ทำความรู้จักชิซูโอกะ (Shizuoka)
Shizuoka (ชิซูโอกะ) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุ บนเกาะฮนชู ระยะทางนั้นก็อยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงอย่างกรุงโตเกียวสักเท่าไร นั่งรถไฟประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
ตัวเมืองมีความสวยงามและน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ของญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟฟูจิ คาบสมุทรอิซุ และไร่ชาเขียว ซึ่งถือว่าใบชานั้นเป็นผลิตภัณฑ์ประจำจังหวัดเลยทีเดียว
ว่าแต่ว่าตอนนี้มีเพื่อน ๆ คนไหนกำลังสนใจจังหวัดน่ารัก ๆ นี้อยู่แต่ไม่รู้จะไปยังไงหรือไปแล้วจะเที่ยวที่ไหนอยู่บ้างมั้ยคะ เพราะวันนี้เรานำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัด Shizuoka มาฝาก
รวมไปถึงวิธีการเดินทาง ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เราแนะนำแล้วจัดเป็น 1 Day Trip เพื่อไปเที่ยวให้สนุกสนานภายในเวลาเพียง 1 วัน
การเดินทางมา ชิซูโอกะ (Shizuoka)
สามารถนั่งเครื่องบินในประเทศมาลงที่สนามบินฟูจิซังชิซึโอกะได้ แล้วหลังจากนั้นค่อยเดินทางต่อ
*เดินทางประมาณ 26 นาที ด้วยรถไฟสายหลักโทไคโด จากสถานีชิมาดะถึงสถานีชิซึโอกะ
แนะนำที่เที่ยวใน ชิซูโอกะ (Shizuoka) ห้ามพลาด
สำหรับใครที่อยากได้ข้อมูลที่เที่ยวมาทางนี้เลย กับที่เที่ยวแนะนำแบบจุใจในชิซูโอกะ
ชายหาดมิโฮะ (Miho Beach)
Miho Beach (ชายหาดมิโฮ) เป็นคาบสมุทรที่มีพื้นที่ยื่นออกไปในอ่าว Suruga เป็นที่รู้จักกันดีว่าที่นี่เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามแห่งหนึ่ง มีพื้นที่ทอดตัวยาว 3 กิโลเมตรโดยประมาณ
เมื่อทอดสายตายาวเรื่อยไปจากตำแหน่งที่อยู่บริเวณชายหาด เราจะได้พบกับฟูจิซัง สัญลักษณ์ประจำประเทศญี่ปุ่นที่กำลังส่งยิ้มต้อนรับเราอยู่ห่าง ๆ เป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้เราได้ไม่รู้ลืม
หากเขยิบตัวจากชายหาดมาอีกนิดก็จะเข้าสู่พื้นที่ของ Hagaromo Park ซึ่งเป็นสวนที่เต็มไปด้วยต้นสนขึ้นเรียงรายเลียบทางเดินใกล้กับชายหาด เป็นจุดที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ปลดปล่อยความคิดสักพักให้ใจได้พักเหนื่อย
ซึ่งที่นี่มีต้นสนต้นหนึ่งที่เรียกว่า Hagoromo-no-Matsu เป็นต้นสนที่มีตำนานเล่าขานเรื่องราวเกี่ยวกับชายชาวประมงที่พบเชือกของนางฟ้าจากสรวงสวรรค์ที่แขวนอยู่บนกิ่งของต้นสนต้นนี้เกิดเป็นความสวยงามจุดหนึ่งของชายหาด
Miho Beach
ที่อยู่ | 424-0901 Miho, Shimizu-ku, Shizuoka-shi |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Shizuoka Tetsudo Line มาลงสถานี Shin-Shimizu แล้วนั่งรถบัส Miho Yamanote Line ต่อมาประมาณ 25 นาที แล้วเดินอีก 20 นาที |
ราคา | ไม่เสียค่าเข้าชม |
ไร่ชานิฮนไดระ (Nihondaira)
ใบชาของจังหวัด ชิซูโอกะ นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังจนกลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ประจำจังหวัดไปแล้ว ซึ่งทางไร่เค้าก็เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้เข้าไปสัมผัสกับใบชาอย่างใกล้ชิด
ซึ่งในช่วงกลางเดือนเมษายนเรื่อยไปจนถึงเดือนตุลาคมที่เป็นฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยวใบชานั้นจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิธีการเก็บใบชาอีกด้วย แต่ถ้าเดินทางมาในเดือนอื่นก็ยังคงมีความสวยงามและผู้คนไม่หนาแน่นมาก มาเที่ยวได้สบาย ๆ
และนอกจากความสวยงามของไร่ชาสีเขียวชอุ่มที่เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมองเห็นไกลจนสุดสายตาแล้ว เรายังจะได้ชื่นชมกับวิวภูเขาไฟฟูจิสีฟ้าขาวที่มีสีสันตัดกันกับสีเขียวของไร่ชากลายเป็นภาพแห่งความสวยงามที่สร้างสรรค์โดยจิตกรแห่งธรรมชาติจนได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่่น แบบนี้ไม่มาไม่ได้แล้วล่ะ
ไร่ชา Nihondaira
ที่อยู่ | 424-0875 Mabase, Shimizu-ku, Shizuoka-shi |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Tokaido Line มาลงสถานี Shizuoka แล้วนั่งรถเมล์สาย 42 จากป้าย 11 หน้าสถานีรถไฟมาลงที่ป้ายรถบัสป้ายสุดท้าย Nihondaira Ropeway แล้วเดินต่อประมาณ 15-20 นาที |
เวลาทำการ | 09.00-15.00 น. |
ราคา | ค่าเรียนรู้การเก็บใบชา: 500 เยน |
โทรศัพท์ | 054-334-1391 |
Website | Ocha Kaiken |
สะพานยูเมะ โนะ ทสึริบาชิ (Yume no Tsuribashi)
Yume no Tsuribashi คือ สะพานแห่งความฝันที่เป็น 1 ใน 100 สะพานที่ควรข้ามสักครั้งก่อนตาย สะพานแห่งนี้มีที่ตั้งอยู่ที่ Sumatakyo Onsen ในจังหวัด ชิซูโอกะเป็นพื้นที่ที่รายล้อมไปด้วยหุบเขาและป่าไม้ เรียกได้ว่าธรรมชาติทุกอย่างยังคงอุดมสมบูรณ์มากที่นี่
สะพาน Yume no Tsuribashi แห่งนี้ความยาวประมาณ 90 เมตร และมีความกว้างเพียง 30 เซนติเมตรเท่านั้น เป็นขนาดที่พอดีสำหรับการเดินเรียงเดี่ยว และจำกัดจำนวนคนข้ามไม่เกิน 10 คนต่อครั้งเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อที่บอกต่อกันมาว่าถ้าหากข้ามสะพานจนถึงกลางสะพานแล้วอธิษฐานข้อพรเกี่ยวกับความรัก เราจะสมหวังอีกด้วย ใครอยากมีรักดี ๆ อย่าลืมก้าวผ่านความกลัวนี้ไปให้ได้นะ
Yume no Tsuribashi
ที่อยู่ | 428-0411 Shizuoka Prefecture, Haibara District, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Tokaido Line มาลงสถานี Kanaya แล้วนั่งรถไฟ SL หรือรถไฟหัวจักรไอน้ำ Oigawa Railway ต่อประมาณ 40 นาทีเพื่อมาลงสถานี Senzu แล้วต่อรถบัสอีก 20 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 30 นาทีเพื่อไปยังจุดข้ามสะพาน |
เวลาทำการ | ควรกลับก่อนพระอาทิตย์ตกดินเพื่อความปลอดภัย |
ราคา | ไม่เสียค่าใช้จ่าย |
โทรศัพท์ | 0547-59-2746 |
ศาลเจ้าคุโนซัน โทโชกุ (Kunozan Toshogu)
ศาลเจ้า Kunozan Toshogu แห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่มีพื้นที่บริเวณกว้างขวางและคับคั่งไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่เป็นอาคารจำนวนมากมาย สถาปัตยกรรมของศาลเจ้ามีความสวยงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกของชาติเลยทีเดียว เป็นสถาปัตกรรมการออกแบบที่เหมือนกันกับที่ Nikko
การออกแบบของศาลเจ้านั้นใช้สีแดงสดใสและสีทองอร่ามแซมตามส่วนต่าง ๆ ของสิ่งก่อสร้างภายในศาลเจ้า ประกอบกับลวดลายจากผลงานการแกะสลักที่งดงามตราตรึงใจ พร้อมด้วยภาพวาดบนประตู Romon ที่มีเอกลักษณ์ให้เราได้ชื่นชมในความสวยงาม
บริเวณนอกศาลเจ้าที่อยู่ไม่ไกลกันนั้นยังถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ของโชกุนคุโนซังที่มีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของท่าน และสมบัติอื่น ๆ อย่างเช่นอาวุธที่ใช้การรบและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในยุคสมัยนั้นเป็นต้น
การเดินทางมายังศาลเจ้าทำได้ไม่ยาก เราสามารถโดยสารกระเช้า Nihondaira Ropeway ขึ้นมายังภูเขาอันเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแห่งนี้ได้ ซึ่งระหว่างเส้นทางที่กระเช้าพาเราขึ้นมานั้นก็จะได้ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวซูรูกะ ท่าเรือชิมิสุ ไร่ชา Nihondaira รวมไปถึงภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nihondaira Ropeway คลิกที่นี่
ศาลเจ้า Kunouzan Toshogu
ที่อยู่ | 390 Negoya, Suruga-ku, Shizuoka-shi, Shizuoka |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Tokaido Line มาลงสถานี Shizuoka แล้วนั่งรถบัส Shizutetsu Justline Bus ฟรีมาลงที่ Nihondaira Ropeway เพื่อขึ้นกระเช้าต่อ |
เวลาทำการ | 09.00-17.00 น. (สามารถเข้าชมได้ครั้งละไม่เกิน 2 ชั่วโมง) |
ราคา | ศาลเจ้า : ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 200 เยน, พิพิธภัณฑ์ : ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 300 เยน |
โทรศัพท์ | 054-237-2438 |
Website | ศาลเจ้า Kunouzan Toshogu |
แม่น้ำอุรุอิ (Urui River Shizuoka)
เป็นหนึ่งในจุดชมวิวซากุระที่มองเห็นฟูจิยอดนิยม โดยเฉพาะช่วงต้นเมษายนที่ต้นซากุระจะเบ่งบาน ทำให้ช่างภาพต่างๆ พากันมาปักหลักถ่ายรูปวิวที่นี่
สำหรับใครที่มองหาจุดชมวิวฟูจิพร้อมดอกซากุระ เราแนะนำให้มาที่นี่ เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดที่สวยงามสุดๆ มีทั้งซากุระ ฟูจิ และธารน้ำที่ไหล ได้บรรยากาศซึมซับธรรมชาติ
แม่น้ำอุรุอิ Urui River Shizuoka
ที่อยู่ | 350 Iwamoto, Fuji, Shizuoka 419-0202 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Iriyamase Station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 12 นาที หรือ 1 กิโลเมตร |
แม่น้ำคาวาซุ (Kawazu River)
เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระยอดนิยมที่เห็นทั้งสามวิว คือ ภูเขา แม่น้ำ และซากุระ เรียกได้ว่าเป็นวิวที่สวยจับใจ อีกทั้งยังเป็นมุมยอดนิยมที่ไม่ว่าจะนักท่องเที่ยว หรือช่างภาพมืออาชีพก็จะมาจับจองพื้นที่เก็บภาพกันเอาไว้ เป็นมุมที่วิวสวยจริงๆ
ที่นี่มีต้นซากุระคาวาซีเรียงรายยาวกว่า 4 กิโลเมตร อีกทั้งบริเวณนี้ยังมีศาลเจ้าเก่าแก่ และต้นการบูรพันปีอีกด้วย
แม่น้ำคาวาซุ Kawazu River
ที่อยู่ | Kawazu, Kamo, Shizuoka |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟไปลง MISHIMA STATION แล้วนั่งรถไฟไปลงที่ Shuzenji Station เดินไปที่สถานีรถบัสแล้วขึ้นรถ C50: สถานีชูเซ็นจิ – คาวาสึ ไปลงที่ ชิโมซากาโนะ เดินต่อ 1 นาที |
ซูเซนจิออนเซน (Shuzenji Onsen)
หนึ่งในออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น อยู่ท่ามกลางภูเขาในเมืองชิซุโอกะ โดยที่เมืองออนเซ็นแห่งนี้ยังรักษากลิ่นอายความดั่งเดิมเอาไว้ได้อย่างดี ทำให้ผู้คนที่นี่ถูกใจกับบรรยากาศ การแช่ออนเซ็นไปกับธรรมชาติอย่างมาก
ถึงแม้จะเป็นเมืองติดทะเล แต่ที่นี่ไม่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ เนื่องจากอยู่ห่างจากบริเวณคาบสมุทร และถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขา แต่น้ำออนเซ็นของที่นี่ก็ดีไม่แพ้ที่อื่นเลยนะ
Shuzenji Onsen Ryokan Cooperative
ที่อยู่ | Shuzenji, Izu, Shizuoka 410-2416 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ลงที่สถานี Mishima แล้วนั่งรถไฟบนสาย Tokaido หรือ Shinkansen และลงที่สถานี Shuzenji ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายของรถไฟ Izuhakone (ประมาณ 32 นาที) จากสถานี Shuzenjin ขึ้นรถบัสประมาณ 10 นาที สาย “To Shuzenji Onsen” ลงที่สถานี Shuzenji Onsen ซึ่งเป็นป้ายสุดท้าย |
Website | Shuzenji Onsen Ryokan Cooperative |
ศาลเจ้าฟุจิซังเซนเงน (Fujisan Sengen Shrine)
อีกหนึ่งศาลเจ้าสำคัญประจำภูเขาไฟฟูจิ โดยศาลเจ้านี้มีอาณาเขตกว้างขวางกินพื้นที่บริเวณของภูเขาไฟไปด้วย และน้อยคนนักที่จะเยี่ยมชมพื้นที่สำคัญของศาลเจ้านี้ได้ครบอีกด้วย
สำหรับใครที่ชอบการ Trecking เราแนะนำให้ลองมาที่นี่ เพราะนอกจากจะไหว้ศาลเจ้าขอพรแล้ว เรายังสามารถเดินขึ้นไปด้านบนภูเขาไฟ เพื่อเยี่ยมชมจุดต่างๆ ของศาลเจ้าได้อีกด้วย
ศาลเจ้าฟุจิซังเซนเงน (Fujisan Sengen Shrine)
ที่อยู่ | 1-1 Miyacho, Fujinomiya, Shizuoka 418-0067 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Fujinomiya Station แล้วเดินต่ออีก 12 นาที |
เวลาทำการ | 5:00–20:00 |
Website | Fujisan Sengen Shrine |
แหลมอิโรซากิ (Cape Irozaki)
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก โดยบริเวณแหลมอิโรซากิจะมีโขดหินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และวิวของทะเลที่สวยงาม แต่นอกจากการมาเที่ยวชมวิวแล้ว เราสามารถแวะไหว้ศาลเจ้า
หรือใครที่อยากทำกิจกรรมก็สามารถนั่งเรือชมวิวทะเลได้เช่นกัน
แหลมอิโรซากิ (Cape Irozaki)
ที่อยู่ | Irozaki, Minamiizu, Kamo District, Shizuoka 415-0156 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Izukyū-Shimoda แล้วขึ้นรถบัส S53: สถานีชิโมดะ – คิวกามูระ – อิโรซากิ แล้วขึ้นรถบัสไปลงที่ Irozaki Ocean Park แล้วเดินต่ออีก 500 เมตร |
Website | Cape Irozaki |
สวนดอกไม้ฮามะมัตสึ (Hamamatsu Flower Park)
เอาใจหนุ่มสาวสายดอกไม้กันบ้าง กับ สวนดอกไม้ฮะมะมัตสึ ที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ตระการตา หลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะช่วงซากุระ ที่จะเต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่ง
แต่ไม่ได้มีแค่ซากุระเท่านั้น ที่นี่ยังมีดอกไม้อื่นๆ กว่า 3000 สายพันธุ์ ที่ต่างพลักกันออกมาให้ชมตามฤดูกาล
สวนดอกไม้ฮามะมัตสึ (Hamamatsu Flower Park)
ที่อยู่ | 195 Kanzanjicho, Nishi Ward, Hamamatsu City, Shizuoka Prefecture 431-1209 |
---|---|
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไป Kanzanji Onsen จากสถานีขนส่งหมายเลข 1 ที่ทางออกทิศเหนือของสถานี Hamamatsu ลงที่ป้ายรถเมล์ “Flower Park” ใช้เวลาประมาณ 40 นาที รถออกทุกๆ 30 นาที |
เวลาทำการ | 9:00-17:00 น |
ราคา | 800เยน เฉพาะสวนดอกไม้ 1,050 เยน รวมค่าเข้าสวนสัตว์ ข้อมูลค่าเข้าชมเพิ่มเติม |
Website | Hamamatsu Flower Park |
สะพานสายรุ้ง (Okuoi Rainbow Bridge)
สถานีรถไฟลับกลางแม่น้ำโออิกาวะ โดยเป็นเส้นทางรถไฟเชื่อมไปสู่ Ikawa โดยเป็นเส้นทางยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวเพราะเป็นจุดที่มีสถานีอยู่บริเวณเกาะกลางแม่น้ำ ซึ่งป็นสถานีที่เราสามารถไปเที่ยวสะพานแห่งความฝัน หรือ Yume no Tsuribashi ได้
โดยหัวจักรรถไฟยังเป็นหัวรถไฟไอน้ำอยู่เลย มีเสน่ห์มาก
สะพานสายรุ้ง (Okuoi Rainbow Bridge)
ที่อยู่ | Sessoko , Inuma, Kawanehon, Haibara District, Shizuoka 428-0402 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสายอิคาวะ (Ikawa Line) ที่สถานีคานายะ (Kanaya) เพื่อชมความงามของธรรมชาติในเส้นทางนี้
ส่วนวิธีการมาที่สถานี Kanaya ให้นั่งรถไฟสาย Tokaido จากสถานี Shizuoka Station ได้เลย |
Website | Okuoi Rainbow Bridge |
อาตามิ (Atami)
เป็นแหล่งออนเซ็นชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความงาม มีที่พักแบบโรงแรมและเรียวกังให้เลือกพักมากมาย อยู่ในจังหวัดชิซุโอกะ ด้านหน้าคือทะเล ด้านหลังคือภูเขา ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ เป็นแหล่งออนเซ็นชื่อดังแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
ออนเซ็นของที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ “ออนเซ็นแห่งความงาม” เพราะคุณสมบัติของน้ำที่อ่อนโยนต่อผิวและช่วยบำรุงผิวพรรณ อีกทั้งยังบำบัดอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้อีกด้วย
อาตามิ (Atami)
วิธีเดินทาง | JR Atami Station มีรถไฟผ่าน 3 สาย ได้แก่ Tokaido Shinkansen, Tokaido Main Line และ Ito Line ทางเลือกที่ถึงเร็วที่สุดคือชินคันเซ็น โดยแนะนำให้ขึ้นสาย Kodama จะใช้เวลาประมาณ 50 นาที นอกจากนี้ยังมีรถไฟด่วนพิเศษ Odoriko ซึ่งใช้เวลา 80-90 นาที หรือใครจะนั่งสายปกติมายาวๆ ก็ได้เหมือนกัน ราคาถูกที่สุด แต่จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที |
---|
การเดินทางภายใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)
วิธีการเดินทาง | รายละเอียด |
---|---|
รถไฟ | มีทั้งรถไฟ JR รถไฟท้องถิ่น และรถไฟท่องเที่ยว |
รถบัส | จะมีรถประจำทาง รถด่วน และรถนำเที่ยวให้บริการเช่นกัน |
JR Pass ที่แนะนำใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)
PASS | ราคา | จำนวนวัน | รายละเอียด |
---|---|---|---|
Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass Mini | ฿ 1,117 | 3 วัน | ใช้เดินทางในพื้นที่ชิซูโอกะ และภูเขาไฟฟูจิ |
บัตร JR Tokyo Wide Pass | ฿ 2,492 | 3 วัน | ใช้เดินทางในพื้นที่ชิซูโอกะ โตเกียว และรอบๆ |
ช่องทางการซื้อพาส
บัตร JR Pass สำหรับภูเขาฟูจิและชิซูโอกะ (3 วัน)
ซื้อผ่าน Klook ในราคาสุดคุ้ม ถูกกว่าซื้อเองที่ญี่ปุ่น!
บัตร JR Pass สำหรับโตเกียว
ซื้อผ่าน Klook ในราคาสุดคุ้ม ถูกกว่าซื้อเองที่ญี่ปุ่น!
สภาพอากาศที่ต้องรู้ใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)
ที่จังหวัดนี้มีสภาพอากาศที่ค่อนข้างอุ่น ในฤดูร้อนมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 28 องศา หรืออาจจะมากกว่านั้น และฤดูหนาวอยู่ที่ 0 องศา อากาศโดยทั่วไปจะสบาย และมีฝนค่อนข้างเยอะในช่วงเดือนตุลาคม
การแต่งตัวเที่ยวใน ชิซูโอกะ (Shizuoka)
ใครที่อยากรู้ว่าช่วงฤดูหนาวแต่งตัวยังไง ต้องหนาแค่ไหนถึงจะพอ อ่านที่นี่เลย
เทคนิค แต่งตัวไปญี่ปุ่นหน้าหนาว ให้อุ่นสบาย ไม่อ้วนกลม!
บอกครบทุกสภาพอากาศ ห้ามพลาด!
แต่สำหรับใครที่มองหาการแต่งตัวไปเที่ยวฤดูร้อนในญี่ปุ่น ก็มาทางนี้เลย
แนะนำการ แต่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น หน้าร้อน จาก 3 แบรนด์ฮิต
หน้าร้อนไม่ร้อนใจ แต่งตัวเข้ากันฤดูเที่ยวเพลิน
อาหารขึ้นชื่อ ของดีต้องลอง ชิซูโอกะ (Shizuoka)
เกี๊ยวซ่าฮามามัตสึ (Hamamatsu Gyoza)
เกี๊ยวซ่า 1 ในอาหารจีนที่แผ่อิทธิพลมาจนถึงญี่ปุ่น และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หากมาที่ฮามามัตสึต้องทานเกี๊ยวซ่าให้ได้ กับเกี๊ยวซ่าทอดเรียงเป็นแพสวย ทานคู่กับผักเคียงและข้าว
Fujinomiyaki
อีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อประจำเมืองฟูจิโนะมิยะ กับผัดยากิโซบะที่หลายๆคนต้องรู้จัก เป็นอาหารบ้านๆ ที่ราคาเป็นกันเอง แต่กับที่นี่รสชาติของมันอร่อยจนติดอันดับในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ข้อสรุป
เชื่อแล้วใช่มั้ยคะว่า ชิซูโอกะ นั้นมีของดี ! แต่ละสถานที่นั้นเด็ด ๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก หรือสถานที่ที่ควรไปสักครั้งในชีวิต ทุกแห่งในจังหวัดนี้มีความอลังการงานสร้างที่เกิดจากการรังสรรค์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติเกิดเป็นความสวยงามที่ทำให้เราต้องหาโอกาสไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต