Shirahige Waterfall สวยงามติดอันดับ 1 ใน 5 ของฮอกไกโด
เห็นอย่างนี้แล้วน้ำตกชิราฮิเกะเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามติดอันดับ 1 ใน 5 ของฮอกไกโดเลยก็ว่าได้ ซึ่งมีความสูงอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 600 เมตร ตั้งอยู่ในเมืองบิเอะ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอาซาฮิคาวะ ภาพม่านน้ำสีขาวที่ไหลตกกระทบโขดหินน้อยใหญ่ที่ระยะความสูงราวๆ 30 เมตรบนหน้าผานี้ถูกเรียกกันอีกชื่อว่า “น้ำตกหนวดเคราขาว” ซึ่งก็คือคำว่า “ชิราฮิเกะ” ในภาษาญี่ปุ่น โดยจุดเริ่มต้นของน้ำตกชิราฮิเกะนี้ไหลมาจากน้ำใต้ดินในเทือกเขาโทคาจิ พื้นที่ของชิโรกาเนะออนเซ็นผ่านช่องหินในหุบเขาและพุ่งออกมาคล้ายเคราสีขาวนั่นเอง
ถึงแม้ภาพน้ำตกจะได้รับการยอมรับว่ามีความสวยงามน่าทึ่งแล้ว เมื่อไหลตกกระทบมารวมกับแม่น้ำบิเอะที่อยู่เบื้องล่างซึ่งมีส่วนประกอบของแร่ธาตุจากภูเขาไฟอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้สีของน้ำในแม่น้ำออกมาเป็นน้ำเงินเข้ม ทำให้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “Blue River” จึงกลายเป็นภาพธรรมชาติที่ตราตรึงใจนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนจุดที่สามารถยืนชมวิวอันสวยงามนี้คือบริเวณสะพานที่เรียกว่า Blue River Bridge ที่สร้างขึ้นสำหรับดูความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ได้ในทุกฤดูกาลจากมุมสูง
ความสวยงามของ Shirahige Waterfall สามารถมาชมได้ในทุกฤดูกาล
อาจจะมีหลายคนคิดว่าที่นี่ช่วงฤดูหนาวจะเที่ยวยาก หรือปิดไม่ให้เข้าชม แต่ขอบอกเลยว่าที่นี่สามารถมาเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาลโดยไม่เสียค่าเข้าชม อีกทั้งในแต่ละฤดูกาลก็มีเสน่ห์ของธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างกันไป
ฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน – เดือนเมษายน)
น้ำตกแห่งนี้จะสวยงามมาเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว ถึงแม้อากาศหนาวจัด ส่วนละอองน้ำที่สาดกระเซ็นจากน้ำตกจะไปเกาะกับต้นไม้โดยรอบจนเกิดเป็นวิวน้ำค้างแข็งบนต้นไม้ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อเจอแสงแดดจะส่องแสงระยิบระยับกลายเป็นภาพที่ชวนให้ประทับใจ แต่ในขณะที่บางวันก็มีหมอกปกคลุมจนขาวโพลนไม่เห็นบรรยากาศอะไรได้เหมือนกัน ช่วงฤดูกาลนี้เหล่านักท่องเที่ยว จะได้สัมผัสประสบการณ์ยามเย็น และในเวลากลางคืนอันงดงาม เพราะน้ำตกจะส่องสว่างด้วยแสงไฟระยิบระยับหลายสิบดวง ส่งผลให้ที่แห่งนี้ดูน่ามหัศจรรย์ยิ่งขึ้น แม้ว่าระยะเวลาการประดับไฟที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปี และอากาศค่อนข้างเย็นมาก (ในบางวันอุณหภูมิติดลบ 20 องศาก็มี) แนะนำให้เช็คข้อมูลก่อนเดินทางไปล่วงหน้า
ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม)
ยอดภูเขาที่รายล้อมน้ำตกชิราฮิเกะ ยังมีหิมะปกคลุมอยู่ แต่การเปลี่ยนผ่านของฤดูกาลจากฤดูหนาวมาเป็นฤดูใบไม้ผลิก็ทำให้ต้นไม้ใบหญ้าค่อยๆ ฟื้นคืนชีพจากที่โดนหิมะทับถมต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาหลายเดือน ช่วงฤดูนี้จะมีสีชมพูของต้นซากุระให้เห็นบ้างเล็กน้อย แต่กิ่งไม้แห้งสีน้ำตาลก็เป็นทัศนียภาพที่แปลกตาไปอีกแบบ
ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม)
ภาพใบไม้เขียวชอุ่มโดยรอบของน้ำตก ก็เป็นอีกเสน่ห์ให้ผู้มาเยือนประทับใจเมื่อมาเยือนยังน้ำตกแห่งนี้ ภาพแม่น้ำสีฟ้า น้ำตกสีขาว และต้นไม้โดยรอบเป็นสีเขียวชอุ่ม หากวันไหนท้องฟ้าเป็นสีฟ้าด้วย ก็เป็นโทนสีที่สวยงามเหมาะกับฤดูร้อน แต่อากาศโดยรอบที่นี่ก็ยังเย็นสบาย
ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน)
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จะมีทัศนียภาพอันน่าทึ่ง โดยเฉพาะสีของใบไม้ที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง สีส้ม และสีเหลือง เป็นโทนสีที่ตัดกับสีฟ้าของแม่น้ำ และท้องฟ้าทําให้เป็นภาพที่สวยงามมากส่งผลให้เหล่าช่างภาพจากทั่วโลก รวมทั้งคนญี่ปุ่นมักนิยมมาบันทึกภาพช่วงเวลานี้กันคึกคัก โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงกลางเดือนตุลาคมของทุกปี
พิกัด น้ำตกชิราฮิเกะ (Shirahige Waterfall)
ที่อยู่ | Shirogane, Biei, Kamikawa District, Hokkaido |
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานี Shirogane Blue Pond มาลงที่สถานี Shirogane Hot Spring จากนั้นเดินออกมาอีกประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 10 นาที |
เวลาทำการ | 9.00 น. ถึง 21.00 น. *ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ |
ราคา | ฟรี |
Website | Shirahige Waterfall |
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
Shirogane Blue Pond
สระน้ำสีฟ้าชิโรกาเนะตั้งอยู่ในบริเวณไม่ไกลกันนั้นเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวชมธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งของเกาะฮอกไกโด โดยสระนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากโคลนที่ถล่มจากเทือกเขาโทคาจิ สีของสระน้ำมีการไล่ระดับตั้งแต่สีเทอร์ควอยซ์ สีมรกต ไปจนถึงสีน้ำเงินโคบอลต์สวยงามราวกับกระจกสะท้อนท้องฟ้า เป็นภาพมที่แปลกตาและน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง โดยสีสันที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากการที่มีสิ่งเจือปนต่างๆ ในน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกชิราฮิเกะต้นทางนั่นเอง ส่วนช่วงเวลาท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาล เพียงแต่ในช่วงฤดูร้อนน้ำในสระจะส่องประกายเป็นสีฟ้า แต่ในฤดูหนาวก็มีการจัดแสงไฟยามค่ำคืนให้ชมเช่นเดียวกันกับที่น้ำตกชิราฮิเกะ ในบริเวณนี้มีซอฟต์ครีมสระน้ำสีฟ้า ที่ตั้งชื่อตามสถานที่ เป็นซอฟต์ครีมรสรามูเนะ หรือน้ำอัดลมญี่ปุ่นที่อยากชวนให้ลองสักครั้งด้วย
พิกัด สระน้ำสีฟ้าชิโรกาเนะ (Shirogane Blue Pond)
ที่อยู่ | Shirogane, Biei, Kamikawa District, Hokkaido |
วิธีเดินทาง | เดินทางโดยรถบัส เริ่มที่สถานี Biei จากนั้นลงที่สถานี Shirogane Blue Pond จากนั้นเดินต่อมาที่บ่อน้ำสีฟ้าอีกประมาณ 400 เมตร ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด ประมาณ 29 นาที หรือเดินเท้าจาก Shirahige Waterfall ใช้เวลาราวๆ 30 นาที นั่งรถประมาณ 4 นาที |
เวลาทำการ | ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง เดือนตุลาคม ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ถึง 19.00 น. ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนเมษายน ตั้งแต่เวลา 8.00 น. ถึง 21.30 น. |
ราคา | ฟรี |
Website | Shirogane Blue Pond |
Asahidake Ropeway
การได้ขึ้นไปชมความงดงามของธรรมชาติในฤดูกาลต่างๆ ของภูเขาอาซาฮิดาเกะภูเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซังบนเกาะฮอกไกโด โดยการนั่งกระเช้าอาซาฮิดาเกะเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เนื่องจากตลอด 10 นาทีของการที่อยู่บนกระเช้าไม่ว่าจะมาช่วงฤดูหนาวก็สามารถเห็นวิวภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนแสนสวยงามโดยเฉพาะในวันที่ท้องฟ้าสดใส ส่วนถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก็สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้เป็นที่แรกในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายน เป็นช่วงเวลาที่ภูเขาทั้งลูกถูกแต่งแต้มด้วยสีแดง เขียว เหลืองสวยงามราวกับภาพวาด
พิกัด ภูเขาอาซาฮิดาเกะ (Asahidake Ropeway)
ที่อยู่ | Higashikawa, Kamikawa District, Hokkaido |
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจาก JR Asahikawa Station ประมาณ 2 ชั่วโมง |
เวลาทำการ | 8.00 – 17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ ไป-กลับ 3,200 เยน เด็ก ไป-กลับ 1,600 เยน |
Website | Asahidake Ropeway |
Ningle Terrace
นิงเกิ้ลเทอเรสเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่สร้างเป็นกระท่อมไม้ ในเมืองฟุราโนะ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขียวขจี ภายในประกอบไปด้วยร้านค้ามากมาย สามารถเดินเที่ยวเล่นชมความงามของธรรมชาติโดยรอบพร้อมๆ กับแวะชมงานฝีมือและสินค้าท้องถิ่นที่ล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติอันสวยงามของฮอกไกโด หากมีโอกาสไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาว ที่นี่ก็ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ราวกับหมู่บ้านในเทพนิยาย
พิกัด นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace)
ที่อยู่ | Nakagoryo, Furano, Hokkaido |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถบัสที่ป้ายรถเมล์ Furano ขึ้นรถบัส Asahikawa line ไปลงที่ New Furano Prince Hotel |
เวลาทำการ | 12.00 – 20.45 น. |
ราคา | ฟรี |
Website | Ningle Terrace |
Tomita Farm
ฟาร์มโทมิตะแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากนิงเกิ้ลเทอเรสมากนัก ขึ้นชื่อในเรื่องสถานที่ที่มีทุ่งลาเวนเดอร์สวยงามในช่วงฤดูร้อน นอกจากนั้นยังเป็นจุดชมดอกไม้ที่สวยที่สุดในฮอกไกโด มีทุ่งดอกไม้หลายจุดให้ชมอีกทั้งยังหลากสีสันด้วย ยกตัวอย่างทุ่งดอกป๊อบปี้ ดอกยิปโซ ดอกแมรี่โกลด์ ดอกดาห์เลีย ฯลฯ มีขนาดกว้างใหญ่สุดลูกลูกตา ตั้งอยู่ท่ามกลางวิวภูเขาสวยงาม ภายในฟาร์มแห่งนี้ยังมีกิจกรรมมากมายให้แวะเที่ยวชม และนักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองอาหาร หรือขนมที่ทำจากฟาร์มแห่งนี้ได้อีกด้วย
พิกัด ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm)
ที่อยู่ | Kisenkita, Nakafurano, Sorachi District, Hokkaido |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟจาก Sapporo สาย Lilac-Kamui มาลงที่ Asahikawa แล้วนั่งรถสาย Furano Line มาลงที่ Naka-Furano Station |
เวลาทำการ | 9.00 – 17.00 น. |
ราคา | ฟรี |
Website | Tomita Farm |
Asahiyama Zoo
สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ที่นี่ถือว่าเป็นสวนสัตว์ที่ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ โดยเปิดมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1967 เป็นต้นมา จุดเด่นของที่นี่คือความตั้งใจจะสร้างสภาพแวดล้อมให้เหล่าสัตว์ต่างๆ ใช้ชีวิตได้อิสระเหมือนกับอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สิ่งที่ห้ามพลาดในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมขาวโพลนคือ การชม “พาเหรดเพนกวิน” ซึ่งทางสวนสัตว์ตั้งใจให้น้องๆ มาเดินออกกำลังกาย และเตรียมตัวเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์นั่นเอง ภายในสวนสัตว์มีให้ชมจุดต่างๆ มากถึง 31 จุด สามารถเดินชมให้ทั่วได้ภายในวันเดียว และมีสัตว์ให้ชมหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สิงโต หมีขั้วโลก เสือดาวอามูร์ แพนด้าแดง ฯลฯ เรียกได้ว่าครอบครัวที่มีเด็กๆ ไม่ควรพลาดที่นี่อย่างเด็ดขาด
พิกัด สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)
ที่อยู่ | Kuranuma, Higashiasahikawa-cho, Asahikawa-shi, Hokkaido |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Asahikawa นั่งรถบัสมาลงป้าย Asahikawa Zoo ประมาณ 40 นาที |
เวลาทำการ | 9.00 – 17.15 น |
ราคา | ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 15 เข้าชมฟรี |
Website | Asahiyama Zoo |
สรุป
ที่ฮอกไกโดขึ้นชื่อในช่วงฤดูหนาวมีหิมะปกคลุมสวยงามก็จริง แต่ไม่ว่าจะไปในฤดูกาลใด ฮอกไกโดก็มีธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างกันออกไป เฉกเช่นที่นี่ Shirahige Waterfall น้ำตกชิราฮิเกะ ที่ธรรมชาติสร้างผลงานศิลปะแสนสวยงามขึ้นมาอีกทั้งยังเป็นภาพที่หาชมได้ยากในประเทศญี่ปุ่น และไม่ว่าจะมาที่นี่ในฤดูกาลใดก็จะเห็นภาพน้ำตกและบรรยากาศโดยรอบแตกต่างกันออกไป นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงไฟยามค่ำคืนให้ผู้มาเยือนตื่นตาตื่นใจไปอีก เนื่องจากที่นี่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของชิโรกาเนะออนเซ็นด้วย ก็สามารถพักผ่อนในห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นที่เงียบสงบ แช่น้ำพุร้อนที่มีสรรพคุณในการรักษาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ปวดไหล่ อาการอัมพาต ฟกช้ำ โรคทางเดินอาหารเรื้อรัง โรคริดสีดวงทวาร ระยะฟื้นตัวหลังเจ็บป่วย และคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าได้อีกด้วย นอกจากนั้นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงก็มีมากมาย สามารถเดินทางท่องเที่ยวต่อจากเมืองบิเอะไปเมืองฟุราโนะที่อยู่ไม่ไกลภายในระยะเวลาไม่ถึงชั่วโมงได้