต่คนไม่พลุกพล่านเท่า
วัดทานุกิดานิฟุโดอิน (Tanukidani-san Fudo-in)
| ที่อยู่ | 6 Ichijoji Matsubaracho, Sakyo Ward, Kyoto, 606-8156 |
| วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสไปลงที่ป้ายอิจิโจจิซาการิมัตสึโจ แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที |
| เวลาทำการ | 10.00 -15.00 น. |
| ราคา | เข้าชมฟรี |
| Website | Tanukidani-san Fudo-in |
The Philosopher’s Path ถือเป็นอีกแหล่งขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เส้นทางนี้มีชื่อเสียงในด้านความงามอันเงียบสงบ เป็นมากกว่าทางเดินชมดอกไม้ธรรมดา แต่เป็นการเดินทางผ่านประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่อยู่กับชาวเมืองมาแสนนาน ในขณะที่กำลังเดินเล่นอย่างครุ่นคิดใต้ร่มเงาของดอกซากุระหรือริมลําธารที่ไหลเอื่อยๆ นี้ ไม่เพียงแต่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ยังเป็นการได้สัมผัสกับจิตวิญญาณของเกียวโตไปพร้อมกันด้วย

Blogger : Pennapa Uttamang
อดีตบรรณาธิการผู้รับใช้ถ้อยคำมาตลอดหลายสิบปี ปัจจุบันก็ยังคงทำงานเขียน วาดภาพประกอบ เลี้ยงแมว และทำสตูดิโอออกแบบเล็กๆ เกี่ยวกับโบรชัวร์ญี่ปุ่น เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนผ่านเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรามากมายเช่นกัน
86 Posts

ท่องเที่ยวเมืองอาริดะ (Arida) จังหวัดวาคายามะ (Wakayama): 10 จุดเช็กอิน ผ่อนคลายท่ามกลางทะเล ธรรมชาติ และส้มมิคัง
[ทิวทัศน์สวยงามที่ทะเลและท้องฟ้าเชื่อมต่อเป็นผืนเดียวกัน] ท่าเรือประมงโออิ (Oi...

เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...

รีวิวเที่ยวโอซาก้า เที่ยวชมเมืองกับ OSAKA SKY VISTA และ “Tempozan Harbor Village” ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต Kaiyukan
“Osaka Sky Vista” บัสแบบไร้หลังคาที่จะพาเรานั่งชมแหล่งท่องเที่ยวรอบเมืองโอซาก้...

Kintetsu Department Store Uehommachi ห้างติดสถานีรถไฟใจกลางโอซาก้า กับส่วนลดสุดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว
ห้าง Kintetsu Department Store, Uehommachi Kintetsu Department Store Ueh...

รีวิว “Eslead Hotel Osaka Shinsaibashi” ที่พักสไตล์เหมือนพักที่บ้านใกล้แหล่งท่องเที่ยวใจกลางโอซาก้า
สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างสำหรับคนที่วางแผนจะมาเที่ยวญี่ปุ่นก็คือที่พัก ครั้งนี้เร...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515