คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
17%
10%
5%
ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิสุโอกะ (Shizuoka) และจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับท็อปฮิตที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะไปเยือนมากที่สุดเนื่องจากภูเขาไฟฟูจินั้นเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่งดงามของประเทศที่ชาวญี่ปุ่นผูกพัน ทั้งยังเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศอีกด้วย โดยภูเขาไฟฟูจินั้นมีความสูงถึง 3,776 เมตรเลยทีเดียว
นอกจากความสูงแล้วภูเขาไฟลูกนี้ยังมีความงดงามในด้านของรูปทรงที่สมมาตรกันทุกด้าน ไม่ว่ามองมุมไหนก็ไม่บิดเบี้ยว ทั้งยังมีความงามของยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมเป็นสีขาวโพลนเกือบตลอดทั้งปี กลายเป็นทิวทัศน์สุดงดงามที่มีความน่าสนใจ ทำให้ใคร ๆ ก็อยากมาเยือนประเทศญี่ปุ่นเพื่อได้เห็นความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิสักครั้ง
ความจริงแล้วรอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจินั้นมีทะเลสาบล้อมรอบอยู่มากถึง 5 แห่งได้แก่ ยามานากะโกะ (Yamanakako), ไซโกะ (Saiko), โชจิโกะ (Shojiko), โมโตซุโกะ(Motosuko), และ คาวากูจิโกะ (Kawaguchigo) แต่ในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 นี้ คาวากูจิโกะถือเป็นสถานที่ชมภูเขาไฟฟูจิยอดนิยมที่สวยงามและเดินทางจากกรุงโตเกียวได้สะดวกที่สุดแห่งหนึ่ง
รถบัส เป็นหนทางที่ประหยัดและง่ายสำหรับคนที่ไม่ชินทางอย่างชาวต่างชาติแบบเรา ๆ แต่อาจใช้เวลาในการเดินทางเยอะกว่าการขึ้นรถไฟและควบคุมเวลาไม่ได้หากการจราจรในบริเวณนั้นหนาแน่น
รถบัสที่ว่านี้มีชื่อว่า Highway Bus โดยเราสามารถขึ้นจากสถานีชินจุกุ (Shinjuku) ไปลงที่สถานีปลายทางคาวากูจิโกะได้เลย การนั่งรถบัสจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที (ในช่วงเวลาที่รถไม่ติด หากเป็นช่วงซากุระบานหรือใบไม้เปลี่ยนสีการจราจรจะติดขัด)
อัตราค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ราคาคนละ 1,950 เยน เด็ก 980 เยน (เที่ยวเดียว) ควรจองก่อนเดินทาง 1 วัน สามารถจองออนไลน์และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จองรถ Tokyo Shinjuku Expressway Bus Terminal
Shinjuku Expressway Bus Terminal
| ที่อยู่ | 1F, 1 Chome-10 Nishishinjuku, Shinjuku-ku, Tōkyō-to 160-0023, Japan |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Chou Line ลงที่สถานี Shinjuku เดินประมาณ 3 นาทีจะถึงป้ายรถบัส |
| ราคา | ผู้ใหญ่คนละ 1,750 เยน เด็ก 880 เยน (เที่ยวเดียว) |
| โทรศัพท์ | 03-5376-2222 |
| Website | Shinjuku Expressway Bus |
รถไฟ เป็นการเดินทางที่สะดวก รวดเร็วและตรงเวลาที่สุด แต่จะไม่ได้แค่ต่อเดียวจบ เพราะการนั่งรถไฟไปคาวากูจิโกะนั้นจะมีการเปลี่ยนขบวนรถ ค่าใช้จ่ายจึงจะเยอะกว่าการเลือกนั่งรถบัสอยู่สักหน่อย
Cr: mtfuji-jp.com
โดยเริ่มจากการนั่งรถไฟสาย Azusa จากสถานี JR Shinjuku หรือ Kaiji ไปลงที่สถานี JR Otsuki ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสารประมาณ 1,280 เยน *สามารถใช้ JR PASS ได้
การขึ้นรถไฟขบวนนี้มีตู้ 3 แบบ ซึ่งเราต้องเลือกขึ้นรถไฟให้ถูกตู้ด้วยโดยจะมีระบุที่ตั๋วรถไฟหรือที่ป้ายสถานี (ควรตรวจดูทุกครั้งก่อนขึ้น)
ตู้แบบที่ 1 สีเหลือง : สำหรับคนไม่ได้จองที่นั่ง
ตู้แบบที่ 2 สีแดง : สำหรับคนที่จองที่นั่ง
ตู้แบบที่ 3 สีเขียว : ที่นั่งแบบพิเศษ
Cr: http://e.fujikyu-railway.jp
จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway จากสถานี Otsuki ไปลงที่สถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ 1,110 เยน เด็ก 560 เยน (เป็นราคาโดยประมาณ) *ไม่สามารถใช้ JR PASS ได้ โดยสามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานี Otsuki (บอกพนักงานว่าไปลงสถานี คาวากูจิโกะ )

A bus station, Fuji mountain background Japan
เมื่อถึงสถานี Otsuki เราจะต้องต่อรถไฟไปลงสถานีปลายทาง Kawaguchiko (แต่รถไฟจะจอดค้างอยู่ที่สถานี Fujikyu Highland เพื่อหัวหัวกลับ ก็ไม่ต้องตกใจและอย่าเพิ่งลงนะ เพราะยังไม่ถึงจุดหมายของเรา ดูชื่อสถานีกันดี ๆ นะ) ซึ่งรถไฟสายนี้บางขบวนก็จะมีลวดลายน่ารัก ๆ ในธีมภูเขาไฟฟูจิให้เราได้นั่งด้วย
Otsuki Station
| ที่อยู่ | 3641, Funatsu, Fujikawaguchiko-machi, Minamitsuru-gun, Yamanashi-ken 401-0301, Japan |
|---|---|
| วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Chou Line จากสถานี Shinjuku ไปลงที่สถานี Otsuki แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Kawaguchiko |
| ราคา | ผู้ใหญ่คนละ 1,110 เยน เด็ก 560 เยน (เที่ยวเดียว) |
| Website | Mt.Fuji Explorer |
แม้ว่าภูเขาไฟฟูจิจะมีทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่เหล่าเมฆหมอกบริเวณนั้นมักจะไม่ค่อยเป็นใจให้เราได้ชมภูเขาไฟลูกนี้กันได้อย่างเต็มที่สักเท่าไหร่ นักท่องเที่ยวหลายคนก็ต้องผิดหวังเพราะอดเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มตา ดังนั้นการดูพยากรณ์อากาศก่อนจะไปชมภูเขาไฟลูกนี้จึงมีความสำคัญมาก
คำแนะนำในการดูพยากรณ์อากาศก่อนไปชมภูเขาไฟฟูจิ
ช่วงเวลาที่สภาพอากาศและอุณหภูมิเหมาะสมที่สุดในการชมภูเขาไฟฟูจินั่นก็คือช่วงเดือนเมษายนในหน้าร้อน และเดือนพฤศจิกายนในฤดูใบไม้ร่วงนั่นเอง แต่อย่างที่ได้บอกไปว่าภูเขาไฟฟูจิมีความงดงามในทุกฤดูกาล จึงสามารถเลือกไปเยือนกันได้ตามความพอใจและตามความสะดวกของแต่ละคน ชอบสภาพอากาศแบบไหนก็ลองวางแผนกันก่อนไปดู
ช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม (ฤดูหนาว)
อุณหภูมิ : ติดลบจนถึง -10 องศาเซลเซียส
อากาศหนาว หิมะตกมาก ที่ยอดภูเขาไฟฟูจิมีหิมะปกคลุมจนเป็นสีขาว
ไฮไลท์ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นช่วงที่ฟูจิสวยที่สุดในฤดูหนาว
ช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน (ฤดูใบไม้ผลิ)
อุณหภูมิ : ประมาณ 5-25 องศาเซลเซียส
ที่ยอดภูเขาไฟฟูจิยังคงมีหิมะปกคลุมอยู่แต่จะเริ่มน้อยลงจนเกือบหมด อากาศเย็นสบาย
ไฮไลท์ ช่วงเดือนเมษายนซากุระจะบานสวยงาม
ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน (ฤดูร้อน)
อุณหภูมิ : ประมาณ 15-30 องศาเซลเซียส
ท้องฟ้าใสดอกไม้บาน อาจมีฝนตกบางวัน อากาศร้อนชื้น ที่ยอดฟูจิไม่มีหิมะปกคลุม
ไฮไลท์ ดอกลาเวนเดอร์จะบานในช่วงเดือนมิถุนายนและจะมีเทศกาลดอกไม้ไฟสุดอลังการในเดือนสิงหาคม
สำหรับนักปีนเขา
ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมของทุกปี ภูขาไฟฟูจิจะเปิดให้นักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปได้ เส้นทางในการปีนขึ้นภูเขานั้นมีหลายเส้นทาง คาวากูจิโกะเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยนะ ใครชอบปีนเขาก็ลองมาพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิกันได้นะ
ช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม (ฤดูใบไม้ร่วง)
อุณหภูมิ : ประมาณ 5-20 องศาเซลเซียส
ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี อากาศเริ่มหนาวและเริ่มมีหิมะบริเวณยอดภูเขาไฟฟูจิ (ช่วงปลายเดือนตุลาคม)
ไฮไลท์ ใบไม้เปลี่ยนสีเดือนตุลาคม และจะเป็นสีแดงในช่วงพฤศจิกายน ในฤดูกาลนี้การแช่ออนเซ็นชมฟูจิจะได้อารมณ์มาก
วิธีการเดินทางท่องเที่ยวที่สะดวกที่สุดในการชมวิวภูเขาไฟฟูจิ รอบทะเลสาบคาวากูจิโกะก็คือการนั่งรถ Retro Bus สายพิเศษที่วิ่งรอบทะเลสาบแห่งนี้ชั่วโมงละ 2 คันหรือประมาณทุก ๆ 30 นาที จอดทั้งหมด 21 ป้าย
โดย Retro Bus ที่ว่านี้จะมี 2 สายด้วยกันคือ
1. Kawaguchiko Line : วิ่งไปตามริมฝั่งทิศเหนือและตะวันออกของทะเลสาบคาวากูจิโกะ
2. Saiko-Aokigahara : วิ่งตามทางทิศใต้ริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ แล้ววิ่งไปวนรอบทะเลสาบไซโกะ
*ค่าโดยสารขึ้นอยู่กับระยะทาง
*สามารถซื้อ unlimited ride coupon สำหรับ 2 วัน (นั่งรถบัสได้ไม่จำกัดเที่ยวในเวลา 2 วัน) ได้ ผู้ใหญ่ราคา 1,200 เยน เด็ก 600 เยน
อ่านรายละเอียดของ Retro Bus เพิ่มเติมได้ที่ Retro Bus
แต่นอกจากการนั่ง Retro Bus แล้วเรายังสามารถเที่ยวชมรอบทะเลสาบแบบชิล ๆ ได้ด้วยการเช่าจักรยานหรือเช่ารถยนต์นั่นเอง แต่ไม่แนะนำให้เดินเพราะจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุดห่างจากสถานี Kawaguchiko ถึง 6.6 กิโลเมตร ถือเป็นระยะทางที่ไกลมาก ๆ
ป้ายหมายเลข 7
Cr: yamanashi-kankou.jp
เหมาะสำหรับคนที่ชอบสมุนไพร เครื่องหอม เพราะที่ป้ายนี้จะมีบ้านขายสมุนไพรและเครื่องหอม Kawaguchiko Herb Hall ที่สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ด้วย
แถมด้วยพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของเล่นโบราณ Kawaguchiko Kitahara Museum “HAPPY DAYS” ที่น่าเข้าไปชมไม่แพ้กัน (ค่าเข้าผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 6-14 ปี 400 เยน)
ป้ายหมายเลข 10
ป้ายนี้ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดเพราะที่ Yuransen Ropeway Iriguchi จะมี Kachikachiyama Ropeway กระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปสู่จุดชมวิวที่สวยสุดยอดของภูเขาเท็นโจ ซึ่งเปิดทำการตั้งแต่ 9.00-17.10 น.
ค่าตั๋วนั่งกระเช้า
เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ราคา 400 เยน เด็ก 200 เยน
ไปกลับ ผู้ใหญ่ราคา 700 เยน เด็ก 350 เยน
Cr: yamanashi-kankou.jp
และบริเวณฝั่งตรงข้ามของที่ขึ้นกระเช้าก็ยังมี Ensoleille Sailing ท่าเรือสำหรับออกไปล่องเรือชมวิวภูเขาไฟฟูจิในอีกหนึ่งรูปแบบ โดยจะใช้เวลาล่องเรือประมาณ 20 นาที (เรือหมดรอบ 17.30 น.)
ค่าตั๋วนั่งเรือ
เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ราคา 900 เยน
เด็ก 450 เยน
ป้ายหมายเลข 16
ที่นี่จะมี Kawaguchiko Music Forest Museum ซึ่งจัดแสดงกล่องดนตรีสวย ๆ ไว้มากมายทั้งยังมีไฮไลท์เป็นการแสดงเพลงบรรเลงทุก ๆ 30 นาทีที่ห้อง Dance Organ อีกด้วยนะ
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1,300 เยน, เด็ก (6-14 ปี) 800 เยน, เด็กโต (15-21 ปี) 1,100 เยน
ป้ายหมายเลข 18

Landscape of Itchiku Kubota art museum gate nearby Kawaguchiko lake, Japan in the autumn season.
เป็นบริเวณที่ทิวทัศน์สวยที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะใบไม้จะเปลี่ยนสีสวยและที่นี่จะกลายเป็นอุโมงค์เมเปิ้ลสีแดง (เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน) แล้วยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Kubota Itchiku Art Museum ที่จัดแสดงชุดกิโมโนที่ออกแบบไว้อย่างมีศิลปะและน่าเข้าไปชมอีกด้วย
ป้ายหมายเลข 21
Kawaguchiko Shizen Seikatsukan ที่นี่คือป้ายรถป้ายสุดท้ายของทะเลสาบคาวากูจิโกะ บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยมาก ๆ อย่างที่ไม่มีอะไรมาบดบังตัวภูเขา ทั้งยังมีร้านขายของที่ระลึก ร้านของฝาก ร้านกาแฟและร้านขายซอฟต์ครีมน่าชิมอยู่ด้วย
การไปชมภูเขาไฟฟูจิอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ยาก หากนักท่องเที่ยวอย่างเรามีการเตรียมพร้อมที่ดี ที่สำคัญคือเราจะต้องเลือกวิธีการเดินทางที่เหมาะกับตัวเอง จำจุดขึ้นรถบัสหรือจำสถานีรถไฟที่ต้องไปลงหรือเปลี่ยนให้ดีเท่านี้การไปภูเขาไฟฟูจิด้วยตัวเองแบบไม่ต้องง้อทัวร์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก อ้ออย่าลืมเช็คพยากรณ์อากาศก่อนจะเดินทางไปด้วยนะ !

Blogger : HWA ハワ
? บล็อกเกอร์ชื่อประหลาด ติดโยเกิร์ต ตระเวนกินไอศกรีม ชอบดูหนัง รักการเดินทาง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ประเทศที่ไปกี่ครั้งควาามรู้สึกก็แตกต่างกัน จึงอยากซอกแซกไปให้ทั่ว เพราะชอบความสุขและบรรยากาศสนุก ๆ ระหว่างการเดินทาง ??
299 Posts

จากนาริตะไปโตเกียว รวมวิธีเดินทางสุดสะดวก เข้าเมืองชิลๆ
รวมมิตรวิธีการเดินทาง จากนาริตะไปโตเกียว ที่รู้ไว้ก่อนออกเดินทางแล้วรับรองไม่ม...

นั่งชินคันเซ็นคุ้มๆ จากโตเกียวไปโอซาก้า เดินทางง่ายแค่ใช้ JR PASS
เที่ยวให้ทั่วโตเกียวแล้วไปต่อโอซาก้า เพราะเรามีแผนการเดินทางสุดคุ้มจากโตเกียวไ...

พยากรณ์ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสี ประจำปี 2025
อัพเดทพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่น มาให้ดูกันล่วงนี้ เอาไว้จองตั๋วมาเที่ยวญ...

One day trip พาสสุดคุ้ม เที่ยวไซตามะ 1 วัน Check-in “Moominvalley Park” ช็อปฟินๆที่ Outlet
จังหวัดไซตามะ (Saitama) ไซตามะห่างจากโตเกียวเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง ...

เที่ยวญี่ปุ่น 2022 เปิดเงื่อนไข วิธีการขอวีซ่า ไกด์ไลน์เที่ยวจัดเต็ม
เปิดข้อมูลการ เที่ยวญี่ปุ่น 2022 / 2565 เปิดทุกเกณฑ์การท่องเที่ยวแบบจัดเต็ม กา...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515