เที่ยวปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle ) ตามรอย Nobunaga ชมวิวสุดงามจากยอดปราสาทที่ทุกคนห้ามพลาด!!!!

ประวัติของปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )

ปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  นั้นสร้างขึ้นประมาณช่วงปีค.ศ. 1201 – 1204 โดย Yukimasa Nikaido ซึ่งเดิมทีมีชื่อว่า ปราสาท Inabayama ซึ่งผู้ครอบครองปราสาทภายใต้ชื่อนี้คนสุดท้ายคือ Saito Dosan จนกระทั่ง Oda Nobunaga ได้ยึดปราสาทอินาบะยามะ ( Inabayama Castle ) มาครองได้ ก็ได้เปลี่ยนชื่อจาก Inabayama ไปเป็นปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  ไม่ได้เพียงแต่จะเปลี่ยนชื่อปราสาทเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนชื่อทั้งพื้นที่ทั้งหมดเป็น Gifu ในปีค.ศ. 1567  

ตัวปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  เดิมนั้นได้ถูกทำลายลงในช่วงหลังสงครามยุทธการปราสาทกิฟุ ( Battle Of Gifu Castle )  โดยชิ้นส่วนของปราสาทบางส่วนได้ถูกนำไปสร้างเป็นปราสาท Kano ต่อมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงเดือนกรกฎาคม ปีค.ศ. 1956 ปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  ก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่แทนของเดิมโดยเป็นโครงสร้างที่เป็นปูน ตั้งอยู่บนภูเขา Kinka 

ปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  นั้นถือว่าเป็นปราสาทที่อยู่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยสูงกว่าระดับน้ำทะเล 329 เมตร ซึ่งในปัจจุบันปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัด Gifu และยังสามารถขึ้นมายังปราสาทบนยอดเขาได้สะดวกด้วยการนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นมา หรือถ้านักท่องเที่ยวต้องการจะเดินขึ้นก็มีเส้นทางที่สำหรับผู้ที่ต้องการเดินขึ้นเขาด้วยเช่นกัน

ปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  นั้น ถือว่าเป็นปราสาทประเภท Mountaintop Castle เพราะตั้งอยู่บนยอดเขา

สิ่งต่างๆที่น่าสนใจของปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle ) 

พิพิธภัณฑ์ภายในปราสาท

ด้านในของปราสาทญี่ปุ่นส่วนใหญ่นั้น มักจะถูกจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ทราบประวัติความเป็นมา เรื่องราวที่สำคัญๆในอดีตเกี่ยวกับปราสาท รวมถึงชุดเกราะของผู้ครอบครองปราสาท ซึ่งปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  ก็ด้วยเช่นกัน

ปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  มีทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกัน โดย 3 ชั้นแรกถูกจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ และชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดเป็นจุดสำหรับชมวิว 

ในพิพิธภัณฑ์ชั้น 1 – 3 นั้น จะเป็นการจัดแสดงเกี่ยวกับวัตถุโบราณ อาวุธต่างๆ รูปภาพ และสิ่งของที่มีความเกี่ยวข้องกับ Nobunaga และปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle ) 

เท่านั้นไม่พอทางทิศตะวันออกของตัวปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  ห่างไปประมาณ 50 เมตร ก็จะมีพิพิธภัณฑ์ Gifu Castle Museum ซึ่งเดิมทีนั้นที่นี่เคยเป็นที่คลังอาวุธมาก่อน ก่อนที่ปัจจุบันจะถูกสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์เช่น เอกสาร ชุดเกราะ ดาบ รวมถึงมุมสำหรับถ่ายรูปแนว Trick Art เป็นต้น

ชมวิวทิวทัศจากยอดเขา Kinka

ชั้น 4 ของปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  นักท่องเที่ยวสามารถมองชมวิวเมือง Gifu ด้านล่างได้ ซึ่งสามารถมองเห็นในแบบพาโนราม่า เลยทีเดียว เท่านั้นไม่พอถ้าวันไหนอากาศแจ่มใสนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นไปถึงเมือง Nagoya ได้เลย 

หรือถ้าเพื่อนๆมาช่วงที่หลังฝนตกแล้วมีหมอกลง ก็จะได้บรรยากาศที่สวยงามอีกแบบหนึ่ง ซึ่งจะคล้ายๆกับว่าปราสาทกำลังลอยอยู่บนฟ้า

จุดชมวิวอีก 1 แห่งของที่นี่ก็คือ ถ้าหากเพื่อนๆนั่งกระเช้าขึ้นมาแล้วเดินไปยังปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  ระหว่างทางจะพบกับจุดชมวิวซึ่งมีร้านอาหารด้วย ซึ่งเพื่อนๆสามารถเข้าไปสั่งอาหารแล้วนั่งกินข้าวพลางชมวิวได้ ซึ่งทำให้ได้บรรยากาศในการกินข้าวไปชมวิวไป โดยเมนูที่แนะนำของร้านนี้คือ ข้าวหน้าเนื้อฮิดะ

Gifu Park

สวนสาธารณะ Gifu เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ที่ตีนเขา Kinka โดยเป็นสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ที่เขียวขจี มีบรรยากาศที่ร่มรื่นมาก และยังเป็นสถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ Gifu และยังเป็นที่ตั้งของสถานีกระเช้าไฟฟ้าที่พานักท่องเที่ยวขึ้นไปยังยอดเขาเพื่อไปปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle ) 

โดยสวนสาธารณะแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมใบไม้เปลี่ยนสี และดอกซากุระ อีกด้วย

ค่าเข้าชมปราสาทกิฟุ (Gifu Castle)

ค่าขึ้นกระเช้าไฟฟ้า

วิธีการเดินทางมายังปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )

ตารางข้อมูล

ปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )

ดูแผนที่ ปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )

หมู่บ้านกระรอก ( Gifu Kinkazan Squirrel Village )

หากเพื่อนๆขึ้นมาบนภูเขา Kinka โดยการนั่งกระเช้าไฟฟ้า เมื่อถึงด้านบนเขาแล้วก็จะพบกับหมู่บ้านกระรอกแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสถานีเลย โดยหมู่บ้านกระรอกแห่งนี้นั้นสร้างขึ้นมามีวัตถุประสงค์คือเพื่อให้เด็กๆได้มีโอกาสได้สัมผัสกับกระรอกป่าบนเขา Kinka ได้อย่างใกล้ชิด

โดยนักท่องเที่ยวสามารถใกล้ชิดกับกระรอกมากมายหลายตัวได้ชนิดที่ว่ากระรอกสามารถเดินขึ้นมาไต่บนตัวนักท่องเที่ยวได้เลย เท่านั้นไม่พอที่นี่ยังสามารถให้อาหารกระรอกได้ โดยเอาอาหารวางใส่มือ ( ที่นี่จะมีถุงมือให้ใส่เพื่อป้องกันโดนกระรอกแทะมือ ) แล้วฝูงกระรอกก็จะมารุมกินอาหารบนมือของนักท่องเที่ยว เรียกได้ว่าฟินน์สุดๆ

หมู่บ้านกระรอก ( Gifu Kinkazan Squirrel Village )

ดูแผนที่ หมู่บ้านกระรอก ( Gifu Kinkazan Squirrel Village )

ปราสาทอินุยามะ ( Inuyama Castle )

ถึงแม้จะอยู่ที่จังหวัด Aichi แต่สามารถเดินทางจากปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  ไปได้โดยง่ายดาย ปราสาทอินุยามะ ( Inuyama Castle ) นั้นถือว่าเป็น 1 ใน 12 ปราสาทดั้งเดิมที่ยังคงเหลืออยู่และได้ถูกจดทะเบียนเป็นสมบัติของชาติด้วย

ภายในปราสาทนั้นนักท่องเที่ยวจะได้เห็นโครงสร้างไม้ของปราสาทดั้งเดิม ห้องรับแขกระดับ Vip รวมถึงด้านบนปราสาทที่ให้นักท่องเที่ยวออกมาที่ระเบียงด้านนอกได้ ซึ่งถือว่าเป็นปราสาทเดียวใน 12 ปราสาทดั้งเดิมที่สามารถออกมาชมวิวที่ระเบียงด้านนอกได้

ปราสาท Inuyama

ดูแผนที่ ปราสาท Inuyama

พิพิธภัณฑ์สงคราม Sekigahara

Sekigahara นั้น ถือว่าเป็นสนามรบที่เปลี่ยนแปลงการปกครองของญี่ปุ่นไปสู่ยุค Edo โดยที่นี่จะมีพิพิธภัณฑ์สงคราม Sekigahara ที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามครั้งนี้ และยังปืน ชุดเกราะ ดาบซามูไร ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันด้วย

นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้วที่นี่ยังมีการเที่ยวแบบตามรอยขุนศึกที่ชื่นชอบด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถขอแผนที่จาก Tourist Information ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามสถานีได้

พิพิธภัณฑ์สงคราม Sekigahara

ดูแผนที่ พิพิธภัณฑ์สงคราม Sekigahara

สรุป

ปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  ถือว่าเป็นปราสาทบนยอดเขาที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท เพราะบริเวณนั้นนอกจากพิพิธภัณฑ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับ Nobunaga แล้วก็ยังมีจุดชมวิว ชมธรรมชาติที่สวยงาม ด้วยเช่นกัน

รวมถึงเด็กๆที่สามารถแวะมาเล่นกับกระรอกได้ที่หมู่บ้านกระรอก นอกจากนั้นแล้วยังสามารถรับประทานอาหารพร้อมกับชมวิวฟินน์ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ถ้าหากมา Gifu แล้ว ปราสาทกิฟุ ( Gifu Castle )  ถือว่าสถานที่ที่ทุกคนต้องมา