ชวนชมพาเหรดเพนกวิน ที่ “สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)” สวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของในฮอกไกโด (Hokkaido)

มารู้จักกับสวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) กันสักหน่อยดีกว่า

สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองอาซาฮิกาวะ เป็นเมืองหลวงของกิ่งจังหวัดคามิกาวะ ในจังหวัดฮกไกโด และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาะฮกไกโด รองจากนครซัปโปโระ

สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1967 แรกเริ่มเดิมทีสวนสัตว์แห่งนี้ไม่ได้มีสัตว์ที่หลากหลายเท่าไร ส่วนใหญ่จะเลี้ยงในกรงเหมือนสวนสัตว์ทั่ว ๆ ไป

จนกระทั่งในปี 1990-1997 ที่สาวนสัตว์แห่งนี้ต้องประสบปัญหาการดำเนินธุรกิจ จึงทำให้ผู้ดูแลสวนสัตว์นามว่าเกน บันโด (Gen Bando) เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่สวนสัตว์แห่งนี้ 

คุณบันโด เชื่อว่าหากเราสามารถเปิดสวนสัตว์โดยให้เหล่าสัตว์สามารถใช้ชีวิตเหมือนอยู่ในป่าเขาได้จริง ๆ นั่นคงจะดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาติดตามวิถีชีวิตที่ดูเป็นธรรมชาติของสัตว์ได้ดีกว้าจับมันขังในกรง

ตั้งแต่นั้นมา การเปลี่ยนแปลงระบบการเลี้ยงดูสัตว์ก็เริ่มปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น จนในปี 2003 สวนสัตว์แห่งนี้ได้เรื่มแบ่งสัดส่วนในสำหรับดูแลกลุ่มสัตว์ป่าเมืองหนาว อาทิเช่น เพนกวิน หมีขาว และสุนัขป่า ซึ่งกลายเป็นไฮไลท์สำคัญของการมาเยือนสวนสัตว์แห่งนี้ของกลุ่มนักท่องเที่ยว

สวนสัตว์แห่งนี้มีสัตว์ต่างๆ มากกว่า 700 ชนิด หรือประมาณ 124 สายพันธุ์ เลยทีเดียวนะ !

ไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดของ “สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)”

พาเหรดเพนกวิน (Penguin walk)

อาจเรียกได้ว่าเหล่านักท่องเที่ยวที่เดินทางถึงสวนสัตว์แห่งนี้ ส่วนมากก็อยากจะมาเห็นชวบนพาเหรดของเจ้าเพนกวินกันทั้งนั้น  แต่หากว่า…เรามาไม่ถูกเวลาเนี่ย เราอาจจะต้องไปพบเจอพวกเค้าที่อุโมงค์เพนกวินกันแทน 

หากเราต้องการมาชมขบวนพาเหรดเพนกวิน ก็จะแนะนำให้มาช่วงกลาง-ปลายเดือนธันวาคมเป็นต้นไป 

สาเหตุที่เราสามารถเห็นกลุ่มเพนกวินเดินพาเหรดกันในช่วงหน้าหนาวที่ต้องมีระดับหิมะที่หนาพอสมควร ก็เพราะว่าผู้ดูแลสวนสัตว์ต้องการให้เพนกวินมีลักษณะที่เป็นเหมือนกับธรรมชาติของมันมากที่สุดนั่นเอง 

ถ้าเรามาชมพาเหรดเพนกวินในหน้าหนาว ก็จะเจอภาพประมาณนี้นะ

ระหว่างทานเดินไปชมพาเหรดเพนกวิน ถ้ามาในช่วงหน้าหนาวจะต้องเดินระวังกันหน่อยนะคร้าบ หิมะหนาและลื่นพอสมควร (เพราะลมพัดแรงมาก อาจทำให้ลื่นง่ายด้วย)

ตารางรอบชมเพนกวิน (เฉพาะในฤดูหนาว) 

เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม – มีนาคม ของทุกปี 

โดยจะมีเวลาเวลา 11.00 และ 14.30 (ทุกวัน) 

สำหรับช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม รอบแสดงเดินพาเหรดอาจจะเหลือแค่ช่วง 11.00 เท่านั้น เนื่องด้วยสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย 

เพื่อน ๆ สามารถเช็คเวลาได้ที่หน้าเว็บไซต์ โดยคลิกที่ลิ้งนี้ได้เลย

อุโมงค์แก้วเพนกวิน (Penguin House)

หากว่าเพื่อน ๆ พลาดการชมพาเหรดเพนกวิน หรือไม่ได้มาในช่วงฤดูหนาว 

เพื่อน ๆ ก็สามารถมารับชมการใช้ชีวิต (ที่น้อง ๆ อาจจะเหม่อมองฟ้าเสียเป็นส่วนใหญ่) ในอุโมงค์แก้วเพนกวินได้นะ ว่าง ๆ เค้าก็จะโดดน้ำโชว์ให้พวกเราเห็นกัน

โดยสายพันธุ์เพนกวินที่เราจะพบเห็น อาทิเช่น

– King penguin

– Gentoo

– Humboldt penguin

– IWATOBIPENGIN

สวนน้ำหมีขาวขั้วโลก (Polar Bear House & Aquatic Park)

สำหรับโซนนี้ เพื่อน ๆ จะได้มาติดตามวิถีชีวิตของหมีขั้วโลกกัน โดยภายในก็จะเป็นส่วนของถ้ำหมี (Shells eye capsule) และสระว่ายน้ำของหมีขาวขั้วโลกกัน โดยเขาจะมีช่องเป็นโดมแก้วเล็ก ๆ ให้เราขึ้นไปแอบส่องแบบระยะประชิดด้วยนะ

บ้านแมวน้ำ (Seal House)

โซนนี้จะเป็นบ้านของเหล่าแมวน้ำที่มีหน้าตาแสนจะน่าเอ็นดู โผล่ขึ้นมานอนผึ่งพุงให้ชมกันเพลิน ๆ

บ้านป่าของหมาป่า (Forest of a wolf)

ในโซนนี้จะมีหมาป่าญี่ปุ่นหลากสีอาศัยรวมกลุ่มกันอยู่ที่นี่ โดยจะมีโดมแก้วเล็ก ๆ ให้เราสามารถแอบเข้าไปส่องกับพี่หมาป่าระยะประชิดได้

แวะเยี่ยมอุรังอุตัง (Orangutang house)

โซนของลิงอุรังอุตัง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าชนิดแรก ๆ ที่ทางสวนสัตว์แห่งนี้เริ่มทำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการอยู่อาศัยจำลองเสมือนธรรมชาติ

นอกจากสัตว์ป่าเมืองหนาวที่เป็นไฮไลท์แล้ว ระหว่างที่เรากำลังเดินชมสวนสัตว์ เราก็จะได้พบเจอกับสัตว์หลายชนิดที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น เช่น กวางญี่ปุ่น กระเรียนญี่ปุ่น สุนัขจิ้งจอกสีขาวญี่ปุ่น ปลาคาร์ฟญี่ปุ่น

พิกัด สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)

ดูแผนที่ Asahiyama Zoo

วิธีเดินทางไปยังสวนสัตว์ Asahiyama Zoo

ขอแนะนำให้เพื่อน ๆ เริ่มออกเดินทางที่สถานีรถไฟ Asahikawa

โดยรถบัส : จากสถานีรถไฟ Asahikawa แล้วเดินไปขึ้นรถที่หน้าสถานีรถไฟได้เลย ป้ายเบอร์ 6

 (ให้ขึ้นรถบัสสายรถเบอร์  41, 42, 47) ใช้เวลาเดินทาง 40 นาทีไปยังสวนสัตว์ (ค่าตั๋วรถบัส 440 เยน)

โดยแท็กซี่ : แนะนำให้เรียกแท็กซี่จากสถานี JR Asahikawa จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที มีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,500 เยน

วิธีการเดินทางไปยังสถานีรถไฟ Asahikawa จากเมือง Sapporo

โดยรถไฟจากเมืองซัปโปโร จากสถานีSapporo Station โดยใช้รถไฟสาย Lilac-Kamui ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่ายประมาณ 4,290 เยน หรือถ้าเพื่อน ๆ มีตั๋ว JR Hokkaido Rail Pass อยู่แล้วก็สามารถใช้ได้เลย

โดยรถบัสจากเมืองซัปโปโร จากสถานี Sapporo Station Bus Terminal โดยใช้รถบัสสาย Hokkaido Expressway อยู่ที่ Platform 14 โดยจะใช้เวลาประมาณ 2.00-2.30 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,300 เยน

เมื่อเมืองอาซาฮิกาวะ ไม่ได้มีดีแค่สวนสัตว์เมืองหนาวพาเหรดเพนกวิน

พาชมสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง Asahiyama Zoo

อุตส่าห์มากันทั้งที ก็ต้องห้ามมาเสียเที่ยว งั้นเราขอพาไปชวนส่องสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจอื่น ๆ กันสักหน่อย

1. บ่อน้ำสีมรกตแห่งเมืองบิเอะ (Shirogane Blue Pond)

บ่อน้ำสีมรกตสุดสวยงามแห่งนี้ เกิดจากการกระทำของมนุษย์ที่ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามอย่างเหลือเชื่อ ปรากฏการณ์ที่ทำให้เห็นความสวยงามพิเศษจากธรรมชาติแห่งนี้คือ คอลลอยด์ อะลูมิเนี่ย ไฮด็อกซ์ไซด์ หรือจะให้อธิบายอย่างง่ายคือ ธาตุคอลลอยด์และธาตุอะลุมิเนี่ยมผสมกันทำให้แสงตกกระทบของเหลวเหล่านี้จนเกิดเป็นสีอย่างที่เห็นนั่นเอง

พิกัด บ่อน้ำสีมรกตแห่งเมืองบิเอะ (Shirogane Blue Pond)

ดูแผนที่ Shirogane Blue Pond

2 น้ำตกชิราอิเงะ (Shirahige Waterfall & Blue River Bridge)

ถัดมาไม่ไกลจากบ่อน้ำสีมรกต เราก็จะเจอกับน้ำตกชิราอิเงะ ซึ่งเป็นน้ำตกที่อยู่ทางต้นน้ำบ่อน้ำสีฟ้า ตรงบริเวณนี้เขาก็จะมีการประดับไฟให้นักท่องเที่ยวดูยามค่ำคืนอีกด้วยนะ

พิกัด น้ำตกชิราอิเงะ (Shirahige Waterfall & Blue River Bridge)

ดูแผนที่ Shirahige Waterfall & Blue River Bridge

3. นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace)

หากเพื่อน ๆ อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมาในรูปแบบของความแฟนตาซีเทพนิยายกันบ้าง

เราขอแนะนำ หมู่บ้านแฟนตาซีนิงเกิ้ลเทอเรส ที่ตั้งภายในบริเวณโรงแรม New Furano Prince แห่งนี้ โดยเขาจะจัดเป็นกระท่อมไม้เล็ก ๆ ข้างในจะขายของจำพวกงานเซรามิค งานไม้แกะสลัก ให้ความรู้ที่ดูอบอุ่นอยู่ไม่น้อย

พิกัด นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace)

ดูแผนที่ Ningle Terrace

4. หมู่บ้านราเม็ง (Asahikawa Ramen Village)

สาวกราเม็งคงต้องรีบปักหมุดสถานที่แห่งนี้ไว้

หมู่บ้านราเม็งแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1996 ที่ใช้ชื่อว่าหมู้บ้านราเม็ง ก็เพราะว่าภายใต้ชายคาเดียวกันนี้ เขาได้รวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิกาวะ ทั้ง 8 ร้านมาอยู่รวมกันนั่นเอง

พิกัด หมู่บ้านราเม็ง (Asahikawa Ramen Village)

ดูแผนที่ Asahikawa Ramen Village

5. Farm Tomita

ทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ อีกหนึ่งไฮไลท์จุดชมดอกไม้ที่สวยที่สุดในฮอกไกโด เบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ท่ามกลางธรรมชาติภูเขา ซึ่งที่นี่มีประวัติมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี ภายในฟาร์มนั้นมีสถานที่ท่องให้เราแวะเที่ยวชม ชิมลิ้มลองอาหารหรือขนมที่ทำจากฟาร์ม รวมไปถึงพิธภัณฑ์ต่างๆ อีกด้วย ถ้ายังไม่เห็นภาพเราจะอธิบายเป็นตัวเลขแทน คือที่นี่มีสวนดอกไม้ทั้งหมด 13 สวน และยังมีสถานที่ให้เที่ยวชมอีกมากมาย

พิกัด Farm Tomita

ดูแผนที่ Farm Tomita

สรุป

สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)”  เป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงและมีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งไฮไลท์สำคัญที่ทำให้สวนสัตว์แห่งนี้โด่งดัง คือกลุ่มสัตว์ป่าหายากแถบเมืองหนาว ที่มาคอยต้อนรับเหล่านักท่องเที่ยวให้ได้รับชมแบบใกล้ชิด นอกจากนั้นบริเวณสถานที่เที่ยวใกล้เคียงยังมีความหลากหลายและทำให้การเที่ยวในหน้าหนาว ดูอบอุ่นหัวใจขึ้นมาทันที เรียกได้ว่าขึ้นเหนือมาไกลทั้งที รับรองว่าไไม่เสียเที่ยวแน่นอน