รีวิว เที่ยวนาโกย่า เยือนเมืองน่ารักนอนเรียวกังริมทะเล เที่ยวศาลเจ้า ไปอควาเรียม

12/10/2018 (อัพเดทเมื่อ 12/10/2020)
ทริปนี้เราพาทุกท่านหมุนนาฬิกาย้อนเวลาสู่อดีตที่มินามิชิตะ เมืองใกล้นาโกย่า สัมผัสประสบการณ์​เรียวกัง​ที่สุดแห่งออนเซนวิวทะเล สวมชุดยูกาตะทานมื้อค่ำสุดอลังการ ขึ้นเขาขอพรที่ศาลเจ้า แวะชมทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์ สัมผัสเจ้าโลมาที่อควาเรียม เที่ยวประทับใจจนต้องกลับไปเยือนซ้ำอีก

เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ตรวจเช็คสัมภาระที่จำเป็นเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกัน ทริปนี้เราจะไปเที่ยวจ.ไอจิ หรือ เมืองนาโกย่าที่เราคุ้นเคยกัน เราตั้งใจจะไปแช่ออนเซนวิวทะเลสวยๆ ใส่ชุดยูกาตะเดินไปมา ทานอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ดื่มด่ำกับความเป็นญี่ปุ่นให้หนำใจ และเราก็ตัดสินใจจะไปเรียวกังชื่อ Genji-koh เมืองมินามิชิตะ เมื่อได้ข้อมูลมาจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็กางแผนที่ออกเที่ยว ส่วนตัวเราหาข้อมูลจากเว็บไซด์โรงแรมนี้ >> Genji-koh มีเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะ

และถ้าเราจะตั้งต้นทำแพลนเที่ยว ก็ต้องเริ่มที่สถานีนาโกย่าเลย เพราะที่นี่เป็นต้นทางของรถไฟและรถบัสหลายเส้นทาง แต่วันนี้เราไม่ได้ใช้สถานีเจอาร์นาโกย่า เราใช้สถานีเมเททสึนาโกย่า (Meitetsu Nagoya station) เป็นสถานีหลักของแพลนครั้งนี้

หลายคนที่เคยเดินทางไปกลับสนามบินนาโกย่าชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport) อาจจะคุ้นชื่อสายรถไฟ Meitetsu เพราะเป็นรถไฟสายเข้าเมืองเลย ซึ่งสถานีเมเททสึนาโกย่านี้ก็เป็นที่ขึ้นลงทั้งรถบัสทางด่วน และรถไฟต่าง ๆ และตั้งอยู่ติดกับสถานีเจอาร์นาโกย่า คือเป็นตึกที่มีทางเชื่อมต่อกัน หาง่าย มีป้ายบอกตลอดทางในสถานีทั้งสอง

Cr: Rikichan

อย่างเช่นถ้าเราเดินในสถานีเจอาร์นาโกย่า เราจะเจอแบบนี้ ก็เดินป้ายตามไปเลย

เริ่มออกเดินทางจากนาโกย่าสู่เมืองมินามิชิตะ

Cr: Rikichan

แพลนขึ้นรถไฟวันนี้ของเรา ไปตามตารางนี้เลย ถ้าใช้ Hyperdia ช่วยในการเดินทางจะมีละเอียดมากเข้าใจง่าย ซึ่งเราไม่ต้องการต่อรถไฟหลายสาย เพราะเรามีสัมภาระเยอะ (จริง ๆ คือเราเมื่อย ฮ่า ๆ) ใน 1 ชั่วโมงจะมีแค่บางขบวนเท่านั้นที่จะวิ่งตรงสุดสายถึงสถานีสุดท้าย ( Utsumi station) คือส่วนใหญ่เป็นขบวนที่วิ่งในนาทีที่ 11 และ นาทีที่ 26 เช่น 10.11น./ 11.11น./14.26น.ถ้าไม่มั่นใจ ถามเจ้าหน้าที่สถานีได้ เค้ายืนรอให้พวกเราไปสอบถาม แถมพูดภาษาอังกฤษก็ได้ เยี่ยมไปเลย

Cr: Rikichan

รูทรถไฟตรงบริเวณตู้ขายตั๋วอัตโนมัติจะเป็นแบบนี้ สายสีฟ้า สถานี Utsumi จะอยู่ขวาล่าง ราคาค่าโดยสาร 1110 เยน ( จากจุดนี้ไปสนามบินก็ใกล้มาก) เราสามารถหาสถานีจากภาพนี้ได้โดยดูคำว่า Utsumi 内海 หรือ Utsumi station 内海駅

Cr: Rikichan

ขั้นตอนการซื้อตั๋วก็ง่ายมาก จะเลือกเดินไปซื้อกับเจ้าหน้าที่ก็ได้ หรือกดซื้อเองที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติเพื่อความตื่นเต้นก็ย่อมได้ เพราะที่ตู้ก็มีปุ่มเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ * ถ้าใครถือบัตร IC Card แตะเข้าได้เลยค่ะ

Cr: Rikichan

จากนั้น เริ่มกดซื้อได้เลย อย่าลืมเปลี่ยนภาษาก่อนนะจ๊ะ

Cr: Rikichan

แล้วกดเลือกตัวเลข 1110 ซึ่งหมายถึงราคาตั๋วโดยสาร 1110 เยน หลักการเดียวกันกับรถไฟฟ้าบีทีเอสบ้านเรา ต้องรู้สถานีที่จะลง รู้ราคาก่อน จึงจะเลือกตัวเลขได้

Cr: Rikichan

จากนั้นเค้าจะเตือนให้เราใส่เงินไปตามช่อง ธนบัตร หรือ เงินเหรียญ ก็ใส่ตามที่เรามี

Cr: Rikichan

แล้วตั๋วใบเล็กๆจะปลิวออกมาจากช่อง เราก็หยิบมา เดินทางกันต่อ รักษาดีๆนะคะเนี่ย เล็กแต่ยิ่งใหญ่เพราะเคยเห็นทำตั๋วหายหลายคนแล้ว ฮา

Cr: Rikichan

จากนั้นเราก็เดินเข้าประตูสู่ด้านในกัน เข้ามาก่อน แล้วถึงจะรู้ว่าต้องไปชานชลาหมายเลขอะไร เสียบตั๋วไปในช่องแบบนี้เลย แล้วไปยืนรอรับคืนที่ปลายทางด้านโน้น

Cr: Rikichan

หยิบไปด้วยนะ เมื่อถึงสถานีปลายทาง Utsumi ต้องใช้อีกครั้งเพื่อออก

Cr: Rikichan

เข้ามาด้านในแล้วมองหาชานชลาหมายเลข 4 เมื่อเจอแล้วก็เดินตามตัวเลข 4 ไปเลย ( สังเกตมีคำว่า Utsumi ด้วยนะ)

Cr: Rikichan

เมื่อเดินมาเรื่อยๆ เราเจอชานชลาตรงหน้าเลย ก็ดูจอบอกเวลาขบวนรถไฟทันที ปกติรถไฟจะมาจอดเทียบตรงตามเวลา ให้ระวังอย่าขึ้นผิดขบวนเพราะระยะห่างแต่ละขบวนแค่ 2 นาทีเอง ( กล้าแนะนำเพราะขึ้นผิดแต่ไหวตัวทันก่อน ฮ่าๆ)

Cr: Rikichan

มีตารางเวลารถไฟแปะข้างฝาผนังใกล้ ๆ ที่เรายืนรอ การอ่านคือ เลขด้านหน้าแถบน้ำเงิน 5-19 คือ ชั่วโมง เช่น 05 นาฬิกา นอกนั้นเป็นเลขนาที ครั้งนี้ขบวนที่วิ่งตรงไม่เปลี่ยนขบวนในรูทเราคือรอบเวลา 13.11 น. สังเกตคือ ด้านล่างเลขนาที มีตัวคันจิเล็กๆ เขียนว่า 内 จะมีอยู่ตรงนาทีที่ 11 และ 26 และก็เตรียมตัวเลยจ้า

Cr: Rikichan

และแล้ว รถไฟของเราก็มา แดงสวยหวานฉ่ำมาก ชอบๆ และเพื่อความมั่นใจมากขึ้น ก็ส่องดูข้างขบวนอีกครั้งเห็นคำว่า Utsumi ก็สบายใจแล้ว ขึ้นรถไฟเล้ย ที่นั่งตรงไหนว่างนั่งตามสบาย

Cr: Rikichan

มาดูด้านในรถไฟกัน จะคลาสสิคขนาดไหน พอก้าวผ่านประตูเข้ามาสัมผัสได้ถึงความหนาวยะเยือก…แอร์เย็นมาก

Cr: Rikichan

สังเกตที่ประตูรถไฟ กรี๊ด…ไม่มีป้ายไฟวิ่งบอกชื่อสถานีถัดไปลย แล้วจะฟังประกาศรู้เรื่องไหม แต่สติเริ่มมา นึกได้ว่าเราลงสุดสายนี่นา ถึงจะลืมลงก็ต้องลงเพราะเค้าจะให้ทุกคนลงให้หมด

Cr: Rikichan

และแล้วเราก็มาถึงสถานี Utsumi เป็นสถานีเล็ก ๆ ที่อยู่ชานเมือง บนรถไฟมีนักเรียนม.ต้น ม.ปลายนั่งมาด้วยประปรายแบบในละครที่เราเคยดูเลย พอผู้โดยสารลงรถไฟหมด เจ้าหน้าที่จะหันปรับเบาะใหม่ ให้หันไปทางหัวขบวนอีกด้านแทน

Cr: Rikichan

ที่นี่เป็นสถานีเล็ก มีทางเข้าออกทางเดียว ลงบันไดมาปุ๊บ เจอทางออกกับเจ้าหน้าที่ 1 ท่านทันที ไม่มีหลงแน่นอน

Cr: Rikichan

สอดตั๋วใบเล็ก ๆ นี้อีกครั้งแล้วก็เดินออกมาเลย ใครทำตั๋วหายไม่ต้องกังวลเพราะเราสามารถจ่ายเงินอีกรอบที่เจ้าหน้าที่ได้เลยจ้า

Cr: Rikichan

  • ผ่านประตูออกมาแล้วมองทางขวา เจอป้ายรถบัสเด่นตระหง่าน นี่แหล่ะคือที่ๆเราต้องต่อรถบัสอีก
  • ป้ายนี้มีชื่อตามสถานีนี้ คือ Utsumi bus stop จะเป็นรถบัสเล็กที่เรียกว่า Minamichita-cho Community Bus


  • Cr: Rikichan

    นี่คือหน้าตารถบัส อาจจะเป็นสีขาวบ้าง สีฟ้าบ้าง เดี๋ยวเค้าจะขับมาจอดที่ป้ายตามเวลา

    Cr: Rikichan

    ไหนเดินมาดูตารางรถบัสออกซิ ช่วงเวลาบ่ายนี้มีรถบัสออกทุกนาทีที่ 17 และใช้เวลาวิ่งแค่ 10 นาทีก็ถึงป้ายที่เราจะลง ซึ่งคือป้ายชื่อว่า Yamami bus stop – 山海 อ่านว่า ยามามิ ซึ่งจากนี้เราต้องจำคันจิตัวนี้ดีๆ เพราะต้องใช้อ่านตอนก่อนลงรถบัส และรอบที่เราขึ้นคือเวลา 15.17 น.

    Cr: Rikichan

    Cr: Rikichan

    สามารถดูตารางรถบัสสายนี้จากลิงค์นี้ แยกเป็นวันธรรมดาและวันหยุด จะเห็นได้ว่ามีชั่วโมงละ 1 คัน เผื่อเวลาดีๆ คลิ๊กที่นี่

    Cr: Rikichan

    เนื่องจาก เรามีเวลาเหลือเฟือกว่ารถบัสน้อยจะมา เลยมองหาอะไรทำฆ่าเวลาไป ใครจะไปห้องน้ำก็อยู่ฝั่งด้านหลังห้องเจ้าหน้าที่ ใครอยากลองนั่งดื่มกาแฟชิลล์ ๆ ที่ร้านแบบท้องถิ่น ร้านอยู่ตรงหน้าห้องเจ้าหน้าที่เลย เราสั่งน้ำส้มมา แก้วละ 400 เยน แต่คุณป้าเจ้าของร้านใจดีมาก แถมขนม ชวนคุยเยอะแยะ และรู้จักเรียวกังที่เราจะไปพักด้วย บอกว่าที่นี่มีชื่อเสียงมานานแล้ว ปลื้มปริ่มค่ะ

    Cr: Rikichan

    ดื่มน้ำส้มไป ฟังเพลงไป ดูแพลนพรุ่งนี้ไปเพลิดเพลินมาก

    Cr: Rikichan

    พอได้เวลา รถบัสก็มาจอดที่ป้ายตามเวลา ก่อนจะขึ้นก็ลองถามคนขับอีกทีว่า ผ่าน Yamami ไหมคะ เค้าบอกผ่าน เราเลยขึ้นมาเลย ทางขึ้นอยู่ตรงประตูด้านหลัง พอขึ้นมาแล้วจะเจอตั๋วใบเล็กแบบนี้ หยิบออกมาเลยคนละใบ

    Cr: Rikichan

    ด้านในรถ สีสันฉูดฉาดมาก คนน้อย เลือกที่ได้นั่งตามชอบเลย

    Cr: Rikichan

    วิวข้างทาง เป็นริมทะเล หาดทรายยาวตลอดทาง จุดนี้คืออ่าวอิเซะ ส่วนของน้ำทะเล รับมาจากมหาสมุทรแปซิฟิค

    Cr: Rikichan

    นั่งไปได้สักพัก พอป้ายไฟบนแผงหน้าด้านหน้ารถขึ้นตัวหนังสือมาว่า 山海 เราก็เตรียมกดปุ่มให้เค้าจอดป้ายนี้ให้

    Cr: Rikichan

    กดปุ่มเลยจ้า ตรงสีขาวนะ แล้วไฟตรงแดงจะขึ้น คนขับจะเตรียมจอดรถให้เราลง

    Cr: Rikichan

    ลงป้ายนี้ตามรูปเลย ซึ่งจากที่เรานั่งมาจากสถานีที่ลงรถไฟตะกี้ แค่ราว 10 นาทีเอง จ่ายเงินที่ด้านหน้าตรงกล่องใกล้คนขับ เดี๋ยวเค้าบอกเอง ว่าตรงไหน ค่าโดยสารคนละ 160 เยน หยอดเงินลงไปพร้อมกับตั๋วได้เลย *รถบัสนี้ใช้ได้เฉพาะเงินสด ธนบัตรไม่เกิน ใบละ 1000 เยน ถ้าใครเตรียมเงินมาพอดี จะดีมาก

    Cr: Rikichan

    แล้วเรียวกัง ต้องเดินไปทางไหนต่อน้อ มองตามหลังรถบัสเลย นั่นแหล่ะ ตึกสีน้ำตาลสูง ๆ คือเรียวกังที่เราจะไปพักคืนนี้

    Cr: Rikichan

    ด้านหน้าเรียวกัง ตกแต่งด้วยสวนญี่ปุ่นเล็กๆ ถ้าใครเช่ารถมาก็สบาย มีลานจอดรถกว้างขวาง

    Cr: Rikichan

    พอเดินผ่านประตูเข้าไปก็มีพนักงานใส่ชุดแบบญี่ปุ่นออกมาต้อนรับทันที เมื่อเราแจ้งรายละเอียดการจองเรียบร้อยแล้ว ก็มานั่งพักก่อน เครื่องดื่มต้อนรับของที่นี่มีทั้งกาแฟร้อน เย็น น้ำดื่ม มีหนังสือพิมพ์ ถ้ามาถึงก่อนเวลาเช็คอิน สามารถมานั่งพักและเดินเล่นแถว ๆ โรงแรมได้เลยค่ะ วิวทะเลด้านนอกก็สวย ที่นี่ยังมีบริการ Free Wi-Fi ด้วย

    Cr: Rikichan

    มุมกาแฟ ว่างเมื่อไหร่แวะมาดื่มได้ตลอดเวลา

    Cr: Rikichan

    ด้านหน้าก็สวยสะอาดตา สังเกตลิฟต์ ลวดลายสวยมากค่ะ

    Cr: Rikichan

    จากนั้นเค้าจะให้เราไปเลือกสีชุดที่จะใส่เดินพรมแดงในค่ำคืนนี้ เอ๊ย ใส่เดินในขณะที่อยู่ในเรียวกังนี่แหล่ะจ้า เราก็เลือกไป เอาสายคาดพุงสีอะไรก็หยิบไป พนักงานจะรวบรวมแล้วหยิบไปวางบนห้องให้เรา ณ จุดๆนี้รับรู้ถึงความเป็นคุณหนูน้อยทันทีค่ะ

    Cr: Rikichan

    พนักงานจะยืนกดลิฟต์และพาเราขึ้นมายังห้องพักซึ่งด้านหน้าห้องแต่ละห้องจะมีชื่อเป็นเอกลักษณ์ด้วย ชั้นที่เราไปพักคือชั้น 8 วิวทะเล เปิดประตูมาแล้วจะเจอชั้นวางรองเท้าและประตูเลื่อนแบบญี่ปุ่น

    Cr: Rikichan

    อันนี้คือรองเท้าที่เค้าให้เราเปลี่ยนใช้ภายในในเรียวกัง ระหว่างที่เดินไปเดินมาด้านใน น่ารักเนอะ

    Cr: Rikichan

    สำรวจภายในห้องกันซะหน่อย สวยงามมาก ให้ความรู้สึกเหมือนมาพักบ้านญี่ปุ่นเลย

    Cr: Rikichan

    ระเบียงห้องพัก วิวติดชายทะเลเลย ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งตลอดเวลา สดชื่นและผ่อนคลายมาก

    Cr: Rikichan

    Cr: Rikichan

    เครื่องดอกไม้ภายในห้อง วางไว้อย่างประณีตและสวยงาม

    Cr: Rikichan

    Cr: Rikichan

    สักพัก พนักงานจะเอาธูปหอม 5 กลิ่น มาวางให้เราเลือก เราลองดมกลิ่นดูก่อนได้ จากนั้นหยิบกลิ่นที่ชอบออกมา เค้าจะจุดให้ สักพักห้องจะอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมที่เราเลือกไว้ ครั้งนี้เราเลือกกลิ่นกุหลาบ สีชมพูด้านขวาสุด

    Cr: Rikichan

    จุดแล้ววางแบบนี้ จนกว่าก้านธูปจะไหม้หมดลงเอง จากนั้นห้องเราก็จะหอมไปทั้งคืน

    Cr: Rikichan

    ภาพนี้ ทำให้นึกย้อนไปถึงญี่ปุ่นสมัยก่อนเลย มองไปยิ้มไป ช่างอ่อนโยนจริงๆ

    Cr: Rikichan

    ภายในห้องยังมีตู้เซฟเล็กๆหรือใครจะฝากไว้ที่ตู้เซฟกับพนักงานด้านล่างก็ได้ เรียวกังที่นี่ มีออนเซนอยู่ 3 จุด อยู่ที่ชั้น 8 ตรงหน้าห้องของเราเลย เป็นออนเซนสำหรับผู้หญิง ชั้น 9 เป็นออนเซนสำหรับผู้ชาย และยังมี ชั้น 10 ที่เป็นออนเซนวิวทะเล สวยมาก

    Cr: Rikichan

    แชมพู ครีมนวดผม สบู่ และทุกอย่างใช้ยี่ห้ออย่างดี POLA นะจ๊ะ นอกนั้นก็มีหมวกคลุม ยางรัดผม และอื่นๆ

    Cr: Rikichan

    อ่างอาบน้ำของชั้น 8 ที่อยู่ตรงชั้นเดียวกับห้องพักเรา น้ำอุ่นสบาย 41 องศา ค่อนข้างส่วนตัวมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นแขกที่อยู่ในชั้นเดียวกันมาอาบ ด้านนอกเป็นวิวภูเขาท้าแดดท้าลมมาก แต่รุ่นนี้ก็ไม่มีคำว่า อาย *เราให้พนักงานช่วยพาไปถ่ายรูป

    Cr: Rikichan

    สระผม ถูๆขัดๆตัวกันให้เต็มที่ แชมพูมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เค้าวางขวดไซส์ใหญ่ไว้ให้เลย สะใจมาก

    Cr: Rikichan

    ส่วนชั้น 10 เป็นชั้นของออนเซนวิวทะเล สวยมาก ก.ไก่ล้านตัว เป็นออนเซนในฝันเลย แช่น้ำไปฟังเสียงคลื่นเบาๆ หาดทรายก็สวย น้ำทะเลก็สีฟ้า ยิ่งช่วงเวลาค่ำคืนจะมีแสงไฟสลัว ๆ แต่เรากลับสามารถมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าได้

    Cr: Rikichan

    กลางวันยังสวยขนาดนี้ ตอนเย็นพระอาทิตย์ตกดินจะสวยขนาดไหน ประมาณว่าถ้าเห็นดาวตกปุ๊บพร้อมอธิษฐานเลย

    Cr: Rikichan

    บ่อนี้ก็แช่ตัวสบายมาก ถ้าเป็นช่วงเช้าตรู่เราจะเห็นเรือประมงลำใหญ่หลายลำหาปลาอยู่กลางทะเล

    Cr: Rikichan

    อาบน้ำเสร็จ ออกมานั่งพักก่อน และทานไอศครีมสิจ๊ะ จะรออะไร รองท้องไปก่อน ถ้าใครอยากจะแช่ช่วงดึกต่ออีก ก็ตามสบาย เพราะเค้าเปิดให้แช่ถึงเที่ยงคืนเลย เค้าแบ่งเวลาแช่คือ 15.00น.-24.00 น. และตอนเช้า 6.00น.-10.00น. บ่อน้ำมีแร่ธาตุโซเดียม แคลเซียม คลอไรด์ ช่วยลดอาการปวดข้อ ปวดเมื่อย ลดความหนาวเย็นและช่วยผ่อนคลาย

    Cr: Rikichan

    มาดูช่วงมื้อค่ำกันบ้าง หิวข้าวละ พักแบบเรียวกังก็ดีอย่างคือ จะมีคนเตรียมอาหารค่ำและอาหารเช้าไว้ให้เรา เราแค่เดินไปทานตามเวลานัดก็พอ ห้องอาหารอยู่ที่ชั้น 2 พออาบน้ำเสร็จเราก็ใส่ชุดยูกาตะที่เราเลือกไว้ ผูกมัดเอวตามใจชอบ หรือให้พนักงานช่วยแต่งตัวก็ได้ เค้ายินดีดูแลเราเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแขกต่างชาติ เราสวมรองเท้าที่มีในห้องเดินมาเลย นี่คือด้านหน้าห้องอาหาร

    Cr: Rikichan

    เข้าไปด้านใน เห็นมุมนี้แทบเข่าทรุด โต๊ะนั่งวิวทะเลสวยมาก ชอบที่สุด

    Cr: Rikichan

    ทางเดินด้านใน มีหลายห้องเลย ทานแบบส่วนตัวมุมใครมุมมัน ไม่ต้องกลัวคุยกันแล้วใครจะมาได้ยินเลย ( ความจริงคือ เค้าไม่สนใจกัน)

    Cr: Rikichan

    ถ้ามาเป็นครอบครัวใหญ่ ขอจองมุมนี้เลยนะ กะว่าเวลาพระอาทิตย์ตกดินตรงนี้น่าจะสวยงามที่สุด

    Cr: Rikichan

    ตรงนี้ก็สวย เลือกไม่ถูกเลย ( จริงๆคือเค้าเตรียมโต๊ะให้เราแล้ว ตามจำนวนสมาชิก)

    Cr: Rikichan

    อาหารค่ำ เราเลือกเมนูเนื้อวัวย่างค่ะ ซึ่งเค้าจะมีชุดอาหารญี่ปุ่นชนิดอื่น ๆ มาให้เราด้วย มีผัก มีเนื้อปลา มีข้าวหุงแบบญี่ปุ่นซึ่งจะมีหลายแบบให้เราเลือก เช่น หุงใส่ปลาหมึก หรือปลาชิราสุ (คล้ายปลาข้าวสาร) และอาหารถ้วยเล็กถ้วยน้อยมากมาย

    Cr: Rikichan

    ทุกอย่างทำด้วยความประณีต สวยงามไปหมด

    Cr: Rikichan

    เนื้อวัวที่นุ่มละลายในปาก เมนูนี้ชื่อ Chita Ushi เป็นเนื้อวัว เกรด A5 อร่อยมาก

    Cr: Rikichan

    นอกจากอาหารค่ำที่อร่อยทานจนพุงกางแล้ว ที่เรียวกังแห่งนี้ยังให้เราได้มีประสบการณ์ลองสวมชุดคลุมคล้ายกิโมโน เรียกว่า Juni-hitoe- kimono ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายของเหล่าบรรดาสตรีชั้นสูงในยุคสมัยเฮอัง ( Heian ) ตามประวัติศาสตร์คืออยู่ในช่วงปี ค.ศ. 794 – ค.ศ. 1185 เป็นยุคที่มีศิลปะและวัฒนธรรมที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด เฮอัง แปลว่า ความสงบสันติ สมัยนี้หาชุดแบบนี้แทบไม่ได้แล้ว ราคาแพงมาก สวยงามจับจิต อยากลองสวมสีไหนก็ได้เลย ด้านในยังมีอีกหลายชุด ถ่ายรูปจนพอใจ เมมโมรี่เต็ม

    Cr: Rikichan

    ใส่แล้วมีความเป็นหงส์เหนือมังกร ถ้ารู้ว่ากิโมโนจะสวยเลอค่าระดับนี้ เราจะนั่งแต่งหน้าทำผมสักสองชั่วโมงก่อนไปลองสวมเลย

    Cr: Rikichan

    ฝีมือการปักผ้าสวยงดงามมาก เลยขอลองสวมชุดสีชมพูอีกจ้า ให้สมกับวัยหน่อย ฮิฮิ ปลายชุดกองมาก

    Cr: Rikichan

    นอกจากจะพาเราย้อนเราสู่ยุคอดีตกาลของญี่ปุ่นแล้ว เค้ายังให้เราเรียนรู้ถึงธรรมเนียมอันเก่าแก่ด้วย แก้วกระเบื้องใบนี้ ด้านบนเป็นเหมือนก้านธูปเล็กๆ วางบนแผ่นเหล็กที่อยู่บนเถ้าถ่านอีกที ด้านล่างภายในแก้วจะมีความร้อนจากก้อนถ่าน ทำให้ส่งกลิ่นหอมออกมาเป็นระยะ มีขั้นตอนการใช้มือหยิบขึ้นมาดมด้วยนะคะ เพราะทุกอย่างคือศิลปะ

    Cr: Rikichan

    ที่เรียวกังแห่งนี้ เค้ามีบริการเสิร์ฟค็อกเทลถึงห้องพักด้วย พอเราทานอาหารค่ำเสร็จ เค้าจะสังเกตแล้วว่าเรากลับถึงห้องหรือยัง จากนั้น พนักงานสุดหล่อจะยกถาดที่มีส่วนผสมในการปรุงค็อกเทลที่เราต้องการ

    Cr: Rikichan

    ค็อกเทลหน้าตาดี อร่อยเชียวนะคะ รสชาติละมุนมาก เราสั่งค็อกเทลอุเมะ (บ๊วย) เอ้า ชนแก้วกันหน่อย

    Cr: Rikichan

    ก่อนนอน เกือบลืมของว่างรอบดึกที่พนักงานให้มา กล่องสีแดงนี้ด้านในเป็นเหมือนข้าวซูชิ เรียกว่า อินาริ (ข้าวซูชิห่อด้วยแผ่นเต้าหู้) ถ้าไทยมีมิดไนท์ไก่ตอน ที่เรียวกังนี้ก็มีมิดไนท์สแน็ค

    Cr: Rikichan

    ตื่นเช้ามา พร้อมกับแสงสว่าง แดดอ่อน ๆ และเสียงคลื่นทะเลและนกร้อง หันไปมองที่ระเบียง เฮ้อ ไม่อยากจะลุกจากที่นอนเลย ฟูกนิ่มนอนสบาย แอร์เย็นพอดี ผ้าห่มก็ฟู ๆ อยากนอนมองทะเลแบบนี้ไปนาน ๆ

    Cr: Rikichan

    ตื่นแล้วออกมารับลมรับแดดที่ระเบียงกันหน่อย เห็นวิถีชีวิตชาวประมง ดูเรือหาปลากัน ฟ้าสวยใส ด้านซ้ายมองเห็นประภาคารรูปปลาโลมา น่ารักเชียว

    Cr: Rikichan

    หน้าร้อน เวลาตีห้าครึ่งก็สว่างแบบนี้แล้ว

    Cr: Rikichan

    เริ่มเช้าวันใหม่ ด้วยหัวใจเบิกบาน เมื่อคืนนอนหลับสบายถึงเช้า เราใส่ชุดยูกาตะออกมาทานข้าวเช้า หรือใครจะเปลี่ยนเสื้อผ้าก็แล้วแต่สะดวก พอเราลงมาที่ห้องอาหาร พนักงานเชิญเราไปที่ห้องที่จัดเตรียมไว้ให้แล้ว พอเห็นอาหารเช้าแล้ว ตื้นตันใจเหลือเกิน อาหารเช้าในฝันของดิชั้น เติมข้าวได้ไม่อั้นด้วยนะ นี่แหล่ะถูกใจมาก

    Cr: Rikichan

    มานั่งย่างปลากัน ปลาแห้งนี่คือเค้าถือกระด้งใส่ปลาหลายแบบมาเลย เราก็ชี้เอา 2 ชนิด อย่างละตัว จะเอาสุกแค่ไหนก็ตามใจ ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้ตรงด้านหน้า เดินไปเทใส่แก้วมาเลย มีหลายอย่างให้เลือกทั้งน้ำผลไม้และชา

    Cr: Rikichan

    สุขใดไหนเล่าจะเท่าเรียวกัง หน้าที่ของเราคือ นั่งกินให้หมด ฮ่าๆ อร่อยทุกอย่างมีแต่ของดีและมีประโยชน์

    รายละเอียดของสถานที่ Genji-koh 源氏香

    ที่อยู่103 Yashiki, Yamami, Minamichita-cho, Chita-gun, Aichi 470-3322, Japan
    วิธีเดินทาง (ア)จากสถานี Meitetsu Nagoya ด้วย Meitetsu Limited Express ขึ้นที่ชานชลา 4 ไปลงสถานี Utsumi แล้วต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Yamami ใช้เวลานั่งรถไฟราว 1 ชั่วโมง ส่วนรถบัสใช้เวลา 10 นาที
    วิธีเดินทาง (イ) จากสถานี Meitetsu Nagoya ด้วย Meitetsu Kowa line ไปลงที่สถานี Kowa แล้วรอรถ Free Shuttle Bus มารับ ทั้งนี้ต้องจองที่นั่งล่วงหน้ากับทางเรียวกังก่อน มี 3 รอบดังนี้ 14:35、15:35、14:20 ใช้เวลานั่งรถไฟราว 50 นาที ส่วนรถบัส 15 นาที
    ที่จอดรถมีที่จอดรถฟรี
    เวลาทำการ15.00 น.- 20.00 น. เวลาเช็คเอาท์ 7.00น. – 10.00 น. รับบัตรเครดิต
    ราคาราคาต่อห้องโดยประมาณ 27000 – 35000 เยนต่อคน ฟรีอาหารเช้า * สำหรับสองท่าน
    โทรศัพท์0569-62-3737
    เวลาทำการ 9.00 – 21.00
    WebsiteGenji-koh
    Facebook Genji-koh มีระบบจองและส่งข้อความได้

    ดูแผนที่ Genji-koh

    Cr: Rikichan

    นอกจากนอนฟูกนุ่ม ๆ และทานอาหารญี่ปุ่นจนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว เราก็หาที่เที่ยวที่จะเป็นรูทเที่ยวก่อนกลับสถานีนาโกย่า ใกล้ๆเรียวกังของเรา มีศาลเจ้าที่สวยงามขึ้นชื่อแห่งหนึ่ง เดินออกมาหน้าโรงแรมแล้วมองไปทางขวา จะเห็นตั้งเด่นตระหง่านบนเขา ให้เดินเลยป้ายรถบัสไปนิดหน่อย เลาะๆไปจะเจอทางขึ้น ชื่อ ศาลเจ้า Arakuma Shrine เป็นศาลเจ้าแห่งความมั่งคั่งในเรื่องธุรกิจและเรื่องแต่งงาน ไหว้เทพเจ้าขอพรกัน คำนวณเวลาที่เราเดินมาจากเรียวกังจนถึงยอด ใช้เวลาราว 15 นาที ใครชอบเดินออกกำลังกายน่าจะชอบที่นี่

    Cr: Rikichan

    Cr: Rikichan

    ด้านบนก็สวยมาก ถ้าไม่ได้มาจะเสียดายเลย แต่เราคิดว่า ถ้ามาตั้งแต่เช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้นน่าจะสวยมาก

    ศาลเจ้า Arakuma Shrine 荒熊神社

    10 Yamami Koza, Minamichita-cho, Chita-gun 470-3322, Aichi Prefecture
    ที่อยู่
    วิธีเดินทางจากสถานี Meitetsu Nagoya ด้วย Meitetsu Limited Express ขึ้นที่ชานชลา 4 ไปลงสถานี Utsumi แล้วต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Yamami ใช้เวลานั่งรถไฟราว 1 ชั่วโมง ส่วนรถบัสใช้เวลา 10 นาที เดินขึ้นเขาต่ออีกราว 10 นาที
    โทรศัพท์ (+81) 0569-64-1828
    WebsiteArakuma Shrine

    ดูแผนที่ Arakuma Shrine

    Cr: Rikichan

    ลงจากที่นี่แล้วเราก็เดินมารอรถบัสที่ป้ายเดิม Yamami รถบัสจะมาชั่วโมงละ 1 คัน ดังนั้นดูเวลาดีๆ ป้ายนี้รถบัสมาจอดที่ นาทีที่ 17 เราก็รอขึ้นที่เวลา 9.17 น. (ใครจะกลับนาโกย่าก็แค่ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามไปยืนรอรถบัสตรงป้ายเลย นั่งไปลงที่สถานี Utsumi แล้วต่อรถไฟกลับ) บัสมาจอดตรงเวลาอีกแล้วจ้า

    Cr: Rikichan

    แพลนวันนี้ เราจะไปดูดอกไม้ที่สวนชื่อ Hana Hiroba ชื่อทางการเค้าคือ Kanko Noen Hana Hiroba Tourist Farm แต่จากเรียวกังต้องต่อรถ 1 ครั้งคือต้องนั่งไปลงที่ป้าย Toyohama 豊浜 ก่อนแล้วข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อไปรอรถบัสอีกคัน ไปลงป้าย Plastic Kougyodanchi Maeプラスチック工業団地前

    จากนั้นเดินไปตามกูเกิ้ลเลยจ้า ใครขี้เกียจเดิน ให้เรียวกังช่วยเรียกแท็กซี่ให้นั่งยาวไปเลยจ้าใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ค่าแท็กซี่เริ่มต้นที่ 600เยน(ระยะทางเกือบ 6 กิโลเมตร) แต่ควรแจ้งเค้าแต่เนิ่นๆ สักก่อนเดินทาง 30 นาที เพราะแถวนี้ไม่ค่อยมีรถแท็กซี่ผ่าน

    แผนที่เที่ยว* เครดิตภาพและดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊กที่นี่

    Cr: Rikichan

    รอแป๊บๆ ไม่เกิน 20 นาที รถบัสก็มาจอดจ้า ตรงป้ายนี้มีร้านแฟมิลี่มาร์ทด้วยนะ เผื่อใครอยากเข้าห้องน้ำหรือซื้อเครื่องดื่ม

    Cr: Rikichan

    นั่งต่อมาสัก 5 นาที ก็ลงป้ายนี้ Plastic Kougyodanchi Mae プラスチック工業団地前 แล้วข้ามถนนมาอีกฝั่ง เดินต่อขึ้นเขาอีกราว 10 นาทีค่ะ ตามแผนที่กูเกิ้ลไปกัน

    จ่ายตั๋วค่าเข้าชมแล้วเดินออกไปชมดอกไม้กันเลย ที่สวน Hana Hiroba เค้าปลูกดอกไม้ไว้ทุกฤดู ใครอยากไปดูดอกอะไร ก็ตามนี้เลย และยังมีอีกหลายชนิด สรุปคือมีดอกไม้ตลอดปี

    ดอกป๊อปปี้ ดอกดาวเรือง กลางมีนาคม – พฤษภาคม
    ดอกฟรีเซีย ต้นเดือนมีนาคม – เมษายน
    ดอกไอริส ต้นเมษายน – พฤษภาคม
    ดอกไฮเดรนเยียร์ กลางพฤษภาคม –ปลายมิถุนายน
    ดอกนาโนฮานะ กลางเดือนธันวาคม – ต้นเดือนมีนาคม
    ทุ่งต้นโคเคีย ต้นเดือนกรกฎาคม (สีเขียว) – ปลายเดือนพฤศจิกายน *เริ่มเปลี่ยนสีแดง ช่วงเดือนตุลาคม
    คอสมอส ต้นตุลาคม – ต้นพฤศจิกายน
    รายละเอียดเพิ่มเติม >> คลิ๊กที่นี่

    ช่วงนี้หน้าร้อน เป็นดอกทานตะวันแต่เค้าปลูกไล่ระยะเวลาไป ดังนั้นที่นี่จะมีดอกทานตะวันตั้งแต่ต้นกรกฎาคม – ต้นธันวาคมเลย

    Cr: Rikichan

    ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 650 เยน เด็กประถม 300 เยน เวลาทำการ 8.00 น. – 17.00 น.

    Cr: Rikichan

    เว็บไซด์หน้าหลัก คลิ๊กที่นี่ มีภาษาอังกฤษ มีภาพกิจกรรมและดอกไม้เยอะแยะ ลองเข้าไปดู จริงๆวันนี้ เรามาดูดอกทานตะวัน แต่กลับค้นพบทุ่งโคเชียขนาดใหญ่ วั้ย ตื่นเต้นดีใจ ตุลาคมนี้สีน่าจะเป็นทุ่งแดงเพลิงสวยเลย

    Cr: Rikichan

    หันมาดูดอกทานตะวันกันบ้างจ้า ยืนรอลูกค้ามาตั้งแต่เช้าแล้ว

    Cr: Rikichan

    ปลูกเป็นทุ่งกันขนาดนี้เลยรึ แล้วสวนนี้ใจดีมาก แจกกรรไกรให้เราตัดดอกทานตะวันกลับบ้านได้ คนละ 5-6 ดอก

    สวน Hana Hiroba 観光農園花ひろば

    ที่อยู่48 Takamidai, Toyohama, Minamichita-Town, Chita-District, Aichi Prefecture 470—3411
    วิธีเดินทางจากสถานี Meitetsu Nagoya นั่งรถไฟสาย Kowa line มาลงที่สถานี Kowa ใช้เวลา 45 นาทีค่ารถไฟ 920 เยน แล้วนั่งรถบัสสาย Umikko Toyohama (豊浜線Toyohama-sen)อีกราว 20 นาที ค่ารถบัส 300 เยน ลงที่ป้าย Tai Matsuri Hiroba/Hana Hiroba-mae แล้วเดินต่อราว 10-20 นาที
    เวลาทำการ8.00 น. – 17.00 น.
    ราคา ผู้ใหญ่ 650 เยน(ระดับมัธยมต้นขึ้นไป) เด็กประถม 300 เยน *แต่งคอสเพลย์ได้ นำสัตว์เลี้ยงเข้าได้ มีไอศครีมและคาเฟ่
    โทรศัพท์0569-65-2432
    WebsiteHana Hiroba
    Facebook Sightseeing farm Flower garden

    ดูแผนที่ Hana Hiroba

    Cr: Rikichan

    แล้วก็ปิดทริปด้วยอะควาเรียมริมอ่าวอิเซะชื่อ Minami Chita Beach Land เรียกแท็กซี่นั่งมาเลยจ้า ค่าแท็กซี่ราว 6 พันเยนนิดๆ ถ้ามาหลายคนก็ช่วยได้เยอะเลย เพราะประหยัดเวลาและพลังงานเราได้มากค่ะ แก่แล้วต้องถนอมร่างกาย ฮ่าๆ ลองให้พนักงานช่วยเรียกให้นะคะ บ่ายนี้จะใช้เวลาที่นี่ให้เต็มที่เลยค่ะ ชอบดูโชว์โลมามาก และที่นี่เค้าก็ขึ้นชื่อเรื่องกิจกรรมให้มีประสบการณ์สัมผัสปลาโลมาด้วย มาถึงด้านหน้าแล้ว

    ใครที่อยากมาที่นี่โดยตรงจากนาโกย่าก็นั่งรถไฟสาย Meitetsu line ที่สถานี Meitetsu Nagoya มาลงที่สถานี Chita Okuda โดยใช้เวลาราว 50 นาที จากสถานีเดินต่ออีก 15 นาที ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

    Cr: Rikichan

    จ่ายตั๋วค่าเข้าแล้วลุยกันเลย ผู้ใหญ่คนละ 1700 เยน เด็กคนละ 800 เยน

    Cr: Rikichan

    เราวิ่งมาที่สระโลมาก่อนละจ้า โชว์จะเริ่มแล้ว มีโชว์เรียกน้ำย่อยด้วย จากเจ้าแมวน้ำแสนรู้ น่าหมั่นไส้มาก

    Cr: Rikichan

    บอยแบนด์ออกมาแล้ว แต่ละตัวล่ำมาก ทุกตัวเต็มที่กับการแสดงจริงๆ คนดูแถวหน้าถึงกับยืนขึ้นกันเลย คือ โดนน้ำสาดใส่หน้ากันถ้วนทั่ว ฮ่าๆ

    Cr: Rikichan

    มุมชิลล์ชิลล์ก็มีนะคะ ว่ายแบบนี้กันทั้งวัน

    Cr: Rikichan

    หรือจะเอาชิลแค่ไหน แบบเต่าพอไหม คือจะบอกว่า ตอนยืนถ่ายรูปอยู่ มีเสียงเป่าลมดัง ฟู่ๆ ด้านล่าง เลยหันลงไปมอง คือว่า เต่ามันเรียกดิชั้นค่า ฮ่าๆ

    Cr: Rikichan

    นี่คือไฮไลท์ของที่นี่เลย การสัมผัสปลาโลมาแบบเป็นๆ คนรอคิวเยอะเพราะเป็นขวัญใจของเด็กๆ แต่ก็ได้จับทุกคนนะ เดี๋ยวตอนเราซื้อตั๋วแจ้งจ้าหน้าที่เลย ราคาอยู่ที่คนละ 500 เยน

    Cr: Rikichan

    ด้านในนี้ยังมีสวนสนุกสำหรับเด็กเล็กด้วย ที่ชอบคือบ้านกระต่ายซิลวาเนียน กระต่ายเยอะมาก มากันเป็นตระกูล นั่งเล่นได้ทั้งวัน ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีก เปิดประตูบ้านเข้าไปนั่งเล่นเลย

    Minami Chita Beach Land

    ที่อยู่428-1 Okuda, Mihama Town, Chita District, Aichi Prefecture 470-3233
    วิธีเดินทางจากสถานี Meitetsu Nagoya นั่งสาย Meitetsu Chita line มาลงที่สถานี Chita Okuda เดินต่ออีกราว 15 นาที
    เวลาทำการ มีนาคม – ตุลาคม 9.30 น. – 17.00น., พฤศจิกายน 9.30 น. – 16.30 น., ธันวาคม 10.00 น. – 16.00 น, มกราคม – กุมภาพันธ์ 10.00น. – 16.00 น.
    วันหยุดทำการ ธันวาคม – กุมภาพันธ์ ทุกวันพุธ และหยุดตรวจเช็คสภาพอุปกรณ์ ทุกต้นธันวาคมและต้นกุมภาพันธ์ *กรุณาเช็คเว็บไซด์อีกครั้ง
    ค่าเข้า ผู้ใหญ่ (มัธยมปลายขึ้นไป) 1700 เยน เด็ก 800 เยน
    ที่จอดรถจอดได้ 800 คัน คันละ 500 เยน
    โทรศัพท์ 0569-87-2000 Fax 0569-87-3776
    WebsiteMinami Chita Beach Land

    ดูแผนที่ Minami Chita Beach Land

    Cr: Rikichan

    ขากลับสามารถเดินมาขึ้นรถไฟที่สถานี Chita Okuda ได้ ก็จะไกลนิดนึงค่ะ แต่พอเดินได้ ถ้าเรานั่งแท็กซี่มา มิเตอร์เริ่มต้นที่ 600 เยน ตอนลงก็ไม่ขยับ อยู่ที่ 600 เยนเหมือนเดิม เลยว่าพอเดินไหวค่ะ ชมนกชมไม้ไป

    Cr: Rikichan

    เรานั่งขบวนที่มุ่งหน้าไปทางนาโกย่า สถานีรถไฟที่นี่ใช้บัตร IC Card ได้ ค่าโดยสารราว 970 เยน

    Cr: Rikichan

    ด้านในก็สวย วิวข้างทางนอกหน้าต่างก็ดีงาม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็กลับมาถึงนาโกย่า

    Cr: Rikichan

    มาถึงสถานีเมเททสึนาโกย่าปุ๊บ ออกมาด้านหน้าก็ข้ามถนนไปตึก Midland Square ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 42 สามารถชมวิวเมืองได้ สวยงาม ดูอบอุ่น นานๆจะได้มาเยือนนาโกย่าสักครั้ง ไม่ทำให้ผิดหวังเลย ยังมีสถานที่สวยๆรอเราอีกมากมาย แล้วการขึ้นรถไฟก็ไม่ซับซ้อนมาก มีจุดเที่ยวเชื่อมต่อได้เยอะ เป็นอีกเมืองที่ประทับใจจนอยากจะมาอีก

    Sky Promenade ในตึก Midland Square

    ที่อยู่189 Ubayanagicho Nakagyo-ku Kyoto Kyoto
    วิธีเดินทางมันจะใช้เวลา 10 นาทีเพื่อเดินจากสถานีเกียวโต
    เวลาทำการ ภายในตึกมีจุดชมวิวเรียกว่า Sky Promenade จุดซื้อบัตรอยู่ชั้นที่ 42 / มีนาคม – มิถุนายน และ ตุลาคม – ธันวาคม เวลา 11.00น.-22.00น. /กรกฎาคม – กันยายน เวลา 11.00น. – 23.00 น. /มกราคม –กุมภาพันธ์ เวลา 13.00น. – 21.00น.
    ราคา คนละ 750 เยน (18 ปีขึ้นไป) อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปและระดับชั้นมัธยม 500 เยน เด็กประถม 300 เยน ปกติไม่มีวันหยุด ยกเว้น วันที่ 1 มกราคม
    โทรศัพท์ +81-52-584-7111
    Website Sky Promenade ในตึก Midland Square

    ดูแผนที่ Sky Promenade ในตึก Midland Square

    ข้อสรุป

    เมืองมินามิชิตะ เป็นเมืองที่มีบรรยากาศคล้ายต่างจังหวัด เวลาเรานั่งรถไฟห่างออกจากเมืองนาโกย่าไปเรื่อยๆ เราจะเริ่มเห็นภาพเห็นวิวภูเขา ทุ่งนา แม่น้ำ บ้านคนประปราย บนรถไฟเจอนักเรียนทั้งม.ต้นและม.ปลาย สถานีรถไฟเล็กๆ แต่ให้ความเข้าใจง่าย คนยิ้มให้กัน มีความสงบและยังมีประเพณีท้องถิ่นสวยงาม ถ้าคิดว่ากำลังค้นหาความหมายของการพักผ่อน ที่นี่ก็คือคำตอบแรก

    Rikichan

    Blogger : Rikichan

    สาวผู้รักการถ่ายภาพฟูจิ ชอบภูเขา ใบไม้เปลี่ยนสี แม่น้ำ ท้องทะเล ชานเมือง มีความสุขกับการได้เดินทางไปทุกๆที่กับกล้องคู่ใจ และมีคติประจำใจว่า ไปให้สุดแล้วหยุดที่ร้านขนมอร่อย

    47 Posts

    กรณีฉุกเฉิน

    | Emergency
    • Police

      110

    • Ambulance

      119

    • AMDA International Medical Information Center

      03-6233-9266

    • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

      090-4435-7812

    • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

      090-1895-0987

    • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

      090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515