ภูเขาไฟฟูจิ คาวากุจิโกะ (fuji kawaguchiko)
แลนด์มาร์คญี่ปุ่น ที่เรียกว่าเป็นอันดับต้นๆ ที่ผู้คนต่างอย่างสัมผัสเมื่อมาถึงที่ญี่ปุ่น ก็คือภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งรอบๆ ภูเขาไฟฟูจินั้นมีทะเลสาบล้อมรอบถึง 5 ที่ด้วยกัน แต่ที่ที่เราอยากแนะนำให้คุณไปชมวิวฟูจิ ก็คือ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (kawaguchiko) เพราะนอกจากเดินทางง่ายแล้ว ทะเลสาบแห่งนี้ยังมีภูมิทัศน์ที่งดงามในทุกฤดูกาล มีสถานทีที่ท่องเที่ยวรอบๆ และที่พักมากมาย แต่สำหรับใครที่อยากชมฟูจิสวยๆ ต้องมาในช่วงปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนเมษายน เพราะในช่วงฤดูร้อนหมวกหิมะบนภูเขาจะละลายนั่นเอง
สำหรับใครที่มองหาพิกัดชมฟูจิสวยๆ ริมทะเลสาบเราแนะนำ Kawaguchiko Natural Living Center ซึ่งเดินทางมาง่ายๆ ด้วยการนั่งเรโทรบัสจากหน้าสถานี คาวากุจิโกะ ที่นี่จะอยู่เป็นป้ายสุดท้าย สำหรับใครที่สนใจสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้
Retro Bus Kawaguchiko เที่ยวฟูจิ คุ้มค่า สะดวกครบ รอบทะเลสาบ
หลายคนเลือกเดินทางไป Kawaguchiko เพื่อชมภูเขาไปฟูจิ วันนี้เราขอแนะนำทางเลือกการท่องเที่ยวรอบทะเลสาบแบบคุ้มค่า ครบครัน ในราคาประหยัด ด้วย Retro Bus Kawaguchiko
หรือถ้าสนใจข้อมูลการเดินทางสู่ทะเลสาบคาวากูจิโกะแบบต่างๆ เราได้รวบรวมเอาไว้ที่นี่
วิธีเดินทางสุดประหยัดจากโตเกียว เที่ยวฟูจิ ที่คาวากูจิโกะ
ทริป เที่ยวฟูจิ คราวนี้ไม่มีหลง เพราะเรารวบรวมวิธีการเดินทางจากกรุงโตเกียวไปยังริมทะเลสาปคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko) เพื่อชมทิวทัศน์สวย ๆ ของภูเขาไฟฟูจิเอาไว้ให้แล้วในทางหนทางที่ประหยัดสุด ๆ
Jr Tokyo wide pass ไป kawaguchiko รีวิว ตามรอยง่าย
Jr Tokyo wide pass เป็นพาสยอดนิยมของหลายคน เพราะสามารถใช้นั่งรถไฟเจอาร์เที่ยวโตเกียวได้ทั่วเมือง ทั้งยังเที่ยวเมืองข้างเคียงได้หลากหลาย แต่หนึ่งในเส้นทางยอดฮิต คือ Jr Tokyo wide pass ไป kawaguchiko วันนี้เราจะตามคำเรียกร้องรีวิวการใช้พาสนี้เดินทางไปฟูจิ โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม จัดมาแบบละเอียดพร้อมเปรียบเทียบราคา ความคุ้มค่า เพื่อการชมฟูจิให้เปรมกันไปเลย มาดูกันว่าจะเดินทางแบบไหน เราเตรียมข้อมูลเอาไว้ให้คุณแล้ว
นอกจากการชมความงามของภูเขาไฟฟูจิแล้ว ยังมีสถานที่น่าเช็คอินหลายที่ ติดตามอ่านได้ที่นี่
ชวนไปฟิน! คาวากุจิโกะที่เที่ยว 9 จุดเช็คอิน เที่ยวตาม Retro Bus สายสีแดง
ไหนๆ ใครมีตั๋วไปเที่ยวญี่ปุ่นกันบ้างเเล้วเอ่ย? สำหรับเพื่อนๆ ที่มีเเพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่น เเต่ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี นี่เลยเราขอเเนะนำ คาวากุจิโกะที่เที่ยว 9 จุดเช็คอิน ที่ทุกคนพลาดไม่ได้ เรามีที่เที่ยวสุดฟินให้เพื่อนๆ ได้เลือกไปเที่ยวมากมายกันเลยทีเดียว ทั้งพิพิธภัณฑ์สุดหรู สวนสาธารณะสุดปังโรงละครลิงสุดตะลึง ร้านคุกกี้ที่สุดเเสนจะอร่อย มาถึงตรงนี้เเล้วน่าไปล่ะสิ๊ ยังไม่หมดเเค่นี้ ที่นี่ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญสุดๆ อีกก็คือ เราสามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าชมทะเลสาบคาวากุจิโกะในมุมสูง หรือล่องเรือชมความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วยนะ รับรองว่าสนุกสนาน ครบรสแน่นอน จะฟินขนาดไหนกันนะ เอาล่ะ! ตามมากันได้เลย
ทะเลสาบคาวากุจิโกะ แลนด์มาร์คญี่ปุ่น
ที่อยู่ | 3641 Funatsu, Fujikawaguchiko, Minamitsuru, Yamanashi 401-0301 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จาก JR Shinjuku นั่งรถไฟไปลงที่สถานี JR Otsuki ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วต่อ รถไฟ Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Kawaguchiko แล้วนั่งเรโทรบัสไปยังจุดต่างๆ รอบทะเลสาบ |
หมู่บ้าน ชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go)
ชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go) หมู่บ้านที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดดเด่นด้วยบ้าน สไตล์กัชโชทสึคุริ (Gasshoutsukuri) ที่มีหลังคารูปแบบคล้ายการพนมมือ มีความเก่าแก่และมีการอนุรักษ์รูปแบบบ้านเอาไว้ ปัจจุบันที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของจังหวัดกิฟุ มีความงดงามในทุกฤดูกาล
ใครที่อยากจับภาพมุมที่เห็นทั่วทั้งหมู่บ้านนั้นจะต้องขึ้นไปที่จุดชมวิว Ogimachi Castle Observation Deck จะสามารถเห็นทั้งหมู่บ้านได้จากมุมสูง หรือถ้าหากหากต้องการเดินชมหมู่บ้าน ก็มีอะไรที่น่าสนใจมากมาย บ้านบางหลังปรับเป็นพิพิธภัณฑ์ มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร บริการ สามารถเพลิดเพลินวิวสวยๆ และกิจกรรมได้เต็มอิ่ม สำหรับใครที่อยากอ่านข้อมูลเต็มๆ อ่านได้ที่บทความนี้
ทริปนี้ไม่มีหลง เที่ยว ชิราคาวาโกะ พร้อมแผนที่ ไปช่วงไหนดีมีคำตอบ
แจกแผนที่ เที่ยว ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลกสวยงามระดับโลก เรามาแนะนำกันแบบไม่กั๊ก จุดไหนน่าไป ตรงไหนน่าสนใจ พิกัดถ่ายรูปที่ห้ามพลาด ไปช่วงไหนเป็นอย่างไร เดินทางจากไหนสะดวกที่สุด เรามีคำตอบ
Shirakawago
ที่อยู่ | Ogimachi, Shirakawa, Ono, Gifu 501-5627 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถจาก Takayama Nohi Bus Center ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ราคา เที่ยวละ 2600 เยนใช้ takayama-hokuriku area tourist pass จองและขึ้นฟรี |
ค่าเข้าชม | ชมหมู่บ้านฟรี แต่บ้านบางหลังอาจมีค่าใช้จ่าย |
Website | shirakawa-go.org |
โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)
โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) หอคอยกระจายสัญญาณ และจุดชมวิวยุคเริ่มต้นของโตเกียว โดยในปัจจุบันก็ยังถือว่าเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญ ด้วยสถาปัตยกรรมของหอคอย และสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่เห็นปุ๊ปก็รู้ปั๊บว่าที่นี่คือประเทศญี่ปุ่น สำหรับใครที่สนใจเที่ยวชมภายในโตเกียวทาวเวอร์สามารถดูรายละเอียดจากบทความนี้
เจาะลึก โตเกียวทาวเวอร์ เที่ยวอย่างโปร อัพเดทข้อมูลที่ต้องรู้
โตเกียวทาวเวอร์ นับเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่เมื่อคนทั่วโลกเห็นแล้วจะนึกถึงความเป็นโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักหอคอยสีแดงอันโดดเด่นแห่งนี้ ทั้งเรื่องของประวัติความเป็นมา การเดินทางสู่โตเกียวทาวเวอร์ การซื้อบัตรเข้าชม ราคา รวมไปถึงมุดถ่ายภาพเด็ดๆ ที่ไม่ควรพลาดของ โตเกียวทาวเวอร์ มาดูกันดีกว่าว่าสถานที่แห่งนี้มีอะไรน่าสนุก รับรองว่าข้อมูลที่เรานำมาฝากจัดเต็ม เรียกได้ว่าแม้ไปครั้งแรกก็ง่ายแบบโปรเลยทีเดียว
หรือถ้าอยากหามุมถ่ายภาพกับโตเกียวทาวเวอร์สวยๆ สามารถดูได้ที่นี่
รวม จุดถ่ายรูป โตเกียว สุด Hot พร้อมพิกัด จะเก็บภาพ หรือโพสต์ท่า ก็จัดไป
ไปโตเกียวทั้งที ต้องไม่พลาดแชะมุมเด็ด วิวเก๋ๆ ที่ จุดถ่ายรูป โตเกียว สุดHot ที่เรารวบรวมมาฝาก พร้อมพิกัด ใครจะไปโตเกียวรีบแชร์ไว้ แล้วไปถ่ายรูปกัน
โตเกียวทาวเวอร์
ที่อยู่ | 4-2-8 Shibakoen, Minato, Tokyo 105-0011 ญี่ปุ่น |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดินสาย Toei Oedo Line มาลงที่สถานี Akabanebashi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที นั่งรถไฟใต้ดิน Toei Mita Line มาลงที่สถานี Onarimon แล้วเดินต่ออีกประมาณ 6 นาที |
เวลาทำการ | Main Deck (150m) 9.00-23.00 . (เข้าได้ก่อน 22:30) Top Deck Tour (150m&250m) 9.00-22.45 น. (เข้าได้ก่อน22.00-22.15) |
ค่าเข้าชม | Main Deck (150m) ผู้ใหญ่
1,200 เยน/นักเรียนอายุ 16-18 ปี 1,000 เยน/นักเรียนอายุ 7-15 ปี700 เยน/เด็กเล็ก 4-6 ปี 500 เยน Top Deck Tour (150m&250m) ผู้ใหญ่ 3,000 เยน/นักเรียนอายุ 16-18 ปี 2,800 เยน/นักเรียนอายุ 7-15 ปี 1,800 เยน/เด็กเล็ก 4-6 ปี 1,400 เยน |
Website | tokyotower.co.jp |
เสาโทริอิแดงพันต้น ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha)
แลนด์มาร์คญี่ปุ่น สถานที่ต่อไปขอพาคุณไปที่เกียวโต ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha) เป็นศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่ เป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้าที่มีความสำคัญ เป็นศาลเจ้าที่มีความงดงาม แต่ถ้าถามถึงแลนด์มาร์คของสถานที่แห่งนั้น ก็คือ Senbon Torii เสาโทริอิสีแดงนับพันต้น ถึงรุุ่งอรุณและแสงสว่างบอกถึงความหวังและความสดใส ใครมาที่นี้ต้องไม่พลาดลอดซุ้มโทริอิเลย สำหรับรายละเอียดของ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ สามารถอ่านเพิ่มได้ที่
ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ขอพรเทพจิ้งจอก โทริอินับพันแห่งเกียวโต
หากจะถามถึงศาลเจ้าญี่ปุ่น ที่สถาปัตยกรรมโดดเด่น มีความงดงาม อีกทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (fushimi inari) แห่งเกียวโต เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความชื่นชมจากผู้มาเยือน เป็นแลนด์มาร์กอีกหนึ่งแห่งของเกียวโต วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักสถานที่แห่งนี้ให้มากขึ้น ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ความน่าสนใจของสถานที่ รวมไปถึงข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง ราคา และพาสที่แนะนำ มาดูกันดีว่าว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ
ที่อยู่ | 68 Fukakusa Yabunouchi, Fushimi, Kyoto, 612-0882 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย Nara Line ลงสถานี Inari Station เดินอีก 1 นาที |
เวลาทำการ | เปิดตลอดเวลา |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | inari.jp |
โคมไฟยักษ์ วัดเซนโซจิ (Senso-ji Temple)
วัดเซนโซจิ (Senso-ji Temple) เป็นวัดสำคัญของโตเกียว นอกเหนือจากความสวยงามและความเก่าแก่แล้ว วัดแห่งนี้ยังโด่งดังในเรื่องของถนนสายช้อปปิ้ง เต็มไปด้วยของกินของฝาก นอกจากมาไหว้พระขอพรให้โชคดีแล้วยังมาช้อปปิ้ง หาของอร่อยรับประทานได้ สำหรับแลนด์มาร์คที่ใครๆ มักชอบไปถ่ายรูปคือ ประตู คามินาริ และโคมไฟยักษ์ ที่ดูแล้วรู้ทันทีว่าที่นี่คือที่ไหน ซึ่งทั้งสองฝั่งประตูจะมียักษ์เฝ้า มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่น ใครอยากรู้จักวัดนี้แบบเจาะลึก เราได้ให้ข้อมูลไว้ในบทความนี้
วัดเซนโซจิ ขอพร เครื่องราง ของฝาก ครบ !
วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเพื่อนๆ สายเก็บแต้มบุญ และขาช้อปทั้งหลาย รับรองว่ามาที่นี่ไม่ทำให้ผิดหวัง นอกจากการไหว้พระ ขอพร และซื้อเครื่องรางนำโชคพกพาให้อุ่นใจแล้ว ยังมีของกินและแหล่งช้อปปิ้งของฝากอีกด้วย ที่นี่ก็คือ วัดเซนโซจิ โตเกียวนั่นเอง แต่จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างไปดูกันเลย!!
วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple)
ที่อยู่ | 2-3-1 Asakusa, Taito, Tokyo 111-0032 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จาก Sky Tree ขึ้นรถไฟจากสถานี Oshigami สาย Toei Asakusa ไปสถานี Asakusa (3 นาที ราคา 170 เยน) หรือขึ้นรถบัสที่ออกจาก Tokyo Sky Tree Town (สาย 08 ไปหน้าสถานี Nippori) และลงที่ทิศเหนือของวัดเซนโซจิ(15 นาที ราคา 210 เยน)กรณีที่จะเดินไป ใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาที / จากสถานีอาซากุสะ ใช้เวลาประมาณ 1 นาที |
เวลาทำการ | 6.00 – 17.00 น. / 6.00 – 16.30 น (ตุลาคม – มีนาคม) |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
Website | Sensoji Temple |
เจดีย์แดงชูเรโต (Chureito Pagoda)
เจดีย์แดงชูเรโต (Chureito Pagoda) เป็นภาพแรกๆ ที่คุณจะพบเมื่อค้นหาคำว่าญี่ปุ่น เป็นเจดีย์แดงสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น แต่ที่พิเศษก็คือจากที่ตั้งของ เจดีย์แดงชูเรโต ในวันฟ้าใส มองไปจะเห็นวิวฟูจิ ยิ่งหากมาช่วงซากุระบาน บอกเลยว่าความสวยนี้ประทับใจสุดๆ ใครที่อยากได้ข้อมูลโลเคชั่นนี้เพิ่มสามารถคลิกอ่านได้เลยที่บทความนี้
ชมฟูจิสวย ซากุระบานสดใส ความงามที่ลงตัวแห่งเจดีย์แดง Chureito
ขอพาไปชมทิวทัศน์สุดงดงามของดอกซากุระและภูเขาไฟฟูจิที่สุดแสนจะลงตัวแห่งเจดีย์แดงในบริเวณศาลเจ้าเล็ก ๆ นามว่า Arakurayama Sengen สถานที่ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นจุดชมวิวดอกซากุระและภูเขาไฟฟูจิที่สมบูรณ์ที่สุดในญี่ปุ่น !
Chureito Pagoda
ที่อยู่ | 3353−1 Arakura, Fujiyoshida, Yamanashi 403-0011 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่ง loop bus จาก Kawaguchiko Station 15 นาที รายละเอียดการขึ้นรถ ราคา คลิก หรือนั่งแท็กซี่จากสถานี Shimoyoshida Station 5 นาที (เดิน 20 นาที) |
เวลาทำการ | แนะนำช่วง 8.00-16.00 น. |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Gulico Man Neon Billboard โดทงโบริ (Dotonbori)
Dotonbori เป็นย่านกินเที่ยวยอดนิยมย่านหนึ่งของโอซาก้า จุดนี้มีแลนด์มาร์คยอดนิยมหลายแห่ง แต่ถ้าจะเอ่ยถึงจุดที่เรียกว่าดังที่สุด คงหนีไม่พ้น Gulico Man Neon Billboard หรือป้ายหนุ่มกูลิโกะที่ป้ายเวอร์ชันแรกติดตั้งที่นี่มาตั้งแต่ปี 1935 เป็นอีกหนึ่งจุดที่เป็นตัวแทนของทั้งโอซาก้าและญี่ปุ่นเลยทีเดียว สำหรับพิกัดถ่ายรูป ก็ที่ด้านล่างนี้เลย
ช้อป กิน เที่ยวที่โอซาก้า ย่าน Dotonbori พร้อมจุดถ่ายภาพสุดปัง !
โอซาก้าเป็นเมืองท่องเที่ยวแสนคึกคัก โดยเฉพาะในย่านช้อปปิ้ง Dotonbori ที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ ทั้งจุดถ่ายรูปยอดฮิต ร้านอร่อยน่าลอง และแหล่งช้อปจุใจ แถมแต่ละร้านยังมาพร้อมแสงสีเสียงและซิกเนเจอร์ประจำร้านที่โดดเด่นเตะตาจนต้องรีบถ่ายรูปไปอวดเพื่อน พร้อมเช็กอินให้อิจฉาไปตามๆ กัน แต่ละร้านจะเล่นใหญ่ได้น่าสนใจขนาดไหน ต้องตามไปดู
Dotonbori Glico sign
ที่อยู่ | Dotonbori, Chuo, Osaka, Osaka 542-0071 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Midosuji Line ลงที่สถานี Namba จากนั้นเดินต่อประมาณ 4 นาที |
เวลาทำการ | 24 ชั่วโมง (เปิดไฟช่วงกลางคืน) |
Website | Dotonbori Glico sign |
ป่าไผ่อาราชิยาม่า (Arashiyama Bamboo Groves)
สถานที่ต่อไปขอแนะนำ ป่าไผ่อาราชิยาม่า (Arashiyama Bamboo Groves) แห่งเมืองเกียวโต เป็นป่าไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ทั้งสวยและโด่งดังที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยตลอดสองข้างทางนั้นจะมีต้นไผ่สีเขียวขจีสูงเสียดฟ้า ยาวกว่า 10 เมตร เรียงรายอยู่เป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร จึงเป็นอีกจุดเช็คอินยอดนิยมแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ตะลุยเที่ยว ป่าไผ่ เกียวโต เเห่งอาราชิยาม่า กันเถอะ
ป่าไผ่ เกียวโต เเห่งอาราชิยาม่า อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่น่าสนใจเเละเป็นที่นิยมสำหรับชาวญี่ปุ่นเเละนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติหลายๆ คนที่จะได้สัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์ บรรยากาศที่ร่มรื่น เเละวิวทิวทัศน์อันสวยงามท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งยังมีกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์สำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมป่าไผ่เเห่งนี้ได้ทำอีกมากมาย นอกจากกการเดินชมป่าไผ่เเล้ว ที่นี่ยังมีศาลเจ้าที่โด่งดังในเรื่องของการขอคู่ครองอีกด้วย รับรองว่าทุกคนที่มาจะไม่ผิดหวัง ถูกใจทั้งสายธรรมชาติ สายถ่ายรูป อย่างเเน่นอน นับได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดกันเลยทีเดียว อยากรู้เเล้วล่ะสิ ว่าที่นี่มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ป่าไผ่ เกียวโต แห่งอาราชิยาม่า
ที่อยู่ | Ukyo, Kyoto, Kyoto, 616-0000 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากเกียวโต นั่งรถไฟสาย JR มาลงที่สถานี Saga Arashiyama แล้วเดินอีก 10 นาที หรือนั่งรถไฟสาย Hankyu มาลงที่สถานี Arashiyama แล้วเดินอีก 15 นาที |
เวลาทำการ | ตลอด 24 ชั่วโมง |
Website | ป่าไผ่ เกียวโต แห่งอาราชิยาม่า |
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ปราสาทเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม และเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นญี่ปุ่น โอบล้อมไปด้วยสวนปราสาทที่มีความงดงามในทุกฤดูกาล บอกเล่าประวัติศาสตร์ของโอซาก้าที่ข้ามผ่านกาลเวลา เป็นอีกหนึ่ง แลนด์มาร์คญี่ปุ่น ที่ที่ควรมาชมสักครั้ง สำหรับรายละเอียดประวัติความเป็นมา และเรื่องราวของที่นี่อ่านได้จัดเต็มที่บทความนี้
ปราสาทโอซาก้า พาเที่ยวแลนด์มาร์กโอซาก้า จัดเต็มทุกข้อมูลเที่ยว
ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในโอซาก้า ที่มีความเป็นญี่ปุ่น และสัญลักษณ์สำคัญที่ทุกคนจะนึกถึง เชื่อว่าปราสาทโอซาก้านั้นจะต้องอยู่ในความคิดเป็นอันดับต้นๆ วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จัก ปราสาทโอซาก้า ให้มากขึ้นทั้งในแง่ของประวัติความเป็นมา ไปจนถึงความน่าสนใจในการท่องเที่ยว พร้อมไฮไลต์ที่มีความน่าสนใจ รวมไปถึงการเดินทาง พาสการเดินทางแนะนำ ต่อจากนี้เราขอนำคุณสู่ปราสาทที่มีความยิ่งใหญ่ บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของอารยธรรม พร้อมข้อมูลการท่องเที่ยวที่จัดเต็ม ให้พร้อมไปเที่ยวแบบชิลล์ๆ มาดูกันว่ามีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ปราสาทโอซาก้า
ที่อยู่ | 1-1, Osakajo, Chuo, Osaka 540-0002 |
---|---|
การเดินทาง | นั่ง Osaka Loop Line มาลง Ōsakajōkōen Station เดินอีก 15 นาทีจะถึงตัวปราสาท |
วลาทำการ | ปราสาทโอซาก้าเปิด 9.00-17.00 น. (เข้าชมได้ถึง 16.30 น.) หยุดตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคมถึง 1 มกราคมของปีถัดไป ฤดูชมซากุระ (24 มี.ค – 8 เม.ย. ) 9.00 – 19.00 (เข้าได้จนถึงเวลา 18.30 น.) โกลเด้นวีค (28 เม.ย. – 6 พ.ค) 9.00 – 18.00 (เข้าได้จนถึงเวลา 17.30) |
ราคา | ผู้ใหญ่ ราคา 600 เยน เด็กมัธยมต้น(ต้องมีหลักฐานแสดง) เข้าชมฟรี |
Website | osakacastle.net |
สวนกวางนารา (Nara Park)
สวนนารา (Nara Park) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างสถานที่สำคัญอันเป็นมรดกโลก อาทิ วัดโทได นอกจากความงดงามของทัศนียภาพแล้ว สวนแห่งนี้จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับฝูงกวางแบบใกล้ชิด สามารถให้ขนมและสัมผัสตัวได้ ไปจนถึงการถ่ายภาพด้วยแบบเก๋ๆ จึงเป็น แลนด์มาร์คญี่ปุ่น ที่ผู้คนประทับใจ โดยเฉพาะคนรักสัตว์ จากสวนนารายังไปเที่ยวต่อในบริเวณใกล้ๆ ได้อีกมากมาย
ที่เที่ยว นารา 8 พิกัดเด็ด กิจกรรมโดน พร้อมแผนที่เที่ยวจัดเต็ม
นารา อีกหนึ่งความน่าสนใจในคันไซที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ สมกับการเป็นเมืองมรดกโลก มีพื้นที่ติดกับโอซาก้า ใกล้เกียวโต จึงเป็นอีกเมืองที่ผู้คนนิยมมากในคันไซ มีจุดเด่นอีกประการที่มีกวางมากมายเป็นสีสัน แต่ขอบอกว่า นารา นั้น ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์ และความน่าสนใจอีกมากมาย วันนี้เราขอเป็นตัวแทนนำเที่ยว แนะนำพิกัดเด็ด กิจกรรมน่าสนใจ พร้อมแจกแผนที่เที่ยวแบบครบครับ อำนวยความสะดวกพร้อม มาดูกันเลยว่านารามีที่ไนและมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
Nara Park
ที่อยู่ | Zoshi, Nara, Nara |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดิน 5 นาที จากสถานี Kintetsu-Nara Station หรือ นั่งรถบัส 10 นาทีจากสถานี JR Nara station (ถ้าเดินใช้เวลา 20 นาที) |
เวลาทำการ | เปิดตลอดเวลา |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | nara-park.com/ |
โทริอิแดงกลางน้ำ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine)
Itsukushima Shrine เป็นศาลเจ้าทีตั้งอยู่บนเกาะ Miyajima มีประวัติยาวนานกว่า 1,400 ปี และยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น โดยตัววัดนี้ถูกสร้างขึ้นบนชายทะเลมองดูแล้วเหมือนกับว่าศาลเจ้าถูกสร้างให้ลอยอยู่เหนือน้ำ มีเสาโทริอิสีแดงสูงกว่า 16 เมตรตั้งอยู่กลางทะเลซึ่งให้ภาพสุดอันซีน เป็น แลนด์มาร์คญี่ปุ่น อีกแห่งที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ สำหรับใครที่สนใจอยากรู้จักที่เที่ยวอื่นๆ ที่ฮิโรชิม่า อ่านได้จากบทความนี้
ทริปสุดมันส์!!! 1 วัน ไปกับ Jr Pass Hiroshima ใบเดียวเที่ยวทั่วฮิโรชิม่า
Jr Pass Hiroshima ใบเดียว เที่ยวทั่วเมืองประวัติศาสตร์แห่งญี่ปุ่น นั่นก็คือ เมือง ฮิโรชิม่า ที่หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินชือเมืองฮิโรชิม่ากันมาไม่มากก็น้อย ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ หรือ อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์มาสด้า ที่หลายๆ คนรู้จักนั่นเอง ถ้าพูดถึงเมืองที่เที่ยวง่ายที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากโตเกียวแล้ว ก็ฮิโรชิม่าเนี่ยแหละ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่เที่ยวง่ายไม่แพ้กัน สำหรับการเดินทางภายในเมืองนี้ ถ้าใครมี JR Pass ก็สามารถใช้เที่ยวเมืองนี้ได้สบายๆ พอมีพาสก็เดินทางสะดวก ใบเดียวเอาอยู่เที่ยว Hiroshima ฟินๆ ทั้งที่เที่ยวและร้านอาหารครบจบที่นี่ เที่ยวตามได้เลย!!!
Itsukushima Shrine
ที่อยู่ | 1-1 Miyajimacho, Hatsukaichi, Hiroshima 739-0588 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งเรือจากท่าเรือ Miyajima มาลงที่ท่าเรือ 宮島桟橋[JR](航路) ใกล้ศาลเจ้า |
เวลาทำการ | 6.30-18.00 น. (มีการเปลี่ยนแปลงความฤดูกาล) |
ราคา | 300 เยน ※ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง |
Website | Itsukushima Shrine |
ทุ่ง Nemophila ที่ ฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park)
เมื่อพูดถึงทุ่งดอกไม้ญี่ปุ่น ภาพทุ่ง Nemophila สีฟ้าสดใสไกลสุดลูกหูลูกตาต้องเป็นภาพจำของใครหลายๆ คน เพราะสวยงามราวกับอยู่ในฉากนิยาย ทุ่งดอกไม้อันโด่งดังหาชมได้ที่ Hitachi Seaside Park จังหวัดอิบารากิ นอกจาก Nemophila ยังมีดอกไม้อื่นให้ชมรวมถึงทุ่งโคเคียทีแดงสดอลังการไม่ต่างกัน
Hitachi Seaside Park
ที่อยู่ | 605-4 Onuma-aza, Mawatari, Hitachinaka, Ibaraki |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งบัสจาก Katsuta station มาลงป้าย Kaihinkoen Nishi-guchi |
เวลาทำการ | (1 มี.8.-20 ก.ค. / 1 ก.ย.-31ต.ค) 9.30 น. – 17.00 น. / (21 ก.ค-31 ส.ค.) 9.30 น. – 18.00 น. / (1 พ.ย.-สิ้นก.พ.) 9.30 น. – 16.30 น. / หยุดวันอังคาร |
ราคา | ค่าเข้า ช่วงปกติ 450 เยน / ช่วงเทศกาล 700 เยน |
Website | hitachikaihin |
ทุ่งลาเวนเดอร์ ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita)
Farm Tomita นับเป็น “จุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดของเมือง” ตั้งอยู่ที่ เมืองฟุราโนะ ฮอกไกโด ซึ่งมีดอกไม้สะพรั่งสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ยังมีมุ่งดอกไม้หลากสีให้ชม มีเทือกเขาเป็นฉากหลัง ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สะดวก มีคาเฟ่ ร้านอาหาร และไม่ควรพลาดซอฟต์ครีมลาเวนเดอร์
Tomita Farm ชิมไอศครีม ที่ ทุ่งลาเวนเดอร์ ฮอกไกโด พร้อมวิธีการเดินทาง
Tomita Farm ทุ่งลาเวนเดอร์ขนาดใหญ่ในฟุราโน่ หากเรากำลังคิดถึงสวรรค์บนดินอยู่ล่ะก็ ไม่ควรพลาดที่นี่ ไม่ว่าจะสวนดอกไม้แสนสวยรับลมเย็นๆ ของฮอกไกโด หรือจะเป็นคาเฟ่หวานๆ ชื่นใจพร้อมวิวงาม แต่หากใครกำลังเรื่องวิธีการเดินทางอยู่ล่ะก็ รีบอ่านบทความนี้เลย ครบทุกเรื่องตั้งแต่เรื่องเที่ยว กิน พร้อมบอกวิธีการเดินทางอีกด้วย
Tomita Farm
ที่อยู่ | Kisen Kita 15, Nakafurano, Sorachi, Hokkaido |
---|---|
วิธีเดินทาง | เดิน 7 นาทีจาก JR Lavender-Farm Station |
เวลทำการ | 9.30-16.30 น. (เวลาจะเลื่อนออกไปตามแต่ละฤดู เช็คได้จากเว็บ) |
ราคา | แตกต่างกันตามส่วน |
Website | farm-tomita |
กำแพงหิมะทาเทยาม่า คุโรเบะ(Tateyama Kurobe Alpine Route)
กำแพงหิมะทาเทยาม่า คุโรเบะ(Tateyama Kurobe Alpine Route) คือเส้นทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของจังหวัดโทยามะและจังหวัด นากาโนะ พาดผ่านวิวทิวทัศน์สลับซับซ้อนของเทือกเขาแอลป์ หรือที่นิยมเรียกกันติดปาว่า เจแปนแอลป์ จุดที่สูงที่สุดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถขึ้นไปได้อยู่ที่บริเวณ Murodo ที่มีความสูง 2,450 เมตร จุดนี้จะมี “Yuki no Otani” หรือ กำแพงหิมะ ตั้งตระหง่านคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเป็นระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร เป็นภาพอันซีน และ แลนด์มาร์คญี่ปุ่น ที่ไม่ควรพลาดชม
กำเเพงน้ำเเข็ง (Tateyama Kurobe Alpine Route)
ที่อยู่ | Tateyama, Nakaniikawa, Toyama 930-1406 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟ Hokuriku Shinkansen มาลงที่สถานี Toyama ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถไฟ Toyama Chihou Railway มาลงที่สถานี Tateyama ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง |
เวลาทำการ | 09.30 – 15.15 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 15.00 น.) **ช่วงเวลาที่ให้บริการบนเส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ขอเเนะนำให้เช็คช่วงเวลาที่เเน่นอนที่เว็บไซต์ทางการก่อนการเดินทาง |
Website | Tateyama Kurobe Alpine Route (ภาษาอังกฤษ) |
ชมลิงแช่ออนเซ็น จิโกคุดานิ (Jigokudani)
แลนด์มาร์คญี่ปุ่น สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Yaen Koen) ในจังหวัดนากาโนะ ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยหุบเขา Jigokudani ที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติ จึงทำให้ลิงป่าส่วนใหญ่มักลงมาเล่นหิมะและแช่น้ำร้อนคลายความหนาวให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ภาพที่เห็นนี้เกิดจากในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น ไม่มีแม้กระทั่งแสงแดดส่องแสง ลิงก็เลยพากันเอาชนะความหนาวเย็นเหล่านี้โดยการไปแช่ออนเซ็นคลายความหนาวยังไงล่ะ ใครที่อยากรู้จักสถานที่นี้ให้มากขึ้น ตามไปอ่านได้เลย
เปิดพิกัดพาไปชม ลิงญี่ปุ่น ที่หุบเขานรก Jigokudani Nagano
หน้าหนาวเริ่มใกล้เข้ามาเเล้ว เพื่อนๆ มีเเพลนเที่ยวญี่ปุ่นที่ไหนกันบ้าง วันนี้เราจะพาทุกคนไปสัมผัสความหนาวพร้อมกับชื่นชมความน่ารักที่ธรรมชาติสร้างมาอย่างลงตัวกับน้อง ลิงญี่ปุ่น สุดแสนจะน่ารักน่าเอ็นดู หน้าตาบ๊องแบ๊ว ท่ามกลางหุบเขา Jigokudani ในจังหวัดนากาโนะ ที่ที่ใครหลายๆ คนใฝ่ฝันอยากจะมา ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งเดียวในโลกที่จะได้ชมลิงแช่ออนเซ็นแบบนี้อีกด้วย ว่าแต่…จะน่ารักขนาดไหน ตามไปชมกันได้เล้ยยย
สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Yaen Koen)
ที่อยู่ | 6845 Yamanouchi, Shimotakai, Nagano 381-0401 |
---|---|
วิธีเดินทาง | จากสถานีโตเกียว นั้งรถไฟ Hokuriku Shinkansen มาลงที่สถานีนากาโนะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที จากนั้นขึ้นรถบัส Nagaden Bus ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ก็จะถึงสวนลิงจิโกคุดานิ **จากจุดลงรถบัสต้องเดินต่อ 40 นาที ถึงจุดชมลิงแช่ออนเซ็น |
เวลาทำการ | ฤดูร้อน (ประมาณเดือนเมษายน – ตุลาคม) เปิด 8.30 – 17.00 น. ฤดูหนาว (ประมาณเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม) เปิด 9.00 – 16.00 น. |
วันหยุด | ไม่มีวันหยุด เปิดตลอดทั้งปี แต่ถ้าหากวันไหนสภาพอากาศไม่ดี หิมะตกหนัก ก็มีแนวโน้มที่จะปิดสูง |
ราคา | แบบรายบุคคล : ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) 800 เยน นักเรียนประถมถึงมัธยมปลาย 400 เยน แบบกลุ่ม (20 คนขึ้นไป) : ผู้ใหญ่ 680 เยน นักเรียนประถมถึงมัธยมปลาย 340 เยน บัตรรายปี : ผู้ใหญ่ 5,000 เยน นักเรียนประถมถึงมัธยมปลาย 2,500 เยน |
หมายเหตุ | น้องลิงอาจจะไม่ได้ลงมาที่สวนแห่งนี้ทุกวัน เพื่อนๆ สามารถเช็คดูได้ว่าวันนี้น้องลิงลงมากันมั้ยได้จาก Live Camera หรือ Facebook Fanpage ของทางศูนย์ |
Website | Jigokudani Yaen Koen |
ข้อสรุป
บอกเลยว่า แลนด์มาร์คญี่ปุ่น ที่เรารวมรวมข้อมูลมาให้ทุกที่เป็นสถานที่ที่เป็นเอกลักษณ์ มีความเป็นญี่ปุ่น ถ้าใครอยากขึ้นชื่อว่ามาถึงญี่ปุ่นแล้วก็ขอบอกเลยว่าไม่ควรพลาดสถานที่เหล่านี้
ยังมีสถานที่น่าแวะไปอีกมากมาย แต่ละที่จะเป็นอย่างไร มีอะไรน่าสนใจบ้าง อ่านต่อกันอ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
พิกัดใหม่ที่เที่ยวในโตเกียวน่าไป จะมีที่ไหนบ้างลองดูบทความนี้กัน
เที่ยวโตเกียว 10 พิกัดใหม่ ไม่ซ้ำใคร เอาใจสายชิลล์
อย่าเพิ่งบอกว่าเบื่อ เที่ยวโตเกียว ถ้าคุณยังไม่เคยไปสถานที่เหล่านี้ เรารวบรวม ที่เที่ยว ลับ โตเกียว จุดเช็คอินใหม่ๆ ที่แม้ไม่คุ้นตาแต่ก็มีความเก๋ชิค น่าเที่ยวไม่น้อยกว่าที่เที่ยวสุดฮิต ได้ภาพสวย สนุกกับกิจกรรมดี เที่ยวชิลล์แบบแปลกใหม่ ไม่แมส พร้อมพิกัดและการเดินทางให้ไปได้แบบสะดวก
เที่ยวเมืองหลวงของญี่ปุ่น แต่จะมีที่ไหนน่าไปบ้าง ลองดอ่านเพิ่มเติมกัน
เที่ยวโตเกียว เสน่ห์เมืองหลวง ตื่นตากับเทคโนโลยี เที่ยวสนุกช้อปเพลิน
เที่ยวโตเกียว มหานครแห่งความรุ่งเรืองของญี่ปุ่น ล้ำสมัยด้วยนวัตกรรม เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าค้นหา การเดินทางแสนสะดวกสบาย ท่องเที่ยวง่ายดายปลอดภัย ชิลล์กันได้แม้เดินทางไปเป็นครั้งแรก สัมผัสตึกรามสุดทันสมัย วัฒนธรรมสุดป๊อป กิน เที่ยว ช้อปปิ้งแบบจัดเต็ม สนุกสนานกันได้ทั้งวัน และกิจกรรมสุดน่าสนใจที่เมืองสุดชิค
ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอนักท่องเที่ยวให้ไปค้นหา พิกัดสถานที่น่าประทับใจในญี่ปุ่นที่คุ้มค่าต่อการเดินทางอย่างแน่นอน เราขอแนะนำพิกัดน่าประทับใจที่เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น จะมีที่ไหนบ้างลองอ่านต่อกันอ่านบทความที่น่าสนใจ
สำหรับใครที่อยากชม วิวอื่นๆ จากญี่ปุ่น สามารถอ่านได้ที่บทความนี้
50 วิวญี่ปุ่น สวยตะลึง ที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
คลิกที่นี่เพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติม