มารู้จัก “ศาลเจ้า Nikko Toshogu” กันสักนิด
ศาลเจ้า Nikko Toshogu เป็นศาลเจ้าชินโตที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1617 เพื่อเป็นที่สักการะ โทกุงาวะ อิเอยาสุ (Tokugawa Ieyasu) ผู้ก่อตั้งระบอบโชกุนโทกุงาวะที่ปกครองญี่ปุ่นยาวนานถึง 260 ปีในยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868)
เดิมทีศาลเจ้าแห่งนี้มีการออกแบบที่เรียบง่ายตามแบบชินโตทั่วไป แต่ในยุคโชกุน โทกุงาวะ อิเอมิตสึ (Tokugawa Iemitsu) หลานชายของอิเอยาสุ ได้ทำการบูรณะและขยายศาลเจ้าในปี ค.ศ. 1636 ให้กลายเป็นสถานที่หรูหราที่สะท้อนถึงอำนาจและความยิ่งใหญ่ของตระกูลโทกุงาวะ
อีกหนึ่งเรื่องราวที่มาของการสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ ก็คือเดิมทีแล้ว โชกุน โทกุงาวะ อิเอยาสุ ที่เป็นคนสั่งให้สร้างศาลเจ้าขึ้นในช่วงปลายชีวิตของเขา โดยมีคำสั่งให้ตั้งที่เมือง Nikko เนื่องจากเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีพลังธรรมชาติที่ดี (Feng Shui)
ชวนชมสถาปัตยกรรมที่งดงามของศาลเจ้า Toshogu
ศาลเจ้าแห่งนี้ ยังเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมแบบ Gongen-zukuri ซึ่งรวมเอาองค์ประกอบทั้งแบบชินโตและพุทธเข้าด้วยกัน ตัวศาลเจ้ามีการประดับตกแต่งด้วยลวดลายสีสันสดใส การแกะสลักไม้ที่ละเอียดลออ และการใช้ทองคำที่แสดงถึงความมั่งคั่ง
ประตูโยเมมง (Yomeimon Gate)
ประตูโยเมมงเป็นสัญลักษณ์ของศาลเจ้า Nikko Toshogu และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในประตูที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1636 โดยโชกุน โทกุงาวะ อิเอมิตสึ เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของตระกูลโทกุงาวะ ประตูโยเมมงแห่งนี้ยังมีชื่อเรียกว่า”Higurashi-no-mon” ซึ่งแปลว่า “ประตูแห่งความไม่สิ้นสุด” เพราะผู้คนสามารถชื่นชมความงามของมันได้ตลอดทั้งวันโดยไม่เบื่อนั่นเอง เพราะมีลวดลายการแกะสลักไม้มากกว่า 500 ลวดลาย และยังใช้ทองคำสีสดมาตกแต่ง
เจดีย์ห้าชั้น (Five-Story Pagoda)
ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลเจ้า Nikko Toshogu สร้างครั้งแรกในปี ค.ศ. 1650 โดยผู้สนับสนุนจากตระกูลไดเมียว ไดเมียวที่ภักดีต่อโทกุงาวะ หากแต่ว่าปัจจุบันเป็นเจดีย์ที่ได้รับการบูรณะในปี ค.ศ. 1818
โดยตัวเจดีย์จะมีความสูง 36 เมตร และสร้างจากไม้ทั้งหมด ในแต่ละชั้นของเจดีย์เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุในพุทธศาสนา ได้แก่ ดิน (ชั้นล่างสุด), น้ำ, ไฟ, ลม และฟ้า (ชั้นบนสุด) แก่นกลางของเจดีย์จะมีแกนลอยอยู่ภายในเจดีย์ซึ่งไม่ได้เชื่อมต่อโดยตรงกับตัวเจดีย์ ช่วยให้โครงสร้างยืดหยุ่นและทนต่อแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว
ภาพแกะสลักลิงสามตัว (Three Wise Monkeys)
เดินชมศิลปะการแกะสลักของตัววัดมาเรื่อย ๆ เราก็จะเห็นรูปแกะสลักลิง 3 ตัวอย่างในภาพ โดยการแกะสลักและองค์ประกอบในศาลเจ้ามีความหมายเชิงสัญลักษณ์ เช่น ภาพลิงสามตัว (Three Wise Monkeys) ที่ปิดตา ปิดหู ปิดปาก เพื่อไม่ให้รับรู้ถึงสิ่งชั่วร้าย
สำหรับไฮไลท์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
งานแสดงพิธีเดินขบวนซามูไร (Grand Spring and Autumn Festivals)
เทศกาลที่สำคัญอันนี้จะถูกจัดขึ้นที่ศาลเจ้า Nikko Toshogu แห่งนี้ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสำคัญของศาลเจ้าและระลึกถึงโชกุนโทกุงาวะ อิเอยาสุ โดยจะมีจัด 2 ด้วยกัน 2 รอบใน 1 ปี ได้แก่ ช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ (Grand Spring Festival) จัดประมาณช่วงวันที่ 17 – 18 พฤษภาคมสำหรับ และสำหรับเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง (Grand Autumn Festival) จะจัดประมาณช่วงวันที่ 16 – 17 ตุลาคมของทุกปี โดยจะมีการแสดงขบวนแห่ซามูไร (Procession of a Thousand Warriors) การแสดงศิลปะการต่อสู้บนหลังม้า และขบวนแห่ซามูไรแต่งกายด้วยชุดเกราะโบราณกว่า 1,000 คน จำลองบรรยากาศยุคเอโดะ
การเยี่ยมชมภายในศาลเจ้า
เดินดูรอบ ๆ ศาลเจ้าเราก็จะเห็นสถาปัตยกรรมแบบ Gongen-zukuri ได้เต็มตามากขึ้น โครงสร้างประกอบด้วยอาคารศาลเจ้าหลัก (Honden) เชื่อมต่อกับห้องสวดมนต์ (Haiden) ผ่านทางเดินกลาง (Ishi-no-Ma) โดยหลังคาซ้อนกันหลายชั้น (Irimoya-zukuri) มีความลาดเอียงที่ช่วยให้น้ำฝนไหลลงอย่างรวดเร็วในฤดูฝนและฤดูหนาว และมีส่วนของพื้นที่เก็บของล้ำค่า (Treasure Hall – Homotsukan) ที่จัดแสดงรวมถึงอาวุธ ชุดเกราะ ภาพวาด และเอกสารทางประวัติศาสตร์ในยุคของโชกุนโทกุงาวะ
การบูชาศาลเจ้าด้วยดอกไม้และของถวายภายในศาลเจ้า โดยมากจะใช้ ข้าว เหล้าสาเก เครื่องเซ่นไหว้อื่น ๆ เช่น ผลไม้และของหวาน รวมไปถึงดอกไม้ประจำฤดูกาล ซึ่งเราสามารถหาซื้อทั้งหมดได้ภายในศาลเจ้า ในบริเวณนี้ เราจะเจอกับถังไม้ที่เห็นในศาลเจ้า Nikko Toshogu มักเป็นถังสาเกที่เรียกว่า “คาซาริดารุ” (Kazaridaru) ถังเหล่านี้ถูกวางเป็นสัญลักษณ์ของการถวายสาเกให้เทพเจ้า เพื่ออธิษฐานขอความโชคดี สุขภาพและความปลอดภัยให้กับเรา
เดินมากันต่อจะเจอกับกระดิ่งในภาพ โดยกระดิ่งในศาลเจ้าชินโตมีไว้สำหรับการแจ้งให้เทพเจ้าทราบถึงการมาถึงของผู้บูชา เราจะเริ่มสั่นกระดิ่งเพื่อแจ้งให้เทพเจ้าทราบ จากนั้นโค้งคำนับ 2 ครั้ง ตบมือ 2 ครั้ง และโค้งคำนับอีกครั้ง
ลวดลายแบบภาพด้านบนนี้ จะเป็นลวดลายที่เราสามารถเห็นได้ในหลาย ๆ จุดของศาลเจ้า โดยจะประดับด้วยลวดลายมังกรและเมฆ สื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์และการปกป้อง มุมขอบของหลังคามักมี “ชาจิคิ” (Shachihoko) สัตว์ในตำนานครึ่งปลาครึ่งเสือ เพื่อป้องกันไฟไหม้
รูปหล่อจำลองนี้ เป็นรูปหล่อที่สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นสถานที่สถิตของวิญญาณของ โทกุงาวะ อิเอยาสุ ซึ่งได้รับการเคารพในฐานะเทพเจ้าชินโต “โทโชไดกอนเก็น” (Tosho Daigongen) หรือ “เทพผู้ปกป้องญี่ปุ่น” โดยหากเราเดินขึ้นไปบนเขาหลังศาลเจ้าก็จะเจอกับหลุมศพของโชกุนโทกุงาวะ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากเดินรอบ ๆ ตัวศาลเจ้า ก็สามารถเดินเล่นได้ โดยป่าโดยรอบศาลเจ้าจะเป็นป่าที่ปกคลุมด้วยต้นสนซีดาร์อายุหลายร้อยปี (Cedar Forest) พร้อมทางเดินที่มีร่มเงาธรรมชาติ ช่วยเพิ่มบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ หรือเราสามารถเดินขึ้นไปเยี่ยมชมหลุมศพโชกุนโทกุงาวะ อิเอยาสุ แต่จะต้องเดินขึ้นบันไดกว่า 200 ขั้น
ข้อควรระวังสำหรับการถ่ายรูปและแต่งกาย
พื้นที่ที่ถ่ายรูปได้
– ลานด้านนอกและจุดสำคัญ เช่น ประตูโยเมมง (Yomeimon Gate) และเจดีย์ห้าชั้น
พื้นที่ที่ห้ามถ่ายรูป
– ภายในห้องโถงใหญ่ (Honden) และสถานที่ที่มีป้ายกำกับชัดเจนว่า “No Photography” โดยมากจะเป็นภายในที่ไม่ค่อยให้เราถ่ายรูป
โดยห้ามใช้แฟลชหรือขาตั้งกล้องเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนผู้อื่น รวมถึงการแต่งกายสุภาพ หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสั้นหรือรัดรูปเกินไป ห้ามสัมผัสหรือจับสิ่งของที่เป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้า เช่น ลวดลายแกะสลักหรือประตู ซึ่งบางทีมันสวยและชวนให้เราสัมผัสเนอะ
Nikko Toshogu Shrine
ที่อยู่ | 2301 Sannai, Nikko, Tochigi 321-1431 |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถบัสจากหน้าสถานี Nikko หรือ Tobu-Nikko ลงที่ป้าย Shinkyo Bridge หรือ Toshogu Shrine ใช้เวลาประมาณ 10 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 09:00 – 17:00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่: 1,300 เยน และเด็ก 450 เยน |
Website | Nikko Toshogu Shrine |
วิธีการเดินทาง
วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดหากเดินทางมาจากกรุงโตเกียว เราขอแนะนำให้ใช้รถไฟ JR Tohoku Shinkansen (Yamabiko หรือ Nasuno) จากสถานี Tokyo Station หรือ Ueno Station ไปยังสถานี Utsunomiya ใช้เวลาประมาณ 50 นาที) จาก Utsunomiya เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย JR Nikko Line ไปยังสถานี Nikko ใช้เงวลาอีกประมาณ 40 นาที และจากสถานีนี้ ให้ขึ้นรถบัสท้องถิ่นจากหน้าสถานี Nikko หรือ Tobu-Nikko โดยใช้ประมาณ 10 นาที มาลงที่ป้าย Shinkyo Bridge หรือ Toshogu Shrine
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
1. น้ำตกเคกอน (Kegon Falls)
น้ำตกเคงอน (Kegon Waterfall) ตั้งอยู่ภายในเมืองนิกโก้ (Nikko) จังหวัดโทจิงิ (Tochigi) ซึ่งได้รับการจัดอันดับติด 1 ใน 3 น้ำตกที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น เนื่องจากที่นี่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่จึงเป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาด เพราะน้ำตกนี้สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปชมจากมุมสูงได้ด้วย และที่สำคัญยังเดินทางจากโตเกียวสะดวกอีกด้วย
น้ำตกเคกอน (Kegon Falls)
ที่อยู่ | 2479-2 Chugushi, Nikko, Tochigi 321-1661 |
วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Nikko นั่งรถบัส TOBU ไปทาง Chuzenji Onsen ประมาณ 50 นาที, ลงที่ป้าย ‘Chuzenji Onsen’ เดินประมาณ 5 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน 8:00-17:00 (ลิฟท์น้ำตกเคงอน) |
ราคา | ลิฟท์น้ำตกเคงอน (ค่าใช้จ่ายไป-กลับ) ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมศึกษาและสูงกว่า) 570 เยน นักเรียนประถมศึกษา 340 เยน นักเรียนประถมศึกษา |
Website | – |
2. ทะเลสาบชูเซ็นจิ (Chuzenji Lake)
ทะเลสาบชูเซนจิ (Lake Chuzenji) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองนิกโก้ (Nikko) ทะเลสาบแห่งนี้นี่จะตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขาไฟนันไต (Mount Nantai) ซึ่งทะเลสาบชูเซนจิมีเส้นรอบวงอยู่ที่ 25 กิโลเมตร และที่นี่ยังสามารถล่องเรือจาก Chuzenjiko Onsen ได้ด้วย โดยบริเวณชายฝั่งชูเซนจิโกะ เป็นเมืองน้ำพุร้อนเล็กๆ Chuzenjiko Onsen ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเราจะได้เห็นทัศนียภาพของสีสันของต้นไม้และภูเขา ที่ถูกเปลี่ยนสีเป็นส้ม แดง เหลือง เรียกได้ว่าเป็นอีกจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยสะกดตาอีกที่หนึ่ง
ทะเลสาบชูเซ็นจิ (Chuzenji Lake)
ที่อยู่ | 2578 Chugushi, Nikko, Tochigi 321-1661 |
วิธีเดินทาง | จุดชมวิว Hangetsusan จากสถานี JR Nikko นั่งรถบัส Tobu ไปทาง Yumoto Onsen หรือ Chuzenji Onsen ประมาณ 45 นาที, ลงที่ป้าย “Chuzenji Onsen”, เปลี่ยนรถบัสไปทาง “Hangetsusan”, ลงที่ป้าย “Hangetsusan”, เดินต่อประมาณ 30 นาที |
เวลาทำการ | เปิดทุกวัน |
ราคา | เข้าชมฟรี |
Website | – |
3. สวนศาลเจ้า Futarasan
ศาลเจ้า Futarasan สร้างขึ้นในปี 782 โดยพระสงฆ์นามว่า Shodo Shonin วัตถุประสงค์คือสร้างขึ้นเพื่อแสดงความเคารพเทพแห่งภูเขา ภายในบริเวณศาลเจ้าแห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม ร่มรื่น โดยเฉพาะต้นสนที่เรียกกันว่าต้นสนคู่รัก เพราะงอกขึ้นมาในรากอันเดียวกัน ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่เป็นสายเที่ยวธรรมชาติอยู่แล้ว จะต้องมาศาลเจ้าแห่งนี้ให้ได้เลย
สวนศาลเจ้า Futarasan
ที่อยู่ | 2307 Sannai, Nikko, Tochigi 321-1431 |
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานี Tobu nikko มาลงป้าย Taiyuin / Futarasan Jinja Mae |
เวลาทำการ | เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เปิดเวลา 08.00 น. – 17.00 น. เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เปิดเวลา 09.00 น. – 16.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็ก 100 เยน |
Website | สวนศาลเจ้า Futarasan |
สรุป
หากเพื่อน ๆ ชื่นชอบญี่ปุ่นทั้งในมุมของธรรมชาติ สถาปัตยกรรมที่แสดงถึงความญี่ปุ่นดั้งเดิม เมืองและสถานที่ที่เป็นมรดกโลก หรือเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจโดยเฉพาะโชกุนผู้รวมญี่ปุ่นอย่าง โทกุงาวะ อิเอยาสุ ต้องบอกเลยว่า ห้ามพลาดการมาเที่ยวที่ศาบเจ้านิกโกโทโชกุแห่งนี้ (Nikko Toshogu Shrine) ครบจบสิ่งที่คาดหวังไว้อย่างแน่นอน