ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น ไม่ยากอย่างที่คิด พร้อมคำแนะนำดีๆ ที่อยากแชร์

ตอนนี้เทรนด์การขับรถเที่ยวญี่ปุ่นกำลังมาแรง โดยเฉพาะกับทริปที่มีสมาชิกหลายคน รวมไปถึงการที่มีเด็กและผู้สูงอายุในทริป การขับรถเที่ยวญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่สะดวกและคุ้มค่า สำหรับใครที่ไม่มีประสบการณ์อาจจะไม่แน่ใจว่ายากหรือเปล่า มีขั้นตอนอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาแนะนำกับแบบสะเอียดตั้งแต่การเตรียมตัวและทริคดีๆ ที่ต้องรู้

การเตรียมตัวก่อนไป ขับรถที่ญี่ปุ่น

ต้องมีใบขับขี่สากล

การขับรถที่ต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือใบขับขี่สากล ซึ่งผู้ที่จะทำใบขับขี่สากลได้นั้นจะต้องมีใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล(ชนิด 5 ปี)หรือตลอดชีพ หรือ ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ หรือ ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะ ก็สามารถไปทำได้ที่กรมการขนส่งใกล้บ้าน ค่าทำเนียม 505 บาท ใบขับขี่สากลมีอายุ 1 ปี กรณีที่ถือใบขัขี่มากกว่า 1 ใบ สามารถให้เจ้าหน้าที่แสตมป์เพิ่มได้ในใบเดียว

สำคัญมากใครที่จะขับรถในทริปนี้ต้องมีใบขับขี่สากลทุกคน แม้แต่คนที่ช่วยขับเวลาคนขับหลักไม่สามารถขับได้ก็ต้องมี เพราะการขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่นั้นมีโทษหนัก เพราะฉะนั้น ในทริปควรมีคนที่มีใบขับขี่มากกว่า 1 คน เผื่อฉุกเฉิน

การทำใบขับขี่สากล

รายละเอียดจากกรมการขนส่ง

จองรถที่เหมาะกับการท่องเที่ยว และประเภทใบขับขี่

เมื่อได้ใบขับขี่สากลแล้วก็มาถึงขั้นตอนการจองรถ ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบจองกับทางญี่ปุ่นโดยตรง จองกับเอเจนซี่ไทย ก็เลือกเจ้าได้ตามความสะดวก สำหรับใครที่สนใจบริการใช้เช่ารถที่ญี่ปุ่นสามารถเช็คได้ที่บทความนี้

เช่ารถ ญี่ปุ่น ไม่ยาก! ที่ไหนเด็ด ราคาดี เราจัดให้

บริการให้เช่ารถที่ดีจะช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นกลุ่มอันมีเป้าหมายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไกลจากตัวเมืองในญี่ปุ่นเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ วันนี้เราจึงขอเสนอ 6 ผู้บริการให้ เช่ารถ ญี่ปุ่น ที่รับรองว่าจะช่วยให้การวางแผนขับรถ และการท่องเที่ยวง่ายขึ้นอย่างแน่นอน

การเลือกรถเช่านั้นต้องเลือกให้เหมาะกับรูปแบบทริป จำนวนคน แล้วอย่าลืมคำนวนพื้นที่เก็บสัมภาระเผื่อด้วย เช่น หากมีสมาชิกทริป 6 คน มีกระเป๋าใบใหญ่คนละใบ อาจจะต้องเลือกรถที่มี 8 ที่นั่ง และมีพื้นที่เก็บของเป็นต้น

นอกจากนี้ควรศึกษา ระบบของรถ เช่น ระบบนำทาง ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกภาษาทั้งไทย อังกฤษ ตอนจองรถให้เลือกเป็น multiple language

อีกข้อที่สำคัญในการเลือกรถ!!! ต้องเลือกให้เหมาะกับชนิดใบขับขี่ โดยปกติคนทั่วไปมักมีใบขับขี่แบบ รถไม่เกิน 8 ที่นั่ง ก็ต้องเลือกรถให้เหมาะ รถตู้ขนาดใหญ่ก็ไม่อาจเช่าได้ นอกจากจะมีใบขับขี่รถใหญ่ ถึงจะใช้ได้

การรับรถ คืนรถ และเรื่องเกี่ยวกับรถ

คุณสามารถเลือกใช้การขับรถเที่ยวตลอดทั้งทริปก็ได้ หรือหรือขับเฉพาะพื้นที่นอกเมืองก็ได้ จึงสามารถเลือกรับรถได้ทั้ง ที่สนามบิน หรือสาขา นอกจากนี้ยังรับ และคืนรถต่างสาขาได้ด้วย

ขั้นตอนการรับรถของผู้ให้บริการแต่ละเจ้าจะคล้ายๆ กัน ต่างกันไม่มาก

ขึ้นตอนการรับรถ

ขึ้นตอนการคืนรถ

ขั้นตอนอาจไม่เหมือนกันทุกบริษัท แต่ในใบจองก็จะมีรายละเอียด และในวันรับรถ ยังสามารถสอบถามเพิ่มเติมกับพนักงานได้ หากกังวลเรื่องภาษาแนะนำให้เลือกรับรถที่สนามบิน เพราะพนักงานจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้

การเติมน้ำมันรถ

รถที่ออกจากศูนย์เช่า เจ้าหน้าที่จะเติมน้ำมันให้ให้เต็มถัง วันคืนรถก็เติมกลับให้เต็ม ในส่วนของชนิดน้ำมันของรถแต่ละคันก็จะแตกต่างกันไป ให้สอบถามใหัชัวร์ไว้จะได้เติมถูก อย่าลืมศึกษาตำแหน่งที่เปิดฝาถังด้วยล่ะ

การเติมน้ำมันทำได้สองแบบ คือ เติมเอง หรือให้พนักงานเติมให้ซึ่งต้องเสียค่าบริการเพิ่มขึ้น แต่บางที่ก็ต้องเติมเองอย่างเดียว ถ้าทำไม่เป็นให้ถามพนักงานได้ ให้บอกว่าจะเติมเท่าไหร่ แล้วจ่ายเงินกับพนักงาน

อย่าลืมซื้อประกัน

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือประกันการเดินทาง เพื่อเวลาที่เกิดเหตุไม่คาดฝันค่าใช้จ่ายจะได้ไม่บานปลาย และมีคนคอยช่วยเหลือ และต้องเก็บข้อมูลการติดต่อให้ดี เพื่อจะได้ประสานแก่ทางบริษัทให้ช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

การใช้ทางด่วนที่ญี่ปุ่น

หากคุณต้องการเดินทางแบบรวดเร็ว ประหยัดเวลาการใช้ทางด่วนเป็นตัวเลือกที่ดี ซึ่งระบบทางด่วนของญี่ปุ่นจะเก็บเงินในระบบ ETC คล้าย Easy Pass แบบเติมเงินของบ้านเรา

ส่วนมากเครื่อง ETC มักจะติดไว้ในรถเช่า สามารถขอเช่าบัตร ETC จากผู้ให้เช่า เมื่อผ่านด่านทางด่วนให้เข้าทาง ช่อง ETC เครื่องก็จะหักเงินโดยอัตโนมัติ และเราต้องจ่ายเงินในวันที่คืนรถตามจำนวนที่ใช้

แต่หากใครที่มั่นใจว่าจะใช้ทางด่วนตลอดการเดินทางสามารถซื้อพาสทางด่วนแบบเหมา ซึ่งทางบริษัทที่เราเช่ารถจะเติมแพคเกจในเครื่อง ETC ให้ ซึ่งขึ้นตอนนี้ทำในวันรับรถได้ แพคเกจมีให้เลือกเป็นวัน จะคุ้มค่ากว่าการจ่ายรายครั้ง

แต่กรณีที่รถไม่มี ETC และต้องใช้ทางด่วน ให้เลือกช่องปกติ ที่เรียกว่า ippan [一般] แล้วหยอดเงินจ่ายตามราคา แต่ค่าทางด่วนจะแพงกว่าการใช้แบบ ETC หรือพาสเหมา

Cr: navitime.co.jp

ซึ่งเราสามารถเช็คค่าทางด่วนคร่าวๆ ได้ที่ navitime.co.jp เว็บเป็นภาษาญี่ปุ่นแต่สามารถกดแปลภาษา กดที่แถบสีแดง เติมจุดเริ่มต้นและจุดหมายลงไป เมื่อขึ้นหน้าแผนที่ให้เลือกจุดเริ่มและจุดมุงหมายอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วกดปุ่มค้นหาสีส้มจะขึ้นเส้นทาง และราคาทางด่วน

Cr: navitime.co.jp

ตัวอย่างพาสทางด่วนและข้อมูล เช็คได้ที่บทความนี้

เช่ารถเที่ยวญี่ปุ่น เดินทางอิสระอย่างคุ้มค่าด้วย พาสทางด่วนใบเบิกทางสู่ความสนุก

รายละเอียดของพาสทางด่วน

การใช้ระบบนำทางในรถ (GPS)

ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น ไม่ต้องกลัวหลงทาง เพราะระบบนำทางในรถ (GPS) นั้นแม่นยำสุดๆ ปัจจุบันนอกเหนือจากภาษาอังกฤษแล้ว ยังมีภาษาไทยไว้ให้บริการอีกด้วย แต่ภาษาไทยจะมีแค่เมนู เสียงนำทางยังเป็นญี่ปุ่น วิธีใช้ไม่ยาก ดังต่อไปนี้

หากไม่สามารถหาเบอร์โทรศัพท์ได้ เลือกใช้ MAP CODE จะสะดวกซึ่งสามารถเช็ค MAP CODE ได้ที่ japanmapcode.com แค่เติมชื่อสถานที่ก็จะได้ map code แล้วก็ใส่ลงไปใน GPS ได้เลย

เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับที่จอดรถ

จะ ขับรถที่ญี่ปุ่น นั้นที่จอดรถเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่อง ที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการจอดรถมาก รถจะจอดได้ในที่จอดรถเท่านั้น หากคุณอยากแวะถ่ายรูปข้างทาง ต้องให้มั่นใจว่ามีที่จอดอย่างเป็นกิจลักษณะ ไม่อย่างนั้นโดนจับ ค่าปรับแพงมาก

ก่อนเดินทางต้องเช็คว่าที่เที่ยว หรือที่พักที่จะไป มีที่จอดรถให้บริการหรือไม่ มีค่าบริการหรือเปล่า หากไม่มีที่จอดรถก็ต้องใช้บริการลานจอดรถให้เช่า ซึ่งจะมีเครื่องหมาย P ลานจอดรถแบบนี้จะเสียค่าบริการเป็นชั่วโมง ซึ่งราคาแตกต่างกันไป หัวเมืองใหญ่ค่าจอดแพงมาก แต่ถ้าเมืองรอบนอกอาจเป็นราคาเหมา หรือราคาต่อชั่วโมงถูกลง

ส่วนใหญ่ลานจอดรถแบบนี้จะเก็บค่าบริการแบบอัตโนมัติ ตอนขาเข้าให้กดรับบัตรจอดรถที่เครื่อง ขาออกเสียบบัตร เครื่องจะบอกราคา ก็หยอดเหรียญ หรือธนาบัตรเข้าไปตามที่เครื่องระบุ เป็นอันเสร็จ

สำหรับวิธีหาที่จอดรถก่อนเดินทางจริง ให้เข้า Google Map และหาคำว่า Parking lot ในแผนที่จุดที่อยู่ใกล่ที่ที่เราจะไปเที่ยว หรือไปพัก

คำเตือน!!! กรณีจอดรถหน้าร้านสพดวกซื้อ ถ้าเกิน 1 ชม. โดนปรับ คนที่นั่นจริงจังเรื่องมารยาทการจอดรถ ตำรวจทำงานรวดเร็ว ถ้าโดนล็อกล้อ นี่คือต้องไปจัดการจ่ายค่าปรับ รับรถ เพราะงั้นจอดดีๆนะจ๊ะ

จุดพักรถสุดสะดวก

ถ้าคุณอยากพักเหยียดแข้งเหยียดขาล่ะก็ สามารถแวะจอดได้ที่ิ จุดพักรถ (Service Area/SA) ถ้าขนาดเล็กก็จะมีแค่ห้องน้ำ ร้านสะดวกซื้อ แต่ถ้าเป็นจุดพักแบบจัดเต็ม อาจจะมีทั้งวิวสวยๆ ร้านอาหาร ห้างขนาดเล็ก และร้านขายของกินของฝากเลยก็ว่าได้ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดในระหว่างการเดินทาง

ทำตามกฏจราจรอย่างเคร่งครัด

รถญี่ปุ่นมีการจัดวางเหมือนที่ไทย พวงมาลัยขวา แต่ก็มีกฎปลีกย่อยที่แตกต่างกัน เช่น ที่ญี่ปุ่นไม่มีเลี้ยงซ้ายผ่านตลอด สำหรับกฏจราจรนั้นควรศึกษาให้ทีก่อนไปขับ หลักๆ คือต้องทำตามป้าย ขับเร็วตามป้ายกำหนด และอย่าขับเร็วเกิน แม้ว่าจะเป็นทางด่วนก็ตาม สัญญาณไฟที่เป็นลูกศรสีเขียว ต้องขับไปตามนั้น และเมื่อเจอทางรถไฟ แม้ว่าจะไม่มีรถไฟมาก็ต้องเปิดกระจก ฟังเสียง มองซ้ายขวาเช็คความเรียบร้อยว่าแล้วค่อยขับผ่านไป

จริงๆ แล้วขับไม่ยาก แต่หัวใจหลักคือการทำตามกฏจราจรอย่างเคร่งครัด และอย่าขับเร็วเกิน คนที่นั่นขับรถกันโอเค อุบัติเหตุน้อย ขับสบายทีเดียว แต่บางทีจะแอบง่วง ที่ถนนโล่ง แต่เหยียบไม่ได้ 555

กฏจราจรญี่ปุ่น

ศึกษากฏจราจรเพิ่มเติมได้ที่นี่

ตัวอย่างคู่มือการใช้รถ

ส่วนมากผู้ให้บริการเช่ารถ โดยเฉพาะการเช่าผ่านเอเจนซี่ที่ไทยนั้นจะมีการแจกคู่มือการ ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมขอเอาไว้ หรือโหลดเอาไว้ แต่ถ้าหาไม่ได้ ลองดูคู่มือนี้ ซึ่งเป็นคู่มือของปี 2017

คำแนะนำเรื่องการขับรถที่ญี่ปุ่น

ข้อสรุป

การ ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น กำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว เพราะเป็นการเดินทางที่เหมาะสมสำหรับหลายพื้นที่ และยังคุ้มค่าในกรณีที่มีสมาชิกทริปเยอะ มีเด็ก และผู้สูงอายุไปด้วย สำหรับใครที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม ลองดูรีวิวขับรถเที่ยวล่าสุดของเรา

ขับรถเที่ยว Chubu อินไซต์ใจกลางญี่ปุ่น ตอนที่ 1 : เที่ยวละมุน กรุ่นความสุข ที่ชิซูโอกะ

Autumn นี้เราขอพาตะลุยชูบุ ภูมิภาคใจกลางญี่ปุ่นที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ คราวนี้เราลอง ขับรถเที่ยว Chubu เพื่อชม Unseen ที่สวยงาม ใครที่กำลังสนใจการขับรถเที่ยวญี่ปุ่นต้องไม่พลาด แล้วจะรู้ว่าไม่ยาก และประหยัดกว่าที่คิด!!! ประเดิมวันแรกเมืองชิซูโอกะ เมืองสุดน่ารัก ที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ และของสุดอร่อย

ข้อต้องรู้ ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น เตรียมตัวดี เที่ยวสนุก แถมประหยัด

การ ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจ ที่จะทำให้เราได้ท่องเที่ยวไปได้ตามใจ ยิ่งถ้าไปเที่ยวกันเป็นกลุ่มใหญ่ยิ่งคุ้มค่า มาดูกันดีกว่าว่าการขับรถในญี่ปุ่นนั้นมีกฏกติกา และเงื่อนไขใดบ้าง