ภูเขาทาคาโอะ มีเส้นทางปีนเขาให้เลือกหลักๆ 6 เส้นทาง นักปีนเขามือใหม่ จะได้รับคำแนะนำให้ปีนขึ้นลงทางรูท 1 ก่อนเพราะง่ายที่สุด แม้จะสูงแค่ 599 เมตร แต่ทำไมกลับเป็นที่นิยมมาก ก็เพราะที่นี่แปรเปลี่ยนสภาพไปตามอากาศและฤดูกาล เมื่อเรามาในฤดูที่แตกต่างก็จะได้อารมณ์ที่แตกต่างกันเสมอ
หลังจากเราลงรถไฟที่สถานี Takaosanguchi ด้วยรถไฟสาย Keio ที่สามารถขึ้นได้ตั้งแต่ที่สถานีชินจูกุหรือชิบูยะ พอลงที่สถานีTakaosanguchi แล้วก็เดินตามกลุ่มคนไปเรื่อยๆ จะเจอร้านค้าแบบนี้…
ในช่วงหน้าร้อน แม้ทุกที่จะร้อนมากแต่บนเขาทาคาโอะก็เต็มไปด้วยสีเขียวทำให้รู้สึกเย็นสบาย
เราสามารถเลือก นั่งเคเบิ้ลคาร์ หรือ เก้าอี้ลิฟต์ ที่สามารถส่งเราไปถึงครึ่งเขา หรือจะเดินจากด้านล่างขึ้นไปก็ได้
แต่ถ้าอยากเก็บแรงไว้เดินขึ้นเขาช่วงอีกครึ่งหนึ่งก่อนจะถึงยอดก็สามารถเลิกนั่งเคเบิ้ลคาร์หรือ เก้าอี้ลิฟต์ ซึ่งใช้เวลาราวๆ 10 นาทีกว่าๆ เรียกว่าเวลาพอดีกับการดื่มด่ำบรรยากาศบนเคเบิ้ลคาร์ได้พอสมควรเลยนะ
ตอนออกจากเคเบิ้ลคาร์ควรดูเวลาขากลับไว้จะได้คำนวณการเดินทางได้ถูก หลังจากลงนี้ละของจริง เหนื่อยหน่อยแต่ว่าฟินแน่นอน ว่าแล้วก็ออกเดินกันเถอะ
ทาคาโอะเป็นภูเขาที่ครอบครัวคนญี่ปุ่นมักพาเด็กๆมาเดินขึ้นเขา อาจเป็นเพราะที่นี่เป็นสถานที่สำหรับทัศนศึกษาของเด็กอนุบาลแถวนี้ด้วย เด็กๆที่นี่เค้าจะเดินมาตั้งแต่ด้านล่างสะพายสัมภาระของตัวเอง และถือเบนโตะขึ้นไปทานด้วยกันบนยอดสูงสุด แต่ถ้าใครไม่ได้พกปิ่นโตไปก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะด้านบนมีร้านค้าขายอาหาร หรือของว่างเรื่อยๆ อยู่แล้วจ้า
ช่วงหน้าร้อนตลอดสองข้างจะเขียวขจีพร้อมกับมีเสียงจั๊กจั่นร้องประสาทเสียงดังก้องไปทั่วภูเขา ส่วนเส้นทางเดินหลังจากที่ผ่านเข้าไปในเขตวัดแล้ว ทางเดินจะเรียบและเดินง่ายขึ้น
หากใครอยากมาขึ้นเขาช่วงที่ดอกไฮเดรนเยียร์บาน อาจต้องมาช่วง ปลายกรกฎาคม – ต้นเดือนสิงหาคม เพราะเป็นช่วงที่ดอกไฮเดรนเยียร์บานเต็มที่
ผ่านขึ้นมาถึงบริเวณเขตวัดด้านล่างแล้ว เส้นทางสู่บนยอดเขายังมีต่ออย่าพึ่งบ่นเหนื่อยแวะจุดนี้พักไหว้พระ ซื้อเครื่องราง และขอพรต่างๆ สักนิด แต่ถ้าใครยังไหวเดินต่อขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงยอดได้เลยจ้า
* บริเวณด้านบนทั้งหมดนี้คือเขตวัดยะคุโอวอิน Yakuo-in: สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 744 ให้สร้างโดยจักรพรรดิโชมุ (Emperor Shomu)
พอย่างเข้าสู่ต้นเดือนพฤศจิกายน ใบไม้ต่างๆเริ่มเปลี่ยนสีนิดๆหน่อยๆ แต่จะพีคสุดคือ ปลายเดือนพฤศจิกายน รับรองว่ามาช่วงนี้ไม่มีผิดหวังได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีแน่นอน
ใบไม้เปลี่ยนสีคนญี่ปุ่นเรียกว่า “โคโย หรือ “โมมิจิ” ส่วนโมมิจิการิ ที่บางคนอาจเคยได้ยินคนญี่ปุ่นพูดคำนี้หมายถึงการล่าใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงนั้นเอง
“เอโรฮ่า โมเมจิ” เป็นโมมิจิที่ขึ้นตามป่าออกดอกช่วงระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม เป็นต้นไม้ที่มีใบ 5-7 ใบต่อกิ่ง ใบจะเปลี่ยนเป็นโทนสีแดงช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วงที่คนตามล่าไม่แพ้ช่วงใบไม้ผลิที่คนตามล่าซากุระเลยนะเออ
มาว่ากันถึงเรื่องการขึ้นเขาต่อหากหน้าร้อนเรานั่งเคเบิ้ลคาร์แล้ว พอช่วงใบไม้เปลี่ยนสีต้องเลือกนั่งเก้าอี้ลิฟต์นะ นั่งกอดแขนแฟนหรือจะนั่งกับเพื่อนอมยิ้มชมความสวยของสีสันที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลบอกเลยว่าโรแมนติกที่สุด
เราจะไม่พูดถึงเอกลักษณ์ของทาคาโอะก็ไม่ได้สิจริงไหม เจ้าเสาโคมไฟริมทางเดินยาวที่ตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทางอาจทำให้เราต้องหยุดถ่ายรูปอยู่ตรงนี้อยู่นานสองนานทีเดียว
พอเข้าสู่เขตวัดชั้นในแล้ว เริ่มเห็นใบเมเปิ้ลสีแดงสดเรื่อย ๆ บางครั้งก็ทำให้เราเพลินกับการถ่ายภาพใบเมเปิ้ลมุมนั้นมุมนี้จนลืมเวลาได้เหมือนกันนะ
แต่เราจะให้ใบเมเปิ้ลมาดึงเราไว้แค่จุดนี้ไม่ได้เราต้องไปต่อ ไปชำระล้างมือ รวมถึงล้างเงิน เพื่อเก็บไว้เป็นสิริมงคล และจุดธุปขอพรเรื่องความรักกันเถอะ เพราะจุดนี้คือจุดเรื่องการขอพรให้ความรักได้สมหวัง อิอิ
หรือใครไม่สนใจขอพรจะแวะมาผูกเหรียญก็ได้ ถือเป็นอีกมุมหยุดพักเหนื่อยที่ทำให้เรามีแรงไปต่อก็ว่าได้นะ
ระหว่างที่เราเดินขึ้นเขา วิวช่วงฤดูนี้บอกเลยว่าอาจทำให้เราต้องหยุดถ่ายภาพเป็นระยะๆ จากที่ปกติใช้เวลาเดินขึ้นจากตรงเก้าอี้ลิฟต์ ประมาณ30-40นาที บอกเลยช่วงเวลานี้อาจใช้เวลาเดินขึ้นเขาร่วมสองชั่วโมง ฮ่าๆๆ
พอถึงยอดเขา ก็ยังมีรูทให้เดินลงไปถ่ายรูปต่ออีกนิดเรื่อยๆ แต่พอถ่ายรูปสมใจแล้วเดินย้อนกลับมาทางเดิมนะ
เพราะยิ่งเดินยิ่งสวย ช่วงฤดูนี้ต้นหญ้าเปลี่ยนเป็นโทนสีเหลืองส้มให้อารมณ์อบอุ่นสบายตาสบายใจ บางครั้งอยากลงไปนอนโง่ๆอยู่กลางทุ่งนี้สักชั่วโมง ฮ่าๆๆ
รูปปั้นเทพเจ้าเท็งกุ ในอดีตมีความเชื่อว่า บนภูเขาเป็นอีกโลกหนึ่งธรรมชาติที่เกิดขึ้นในภูเขานั้นเป็นฝีมือของเท็งกุ และหากภูเขาลูกไหนถูกเรียกว่าภูเขาศักดิ์สิทธิ์ หมายความว่าจะต้องมีเท็งกุอาศัยอยู่
เมื่อผ่านช่วงฤดูใบไม้ร่วงไปไม่นานเราจะกลับเข้าสู่โหมดขาวและหนาวสะท้านทรวงในเดือนธันวาคมไปจนถึงมีนาคม บางปีเดือนมีนาคมยังมีหิมะตกให้เห็นอีกด้วยนะ
บางครั้งภาพที่ทำให้เราอมยิ้มอาจไม่ใช่แค่วิวที่งดงาม แต่อาจเป็นภาพที่ทุกคนช่วยกันเก็บกวาดหิมะทางเพื่อให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้เดินทางสะดวกสบายขึ้น และอาจจะเป็นภาพนี้ก็ได้ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความอบอุ่นใจท่ามกลางหิมะที่ตกหนักแบบนี้
ป้ายชี้บอกทางไปสถานีรถไฟ มีให้เห็นเป็นระยะระหว่างก่อนเดินขึ้นหรือตอนเดินลงเขา
หากเราจะขึ้นภูเขาทาคาโอะในวันที่หิมะตกหนัก เก้าอี้ลิฟต์จะถูกปิด แต่เคเบิ้ลคาร์ยังใช้งานได้ตามปกติ เราสามารถนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นเขาได้นะ
ระหว่างทางทำให้คิดถึงฤดูต่างๆ ที่เปลี่ยนไป ตอนนี้ยอดต้นสนดูแปลกตาไปมาก เพราะถูกหิมะปกคลุมจนกลายเป็นสีขาวราวกับว่าเราหลุดไปสู่ขั้วโลกเหนือ หรือในนิยายเรื่องใดสักเรื่องแล้วแต่เราจะจินตนาการ
ทางเดินที่แทบจะไม่มีคนเดิน ดูเหงาแต่ก็ดึงดูดให้เราค่อยๆ ก้าวขาเดินไปอย่างช้า ๆ ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกนะ เพราะมัวแต่แวะกดชัตเตอร์ถ่ายหิมะที่เกาะตามกิ่งก้านใบของต้นไม้รัวๆตลอดแนวนั้นแหละ ฮ่าๆๆ
ช่วงอากาศเย็นๆแบบนี้พอเจอร้านค้าเปิดขายดังโกะปิ้ง ดีใจ ถึงขั้นกับวิ่งกระโจนใส่แทบลืมวัยกันเลยที
ระหว่างทางเดินขึ้นเขาเราจะพบหินเสี่ยงโชค ที่เราจะต้องหมุนเพื่อสี่ยงโชคให้ตัวอักษรตรงลูกหินกลมๆตรงกับอักษรที่เสาด้านล่าง ส่วนมากจะเป็นชื่ออวัยวะ เช่น หู ตา แถมวัดบนภูเขาทาคาโอะนี้ยังโด่งดังเรื่องปัดเป่าทุกข์ และการรักษาด้วยนะ
รูปปั้นเทพเจ้าเท็งกุในมุมที่ใครไม่คุ้นตา มองผิวเผินเหมือนใส่ผ้าพันคอคลุมกันหนาวเลยเนอะ
นี่เป็นภาพดอกไม้ที่บานท่ามกลางเกล็ดหิมะ อีกไม่นานหลังหิมะละลายเราจะได้เห็นสีสันของเหล่าดอกไม้แข่งกันบาน
ด้านบนระหว่างทางขึ้นเขามีมุมให้ขอพรไปเรื่อยๆ ยิ่งเดินขึ้นสูง เราก็ยิ่งเจอกองหิมะที่ยิ่งหนาขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่มีคนคอยกวาดหิมะตามทางเดินให้คงเดินไปถึงยอดได้ยากมาก
อากาศหนาวๆ เรายังได้แวะทานอาหารอร่อยๆ บนเขากับบรรยากาศรอบๆตัว รอยยิ้มของเจ้าของร้านทำให้บรรยากาศรอบตัวทั้งอบอุ่นทั้งฟินในเวลาเดียวๆกัน
นี้คือทางเดินที่แสนเปลี่ยวที่อาจทำให้ใครหลายคนหลงรักทางเดินขึ้นเขาช่วงเวลานี้เป็นพิเศษเพราะนานๆที ถึงจะได้เห็นภาพแบบไร้ผู้คนแบบนี้
อยากให้ทุกคนมาเห็นด้วยตาตัวเองว่าภูเขาทาคาโอะที่มีความสูงเพียงแค่ไม่ถึง 600 เมตรนี้กลับมีความงดงามที่น่าจดจำแค่ไหนในแต่ละช่วงฤดูที่แตกต่าง อยากให้ทุกคนลองเลือกภูเขาทาคาโอะให้เป็นหนึ่งในแพลนเผื่อว่า ที่นี่อาจเป็นสถานที่สร้างความทรงจำที่งดงามให้คุณก็ได้นะ
Keio Takaosan Onsen Gokurakuyu
หลังจากเดินลงเขาจนเหนื่อยล้า สามารถแวะไป Keio Takaosan Onsen Gokurakuyu เพื่อแช่ออนเซ็นที่ตั้งอยู่ตรงด้านทางออกของสถานีทาคาโอซังกุจิ โรงแช่ออนเซ็นที่นี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบทั้งสบู่ ยาสระผม หากเราไม่ได้เอาผ้าขนหนูไปสามารถซื้อได้พนักงานเลย ที่นี่มีทั้งบ่อแบบกลางแจ้งและในร่ม คุณยังสามารถนั่งผ่อนคลายไปกับการทานอาหารหรือจิบเครื่องดื่มเพื่อคลายความเหนือยล้าหลังจากเดินขึ้นเขามาทั้งวัน ที่สำคัญถ้าเราโชว์ตั๋ว Round-trip(ตั๋วไปกลับหนึ่งวันของKeio) จะได้รับส่วนลด 20% ด้วยนะเออ
แนะนำการใช้ตั๋วแบบ 1 day (สำหรับมาปีนเขาทาคาโอะ)
หากเราคิดว่าไม่อยากเดินขึ้นเขาจากด้านล่างสุด แนะนำให้ซื้อตั๋วเดินทางแบบไปกลับในหนึ่งวัน (Round-trip)ใช้เดินทางด้วยรถไฟสายเคโอจากสถานีชินจูกุไปกลับสถานีทาคาโอะซังกุจิ ราคานี้รวมตั๋วเคเบิ้ลคาร์หรือเก้าอี้ลิฟต์ทั้งขาขึ้นและขาลงแล้วนะจ๊ะ สามารถซื้อได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่อยู่หน้าทางเข้าสถานีรถไฟสายเคโอ ราคา 1,380 เยน และอย่าลืมนะ ถ้าจะแช่ออนเซ็น โชว์ตั๋วนี้เพื่อขอรับส่วนลด 20%ด้วยนะ จบละ บายจ้า~~~
ภูเขาทาคาโอะ
ที่อยู่ | 2177 Takao-machi, Hachioji City, Tokyo 193-8686 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Keio ได้โดยตรง Shinjuku Station – Takaosanguchi Station |
เวลาทำการ | Cable car:เวลา 8.00-17.45 (ธันวาคม – กุมภาพันธ์ ปิด 17.15 ออกทุก 15 นาที) ตั๋วขาเดียว 490 เยน/ ตั๋วไป-กลับ 950 เยน Chair lift : เวลา 9.00 -16.30 ( ธันวาคม – เมษายน ปิด 16.00) ตั๋วขาเดียว 490 เยน/ ตั๋วไป-กลับ 950 เยน |
Website | ภูเขาทาคาโอะ |
Website | Takaosanguchi Keio Takaosan Onsen Gokurakuyu |
Website | Mt.Takao discount tickets |
สรุป
ภูเขาทาคาโอะ นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สมบูรณ์สวยงามแล้ว ยังเป็นจุดศูนย์กลางทางศาสนา แถมยังมีบรรยากาศที่ให้อารมณ์แตกต่างกันตามฤดูกาลที่แปรเปลี่ยนไป มีอาหารพื้นเมืองให้ได้ชิม ที่สำคัญหากใครเหนื่อยล้าก็มีออนเซ็นให้นอนแช่ก่อนกลับได้อีก เรียกได้ว่าภูเขาทาคาโอะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยากใช้วันว่างเพื่อพักผ่อนตามรูปแบบคนญี่ปุ่นจริงๆ
ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาให้ดูกัน จะมีที่ไหนเป็นอย่างไรบ้าง มาอ่านต่อกันเถอะ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
เมืองยอดฮิตอย่างโตเกียว ยังมีสถานที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ลองดูบทความนี้กัน
ที่เที่ยว โตเกียว (Tokyo) 12 ย่านดัง และ 17 ที่เที่ยวแนะนำอัพเดทใหม่ 2023
โตเกียว เมืองยอดฮิตติดชาร์ตเที่ยวญี่ปุ่นตลอดกาล มีที่เที่ยวและกิจกรรมครบรสหลากสีสัน ไปกี่ครั้งก็ยังไปซ้ำได้ไม่มีเบื่อ