เปิดประสบการณ์ เที่ยว คิวชู เหนือ สัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม

จะไปเที่ยวคิวชูเหนือหรอ? ไปทำอะไรนะ!? คิดไม่ออกเลยใช่ไหมล่ะ!! งั้นเราลองไปดูกันดีกว่าว่า “ที่เที่ยว” และ “ของดี” คิวชูเหนือ มีอะไรบ้าง

เมืองฮากาตะ (Hakata)

Nakasu street

ถนนคนเดินเก่าแก่แห่งเมืองฮากาตะที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร street food ท้องถิ่นสไตล์ Kyushu ที่เรียกว่า “ยาไต (Yatai)” ถ้าอยากสัมผัสวิถีชีวิตแบบคนพื้นที่ต้องมาลองให้ได้เลย ที่สำคัญมีของกินเพียบทั้งของกินเล่นไปจนถึงอาหารจานหลัก และที่ขาดไม่ได้สำหรับบรรยากาศแบบนี้ก็คือเบียร์ซักแก้วกับเพื่อนรู้ใจนั่นเองล่ะ

สำหรับใครที่ชอบการเที่ยว Street Food ไม่ควรพลาดกับการสัมผัสประสบการณ์กินอาหารแบบ Local ที่ฮากาตะแบบนี้ มันต้องฟินสุดๆ ไปเลย

Nakasu street

ที่อยู่	Hakata, Fukuoka 810-0801
วิธีเดินทาง	จากสถานี JR Hakata station นั่งรถไฟ Fukuoka city subway ไปลงยังสถานี Nakasukawabata Station แล้วเดินต่อ 5 นาที

Nanzo-in

วัดนันโซอินเป็นวัดเก่าแก่ที่มีไฮไลท์อยู่ที่พระนอนขนาดยักษ์ ที่ไม่ว่าแขกไปใครมาต้องได้มาถ่ายรูปเช็คอินที่นี่เสมอ เพราะถือได้ว่าพระนอนของที่นี่นั้นเป็นพระพุทธรูปที่ทำจากสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ด้วยความยาวกว่า 41 เมตร สูง 11 เมตร และน้ำหนักกว่า 300 ตันเลยทีเดียว นอกจากนี้บริเวณรอบๆ วัดเองก็มีทางเดินที่อุมดมณ์ด้วยธรรมชาติสวยงามให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ กันด้วย

Nanzo-in

ที่อยู่	1035 Sasaguri, Kasuya District, Fukuoka 811-2405
วิธีเดินทาง	เดินจากสถานี JR Kidonanzoin-Mae Station ไปประมาณ 3 นาที
เวลาทำการ	09.00 น. – 17.00 น.
Website	Nanzo-in

เบปปุ (Beppu)

Jigoku Onsen

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดของเมืองเบปปุ เมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อนออนเซ็นระดับโลก ซึ่งถึงแม้จะได้ชื่อว่าออนเซ็นแต่ที่นี่นั้นไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวลงไปแช่น้ำเหมือนที่อื่นนะ เพราะที่นี่เป็นออนเซ็นธรรมชาติความร้อนสูงหลากหลายบ่อ ที่เปิดให้เดินชมเท่านั้น

โดยมีคอนเซปแบ่งแต่ละบ่อเป็นนรกแต่ละภูมิ มีทั้งหมด 7 บ่อด้วยกัน หากตั้งใจมาเก็บให้ครบทุกบ่อแนะนำว่าต้องมีเวลาพอสมควรเลยล่ะค่ะ เพราะบางบ่อต้องใช้เวลาเดินทาง สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาแนะนำบ่อหลักคือ Umi Jigoku ซึ่งมีสีฟ้าสวยงามมากรับรองว่าเห็นแล้วอดถ่ายรูปด้วยไม่ได้แน่ๆ

Jigoku Onsen

ที่อยู่	559-1 Kannawa, Beppu, Oita 874-0045 ญี่ปุ่น
วิธีเดินทาง	นั่งรถบัสจากสถานี Beppu Station มาลงป้าย Umijigoku หรือป้าย Kannawa แล้วเดินต่อ 1 นาที
เวลาทำการ	08.00 น. – 17.00 น.
Website	Jigoku Onsen

ยูฟูอิน (Yufuin)

Yunotsubo-kaido

จากสถานีรถไฟเดินตรงมาไม่นานก็จะพบกับถนนช้อปปิ้งยูโนะสึโบะแห่งนี้ เป็นถนนที่สาวๆ น่าจะหลงรัก เพราะของกิน ของใช้ ของกระจุกกระจิก เรียงรายสลับกับบ้านเรือนได้อย่างลงตัวมากๆ บวกกับบรรยากาศง่ายๆ สบายๆ คนไม่เยอะกำลังเดินสบาย บอกเลยว่าเดินเพลินอย่างแรง

Yunotsubo-kaido

ที่อยู่	Yufuincho Kawakami yunotsubo, Yufu, Oita, 879-5102
วิธีเดินทาง	เดินจากสถานี JR Yufuin Station 7 นาที
เวลาทำการ	10.00 น. – 17.30 น.

Yufuin floral village

หมู่บ้านยูฟุอินฟลอร์รัลถือว่าเป็นจุดน่าแวะที่มาแล้วรับรองรูปเพียบ เพราะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ สไตล์ยุโรปพร้อมการตกแต่งได้อย่างน่ารักให้ความรู้สึกเหมือนหลุดมาจากการ์ตูนของ Ghibli Studio ยังไงยังงั้น แถมยังมีสัตว์น่ารักๆ อย่างน้องแกะ, กระต่าย ให้ทุกคนเดินเล่นและถ่ายรูปกับร้านขายของเก๋ๆ อีกเพียบใ ช้อปปิ้งกันเพลินๆ ก็ได้ด้วยล่ะ

Yufuin floral village

ที่อยู่	1503-3 Yufuincho Kawakami, Yufu, Oita 879-5102
วิธีเดินทาง	เดินจากสถานี JR Yufuin Station 15 นาที
เวลาทำการ	09.30 น. – 17.30 น.
Website	Yufuin floral village

Kinrin Lake

เมื่อเดินออกจากตัว Floral village ก็จะเจอทะเลสาบคินริน นับเป็นทะเลสาบเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหาของเมืองยูฟูอิน เรียกได้ว่ามาฤดูไหนก็สวยไม่ซ้ำกันซักแบบ โดยเฉพาะในหน้าหนาวและใบไม้ผลิที่ช่วงเช้าๆ เราจะได้เห็นไอน้ำฟุ้งๆ ลอยขึ้นเหนือน้ำ

Kinrin Lake

ที่อยู่	1561-1 Yufuincho Kawakami, Yufu, Oita, 879-5102
วิธีเดินทาง	เดินจากสถานี JR Yufuin Station 20 นาที

คุมาโมโตะ (Kumamoto)

Kumamoto Castle

ปราสาทคุมาโมโตะที่มีความยิ่งใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น โดยตัวปราสาทจะออกโทนสีขรึมเน้นโทนขาวเทาดำ มีการตกแต่งอย่างปราณีตรอบปราสาท บวกกับการมีสวนรอบๆ ที่ช่วงฤดูใบไม้ผลินี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมในการชมซากุระของเมืองเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเสียดายจากเหตุการ์ณแผ่นดินไหวในปี 2016 ส่งผลให้ตัวปราสาทได้รับความเสียหายหลายส่วน โดยปัจจุบันทางการได้ดำเนินการซ่อมแซมอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยจะทำให้สามารถเข้าชมความยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้ได้ใกล้มากขึ้น

Kumamoto Castle

ที่อยู่	1-1 Honmaru, Chuo Ward, Kumamoto, 860-0002
วิธีเดินทาง	นั่งรถราง 17 นาทีจากสถานี JR Kumamoto Station/นั่งรถบัส 10 นาทีจากสถานี JR Kumamoto Station
Website	Kumamoto Castle

มาลองเมนูดัง ของขึ้นชื่อประจำ Kyushu กันดีกว่า

Ichiran Ramen

ร้านราเมนดัง เจ้าต้นตำรับประจำเมืองฟุกุโอกะ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อราเมนข้อสอบนั้นเอง โดยเราสามารถเลือกรสชาติได้ตามต้องการทั้งระดับความเผ็ดซุป ความเหนียวของเส้น เพียงแค่เขียนลงในกระดาษคำตอบ สำหรับใครที่เป็นแฟนร้านนี้ในไทยอยู่แล้ว บอกเลยถ้ามาฟุกุโอกะห้ามพลาดเด็ดขาดเลย

เอกลักษณ์ของราเมนข้อสอบ เรียกได้ว่า ทั้งอร่อย และมีสไตล์อย่างมาก อีกทั้งยังมีหลากหลายสาขาให้เลือกทานเลยล่ะ

Basashi

ซาชิมิเนื้อม้า เมนูนี้เป็นเมนูขึ้นชื่อของจังหวัดคุมาโมโตะ ถือว่าเป็นโอกาสดีถ้าทุกคนยังไม่เคยลอง เพราะหากินไม่ได้ในบ้านเรา เมื่อมาถึงถิ่นก็ต้องจัดซะหน่อยขอบอกว่าไม่ได้แย่อย่างที่หลายคนคิดกัน ทั้งเนื้อสัมผัสออกจะลื่นๆ สักหน่อย แต่ก็ถือว่าไม่ได้แย่ ถือเป็น Signature ที่ควรลองทานสักครั้งในชีวิต

Motsunabe

หม้อไฟเครื่องในวัว ของดังประจำเมือง Hakata มีความโดดเด่นที่รสชาติของน้ำซุปที่เข้มข้นได้รสเนื้อ ต้มเดือดพร้อมกับผัก ยิ่งถ้าได้ทานช่วงอากาศหนาวๆ นาเบะหม้อนี้จะให้พลังงานและความอบอุ่นได้ดี รับรองฟินเลยล่ะ

ที่พักสุดหรูใจกลางเมือง

THE BLOSSOM HAKATA Premier

โรงแรมชั้นนำที่ใกล้กับทุกแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของฮากาตะ ถ้าหากเดินทางมาจากสนามบิน Fukuoka และกำลังมองหาที่พักอยู่ล่ะก็ เราขอแนะนำที่นี่เลย

โรงแรมเรียบหรูทำเลดีตั้งอยู่ใจกลางเมือง Hakata เดินทางสะดวกมากๆ เดินแค่ 7 นาทีก็ถึงสถานีรถไฟ แถมจากโรงแรมไปสนามบินก็ไม่ไกล ในส่วนของที่เที่ยวแถวๆ นี้ก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Canal city center สำหรับนักช้อป หรือวัด Tocho-ji temple สำหรับสายบุญ ที่สำคัญโรงแรมนี้มีออนเซ็นแยกชายหญิงให้บริการสำหรับนักเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยจากการท่องเที่ยวมาทั้งวัน เรียกได้ว่าครบสุดๆ

THE BLOSSOM HAKATA Premier

ที่อยู่	2-8-12 Hakata Ekimae, Hakata Ward, Fukuoka, 812-0011
วิธีเดินทาง	เดินจากสถานี Hakata ไป 7 นาทืี
Website	THE BLOSSOM HAKATA Premier

วิธีเดินทางสุดคุ้มทั่ว Kyushu ด้วย JR Northern Kyushu Rail Pass แบบ 5 วัน

พาสนี้เป็นพาสสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะสามารถโดยสารรถไฟไปในแถบตอนเหนือของเกาะคิวชูแบบไม่จำกัดเที่ยวในระยะเวลา 5 วัน และครอบคลุมพื้นที่เดินทางในจังหวัดใหญ่ๆ หลายเมืองเช่น เมืองฟุกุโอะกะ (Fukuoka), นางาซากิ (Nagasaki), ซากะ (Saga), คุมาโมโตะ (Kumamoto) และ โออิตะ(Oita)/เบปปุ (Beppu) แถมมาในราคาที่คุ้มค่าสุดๆ ผู้ใหญ่ราคา 10,190 เยน และเด็กอายุ 6-11 ปี ราคา 5,090 เยน เรียกได้ว่าถ้ามีแพลนว่าจะเที่ยวในแถบเหนือของคิวชูพาสยาวๆ 5 วันเต็ม พาสตัวนี้รับรองว่าจะทำให้ทั้งสะดวกและเซฟเงินในกระเป๋าได้เยอะเชียวล่ะ

ตัวอย่างสายรถไฟที่ครอบคลุมการใช้งาน

Limited Express Yufuin no Mori

รถไฟสไตล์รีสอร์ทให้ความสะดวกสบายแบบครบครัน พร้อมการออกแบบตกแต่งด้วยไม้ที่ให้ความคลาสสิคบวกกับความทันสมัยได้ลงตัวสุดๆ โดยเราสามารถเดินชมภายในรถไฟได้ รับรองว่าจะต้องประทับใจกับความสวยและน่ารักของรถไฟขบวนนี้แน่นนอน

นอกจากนี้ภายในยังมีคาเฟ่ขายอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วยเพราะฉะนั้นหมดห่วงเรื่องท้องหิวระหว่างทางได้เลย ที่สำคัญอยากฝากไว้คือต้องมีการสำรองที่นั่งก่อนเท่านั้นนะ ด้วยความนิยมที่สูงจึงทำให้ที่นั่งถูกจองเต็มเร็วมาก ดังนั้นถ้าวางแผนจะขึ้นขบวนนี้ควรรีบจองแต่เนิ่นๆ

เส้นทางการเดินทาง : ฮากาตะ – ยูฟูอิน/เบปปุ

Limited Express Aso Boy

ขบวนรถไฟสุดคิ้วท์โทนขาวๆที่มีกิมมิคอยู่ที่เจ้ามาสคอตสุดน่ารักนามว่า “Kurochan” ถ้าอยากมานี่ต้องจองเท่านั้น ขบวนนี้นับว่าเหมาะสำหรับคนที่มาเป็นครอบครัวอย่างที่สุด เพราะมีที่นั่งสะดวกสบายที่รองรับกับการเดินทางของครอบครัว

ที่นั่งปรับเอนได้เยอะพร้อมสามารถเห็นวิวได้เต็มๆ ตาแบบไม่มีอะไรมาบังให้ระคายใจ อีกทั้งมีคาเฟ่เล็กที่พรั่งพร้อมด้วยชา กาแฟ ขนมขบเคี้ยว และมีห้องสำหรับเด็กอีกด้วยนะ

เส้นทางการเดินทาง : อะโซ-เบปปุ

Kyushu Shinkansen 800 Series

รถไฟชินคันเซ็นหัวกระสุนความเร็วสูงที่ตอบโจทย์คนที่ชอบการเดินทางความรวดเร็ว มาพร้อมลุคเรียบหรูและความทันสมัยที่ใส่มาแบบเต็มพิกัด ต้องบอกว่าขบวนนี้เป็นตัวแทนของภาพชินคันเซ็นที่เราๆ ต่างนึกถึงในสมัยเด็กได้เลย

เห็นแบบนี้แล้วถ้ามีโอกาสอย่าลืมมาลองนั่งกันซักครั้ง

เส้นทางการเดินทาง : ฮากาตะ – คุมาโมโตะ

จะหาซื้อตั๋ว JR Northern Kyushu Rail Pass ได้ยังไงดีนะ?

การจองผ่านทางช่องทางออนไลน์นั้นถือได้ว่าเป็นช่องทางที่ทำการจองได้ทั้งง่ายและสะดวกมากที่สุดอย่างหนึ่งแล้วล่ะคะ โดยวิธีการจองนั้นก็ง่ายๆเพียงแค่เข้าไปที่ เว็บไซต์ แล้วทำตามขั้นตอนดังนี้

การยืนยันที่อยู่ของอีเมล (Email Address Confirmation) : เพื่อคอนเฟิร์มทางอีเมลที่ให้มาว่าถูกต้องและมีการยืนยันอีกชั้นหนึ่งแล้วจึงกดตามลิงค์เพื่อดำเนินการจองต่อ

ใส่ข้อมูลในการสั่งซื้อ (Purchase Information Entry): กรอกวันที่เริ่มต้นใช้งาน เลือกประเภทของ พาส และจำนวนคนที่ซื้อ

ใส่รายละเอียดข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า (Customer Information Entry): กรอกรายละเอียดชื่อ-นามสกุลที่ตรงกับในพาสปอร์ต วันเดือนปีเกิด ประเทศ และหมายเลขหนังสือเดินทาง

ใส่ข้อมูลบัตรเครดิต (Credit Card Information Entry) : กรอกหมายเลขบัตรเครดิต

การยืนยันรายละเอียดการจอง (Confirm Reservation Details): เช็ครายละเอียดการจองให้ถูกต้อง

การจองสำเร็จ (Reserved) : การจองสำเร็จเสร็จสิ้นได้รับเป็น E-ticket ทางเมลที่ลงทะเบียนไว้ เพื่อนำไปใช้แลกพาสตัวจริง

เมื่อทำการจองออนไลน์เรียบร้อยแล้วสามารถไปรับพาสตัวจริงได้ด้วยตัวเองที่ห้องขายตั๋วที่สถานีรถไฟที่กำหนดไว้ พร้อมเอา E-ticket หนังสือเดินทาง และบัตรเครดิตไปด้วยนะ โดยสามารถไปรับได้ที่สถานีทั้ง 9 แห่งดังนี้

Hakata Station

Kokura Station

Mojiko Station

Saga Station

Nagasaki Station

Sasebo Station

Beppu Station

Oita Station

Kumamoto Station

จองได้ที่นี่เลย RAIL PASS Online Booking

RAIL PASS Online Booking

สรุป

เนี่ยพาสนี้คุ้มสุดๆ ไปเลยว่าไหม เรียกได้ว่าอิ่มหนำทั้งออนเซ็น ธรรมชาติ หมู่บ้านเก่า กล้องเมมเต็มแล้วเต็มอีก ถ่ายรูปจุใจสุดๆ เที่ยว คิวชู เหนือ รอบหน้าอย่าลืมใช้ 5-Day JR Northern Kyushu Rail Pass เที่ยวญี่ปุ่นแบบคูลๆ ไม่เหมือนใคร ถ่ายรูปอวดเพื่อนเพลินๆ เลยล่ะ ยิ่งถ้าได้ไปกับเพื่อนสนิท คนรู้ใจแล้วล่ะก็ฟินจริงๆ แถมอาหารเนี่ยก็สุดๆ ทั้งอร่อยมีเอกลักษณ์ ส่วนโรงแรมก็เรียกได้ว่านอนสบาย ใจกลางเมือง วิวสวย คุ้มจนไม่รู้ว่าจะคุ้มยังไงดี เอาล่ะ ทริปหน้าอย่าลืมพิจารณาคิวชูเหนือด้วยนะ บอกเลย เปลี่ยนประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นไปอีกแบบแน่นอน