เข้าแถวต่อคิว
จริง ๆ นี่เป็นกฎระเบียบพื้นฐานและเป็นกฎระเบียบสากลของแทบจะทุกประเทศเลยนะ โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นเองเนี่ยเป็นเรื่องปกติมาก ๆ การจะต่อแถวขึ้นรถไฟ ต่อคิวจ่ายเงิน หรือเข้าแถวรอเข้าร้านอาหารที่มีคนเยอะ ๆเป็นสิ่งที่คนมีระเบียบวินัยเค้าทำกัน และมันไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยค่ะ เป็น การ เตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่น ที่สำคัญ เวลาที่ไปที่ร้านไหน ให้สังเกตแถวให้ดี ว่าหางแถวอยู่ที่ไหน หรือกดบัตรคิวอย่างไร จะได้ไม่เผลอโป๊ะไปแซงคิวโดยไม่ตั้งใจ ถ้าจะให้ชัวร์ก็ตามพนักงานเลยว่าต้องต่อคิวหรือเปล่า
อีกเรื่องที่หลายคนอาจจะงง คือคิวตอนขึ้นรถไฟ ซึ่งบางขบวนอาจมีการขีดเส้นตำแหน่งคิว หรือ นำไปสู่ขบวนที่แตกต่าง ก็ต้องสังเกตหรือถามนายสถานี การคิดลัดคิวนอกจากเป็นนิสัยที่ไม่ดี อาจไปผิดขบวนได้
แยกขยะ
การ เตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่น ที่สำคัญอีกอย่างคือการเตรียมถุงไว้ใส่ขยะ แล้วทิ้งทีเดียวเมื่อเจอถึงขยะ ที่ญี่ปุ่นแต่ละเมือง แต่ละเขตจะมีการแยกขยะหลากหลายประเภทแตกต่างกันไป ช่วยให้พนักงานเก็บขยะได้ง่ายขึ้น พวกขยะรีไซเคิลก็จะได้นำมาจัดการแปรรูปกันต่อไป เป็นการใช้ทรัพยากรให้คุ่มค่ามากที่สุด สังเกตว่าไม่ว่าจะไปที่ไหนในญี่ปุ่นก็มักจะมีถังขยะแยกขยะแต่ละประเภทเอาไว้ เช่น หน้าร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟ สวนสาธารณะ และทุกคนก็ให้ความร่วมมือในการแยกขยะก่อนทิ้งเป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้ทำให้เราได้ฝึกระเบียบวินัยให้กับตัวเองและยังช่วยโลกของเราได้ด้วย
ตรงต่อเวลา
การรักษาเวลาเป็นเรื่องสำคัญมากกกก และเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนญี่ปุ่นเลยล่ะ โดยเฉพาะถ้าเป็นการนัดแนะเรื่องของการทำงาน ธุระต่าง ๆแล้วล่ะก็ เค้าซีเรียสเรื่องการตรงต่อเวลามาก ๆ เพราะการไปให้ตรงเวลานัดหมายจะเป็นการสร้างความประทับใจแรก หรือแม้กระทั่งเรื่องของตารางเวลาการขนส่งสาธารณะ การเปิดให้บริการของสถานที่ต่าง ๆ เป็นต้น
ความตรงต่อเวลาที่ว่าขอบอกว่าตรงเป๊ะ ชนิดที่ว่าหากขึ้นรถไฟเร็วกว่าเวลากำหนดเอาไว้ไม่กี่นาทีอาจส่งผลให้ขึ้นผิดขบวนเลยทีเดียว หรือหากจองร้านอาหารเอาไว้แล้วไปช้า อาจส่งผลให้โดนยกเลิกคิว เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ให้ทริปยุ่งยากก็ควรเผื่อเวลาเอาไปด้วย
หากเมื่อไหร่ที่รถไฟเกิดการขัดข้องทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามเวลาได้ก็ต้องมีการแจ้งต่อผู้โดยสาร มีจดหมายไว้แจ้งที่ทำงานว่าไม่สามารถไปตามเวลาได้เพราะอะไร ได้รับคำขอโทษจากเจ้าหน้าที่ รวมถึงได้รับเงินคืนด้วย นี่เป็นสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆรู้สึกประทับใจในความใส่ใจของคนญี่ปุนมากๆ เพราะเค้าถือว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน เราไม่ควรจะให้อีกฝ่ายรอเพราะเป็นการเสียมารยาท
เช็คสภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน
นี่เป็นสิ่งที่คนไทยไม่ค่อยทำสักเท่าไหร่ เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน ไม่ก็ฝน มีอยู่แค่ไม่กี่ฤดู จึงทำให้คิดว่าการเช็คพยากรณ์อากาศเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นมากนัก แต่จริง ๆ แล้วมันช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้นนะ ยิ่งบ้านเราเป็นเมืองที่มี 2 ฤดูในวันเดียว ยิ่งควรเช็คอากาศก่อนออกจากบ้านสุด ๆ เช้าแดดออกจนแทบจะเป็นลม เย็นเลิกงานฝนตกพายุเข้าต้องลุยน้ำเข้าซอยบ้าน อย่างน้อยการเช็คสภาพอากาศก่อนออกจากบ้านก็ช่วยให้เราได้เตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์ก่อนออกไปเผชิญโลกที่โหดร้ายภายนอก ทาครีมกันแดด พกเสื้อกันฝนหรือร่มเล็ก ๆ ซักคันไว้ในกระเป๋าก็ยังดี กลับบ้านมาจะได้มีสภาพ Before กับ After ที่ไม่ต่างกันเท่าไหร่
รอสัญญาณไฟก่อนข้ามถนน
นอกจากเรื่องระเบียบวินัยแล้ว เรื่องของความปลอดภัยนั้นก็ต้องยกให้เค้าเลยล่ะ ใคร ๆ ก็รักชีวิตของตัวเองทั้งนั้น การยืนรอสัญญาณไฟจราจรเป็นเรื่องที่ไม่ต้องให้ใครมาบอกเลย เพราะถ้าฝ่าฝืนสัญญาณไฟก็เท่ากับเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุให้กับตัวเอง เท่านั้นยังไม่พอ ยังอาจทำให้ผู้อื่นเกิดอุบัติเหตุจากความประมาทของตัวเองไปด้วย ดีไม่ดีอาจมีผู้เสียชีวิตขึ้นมา เป็นเรื่องใหญ่โตแน่ ๆ และถึงแม้ว่าระหว่างที่รอสัญญาณไฟนั้นจะไม่มีรถมาซักคัน ก็ควรที่จะเคารพกฎอยู่ดี
สัญญาณไฟบางจุดอาจให้คนกดเอาเอง ก็กด แล้วรอจนถึงสัญญาณข้ามแล้วค่อยข้ามก็จะปลอดภัยกว่า
มีจิตใจที่รักการบริการ
หลาย ๆ คนคงจะเคยเข้าร้านอาหาร หรือได้รับบริการที่ดีเยี่ยมจากที่ไหนสักแห่งในญี่ปุ่นจนทำให้ประทับใจกันมาบ้าง อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลกคือเรื่องของ Service mind ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ สถานีรถไฟ โรงแรมต่าง ๆ เราก็มักจะได้รับการต้อนรับและการบริการที่ดีอยู่เสมอ ไม่ใช่แค่ส่วนของบริการ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่เองเมื่อเห็นนักท่องเที่ยวที่กำลังเดือดร้อนก็มักจะเข้ามาช่วยเหลือด้วยท่าทางเป็นมิตร ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆสำหรับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน หากเราสามารถนำข้อดีตรงนี้ไปใช้ในงานและชีวิตของเราได้ก็จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นเยอะ พูดจาสุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส เต็มใจให้บริการและช่วยเหลือ โดยเฉพาะงานบริการและช่วยเหลือผู้คน การปฏิบัติตัวแบบนี้ต่อผู้อื่นใคร ๆ ก็ประทับใจ
รักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
กฎระเบียบมีไว้ให้มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ต้องมีกฎ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราควรให้ความร่วมมืออย่างเคร่งครัด ที่ญี่ปุ่นเองก็มีกฎระเบียบยิบย่อยอยู่มากมาย แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าที่เราจะปฏิบัติตาม เช่น การสูบบุหรี่ใน Smoking area, ไม่เนียนขึ้นรถไฟในขบวน Women only, ยืนชิดซ้ายหรือขวาบนบันไดเลื่อน, แยกขยะก่อนทิ้ง เป็นต้น
ลองคิดดูว่าถ้าทุกคนรักษากฎระเบียบได้ ปัญหาที่ควรจะเกิดก็จะลดลงไปมาก ๆ เลยล่ะ หากเราลองเอานิสัยแบบนี้มาใช้ที่ไทยดูบ้างอย่างการ ไม่จอดรถในที่จอดรถคนพิการ, ไม่แอบเอากล้องเข้าไปถ่ายในโรงหนัง, ไม่ทิ้งทิชชู่ลงในโถส้วม เริ่มจากเรื่องใกล้ ๆ ตัวไปเรื่อย ๆ เราก็จะกลายเป็นคนที่มีระเบียบวินัยและเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น
กินเป็นที่เป็นทาง ไม่เดินกิน
ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นสตรีทฟู๊ดแต่คนญี่ปุ่นเค้าจะไม่เดินไปกินไป เวลาซื้ออาหารหากไม่กินหน้าร้านก็ต้องหาที่กินให้เรียบร้อย และทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง การเดินไปกินไปเป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นจะไม่ทำกัน ดังนั้นเราก็ควรเคารพกับวัฒนธรรม ไม่เดินกิน
จ่ายเงินลงในถาด
เวลาจ่ายเงินซื้อของ หรือจ่ายค่าบริการที่ญี่ปุ่นจะสังเกตว่ามีถาดเล็กๆ ที่เคาท์ ซึ่งเราต้องวางเงินลงถาด แล้วเขาก็จะทอนเงินกลับมาในถาดเช่นเดียวกัน ไม่นิยมรับจากมือเหมือนคนไทย ซึ่งเจ้าถามนี้ก็มีข้อดีเวลาเราอยากใช้เหรียญก็ใช้ได้เลยง่ายๆ นับในถาดให้เห็นกันแบบชัดๆ ดูโปร่งใส แถมเหรียญไม่หนักกระเป๋าด้วย
ไม่รบกวนผู้อื่นเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ เช่น บนรถไฟ เรามักจะเห็นว่าชาวญี่ปุ่นจะก้มลงอื่นหนังสือ อ่านมือถือเงียบๆ ไม่สนใจกัน เพราะคนญี่ปุ่นเค้าจะให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิของผู้อื่น ไม่ควรคุยโทรศัพท์บนรถไฟ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็อย่าคุยเสียงดัง
นอกจากนี้รวมไปถึงการถ่ายภาพในสถานที่ที่สีคนมากควรระวังไม่ให้ติดหน้าคน ไม่ควรแอบถ่ายหน้าคนมาลงหากเขาไม่อนุญาตโดยเฉพาะเด็กเพราะกฏหมายญี่ปุ่นมีความเข้มงวดมาก
ข้อสรุป
การศึกษานิสัย คนญี่ปุ่น และวิธีปฏิบัติ นับเป็นการ เตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่น ที่สำคัญอย่างหนึ่งเพราะทำให้เรารู้ถึงวัฒนธรรมการปฏิบัติตัว จะได้ไม่งงตอนเจอของจริง