กันแดดญี่ปุ่น 6 แบรนด์ดัง เลือกยังไงให้ปัง ใช้แล้วไม่ผิดหวัง

21/12/2023 (อัพเดทเมื่อ 15/10/2025)
สำหรับบทความในวันนี้นั้น จะมาแนะนำการเลือกซื้อกันแดดญี่ปุ่น รวม 6 แบรนด์ดัง Anessa, Biore, Shiseido พร้อมวิธีเลือกตามสภาพผิว ราคา และสถานที่ซื้อในญี่ปุ่น

ใครที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นคงหนีไม่พ้นการแวะช้อปกันแดดกลับมาเป็นของฝาก เพราะกันแดดญี่ปุ่นขึ้นชื่อด้านคุณภาพและเนื้อสัมผัสที่สบาย ซึ่งตามที่กล่าวข้างต้นว่าบทความนี้จะช่วยแนะนำให้เลือกซื้อกันแดดที่ผู้อ่านอ่านแล้วรู้สึกว่านี่แหละใช่เลย ก่อนที่มุ่งหน้าสู่ดรักสโตร์หรือร้านที่จำหน่ายกันแดดตามเมืองต่างๆที่ได้ไปเที่ยว ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่จุดเด่น นวัตกรรม วิธีเลือกให้เหมาะกับผิว ไปจนถึงเคล็ดลับการช้อปให้คุ้มค่าที่สุด

กันแดดญี่ปุ่นคืออะไร ทำไมถึงต่างจากกันแดดทั่วไป

ที่มา https://www.kao.co.jp/bioreuv/microuv/

ก่อนอื่นจะขอแนะนำข้อมูลคล่าวๆของกันแดดญี่ปุ่นกันซักหน่อย กันแดดญี่ปุ่นนั้นได้รับความนิยมไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน เพราะการออกแบบผลิตภัณฑ์นั้นออกแบบให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และสภาพอากาศของเอเชีย โดยเฉพาะเรื่องเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนียวหนืด ทาแล้วไม่รู้สึกหนักหน้า เวลาเคลื่อนไหวหรือเหงื่อออกก็ไม่อึดอัด

ค่า SPF และ PA ที่ชัดเจน กันแดดญี่ปุ่นระบุค่า SPF และ PA อย่างเข้มงวด สำหรับใครที่งงว่า SPF และ PA คืออะไร จะอธิบายคล่าวๆให้เข้าใจยิ่งขึ้น

SPF (Sun Protection Factor) คือบอกระดับการป้องกัน UV-B ที่ทำให้ผิวไหม้และอาจจะมีอาการแสบร้อน ส่วน PA (Protection Grade of UVA) คือการบอกความสามารถป้องกัน UV-A ที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ริ้วรอยและเหี่ยวย่น ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย โดยค่า PA มีตั้งแต่ PA+ ถึง PA++++ ซึ่งยิ่งมีเครื่องหมาย + มากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ดีเท่านั้น

ที่มา https://www.kao.co.jp/bioreuv/microuv/

นวัตกรรมสารกรองรังสี UV ที่ทันสมัย สิ่งที่ทำให้กันแดดญี่ปุ่นโดดเด่นคือเรื่องนวัติกรรมที่ล้ำสมัยอย่างเช่น 

Micro Defense ที่สามารถป้องกันผิวได้แบบถึงขั้นสุด 

Sunsmart Filmcoat Technology ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดนวัตกรรมของญี่ปุ่น ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือผู้ที่แพ้ง่าย สามารถใช้กันแดดได้

สูตรกันน้ำกันเหงื่อ กันแดดญี่ปุ่นส่วนใหญ่มาพร้อมสูตรกันน้ำและกันเหงื่อ เหมาะกับอากาศร้อนชื้นหรือเวลาออกกำลังกาย ซึ่งบางครั้งการที่ผิวที่ทากันแดดได้เสียดสีกับเสื้อผ้าหรือกระเป๋า ก็ไม่ทำให้กันแดดนั้นๆลอกออกหรือตก

วิธีเลือกกันแดดญี่ปุ่นให้เหมาะกับผิวและไลฟ์สไตล์

การเลือกกันแดดต้องพิจารณาทั้งสภาพผิวและการใช้งาน ไม่ใช่แค่มองค่า SPF  เพราะถ้าเลือกไม่เหมาะกับผิวอาจทำให้ใช้แล้วไม่สบายใจหรือเกิดปัญหาผิวตามมาได้ด้วยเช่นกัน

ผิวแห้ง

ผิวแห้งนั้นอาจจะต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ดังนั้นแนะนำให้เลือกกันแดดสูตรที่มี Hyaluronic Acid ซึ่งมีจุดเด่นคือสามารถอุ้มน้ำได้ดี ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ตัวอย่างเช่น .SHISEIDO ANESSA Essence UV Aqua Booster SPF50+ PA++++ ที่สามารถเก็บความชื้นได้ค่อนข้างดี ทาแล้วผิวไม่แห้งตึง

ผิวมัน

คนผิวมันควรเลือกกันแดดเนื้อเจลหรือเอสเซนส์ที่บางเบา ซึมไว ไม่เพิ่มความมัน เป็นสูตร Oil-free หรือ Non-comedogenic ไม่อุดตันรูขุมขน หรือพิจารณาเลือกกันแดดที่มีส่วนผสมของสารที่สามารถควบคุมความมันได้เช่น สาร Silica, VP/Hexadecene Copolymer, Octocrylene เป็น สำหรับกันแดดที่แนะนำเช่น Biore UV Aqua Rich Watery Essence ที่ซึมเร็ว ไม่เหนียว และมีสูตรควบคุมความมันด้วย

ผิวแพ้ง่าย

สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่ายนั้น จะต้องหากันแดดสูตรที่มีส่วนผสมอ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และควรเป็น Physical Sunscreen ที่ใช้ Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide เพราะอ่อนโยนต่อผิว เช่น Muji UV Protection Milk Sensitive Skin ที่เน้นความมินิมอล แต่ต้องระวังว่ากันแดดสำหรับผิวแพ้ง่ายนั้น มักมีค่า SPF ต่ำกว่า (SPF 30 PA++) เหมาะกับใช้ในร่มหรือชีวิตปกติ หากต้องเผชิญแสงแดดจัดควรเลือกรุ่นที่มีค่า SPF/PA สูงกว่า และควรทดสอบบริเวณข้อพับแขนก่อนใช้จริงเสมอ

ที่มา https://www.shiseido.co.jp/anessa/products/suncare/dayserum/

ใช้ทุกวัน (Everyday use)

สำหรับใช้ประจำวันควรเป็นกันแดดที่มีเนื้อบางเบา ถ้ามีความคล้ายกับแป้งยิ่งดี ทำให้ไม่เหนอะผิว และทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น 

กีฬา/Outdoor

กิจกรรมกลางแจ้ง เล่นกีฬา เที่ยวทะเล ต้องการกันแดดทนทาน และที่ขาดไม่ได้คือต้อง กันน้ำ กันเหงือ ติดแน่น ควรเลือกสูตร Water-resistant หรือ Very Water-resistant เช่น Anessa Perfect UV Skincare Milk หรือ Allie Extra UV Gel ที่มีเทคโนโลยีกันน้ำกันเหงื่อระดับสูง

กันแดดญี่ปุ่นแบรนด์ดังที่ควรรู้จัก

Anessa

ที่มา https://www.shiseido.co.jp/anessa/?srsltid=AfmBOorh8JAp5Mrm5G_b2sV4-9Z8IksLYzurzBTfGbFf5Cjg0dKx79jf

จุดเด่น: ราชากันแดดญี่ปุ่นที่โด่งดังระดับโลก ความทนทานสูง มีเทคโนโลยีป้องกันรังสี UV ซึ่งจะช่วยให้กันน้ำกันเหงื่อดีเยี่ยมและมีเทคโนโลยี Aqua Booster ที่ยิ่งเจอน้ำหรือเหงื่อกลับยิ่งเกาะผิวแน่นขึ้น 

รุ่นแนะนำ: Anessa Perfect UV Skincare Milk SPF 50+ PA++++ เหมาะกับทะเล ปีนเขา หรือกิจกรรม Outdoor ทุกประเภท มีสูตรสำหรับผิวแห้งและผิวบอบบางให้เลือก หรือจะใช้แบบ Indoor ก็ได้ด้วยเช่นกัน สามารถใช้เป็นไพรเมอร์ได้อีกด้วย

Biore

ที่มา https://www.kao.co.jp/bioreuv/

จุดเด่น: เนื้อสัมผัสบางเบามาก ซึมไว ใช้สบาย ราคาย่อมเยาว์ เหมาะกับการใช้ประจำวัน และมีการใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า Micro Defense ซึ่งมีข้อดีคือมีแคปซูลขนาดเล็กที่ช่วยปกป้องผิว ทำให้สามารถกันรังสี UV ได้ดีมากขึ้นไปอีก

รุ่นแนะนำ: Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF 50+ PA++++ เนื้อเจลใสซึมเร็ว ไม่เหนียว ไม่มัน มี Hyaluronic Acid เพิ่มความชุ่มชื้น ราคาไม่แพง ซื้อกลับมาฝากคนที่บ้านได้ไม่ผิดหวัง

Shiseido

https://brand.shiseido.co.jp/shiseidosuncare.html

จุดเด่น: แบรนด์พรีเมียมที่ผสมผสานเทคโนโลยีสกินแคร์เข้ากับการปกป้องผิว ไม่ได้แค่ป้องกันแสงแดดแต่ยังบำรุงผิวไปพร้อมกัน สามารถใช้ได้ทั้งทาหน้าและตัว

รุ่นแนะนำ: Shiseido The Perfect Protector SPF 50+ PA++++ มีเทคโนโลยี SynchroShield เสริมประสิทธิภาพ สามารถกันน้ำ กันเหงื่อได้  เหมาะกับทุกสภาพผิว

Allie

ที่มา https://www.kanebo-cosmetics.jp/allie/

จุดเด่น: โดดเด่นสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ทนแดด ทนน้ำ ทนเหงื่อ เนื้อเจลบางเบาแต่ปกป้องแข็งแกร่ง มีสูตรที่เรียกว่า  Beach Friendly ซึ่งข้อดีของสูตรนี้ก็คือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

รุ่นแนะนำ: Allie Extra UV Gel SPF 50+ PA++++ กันน้ำได้นาน มี Hyaluronic Acid และ Collagen บำรุงผิว เมื่อทาผิวแล้วซึมไว ไม่ระคายเคือง แม้เป็นสูตรกันน้ำแต่ล้างออกได้ง่ายด้วยคลีนเซอร์ปกติ

Canmake

ที่มา https://www.canmake.com/en/item/detail/67

จุดเด่น: ราคาไม่แพงแต่คุณภาพดี ใช้เป็นทั้งกันแดดและเมคอัพเบสในตัวเดียว ลดขั้นตอนการแต่งหน้า

รุ่นแนะนำ: Canmake Mermaid Skin Gel UV SPF 50+ PA++++ เนื้อเจลซึมไว เจลสามารถแตกตัวเป็นน้ำได้ทำให้เบาผิวเวลาทา ผิวเนียนเรียบ เป็นฐานที่ดีสำหรับแต่งหน้า มี Hyaluronic Acid 9 ชนิด

Muji

ที่มา https://www.muji.com/jp/ja/special-feature/campaign/uvcare/

จุดเด่น: เน้นความเรียบง่าย สูตร Free-from ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ Paraben และสีสังเคราะห์ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย

รุ่นแนะนำ: Muji UV Protection Milk Sensitive Skin SPF 30 PA++ สำหรับผิวบอบบาง ราคาประหยัด ซื้อได้ง่ายตามร้าน Muji ทั่วญี่ปุ่น เหมาะกับใช้ในชีวิตประจำวันหรือในร่ม หากต้องออกแดดจัดควรเลือกรุ่นที่มีค่า SPF/PA สูงกว่า

Top 3 กันแดดขายดีที่ต้องลอง

ที่มา https://www.kao.co.jp/bioreuv

ถ้าเพื่อนๆยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อกันแดดญี่ปุ่นยี่ห้อไหน เมื่อเดินเข้าดรักสโตร์ นี่คือ 3 อันดับที่ขายดีที่สุดและได้รับรีวิวดีเยี่ยมจากนักท่องเที่ยว:

Canmake Mermaid Skin Gel UV – ดีทั้งกันแดดและไพร์เมอร์ คุ้มค่า

Biore UV Aqua Rich Watery Essence – ราคาถูก ใช้ดี เหมาะกับทุกวัน

Anessa Perfect UV Skincare Milk – ทนทานสุด เหมาะกับทะเลและกีฬา

กันแดดทาตัว: ตัวเลือกคุ้มค่าสำหรับผิวกาย

ที่มา https://www.amazon.com/NIVEA-Protect-Super-Water-Pump/dp/B08YPCN6RL

นอกจากกันแดดสำหรับใบหน้าแล้ว ยังมีกันแดดทาตัว (Body Sunscreen) ที่ขนาดใหญ่และราคาคุ้มค่ากว่า เหมาะสำหรับใช้ทั่วร่างกาย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมาในรูปแบบขวดปั๊มซึ่งก็จะมีปริมาณมากกว่าแบบหลอด:

  • Biore UV Aqua Rich Watery Gel (ขวดปั๊ม 155ml) – เนื้อเจลบางเบาคล้าย Watery Essence แต่มาในรูปแบบขวดปั๊มขนาดใหญ่ ทาง่าย ซึมไว คุ้มค่าสำหรับทาตัว
  • Nivea Sun Protect Water Gel (ขวดปั๊ม 140g) – ราคาถูก ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว และสามารถล้างออกได้ด้วยสบู่
  • Anessa Perfect UV Skincare Gel (ขวดใหญ่ 90g) – ถ้าชอบ Anessa แต่อยากประหยัดกว่า

กันแดดทาตัวมักมีราคาถูกกว่าและขนาดใหญ่กว่า ทำให้ใช้ได้คุ้มค่าสำหรับทาทั้งตัว

เคล็ดลับการใช้กันแดดญี่ปุ่นให้ได้ผล

ที่มา https://www.shiseido.co.jp/anessa/?srsltid=AfmBOoqISpS_6dvGB2Oh2y3McZWgR6k4G2moBJuf5PMJsUiq3QSYs3Dy

ทาให้เพียงพอ ปริมาณที่แนะนำสำหรับใบหน้าคือประมาณ 2 ข้อนิ้ว หรือครึ่งเหรียญ 500 เยน อาจฟังดูเยอะแต่นี่คือปริมาณที่จะให้ค่า SPF ตามที่ระบุ

ทาก่อนออกแดด 15-20 นาที กันแดดต้องการเวลาซึมซับและทำงานบนผิว โดยเฉพาะกันแดดเคมีที่ต้องใช้เวลาเริ่มทำงาน

ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง แม้จะเป็น SPF สูง แต่ประสิทธิภาพลดลงตามเวลา โดยเฉพาะเมื่อเหงื่อออก เช็ดหน้า หรือสัมผัสใบหน้า ถ้าว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมากควรทาซ้ำบ่อยขึ้น

อย่าลืมบริเวณที่มักพลาด เช่น ใบหู คอ ต้นคอด้านหลัง หลังมือ และส่วนของร่างกายอื่นๆที่อยู่นอกร่มผ้า  ซึ่งเป็นบริเวณที่ถูกแดดง่ายแต่คนมักลืม

ข้อควรระวัง: การล้างทำความสะอาด

ที่มา https://www.shiseido.co.jp/anessa/shigaisen/skin_beautifying_care/

กันแดดญี่ปุ่นโดยเฉพาะสูตรกันน้ำติดทนมาก ซึ่งเป็นข้อดีในการใช้งาน แต่กลับเป็นข้อควรระวังในการล้างออก เพราะถ้าล้างไม่สะอาดอาจเกิดปัญหาผิว

ใช้วิธี Double Cleansing กันแดดสูตร Water-resistant ต้องล้างด้วยคลีนซิ่งออยล์หรือบาล์มก่อน จากนั้นจึงล้างด้วยโฟมล้างหน้าอีกครั้ง ซึ่งการล้างด้วยน้ำและสบู่อย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ ทำให้รูขุมขนอุดตัน เกิดสิว หรือผิวหมองคล้ำได้

ทดสอบก่อนใช้จริง คนผิวแพ้ง่ายควรทดสอบทาบริเวณข้อพับแขนหรือหลังหูก่อน ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง ถ้าไม่แดง คัน หรือระคายเคือง จึงค่อยทากันแดด

อ่านวิธีใช้และส่วนผสม บางรุ่นล้างออกง่ายด้วยเจลล้างหน้าทั่วไป ไม่จำเป็นต้อง Double Cleansing ควรอ่านคำแนะนำบนฉลากให้แน่ใจ

คู่มือช้อปปิ้ง: ราคาและร้านค้าแนะนำที่สามารถซื้อกันแดดญี่ปุ่นได้

ช่วงราคา (อัปเดตตุลาคม 2025)

  • แบรนด์ประหยัด (Biore, Canmake): 600-900 เยน (ประมาณ 130-200 บาท)
  • แบรนด์กลาง (Allie, Muji): 1,000-1,500 เยน (ประมาณ 220-330 บาท)
  • แบรนด์พรีเมียม (Anessa, Shiseido): 2,000-3,500 เยน (ประมาณ 440-770 บาท)

หมายเหตุ: ราคาอาจแตกต่างตามร้านและโปรโมชั่น อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 1 เยน = 0.22 บาท ณ วันที่เขียนบทความ

ซื้อที่ญี่ปุ่น

Matsumoto Kiyoshi (มัตซูโมโตะ คิโยชิ) ซึ่งมีทั่วไปตามเมืองใหญ่ๆ หรือตามห้างที่เมืองเล็กๆ 

Sundrug, Welcia ซึ่งก็มีทั่วประเทศด้วยเช่นกัน มีสินค้าเยอะและมักมีโปรโมชั่นลดราคา 

Don Quijote (โดนกิ) ร้านขวัญใจนักท่องเที่ยวที่มีหลายสาขาในหลายๆเมือง มีราคาถูก เปิดดึก 

Loft และ Tokyu Hands ที่ย่านช้อปปิ้งใหญ่ ๆ สินค้าครบครัน บรรยากาศช้อปสบาย ร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven, Lawson) มีแบรนด์ยอดนิยมแต่ราคาอาจแพงกว่าและเลือกน้อยกว่า

ที่มา https://mitsui-shopping-park.com/mop/kobe/english/

เคล็ดลับ Tax-Free: นักท่องเที่ยวสามารถขอคืนภาษีได้ที่ดรักสโตร์และห้างที่มีป้าย Tax-Free เมื่อซื้อครบ 5,000 เยนขึ้นไป (ประมาณ 1,100 บาท) นำพาสปอร์ตไปแสดงที่เคาน์เตอร์ จะได้ส่วนลด 10% ทำให้ซื้อคุ้มกว่ามาก

ซื้อในไทย

หากันแดดญี่ปุ่นได้ตามห้างสรรพสินค้า เคาน์เตอร์ Shiseido หรือร้านค้าออนไลน์ที่นำเข้าของแท้ เช่น Shopee, Lazada มองหาร้านที่มีรีวิวดี ยอดขายสูง และระบุชัดเจนว่าเป็นของแท้ แต่ราคาในไทยมักแพงกว่าซื้อในญี่ปุ่นประมาณ 30-50% เนื่องจากต้นทุนนำเข้าและภาษี แต่แนะนำให้ซื้อในช่วงวันที่ 9 เดือน 9 หรือ 10 เดือน 10 เพราะจะมีลดราคา

เคล็ดลับในการซื้อ เปรียบเทียบราคาระหว่างร้านก่อนตัดสินใจ หาคูปองส่วนลดที่มักแจกตามดรักสโตร์ ดาวน์โหลดแอปของร้านเพื่อรับคูปองและสะสมแต้ม ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อ โดยเฉพาะถ้าจะซื้อไว้ใช้นาน ๆ

****ข้อควรระวังการนำเข้า หากซื้อกันแดดกลับมาเพื่อใช้ส่วนตัวในปริมาณพอเหมาะ (5-10 ขวด) ไม่มีปัญหา แต่หากซื้อในปริมาณมากเพื่อจำหน่าย ควรตรวจสอบกฎระเบียบการนำเข้าเครื่องสำอางของกรมศุลกากรก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาภาษีหรือการยึดสินค้า

สรุป

ที่มา https://www.kao.co.jp/bioreuv/

เลือกกันแดดญี่ปุ่นนั้นไม่ยากถ้ารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร นี่คือคำแนะนำสรุป:

ตารางเลือกกันแดดตามสถานการณ์

สถานการณ์การใช้งานแบรนด์แนะนำเหตุผล
ใช้ประจำวันBiore, Canmakeบางเบา ราคาถูก ใช้เป็นไพร์เมอร์ได้
ทะเล/กีฬา OutdoorAnessa, Allieกันน้ำกันเหงื่อแข็งแกร่ง ทนทานสุด เป็นมิตรกับธรรมชาติ
ผิวแพ้ง่ายMujiFree-from อ่อนโยน ปลอดภัย
ต้องการพรีเมียมShiseidoเทคโนโลยีสกินแคร์ชั้นนำ ปกป้อง + บำรุงผิว

สิ่งสำคัญคือต้องทาให้เพียงพอ ทาซ้ำสม่ำเสมอ และล้างออกให้สะอาด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและไม่เกิดปัญหาผิว กันแดดญี่ปุ่นคุ้มค่ากับการซื้อกลับมาใช้จริง ๆ เพราะนอกจากปกป้องผิวได้ดีแล้ว ยังใช้สะดวกสบายและเหมาะกับสภาพอากาศแบบเอเชีย ผิวสวยใสเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการเลือกใช้กันแดดที่เหมาะสม

ครั้งหน้าที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเดินเล่นที่ย่านชิบูย่า ช้อปที่ชินไซบาชิในโอซาก้า หรือเดินเล่นที่อาซากุสะ หรือไม่ว่าจะไปเมืองไหนๆ ก็สามารถซื้อกันแดดที่ตามร้านค้าต่างๆมาลองกันได้เลย

Kitslaughter666

Blogger : Kitslaughter666

ผมชื่อ กิด เป็นคนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชอบทานราเมง กับ ปลาปักเป้า เป็นชีวิตจิตใจ รักการถ่ายเซลฟี่กับกวางที่เกาะมิยาจิม่า ชอบภูมิภาคชูโกกุ ชอบเที่ยวสถานที่Unseenของญี่ปุ่น

109 Posts

โหวต

| Polls
โหวต | Polls
  • เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น คุณมี “เมนูในดวงใจ” ที่ตั้งใจจะไปกินให้ได้ไหม?

    View Results

    Loading ... Loading ...

สถานที่เที่ยว

| Feature
CCJ Hotel Search

กรณีฉุกเฉิน

| Emergency
  • Police

    110

  • Ambulance

    119

  • AMDA International Medical Information Center

    03-6233-9266

  • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว

    090-4435-7812

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า

    090-1895-0987

  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ

    090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515

จองทริปของคุณ

| Book your trip
With:
City:

Check-in:

Night :

x