คูปองส่วนลดที่น่าสนใจ
5%
17%
10%
คุซัทสึออนเซ็น (Kusatsu Onsen) ตั้งอยู่บนภูเขาสูงประมาณ 1,200 เมตรในจังหวัดกุนมะ ห่างจากโตเกียวประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากว่า 400 ปี จนได้ฉายาว่า “ออนเซ็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น” (Nihon San-Meisen) ควบคู่กับเกโระออนเซ็นและอาริมะออนเซ็น ซึ่งสิ่งที่ทำให้ คุซัทสึ โดดเด่นจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกคือ ปริมาณน้ำพุร้อนที่ไหลออกมาถึงวันละ 32,000 ตันต่อวัน นับเป็นปริมาณสูงสุดในญี่ปุ่น ทำให้น้ำออนเซ็นที่นี่เป็น 100% น้ำธรรมชาติ ไม่ต้องต่อน้ำหรือต้มซ้ำแต่อย่างใด กลิ่นกำมะถันจะติดจมูกตั้งแต่เดินเข้าเมือง บอกเลยว่านี่คือสัญญาณของออนเซ็นแท้ ๆ และบรรยากาศในเมือง ที่ยังคงความเป็นเมืองเก่าสมัยเอโดะ มีเรียวกังดั้งเดิม ร้านค้าย้อนยุค และย่านเดินเล่นที่น่ารัก เหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแท้ ๆ พร้อมแช่น้ำร้อนรักษาร่างกายและจิตใจ
ข้อแรกที่ทำให้คุซัทสึแตกต่างคือ คุณภาพของน้ำออนเซ็นที่เป็นกรดสูง (pH ประมาณ 2.1) จัดว่าเป็นน้ำออนเซ็นที่เป็นกรดที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากออนเซ็นยอดนิยมอื่น ๆ เช่น ฮาโกเน่ หรือเกโระ ที่มีน้ำเป็นด่าง (Alkaline) ซึ่งมีผลต่อผิวพรรณแตกต่างกัน โดยชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า น้ำกรดของคุซัทสึช่วยฆ่าเชื้อโรค บำรุงผิวพรรณ บรรเทาอาการปวดเมื่อย และรักษาโรคผิวหนังได้หลายชนิด แต่ด้วยความเป็นกรดสูง จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีแผลอักเสบ
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ชาวญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวต่างชาติชอบคือ “พิธียูโมมิ” (Yumomi) ซึ่งเป็นประสบการณ์เดียวในญี่ปุ่นที่ห้ามพลาด เป็นการคนน้ำออนเซ็นที่มีอุณหภูมิสูงมาก ด้วยไม้พายขนาดใหญ่เพื่อลดอุณหภูมิให้พอแช่ได้ โดยไม่ต้องเติมน้ำเย็นที่จะทำให้คุณภาพน้ำลดลง พิธีนี้มีมานานหลายร้อยปี และปัจจุบันกลายเป็นการแสดงที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมหรือร่วมกิจกรรมได้ ถือเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่และสนุกมาก นอกจากนี้ ยังมี “ยูบาทาเกะ” (Yubatake) ซึ่งแปลว่า “ทุ่งน้ำร้อน” เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง เป็นแหล่งกักเก็บน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นไอน้ำพวยพุ่งและได้ยินเสียงน้ำไหลไปตลอด ตอนกลางคืนจะมีไฟส่องสว่างสวยงาม กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของเมืองเลยทีเดียว
วิธีที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทยมากที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) แล้วต่อด้วยรถบัส เส้นทางหลักมีดังนี้
เส้นทาง 1: ผ่านคารุอิซาวะ (Karuizawa) – แนะนำเป็นอันดับ 1 เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักที่ง่ายและเร็วที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว
รวมเวลาเดินทางประมาณ 3-3.5 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายรวม ๆ อยู่ที่ประมาณ 6,000-7,000 เยน ต่อคน (หากใช้ JR Pass จะคุ้มค่ามาก)
เส้นทาง 2: ผ่านนากาโนะฮาระ-คุซัทสึกุจิ (Naganohara-Kusatsu-guchi) – แนะนำสำหรับผู้ใช้ JR Pass เส้นทางนี้รวดเร็วและสะดวกสบาย เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบต่อรถหลายครั้ง
รวมเวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายประมาณ 6,500-7,500 เยน (หากใช้ JR Pass ครอบคลุมรถไฟได้ทั้งหมด)
เส้นทาง 3: ผ่านนากาโนะ (Nagano)
เส้นทางนี้ใช้เวลาใกล้เคียงกับเส้นทางแรก แต่หากต้องการแวะเที่ยวนากาโนะด้วยก็น่าสนใจ
ข้อควรรู้:
สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางสะดวกและประหยัดเวลา รถบัสด่วนจากโตเกียวเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
รถบัส JR / บัสด่วนจากชินจูกุ
การจองรถบัสด่วนสามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์ เช่น Willer Express หรือ Japan Bus Online ซึ่งมีภาษาอังกฤษและการชำระเงินสะดวก ควรจองล่วงหน้าโดยเฉพาะช่วงวันหยุดหรือฤดูหนาว เพราะที่นั่งจะเต็มเร็วมาก
ทัวร์วันเดียว (Day Tour) หากต้องการเดินทางแบบไม่ยุ่งยากและมีเวลาจำกัด มีบริษัททัวร์หลายแห่งที่เปิดโปรแกรมเที่ยวคุซัทสึออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับ โดยรวมค่ารถทัวร์ มัคคุเทศก์ และบางแพ็กเกจรวมตั๋วเข้าชมพิธียูโมมิด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 8,000-12,000 เยน ต่อคน แต่เวลาในการเที่ยวจะจำกัดมาก เหมาะกับคนที่ไม่สามารถพักค้างคืนได้
การนอนพักในเรียวกังแบบดั้งเดิมถือเป็นหัวใจสำคัญของการมาคุซัทสึ โดยเฉพาะเรียวกังที่มีบ่อออนเซ็นส่วนตัว (Private Onsen) ซึ่งเหมาะสำหรับคู่รักหรือครอบครัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว นี่คือรายชื่อเรียวกังยอดนิยมที่น่าสนใจ:
ข้อควรทราบ:
เรียวกังดั้งเดิม (Traditional Ryokan) เป็นที่พักแบบญี่ปุ่นโบราณ ห้องพักปูที่นอนฟูก (Futon) บนพื้นทาทามิ มักมีบริการอาหารเย็นและเช้าแบบไคเซกิ (อาหารหลายจานตามแบบญี่ปุ่น) ราคามักอยู่ที่ 15,000-40,000 เยน/คน เหมาะกับผู้ที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ ๆ
โรงแรมโมเดิร์น (Modern Hotel) มีห้องพักแบบตะวันตกพร้อมเตียงนอน สะดวกสบายกว่าและราคาอาจถูกกว่า อยู่ที่ประมาณ 10,000-20,000 เยน/คน เหมาะกับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการนอนพื้น
ที่พักราคาประหยัด (Budget Accommodation) มีทั้งโฮสเทลและเกสต์เฮ้าส์ ราคาเริ่มต้น 5,000-8,000 เยน/คน ห้องมักเล็กและไม่รวมอาหาร แต่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มีงบจำกัด
เคล็ดลับการจองที่พัก:
ยูบาทาเกะ (Yubatake) – สัญลักษณ์เมือง
ยูบาทาเกะคือสถานที่ที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด หากมาถึงคุซัทสึออนเซ็น เป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติขนาดยักษ์ที่อยู่ใจกลางเมือง น้ำร้อนไหลผ่านท่อไม้และบ่อหินจำนวนมาก ทำให้เห็นภาพไอน้ำพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกลิ่นกำมะถันโชยมาตลอดเวลา
ตัวยูบาทาเกะมีพื้นที่กว้างประมาณ 3,000 ตารางเมตร น้ำพุร้อนที่ไหลออกมามีอุณหภูมิสูงถึง 50-90 องศาเซลเซียส และปริมาณน้ำมากถึงนาทีละ 4,000 ลิตร น้ำที่ไหลออกมาจะถูกนำไปใช้ในออนเซ็นต่าง ๆ ทั่วเมือง รวมถึงใช้ทำอาหารและผลิตสินค้าท้องถิ่น
ช่วงเวลาที่แนะนำ:
บริเวณโดยรอบยูบาทาเกะมีร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารมากมาย สามารถเดินชมและซื้อของฝากได้สบาย ๆ นอกจากนี้ยังมีน้ำพุเท้าฟรีให้แช่รอบ ๆ บริเวณ เหมาะสำหรับผู้ที่เหนื่อยจากการเดิน
พิธียูโมมิเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ของคุซัทสึที่สืบทอดมากว่า 400 ปี และเป็นประสบการณ์เฉพาะที่มีเพียงที่นี่ที่เดียวในญี่ปุ่น เป็นการคนน้ำออนเซ็นที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปด้วยไม้พายยาว 180 เซนติเมตร ในจังหวะเพลงพื้นบ้านญี่ปุ่น เพื่อลดอุณหภูมิให้พอดีสำหรับการแช่ โดยไม่ต้องเติมน้ำเย็นที่อาจลดคุณภาพของแร่ธาตุในน้ำออนเซ็น
สถานที่แสดงหลัก:
ในระหว่างการแสดง นักท่องเที่ยวสามารถร่วมลงมือคนน้ำด้วยตนเองได้ (โดยอาสาสมัคร) ซึ่งถือเป็นประสบการณ์สนุกและน่าจดจำมาก การคนน้ำแบบนี้ต้องใช้แรงและมีเทคนิค เพราะน้ำมีอุณหภูมิสูงมาก หากคนไม่เป็นจังหวะอาจโดนน้ำร้อนกระเด็นใส่ได้ และนอกจากชมพิธีแล้ว ยังมีของที่ระลึกและสินค้าท้องถิ่นจำหน่ายในบริเวณด้วย รวมถึงมีบ่อแช่เท้าให้ลองก่อนกลับ
คุซัทสึมีบ่อออนเซ็นสาธารณะ (Sotoyu) ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวใช้บริการฟรีหรือเสียค่าเข้าเพียงเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสออนเซ็นแบบง่าย ๆ แต่ได้บรรยากาศท้องถิ่นแท้ ๆ
บ่อแช่ฟรียอดนิยม:
บ่อแช่สาธารณะที่เสียค่าเข้า:
Otaki no Yu (大滝の湯) – ออนเซ็นสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพิเศษด้วยระบบ “Awase Yu (合わせ湯)” หรือการแช่ออนเซ็นแบบวนบ่อที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันตั้งแต่ 38°C ถึง 46°C ทำให้ร่างกายปรับตัวได้ค่อย ๆ และช่วยผ่อนคลายได้ดีกว่าการแช่บ่อเดียว มีทั้งบ่อในร่มและกลางแจ้ง ค่าเข้าประมาณ 900 เยน
บ่อสาธารณะเหล่านี้เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นท้องถิ่น ดังนั้นการเคารพมารยาทและวัฒนธรรมของพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญมาก
การแช่ออนเซ็นเป็นวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนานในญี่ปุ่น มีกฎมารยาทที่ควรเคารพดังนี้:
ก่อนลงบ่อ:
ขณะแช่ออนเซ็น:
หลังแช่ออนเซ็น:
ข้อห้ามสำคัญ:
เรื่องรอยสัก: เรียวกังและบ่อออนเซ็นหลายแห่งในญี่ปุ่นยังคงห้ามผู้ที่มีรอยสักเข้าใช้บริการ เนื่องจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นเชื่อมโยงรอยสักกับแก๊งยากูซ่า อย่างไรก็ตาม ที่คุซัทสึมีบางแห่งเริ่มยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในห้องพักที่มีบ่อส่วนตัว
คำแนะนำสำหรับผู้มีรอยสัก:
ข้อควรระวังด้านสุขภาพ:
หากรู้สึกเวียนศีรษะ คลื่นไส้ หรือไม่สบายระหว่างแช่ ควรออกจากบ่อทันทีและพักผ่อน

Blogger : Mmtb
หนุ่มใต้ เคราดก หลงรักตัวอักษรไทย กับจักรยาน เมาท์เท่น ไบค์ วินเทจ
75 Posts

วิธีเดินทางสุดประหยัดจากโตเกียว เที่ยวฟูจิ ที่คาวากูจิโกะ
ทริป เที่ยวฟูจิ คราวนี้ไม่มีหลง เพราะเรารวบรวมวิธีการเดินทางจากกรุงโตเกียวไปยั...

เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ด ความน่าสนใจ ที่ต้องไปเยือน
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี แนะนำ 10 เมืองเด็ดน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นน่าสนใจ ท...

One day trip พาสสุดคุ้ม เที่ยวไซตามะ 1 วัน Check-in “Moominvalley Park” ช็อปฟินๆที่ Outlet
จังหวัดไซตามะ (Saitama) ไซตามะห่างจากโตเกียวเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง ...

ไป โตเกียวพักย่านไหนดี แนะนำ 15 ย่าน เลือกพักตามสไตล์ที่ใช่
ตอบคำถามให้หายสงสัย ไปโตเกียว พักย่านไหนดี ! แนะนำ 15 ย่านในโตเกียวที่คู่ควรแก...

เช็คก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น! “GO” แอปเรียกแท็กซี่อันดับ 1 ที่จะทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมวัฒนธรรมการใช้แท็กซี่อันมีเอกลักษณ์ เพราะวิธีใช้งานแบบง่าย ๆ ไม่ต้องกังวล!
เที่ยวญี่ปุ่น เดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย "GO App" แอปเรียกแท็กซี่อันดับหนึ่งข...
Police
110
Ambulance
119
AMDA International Medical Information Center
03-6233-9266
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
090-4435-7812
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซาก้า
090-1895-0987
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ
090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515