ย้อนเวลาไปยุคเอโดะ ที่ Boso no Mura
Boso no Mura เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ที่จำลองเมืองโบราณในสมัยเอโดะ อยู่ไม่ไกลจากสนามบินนาริตะ ที่นี่จะพบกับกิจกรรมมากมาย
แต่ก่อนเข้าไป สิ่งที่ทำให้เราตกใจจนต้องขยี้ตาคือ ค่าเข้าที่นี่ ถูกเว่อ!
จุดไฮไลท์ ที่แนะนำคือย่านที่เรียกว่า Furusato-no-Waza ผ่านที่ขายตั๋วมาก็จะเจอเลย เป็นบ้านเก่าจำลองของพวกพ่อค้า, ซามูไร, ชาวนาในสมัยเอโดะ บรรยากาศยังกะในหนัง
ก่อนเข้าหมู่บ้านสามารถไปเช่าชุดกิโมโน ชุดนินจา ซามูไร ต่างๆมาใส่ได้เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ
ข้อดีคือมีให้เลือกหลายแบบมาก ที่เรากับเพื่อนเลือกใส่คือชุดที่เรียกว่า ฮากามะ
นอกจากค่าเข้าที่ถูกเว่อ ที่นี่ยังเพียบไปด้วยกิจกรรมทำของน่าสนุกต่างๆ มากมาย ทดลองได้ในราคาที่ย่อมเยา แล้วเอากลับไปฝากคนที่บ้าน เช่นอันนี้ สามารถตกแต่งเทียนในสไตล์ตัวเองได้ ราคาแค่ 350 เยน
พิธีชงชา เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวอยากลอง ที่นี่สามารถเข้าร่วมพิธีชงชาได้บ้านของซามูไร เพิ่มเงินอีกแค่ 500 เยน ก็สามารถเรียนวิธีการชงชาจากคุณป้าใจดี
ในชุดมีชา และขนมญี่ปุ่นแสนสวย อันนี้ทำเป็นรูปดอกไม้ที่จะบานในฤดูหนาว เรียกว่าดอกสึบากิ
ถ้าท้องหิว อาหารแนะนำคือ Kaminari Udon หรือ อุด้งฟ้าผ่า! ที่ได้ชื่อนี้ ก็เพราะว่า เวลาที่ทอดส่วนผสมในน้ำมันงา จะเกิดเสียงดังปุ้งปั้งเหมือนฟ้าผ่า (ขายในเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น)
ที่ Boso no mura มีหลายโซนให้เข้าไปเดินดู ภายในย่าน Furusato-no-Waza จะมีบ้านชาวนาสมัยเอโดะ ด้านในมีของเล่นให้เล่น มีกิจกรรมพื้นบ้านให้ทำ
โดยรวมเราประทับใจที่นี่มาก เพราะไม่เคยคิดว่าใกล้เมืองทันสมัยอย่างโตเกียว จะมีสถานที่ที่สามารถสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นเก่าแก่ ได้ครบครันและสนุกขนาดนี้ ที่สำคัญสตาฟฟ์ส่วนใหญ่เป็นคุณลุงคุณป้าที่แสนใจดีและน่ารัก พวกท่านฝากมาบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า ยินดีต้อนรับคนไทยมากๆ
Boso no Mura
ที่อยู่ | 1028 Ryukakuji, Sakae-machi, Imba, Chiba, 270-1506 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Narita Line ลงที่สถานี Shimosa-Manzaki จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 28 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-16.30 น. ปิดวันจันทร์ |
ราคา | ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนมัธยมปลายและนักศึกษา 50 เยน, ผู้สูงอายุ (65 ปี) และนักเรียนมัธยมต้น ประถมและเด็กเล็ก ไม่เสียค่าใช้จ่าย |
โทรศัพท์ | 04-7695-3333 |
Website | chiba-muse |
พักชิมรสชาติแท้ๆของชิบะ ที่ Hakko-no-Sato Kozaki
ช่วงนี้หลายคนนิยมเที่ยวญี่ปุ่นโดยการเช่ารถขับ Hakko-no-Sato Kozaki ถือเป็นจุดแวะพักที่อยากแนะนำใครหลายๆคนเลยล่ะ เพราะเป็นที่ๆคุณจะได้สัมผัสรสชาติที่เป็นจุดเด่นของนาริตะอย่างแท้จริง
จุดเด่นของที่นี่คือของหมัก ชื่อของที่นี่ Hakko (発酵) แปลว่าการหมัก นั่นเอง เพราะฉะนั้นจุดที่ไม่ควรพลาดคือ Fermentation Market ตามลูกศรไปเลย
ชิบะเป็นแถบที่ดินดีและน้ำอุดม จึงมีผลผลิตที่รสชาติอร่อย ทั้งพวกผัก และเนื้อต่างๆ และที่สำคัญไม่แพ้วัตถุดิบ คงต้องยกให้เครื่องปรุงที่เกิดจากการหมักของที่นี่ เช่นพวกมิโสะ โชยุต่างๆ ของที่นี่ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัยเอโดะเลยทีเดียว
เราอยากแนะนำให้ทานอาหารที่ร้าน Oryzae ดู อาหารมีให้เลือกหลายแบบ ทุกอย่างมีส่วนผสมจากของหมักขึ้นชื่อ ตั้งแต่ซีอิ้ว โชยุ มิโสะ ไปจนถึงเครื่องเคียงต่างๆ
ข้าวราดแกงกีร์มา (แกงแขก) หอมเครื่องเทศ ทานง่าย ในเซตมีซุปมิโสะ สลัด และโยเกิร์ต
เซทนี้เป็นเนื้อหมู ชิบะดังเรื่องเนื้อหมูที่เลี้ยงด้วยกรรมวิธีพิเศษ เรียกว่า SPF มาทั้งทีเลยต้องลองชิม ซอสที่ราดทำจากโชยุ หมักโดยกรรมวิธีเฉพาะตัวของ Hakko no sato ถ้าติดใจรสชาติ ก็สามารถหาซื้อได้จากร้านของฝากที่นี่ค่ะ
อย่าพึ่งอิ่มกันนะคะ เผื่อท้องไว้ทานอันนี้ด้วย ขนมปังถั่วแดง หรือ “อันปัง”นั่นเอง แต่ไม่ใช่ขนมปังถั่วแดงธรรมดาๆ นะ เพราะมีส่วนผสมของส่าเหล้า จึงมีกลิ่นหอมมาก แตกต่างจากที่อื่นแน่นอน
Hakko-no-Sato Kozaki
ที่อยู่ | 855 Matsuzaki, Kouzaki-machi, Katori, Chiba, 289-0224 |
---|---|
วิธีเดินทาง | โดยรถยนต์ หรือ นั่งรถไฟ JR มาลงที่ Shimousakozaki Station แล้วต่อแท็กซี่เพียง 7 นาที |
เวลาทำการ | 9.00-18.00 น. ไม่มีวันหยุด |
โทรศัพท์ | 0478-70-1711 |
Website | hakkounosato |
หอศิลป์ Kawamura Memorial DIC
เป็นหอศิลป์ที่บริษัท DIC ได้สร้างขึ้น บริษัทนี้เป็นบริษัทผลิตสารเคมีที่เปิดในไทยด้วย ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ที่สำคัญ มีการรวมเอางานศิลปะดังๆของโลก หลายยุคสมัยไว้ที่นี่ ตั้งแต่ยุค Impressionism อย่างผลงานของ เรอนัวร์ (Renoir) หรือ โมเนต์ (Monet) ไปจนถึงศิลปินร่วมสมัย อย่าง Jackson Pollock รับรองแฟนงานศิลป์จะต้องกรี๊ด มาที่นี่ได้เห็นทุกสิ่งครบ
สำหรับคนที่อ่านชื่อศิลปินข้างบนแล้วเกิดคำถามว่า “คืออิหยัง?” อย่าพึ่งข้ามไป เพราะที่นี่ นอกจากจะมีงานศิลป์แล้ว ไฮไลท์อีกอย่างคือ มีทิวทัศน์ของสวนที่งดงาม โดยเฉพาะหน้าซากุระ
สวนกว้างมาก ถ้าเดินจนเมื่อย สามารถพักทานอาหาร ดื่มกาแฟกันได้
อาหารจัดมาในจานสวยงามเหมือนงานศิลปะ เซ็ตพาสต้านี้ราคา 1800 เยน
ยัง…ยังไม่หมดค่ะ ทิวทัศน์สวยขนาดนี้ เราไปดื่มชาชมสวนสไตล์ญี่ปุ่นกัน ห้องดื่มชา เห็นวิวสวนสวยๆแบบพาโนราม่า
ก่อนกลับเราแวะร้านของฝาก ที่นี่มีของน่าสนใจมากมาย ใครอยากได้ของฝากที่ไม่ซ้ำใคร ที่นี่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
ก็ขึ้นชื่อว่าหอศิลป์ ของฝากจะธรรมดาได้ไง ขนาดลูกอมยังเป็นงานศิลปะ
ลูกอมนี้ทำล้อภาพวาดฝีมือ Rambrandt ศิลปินระดับโลกชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานที่จัดแสดงที่นี่
ถึงจะไม่ได้เป็นแฟนงานศิลป์ตัวยง ที่นี่ก็ยังเหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจ เพราะมีความสวยงาม แปลกใหม่จากหอศิลป์ทั่วไป การออกแบบภายในตัวอาคารและห้องแสดงต่างๆ ที่เปลี่ยนอารมณ์คนดูไปเรื่อยๆ ทำให้ไม่รู้สึกเบื่อ
หอศิลป์ Kawamura Memorial DIC
ที่อยู่ | 631 Sakado, Sakura, Chiba, 285-8505 |
---|---|
วิธีเดินทาง | โดยรถยนต์ หรือ นั่งรถไฟ JR มาลงที่ Keisei Sakura ออก south exit แล้วต่อ Shuttle bus ของหอศิลป์ |
เวลาทำการ | 9.30-16.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ หากเป็นวันหยุดราชการจะปิดวันถัดไป (วันอังคาร)และบางช่วงปิดเพื่อจัดเตรียมนิทรรศการ ควรเช็คตารางเวลาที่ website ก่อนไป |
ราคา | แตกต่างกันไปตามนิทรรศการ |
โทรศัพท์ | +81 50-5541-860 |
kawamura-museum.dic |
ข้อสรุป
ถ้ามาโตเกียวแล้วพอมีเวลา อยากจะชวนให้ลองแวะนาริตะ เพราะมีสถานที่ที่เหมาะกับความต้องการของทุกคน ทั้งสายกิน, สายถ่ายภาพ, สายอาร์ท ตอนต่อไป คนรักธรรมชาติ ขาช้อป และสายชิลล์ห้ามพลาดค่ะ
นอกจากนี้ สนามบินนาริตะแห่งนี้ยังมีบริการทัวร์ให้คนที่มาต่อเครื่องที่นี่หรือคนที่มาพักบริเวณรอบๆ สนามบินเที่ยวนาริตะกันได้สบายๆ เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็สามารถสัมผัสเสน่ห์ของบริเวณรอบสนามบินนาริตะแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง มาสร้างความทรงจำดีๆ กันได้ที่นี่ ดูรายละเอียดได้ ที่นี่