ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คนไทยสามารถท่องเที่ยวภายใน 15 วัน โดยไม่ต้องทำวีซ่าไปก่อน อย่างไรก็ตามนั่งไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่เดินทางไปจะสามารถเข้าประเทศได้ทันที เพราะจะต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเสียก่อน สำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกอาจเกิดความสงสัย ว่าก่อนเข้าประเทศต้อง ผ่าน ตม ญี่ปุ่น อย่างไร ทำอย่างไร วันนี้เราจะมาไขความข้องใจกัน
ต้องผ่านด่านอะไรบ้าง
หลังจากลงเครื่องแล้วสิ่งแรกที่เราต้องผ่านไปคือด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือการ ผ่าน ตม ญี่ปุ่น ซึ่งด่านนี้เราต้องยื่นเอกสาร ใบ ตม. (Disembarkation Card) และตอบคำถามเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะถามมากน้อยแตกต่างกันไป (ส่วนตัวไม่ค่อยโดนถามเลย ขนาดไปรอบแรก ยิ้มให้แล้วส่งพาสปอร์ตคืน)
ด่านถัดไปคือด่านศุลกากร ด่านนี้จะตรวจสอบเรื่องสิ่งที่เรานำเข้ามา ตรงนี้เราต้องยื่น ใบศุลกากร (Customs Declaration) แต่ตอบคำถาม หลายคนบอกว่าด่านนี้นี่แหละที่ซักละเอียดยิบ (แต่สำหรับเราเขายังคงไม่เคยเหลียวแล ถามมากสุดคือมาคนเดียวเหรอ น้อยสุดคือกวักมือไล่ออกไป 555)
ถ้าผ่านสองด่านดังกล่าวได้ก็เอาเป็นว่าพร้อมเริ่มการท่องเที่ยวแล้ว ทีนี้หลายคนเลยมีคำถามว่าแล้วมันต้องทำอย่างไรการผ่านทั้งสองด่านนี้ถึงจะราบรื่น
อัพเดท 2019 กรอกใบตม. ญี่ปุ่น ง่ายๆ พร้อมรายละเอียดที่ควรทราบ
หลายคนที่กำลังเตรียมเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรกอาจมีคำถามเกี่ยวกับการ กรอกใบตม. ญี่ปุ่น วันนี้เราจึงจัดเต็มข้อมูลให้คุณ อัพเดทสำหรับปี 2019
สิ่งที่ต้องรู้เพื่อ ผ่าน ตม ญี่ปุ่น และ ด่านศุลกากรแบบฉลุย
1. พาสปอร์ตต้องมีอายุมากกว่า 6 เดือน
เช็คอายุพาสปอร์ตให้ดีๆ นะ เพราะ หนังสือเดินทางจะต้องมีอายุมากกว่า 6 เดือนก่อนวันหมดอายุ นับจากวันที่เราจะเดินทางท่องเที่ยว ถ้าอายุน้อยกว่านี้ไม่ได้มีปัญหาแค่ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ในไทยก็มีปัญหาแล้ว
2. รายละเอียดทริปเตรียมไว้สบายใจ
โดยปกติการผ่านด่านจะมีการสอบถามข้อมูลเท่านั้น อย่างไรก็ตามกรณีที่เจ้าหน้าที่อยากได้หลักฐาน เราก็ควรมีให้ อาทิ
– ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
– รายละเอียดโรงแรมที่พัก พร้อมที่อยู่ครบทุกที่ กรณีพักกับคนรู้จักในญี่ปุ่น ควรขอชื่อ, ที่อยู่ และเบอร์โทรด้วย
– โปรแกรมท่องเที่ยว ควรพิมพ์ติดตัวไว้คนละชุด ไปไหน มากับใครบ้าง เดินทางอย่างไร นอกจากมีติดตัวก็ควรทราบรายละเอียดไว้ เพื่อการตอบคำถามที่ลื่นไหล
3.พาสปอร์ตขาวต้องรู้
กรณีที่เคยเดินทางไปต่างประเทศแล้ว แต่หนังสือเดินทางหมดอายุควรพกเล่มเก่าติดตัวไปด้วย แต่ถ้าเป็นการเดินทางครั้งแรกเล่มขาวจั๊วะควรมีเอกสารดังนี้ติดตัวด้วย
– เอกสาร/หนังสือรับรองการทำงาน ทะเบียนการค้า หนังสือแสดงสถานะที่ยืนยันได้ว่าเราจะกลับไทย หรือแสดงถึงหน้าที่ที่ต้องกลับไปรับผิดชอบอยู่ที่ไทย แสดงตัวว่าเรามาเที่ยวไม่ได้เข้าเมืองเพื่อทำงานผิดกฏหมาย อาจนำเอกสารแสดงฐานะทางการเงิน (bank statement) เพิ่มไปด้วยเพื่อยืนยันด้วยก็ได้
– ตั๋วเครื่องบินทั้งสองขา เป็นการแสดงว่าเราจะกลับไทยในเวลาที่กำหนด
– เตรียมเงินสดไว้ใช้จ่ายให้พอกับจำนวนวันที่จะไป
– หากจ่ายค่าโรงแรมด้วยบัตรเครดิตแล้วควรมีหลักฐานการจ่ายเงินด้วย
4.ตอบคำถามอย่างมั่นใจ
การตอบคำถามอย่างมั่นใจลื่นไหล รวมถึงภาษากายที่ดูเป็นปกติเป็นสิ่งสำคัญทีเดียวที่ทำให้การผ่านด่านเป็นไปอย่างสบายๆ กรณีที่เราไปกับเพื่อนหรือครอบครัวที่ไม่ค่อยรู้รายละเอียดการเดินทางนักควรเกาะกลุ่มเข้าไปด้วยกันเพื่อที่จะได้ช่วยตอบคำถาม (เช่น ตอบให้แม่เป็นต้น)
5.เช็คสิ่งของต้องห้ามให้ดี
ต้องแน่ใจว่าเราไม่ได้นำสัมภาระที่ผิดกฎหมายญี่ปุ่นเข้าประเทศ โดยเฉพาะยาต่างๆ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงนำของที่จะทำให้เกิดคำถามว่าเราอาจไม่ได้เข้าไปเที่ยวไป เช่น การนำยาธรรมดาเข้าไปเป็นจำนวนมาก ของจำพวกเมล็ดพืช เนื้อสัตว์ก็อาจสร้างปัญหาได้ ถ้าไปเที่ยวแล้วก็ถือโอกาสไปลองอาหารบ้านเขาดู ไม่ต้องพกไปมากจะได้ไม่มีปัญหา
นอกจากนี้ไม่ควรขนของใดๆ เข้าไปปริมาณอย่างมากๆ เพราะอาจโดนสงสัยเรื่องวัตุประสงค์ของการนำเข้า
ข้อสรุป
สุดท้ายแล้วถ้าเจตนาเราคือไปเที่ยวจริง และข้อมูลพร้อมเกี่ยวกับทริปเตรียมพร้อมนี่การ ผ่าน ตม ญี่ปุ่นก็เป็นเรื่องชิลล์ ชิลล์เลย ทีเดียว ส่วนใครที่อยากทราบรายละเอียดว่าด้วยเรื่องการกรอกใบ ตม. ดูที่บทความนี้เลย
อัพเดท 2019 กรอกใบตม. ญี่ปุ่น ง่ายๆ พร้อมรายละเอียดที่ควรทราบ
หลายคนที่กำลังเตรียมเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นเองครั้งแรกอาจมีคำถามเกี่ยวกับการ กรอกใบตม. ญี่ปุ่น วันนี้เราจึงจัดเต็มข้อมูลให้คุณ อัพเดทสำหรับปี 2019