รีวิว “ เที่ยวมิเอะ ” เต็มอิ่มกับประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และของกินสุดอร่อยแบบ 2 วัน 1 คืน เดินทางจากโอซาก้า ด้วย Kintetsu Rail Pass

Day 1 

เดินทางจากโอซาก้า โดย รถไฟ Kintetsu

วันแรกเราเริ่มเดินทางออกจากโอซาก้ากันแต่เช้าด้วยรถไฟ Kintetsu จากสถานี Osaka Namba ด้วยรถไฟด่วนที่มุ่งหน้าสู่ Kashikojima รถไฟออกเวลา 7:05 น. โดยรถขบวนนี้เป็นรถที่เราจะต้องทำการจองที่นั่งของตัวเองก่อนออกเดินทาง 

ตั๋ว Kintetsu ‘Rail’ Pass

ครั้งนี้เราเดินทางด้วยตั๋ว Kintetsu Rail Pass 5 day plus ที่จะทำให้การเดินทางของเราสะดวกรวดเร็วมากขึ้น แค่จองผ่านเว็ปไซต์เราก็จะได้รับลิงก์เพื่อเปิดใช้ QR Code ในวันที่เราเริ่มใช้งาน เราก็สามารถใช้สแกนขึ้นรถไฟของ Kintetsu ได้เลย แต่สำหรับรถไฟที่ต้องมีการจองที่นั่งเราก็สามารถจ่ายเงินเพิ่มอีกนิดหน่อยได้

เราใช้เวลาในการเดินทางจากโอซาก้าสู่มิเอะประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างทางเราก็จะได้ดื่มด่ำกับวิถีชนบทแบบญี่ปุ่นที่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติของป่าเขาและทะเล  โดยสถานีปลายทางแรกของเราในวันนี้คือ สถานี Ugata

Shima Green Adventure

จุดแรกที่เราจะพามาแวะนั่นก็คือ Shima Green Adventure ที่เป็นรีสอร์ท Glamping และศูนย์รวมกิจกรรมแบบ Outdoor ที่สามารถร่วมสนุกได้ไม่ว่าจะมากับเพื่อนหรือครอบครัวมากกว่า 20 กิจกรรมเลยทีเดียว

สำหรับคนที่ไม่ได้เช่ารถขับเที่ยวเอง ทาง Shima Green Adventure ก็มีบริการ Shuttle Bus รับส่งจาก สถานี Ugata ด้วย การเดินทางก็ใช้เวลาไม่นานเพียง 10 นาทีจากสถานีเท่านั้น เราก็มาถึง Welcome House แล้ว ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วเข้าสถานที่และตั๋วทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ที่นี่ แนะนำให้จองตั๋วผ่านทางเว็บไซต์มาก่อน

หลังจากเราซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วเราก็มาขึ้นเรากอล์ฟแบบไร้คนขับเพื่อไปส่งเราที่บริเวณทางเข้าลานกิจกรรมกันได้เลย โดยจะมีลานกิจกรรมท่ามกลางธรรมชาติทั้งหมด 4 ลานและลาน Glamping 1 ลานด้วยกัน

สำหรับใครที่อยากจะได้บรรยากาศนอนดูดาว ย่างบาร์บีคิวท่ามกลางธรรมชาติและหมู่ดาวแบบ Luxury จะต้องชอบที่นี่แน่นอน  มีห้องหลายแบบทั้งห้องที่พาสุนัขมาพักด้วยได้ และห้องสุดหรูแบบมีสระว่ายน้ำส่วนตัวให้ได้เลือกพักกัน

และกิจกรรมที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้มาทำนั่นก็คือการเล่น Zip Dive หรือ Zipline แบบนอนที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น กับระยะทาง 620 เมตรที่ความสูง 50 เมตร เป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นสุดๆ ไปเลย

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นที่น่าเล่นอีกมากมาย ถ้าใครมีเวลาเยอะหน่อย เราอยากให้ไปลองเล่น Climbing Tower ซึ่งเป็นที่แรกในญี่ปุ่นที่มี 2 ทาวเวอร์เชื่อมต่อกัน โดยเราจะต้องปีนป่ายผ่านอุปสรรคต่างๆ เพื่อไปตีระฆังบนยอด เรื่องเซฟตี้ก็ไม่ต้องห่วงเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ตลอดเวลา

Shima Green Adventure

ที่อยู่	1614-1 Hamajimacho Hazako, Shima, Mie 517-0403
วิธีเดินทาง	นั่ง Shuttle Bus จากสถานี Ugata 10 นาที
เบอร์โทรศัพท์	0599-52-1141
เวลาทำการ	ขึ้นอยู่กับฤดูการสามารถเช็คได้ทางเว็บไซต์
ราคา	อายุ 12 ปี-64 ปี 3,300 เยน อายุ 6 ปี -11 ปี และ 65 ปีขึ้นไป 2,200 เยน
Website	Shima Green Adventure

ดูแผนที่ Shima Green Adventure

 Anorisaki Lighthouse

จุดต่อไปเรามาเที่ยวจุดชมวิวและแวะถ่ายรูปกันที่ Anorisaki Lighthous ประภาคารสีขาวทรงสี่เหลี่ยมสีขาวที่ตั้งอยู่เหนือถ้ำ Anorisaki กับวิวของอ่าว Matoya และทะเล Kumanonada ในช่วงฤดูหนาวในวันอากาศดีเราสามารถเห็นไปถึงภูเขาไฟฟูจิเลย

Anorisaki Lighthouse

ที่อยู่	794-1 Agocho Anori, Shima, Mie 517-0507
วิธีเดินทาง	ขับรถ 18 นาทีจาก สถานี Ugata
เบอร์โทรศัพท์	0599-47-5622
เวลาทำการ	มีนาคม – ตุลาคม  : จันทร์ – ศุกร์ 9:00-16:00 น.  : เสาร์ – อาทิตย์ 9:00-16:30 น.  พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์  : ทุกวัน 9:00-16:00 น.
ราคา	เด็กชั้นประถมขึ้นไป 300 เยน เด็กต่ำกว่าประถม ฟรี

ดูแผนที่ Anorisaki Lighthouse

 พักทานอาหารกลางวันที่ Kinkoimokobo Uedashoten

ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่บรรยากาศดีๆ อยู่ติดกับประภาคาร ที่มีดีเรื่องของมันหวาน เพราะเขารวมขนมของหวานและของฝาก ที่ทำจากมันหวานไว้ในที่เดียวให้เรามานั่งทานพร้อมจิบกาแฟชมวิวสวยๆ ไปด้วยได้

และแน่นอนว่าอาหารกลางวันมื้อนี้ของเราจะต้องมีมันหวานเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย ข้าวมันหวานที่ทั้งหวานทั้งหอมทำให้ข้าวอร่อยขึ้นไปอีก มาพร้อมกับแกงกะหรี่ปราศจากกลูเตนฝีมือเชฟโรงแรมอร่อยเข้มข้นเผ็ดกำลังดี

Kinkoimokobo Uedashoten

ที่อยู่	〒517-0507 Mie, Shima, Agocho Anori, 794-1
วิธีเดินทาง	ขับรถ 18 นาทีจาก สถานี Ugata
บอร์โทรศัพท์	0599-77-3267
เวลาทำการ	จันทร์ – ศุกร์ 10:00-16:00 น. เสาร์ – อาทิตย์ 9:30-16:00 น.
Website	Kinkoimokobo Uedashoten

ดูแผนที่ Kinkoimokobo Uedashoten

โรงแรม Shima Kanko Hotel

ตกบ่ายๆ เราก็มาเช็คอินกันที่ที่พักของเราในคืนนี้ที่ Shima Kanko Hotel โรงแรมระดับ 5 ดาวตั้งอยู่ในเมือง Shima ที่เคยมีคนสำคัญมาพักแล้วมากมาย กับความสวยเกินบรรยายของอ่าว Ago บรรยากาศร่มรื่น ดาวในตอนกลางคืนของที่นี่ก็สวยมากเช่นกัน

ในคืนนี่เราพักกันที่อาคาร Shima Kanko Hotel The Bay Suites แบบ Twin ห้องกว้างแยกเป็นสัดส่วนทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่น ห้องกว้าง การตกแต่งหรูหราสมกับความเป็นโรงแรมที่ใช้ในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองกันเลยทีเดียว

กิจกรรมร้อยพวงกุญแจไข่มุก

ภายในโรงแรมก็มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้เราได้ทำ ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลต่างๆ และด้วยความที่เป็นเมืองแห่งไข่มุก ครั้งนี้เราเลยได้มีโอกาสทำกิจการร้อยพวงกุญแจไข่มุกอาโกย่า ติดมือไปกลับเป็นที่ระลึกกลับบ้านด้วย

อาหารค่ำ Teppanyaki Restaurant Yamabuki

อาหารค่ำสุดพิเศษของเราวันนี้ก็คือ Teppanyaki ที่เป็นหนึ่งในร้านอาหารของโรงแรมนี้ ตั้งอยู่ที่อาหาร Shima Kanko Hotel The Classic ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอาคารที่เราพัก แต่เราสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ล็อบบี้ให้ขับรถมาส่งและมารับตอนเราทานเสร็จแล้วได้

วัตถุดิบสดใหม่ ระดับพรีเมี่ยมอย่างหอยอาวาบิ ของขึ้นชื่อราคาแพงของจังหวัดอย่างกุ้งอิเซะเอบิ และสุดยอดเนื้อวัวเนื้อมัตซึซากะ ที่ถูกปรุงออกมาอย่างนี้ เนื้อนุ่มละลายในปาก รสชาติอร่อยเหนือคำบรรยาย

อาหารค่ำ Teppanyaki Restaurant Yamabuki

ที่อยู่	731 Agocho Shinmei, Shima, Mie 517-0502
วิธีเดินทาง	นั่งรถ Shuttle ของโรงแรม 3 นาที จากสถานี Kashikojima
เบอร์โทรศัพท์	0599-43-2111
Website	อาหารค่ำ Teppanyaki Restaurant Yamabuki

ดูแผนที่ อาหารค่ำ Teppanyaki Restaurant Yamabuki

Day 2

เดินทางสู่ ศาลเจ้า Ise Jingu

เราออกเดินทางกันแต่เช้าอีกเช่นเคย วันนี้เราจะนั่งรถบัส Pearl Shuttle จากหน้าที่พักเพื่อไปลงที่ Naiku Mae โดยเราสามารถจองที่นั่งได้ที่ฟร้อนท์โรงแรม ค่ารถอยู่ที่ผู้ใหญ่ 1,000 เยน และ เด็ก 500 เยนต่อคน ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 15 นาทีเราก็จะถึง รถรอบแรกออกตอน 8:36 น.

 Okageyokocho

หลังจากที่ลงรถบัสที่หน้าศาลเจ้า เราแนะนำให้แวะมาที่ Okageyokocho ถนนที่รายล้อมไปด้วยบ้านสไตล์เอโดะ ดุจดั่งเราหลุดไปในยุคโบราณเมื่อ 400 ปีก่อน ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของ Oharaimachi ที่รวมของอร่อยไว้มากมาย

Akafukumochi ร้าน Akafuku Honten

ร้านเก่าแก่ที่มีประวัติถึง 300 ปี เป็นร้านน้ำชาที่คอยต้อนรับผู้มาเยือนศาลเจ้า Ise Jingu มาอย่างยาวนาน Akafuku Mochi เป็นขนมที่ผลิตเฉพาะในเมือง Ise เท่านั้น ถ้าใครมาเที่ยวที่นี่ก็ห้ามพลาดเลย

Akafuku Mochi จะมีลักษณะเป็นครีมถั่วแดงที่มีไส้ด้านในเป็นแป้งโมจิ รสชาติหวานนำแต่ละมุมทานคู่กับน้ำชาและแผ่นสาหร่ายวากาเมะโรยผงบ๊วยตัดหวาน ทานเพลินมาก และอีกหนึ่งเมนูแนะนำของที่นี่ก็คือ เซ็นไซ แป้งโมจิในซุปถั่วแดงอุ่นๆ เหมาะสำหรับทานช่วงฤดูหนาว

 Akafukumochi ร้าน Akafuku Honten

ที่อยู่	516-0025 Mie, Ise, Ujinakanokiricho, 26
วิธีเดินทาง	เดิน 6 นาทีจากป้ายรถเมย์ Naiku Bus Stop
เบอร์โทรศัพท์	0596-22-7000
เวลาทำการ	5:00-17:00 น.
Website	Akafukumochi ร้าน Akafuku Honten

ดูแผนที่  Akafukumochi ร้าน Akafuku Honten

 Ise Udon ร้าน Udonya Fukusuke

อาหารอีกอย่างที่พลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ Ise Udon วันนี้เราพาทุกคนมาที่ร้านขึ้นชื่อที่ถ้ามาสายก็อาจจะต้องรอคิวนาน ความเก๋ของร้านนี้คือที่นั่งสไตล์ Outdoor ที่เราสามารถอูด้งไปพร้อมๆ ซึบซับบรรยากาศรอบๆ ไปด้วยได้

หลายคนคงจะคุ้นชินกับอูด้งที่มาพร้อมน้ำซุปร้อนซึ่งไม่เหมือนกับ อูด้งในสไตล์ Ise ที่จะมาในแบบน้ำขลุกขลิก เวลาทานจะต้องคนให้เส้นกับน้ำซอสที่มีส่วนผสมของโชยุและปลาคัสซึโอะขูดเข้าด้วยกันกับเส้นอูด้งนุ่มๆ ทานง่ายแล้วลื่นคอ รสเข้มกำลังดี

 Ise Udon ร้าน Udonya Fukusuke

ที่อยู่	52 Ujinakanokiricho, Ise, Mie 516-8558
วิธีเดินทาง	เดิน 5 นาทีจากป้ายรถเมย์ Naiku Bus Stop
เบอร์โทรศัพท์	0596-23-8807
เวลาทำการ	10:00-17:00 น.
Website	Ise Udon ร้าน Udonya Fukusuke

ดูแผนที่  Ise Udon ร้าน Udonya Fukusuke

คร็อกเก็ตเนื้อ ร้าน Butasute

ร้านที่ขายอาหารประเภทเนื้อวัวที่มาจาก Ise โดยเฉพาะ เป็นอีกร้านที่ถ้ามาช้าก็จะต้องต่อแถวรอกันนานพอสมควร มีทั้งข้าวหน้าเนื้อ เนื้อหม้อไฟขาย และอื่นที่ถือว่าราคาไม่แพงถ้าใครหาร้านทานมื้อกลางวันเราก็แนะนำร้านนี้เลย

แต่เมนูที่เราอยากให้ลองชิมกันในวันนี้ก็คือคร็อกเก็ตเนื้อ ด้านในเป็นเนื้อบดชุบแป้งทอดมาใหม่ๆ แบบยังร้อนๆ อยู่ รสชาติจะออกหวานนิดเค็มหน่อยเข้ากันกับแป้งกรอบๆ ด้านนอกมาก ใครที่กลัวอิ่มเร็วไม่อยากทานเยอะแนะนำให้ลองทานคร็อกเก็ตร้านนี้เลย

คร็อกเก็ตเนื้อ ร้าน Butasute

ที่อยู่	52 Ujinakanokiricho, Ise, Mie 516-8558
วิธีเดินทาง	เดิน 5 นาทีจากป้ายรถเมย์ Naiku Bus Stop
เบอร์โทรศัพท์	0596-23-8803
เวลาทำการ	11:00-16:30 น.
Website	คร็อกเก็ตเนื้อ ร้าน Butasute

ดูแผนที่ คร็อกเก็ตเนื้อ ร้าน Butasute

 Oharaimachi

ถนนพื้นหินความยาว 800 เมตร ที่เต็มไปด้วยร้านของกินของฝากและร้านขายงานฝีมือต่างๆ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของศาลเจ้า Ise Jingu (Naiku) ให้บรรยากาศความเป็นย่านเมืองเก่าและมีร้านอร่อยเรียงรายอยู่มากมาย

Matsusaka-Gyu Nigiri ร้าน Ise Ushiwakamaru

เมื่อมาถึงมิเอะ เราก็ต้องไม่พลาดที่จะทานเนื้อ Matsusaka ที่เป็นของขึ้นชื้อของจังหวัดนี้กัน วันนี้เราเลยพาทุกคนมาทานเนื้่อสุดหรูแต่ราคาจับต้องได้ที่ร้าน Ise Ushiwakamasu เป็นร้านเล็กๆ ใกล้ทางเข้า Oharaimachi ที่ขายนิกิริ

นิกิริจะมีข้าวอยู่ด้านล่างส่วนเนื้อด้านบนก็จะผ่านการเบิร์นไฟมาเล็กน้อยกำลังดีเพื่อไม่ให้เสียรสชาติเนื้อ ทาด้วยซอสตบท้ายด้วยวาซาบิอีกนิดหน่อย โดยมีเนื้อให้เลือก 3 แบบทั้งเนื้อคาลบี้ เนื้อน่อง และ เนื้อเซอร์ลอยด์

Matsusaka-Gyu Nigiri ร้าน Ise Ushiwakamaru

ที่อยู่	10-1, Ujiimazaikecho, Ise, Mie 516-0024
วิธีเดินทาง	เดิน 2 นาทีจากป้ายรถเมย์ Naiku Bus Stop
เวลาทำการ	9:00-17:00 น.

ดูแผนที่ Matsusaka-Gyu Nigiri ร้าน Ise Ushiwakamaru

 ลูกชิ้นปลา ร้าน Maruten

ร้านลูกชิ้นปลาชื่อดังขวัญใจคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถึงแม้จะมีหลายสาขาในญี่ปุ่น แต่เมื่อมา Ise แล้วก็ไม่พลาดที่จะมาทานที่ร้านดั้งเดิมที่ตั้งอยู่ที่ Oharaimachi แห่งนี้ มีทั้งแบบซื้อเป็นของฝากกลับบ้านและซื้อทานกันร้อนๆ ตอนนั้นได้เลย

แบบที่ซื้อทานได้เลยจะมี 3 รสชาติ คือ รสชีส รสทาโกะ และรสกุ้งมายองเนส เนื้อปลาแน่นๆ กินเพลิน แนะนำให้ทานตอนร้อนๆ จะอร่อยที่สุด หนึ่งไม้ค่อนข้างใหญ่ ถ้าใครจะแวะมาชิมก็อย่าลืมเผื่อท้องกันมาด้วยนะ

 ลูกชิ้นปลา ร้าน Maruten

ที่อยู่	10 Ujinakanokiricho, Ise, Mie 516-0025
วิธีเดินทาง	เดิน 4 นาทีจากป้ายรถเมย์ Naiku Bus Stop
เวลาทำการ	8:30-17:00 น.

ดูแผนที่ ลูกชิ้นปลา ร้าน Maruten

โดนัทเต้าหู้ ร้าน Unohana Donasu

ร้านขายเต้าหู้ที่ไม่ได้มีแค่เต้าหู้ แต่เขานำของที่มีมาพัฒนาทำเป็นสินค้าอื่นๆ ทั้งโดนัท ไอศกรีม ขนมอื่นๆ โดยวิธีการทำเรียบง่ายและวัตถุดิบคุณภาพดี จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งร้านดังที่ต้องแวะของย่านนี้

โดนัทที่เกิดจากความเสียดายกากเต้าหู้ที่ต้องทิ้งไปแบบไม่เกิดประโยชน์ จนเป็นต้นกำเนิดของโดนัทเต้าหู้ของทางร้าน เนื้อสัมผัสจะมีความแน่นกว่าโดนัทปกติทั่วไปและไม่หวานมาก เคี้ยวเพลินสุดๆ

 โดนัทเต้าหู้ ร้าน Unohana Donasu

ที่อยู่	95, Ujinakanokiricho, Ise, Mie
วิธีเดินทาง	เดิน 4 นาทีจากป้ายรถเมย์ Naiku Bus Stop
เวลาทำการ	10:00 -16:00 น. ร้านปิดทุกวันพฤหัสบดี

ดูแผนที่  โดนัทเต้าหู้ ร้าน Unohana Donasu

 ศาลเจ้า Ise Jingu

ศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุด ถือว่าเป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญสูงสุดและยังเป็นศาลเจ้าแห่งแรกของญี่ปุ่น ที่คนญี่ปุ่นเองก็ต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต มีศาลเจ้าขนาดใหญ่อยู่ 2 ศาลเจ้าหลัก คือ ศาลเจ้าใน (Naiku) และ  ศาลเจ้านอก (Geku) และยังมีศาลเจ้าย่อยๆ อยู่อีก 125 ศาลเจ้า

นอกจากการคำนับ 1 ครั้งก่อนเข้าประตูโทริอิแล้ว อีกหนึ่งสำคัญที่เราต้องทำนั่นก็คือการล้างมือล้างปากให้สะอาดก่อนเข้าไปสักการะศาลเจ้าด้านในด้วย ที่ศาลเจ้านี้เราสามารถมาล้างมือล้างปากได้ที่ลำธารทางเข้าของศาลเจ้า

ศาลเจ้า Ise Jingu มีความสำคัญต่อประเทศญี่ปุ่นเพราะเชื่อกันว่าที่นี่เป็นที่สถิตของเทพเจ้า Amaterasu เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ผู้สร้างประเทศญี่ปุ่น คนที่มาสักการะเทพเจ้า Amaterasu จะไม่ได้มาเพื่อขอพร แต่มาเพื่อขอบคุณที่ช่วยสร้างและปกปักรักษาให้ประเทศญี่ปุ่นสุขสงบมาถึงทุกวันนี้

ศาลเจ้า Ise Jingu

ที่อยู่	Ujitachicho, Ise, Mie 516-0023
วิธีเดินทาง	เดิน 4 นาทีจากป้ายรถเมย์ Naiku Bus Stop
เบอร์โทรศัพท์	0596-24-1111
เวลาทำการ	5:00 -17:00 น.
ราคา	ฟรี
Website	ศาลเจ้า Ise Jingu

ดูแผนที่ ศาลเจ้า Ise Jingu

เดินทางกลับโอซาก้าด้วยรถไฟท่องเที่ยวสายพิเศษ Shimakaze

ตกเย็นเราก็นั่งรถเมล์ จากป้าย Naiku Mae Bus Stop มาลงที่สถานี Ujiyamada ใช้เวลา 18 นาที หรือจะนั่งแท็กซี่มาก็ได้ประมาณ 10 นาที เพื่อมานั่งรถไฟ Kintetsu กลับโอซาก้ารอบ 16:41 น. กัน

โดยขากลับเรานั่งรถไฟขบวนท่องเที่ยวพิเศษของ Kintetsu ชื่อว่า Shimakaze ที่มีความหรูหรานั่งสบาย เพราะเบากว้างและเอนได้เยอะมากพร้อมหน้าต่างบานใหญ่ให้ชมวิวเพลินๆ มีทั้งแบบที่นั่งเดี่ยวและที่นั่งคู่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาทีเราก็จะถึงโอซาก้า

ระหว่างนั่งรถกลับเราก็สามารถนำของขึ้นมาทานเล่นตรงที่นั่งได้ หรือถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ภายในรถไฟก็มีคาเฟ่เล็กๆ มีที่นั่งพร้อมวิวไว้ให้บริการด้วย แต่ถ้าใครอยากนั่งชิลอยู่ที่นั่งของตัวเองก็สามารถสั่งเครื่องดื่มออริจินอลของรถไฟมานั่งจิบเพลินๆ ก็ได้ค่ะ

บัตรโดยสารรถไฟสุดคุ้ม

รถไฟ Kintetsu Line มีบัตรโดยสารรถไฟชั้นเยี่ยม มาใช้บัตรเหล่านี้ให้คุ้มและสนุกกับการท่องเที่ยวคันไซ!

คลิกลิงก์แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม!

 สรุป

ใครที่กำลังมองหาแพลนเที่ยวแบบมีเวลาไม่มากเดินทางง่ายและไม่ไกลจากโอซาก้า ลองเอาแพลนของเราไปตามรอยดูกันนะ รับรองว่าทุกคนจะต้องสนุกและเต็มอิ่มกับการเที่ยวมิเอะ และได้ใช้เวลาที่มาเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างคุ้มค่าแน่นอน